อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 15

ตอนที่ 15 เผชิญหน้ากับเด็กสาวอีกครั้ง

ผมยาวสีเงินที่ถูกตัดอย่างประณีต ยาวไปจนถึงอกของเธอ ผมหน้าม้าหวีไปทางขวา ภายใต้นั้น มีดวงตาที่มีสีฟ้าดั่งแม่น้ำที่เงียบสงบท่ามกลางหุบเขา เพ่งมาที่ฮิคารุ

สวยชะมัด

เธอนั้นสวยจนหาตัวจับได้ยาก วันที่ฆ่าเคาท์เขาไม่ได้ลองมองให้ดีๆเพราะมันมืดมาก

ไม่เหมือนตอนนั้น เธอไม่ได้ใส่ชุดนอนอยู่ ตอนนี้เธอใส่ชุดเดรสสีแดงไวน์ เธออ่าหนังสือภายใต้แสงสลัวๆของตะเกียง

ใบหน้าของฮิคารุถูกซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากเทพสุริยัน  เขาปิดการใช้งานสกิล และนำบัตรกิลขึ้นมาเปลี่ยนคลาสด้วย

“ผมมา…เพื่อช่วยเธอ”

เหมือนกับว่าอยู่ดีๆเขาก็โผล่มา และเด็กสาวก็เริ่มพูด

“ใครน่ะ…”

“….คนที่เธอเคยช่วยไว้ไง”

“เข้าใจล่ะ คนที่ฆ่าเคาท์สสินะ”

ไม่นึกว่าเธอจะเดาถูกเร็วขนาดนี้แฮะ แต่นั่นก็ไม่น่าตกใจเท่าไร ถึงเธอจะไม่เห็นหน้าเรา แต่เราแน่ใจว่เธอต้องจำรูปร่างเราได้แน่

“…..ขอบคุณที่มาช่วยนะ แต่เราออกไปจากที่นี่ไม่ได้น่ะ”

“เพราะคุกเวทย์นี่เหรอ”

“ใช่แล้ว นี่น่ะ ถูกสร้างโดยกิลมาสเตอร์ของกิลด์นักแปรธาตุ เขาเป็นคนเดียวที่เปิดได้” เธอพูดอย่างไม่แยแสสิ่งใด ด้วยน้ำเสียงที่ใสดั่งระฆัง และไร้ซึ่งอารมณ์

เธออยู่ในกรง และคนร้ายตัวจริงอยู่ตรงเบื้องหน้าเธอ 

เธอยอมแพ้แล้วเหรอ หรือว่าเป็นพวกไร้อารมณ์อยู่แล้ว…. น่าจะใช่นะ

“…..เข้าใจล่ะ กุญแจคือคนที่มีชีวิตสินะ”

“ถ้าฆ่ากิลด์มาสเตอร์ก็เปิดได้ แต่นายทำไม่ได้”

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”

“เพราะหัวใจนายยังบริสุทธิ์อยู่ นายฆ่าผู้บริสุทธ์ไม่ได้”

“กิลด์มาสเตอร์อาจจะเป็นพวกชั่วที่สมควรตายก็ได้นี่นา”

“ไม่ เขาเป็นคนดี เป็นคนที่จริงจังและซื่อสัตย์ เขานั้นแสวงหาความจริงภายใต้เวทย์มนต์อยู่”

“เธอไม่อยากออกไปจากที่นี่เหรอ เธอช่วยผมไว้นะ ผมมีเหตุผลที่จะช่วยเธอ ถ้าเธอต้องการอิสระก็แค่——”

“ไม่”

“ทำไมล่ะ”

“เพราะเราบรรลุเป้าหมายแล้วไงล่ะ”

ในทีแรกนั้น ฮิคารุรู้สึกว่าเธอลังเลอยู่

“เพราะว่า นายฆ่าเจ้านั่นให้เราแล้ว”

เขารับรู้อารมณ์ได้จากตัวเธอ มันคือความโล่งใจ เหมือนว่าเธอพบความสงบจากการตายของเคาท์

“…..ดูเหมือนจะไม่มีใครชอบเขาเลยนะ”

“มีน้อยมากที่ชอบ”

“เขาแย่ขนาดนั้นเลยสินะ”

“แค่คิดว่ามีเลือดของมันไหลอยู่ในตัวเราก็รู้สึกอยากตายแล้ว”

……แล้วฮิคารุก็ได้รู้ว่า

“เธอเป็น..ลูกสาวของเคาท์มอร์คสตาทงั้นเหรอ”

…..เขาคือคนที่ฆ่าพ่อของเด็กสาว

“ใช่….ในทางทฤษฎีน่ะ”

“…….”

“ได้โปรดอย่ามองเราแบบนั้น พ่อแม่ของนายขังนายไว้ในบ้างบ้างมั้ย เราไม่รู้ว่าครั้งสุดท้ายที่เราได้ออกไปข้างนอกมันคือตอนไหน เราไม่ได้ออกไปข้างนอกเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ น่าจะประมาณสี่ปีได้แล้วล่ะ”

“หวา—-”

เธอถูกพ่อแท้ๆขังไว้ในบ้านงั้นเหรอ ทำไมล่ะ คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของฮิคารุ

“เขาทำให้เรากลัว แต่กำจัดเราทิ้งไม่ได้เพราะเรายังมีค่าอยู่” เธอพูด พร้อมกับตอบสิ่งที่อยู่ในหัวของฮิคารุก่อนที่เขาจะได้ถามเสียอีก

กำจัดทิ้ง? ฮิคารุคิดว่าคำที่เธอเลือกจะมาจากสิ่งที่เคาท์เคยทำในทุกๆวัน

“ทำไมถึงคิดว่ากิลด์มาสเตอร์ของกิลด์นักแปลธาตุถึงต้องมาสร้างคุกนี้ด้วยตัวเองล่ะ”

ฮิคารุกลืนน้ำลาย แสงสีฟ้าอ่อนๆ เหมือนกับตาของเธอ ก่อตัวรอบๆเธอ ความหนาแน่นของอากาศเปลี่ยนไป ทำให้หายใจลำบาก

“เพราะว่าเราใช้เวทย์มนต์พิเศษได้ เวทย์ที่รู้จักแต่การทำลาย”

แสงหายไป ฮิคารุรู้สึกว่าร่างกายเบาลง หลังของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขานั้นตรวจจับมานาได้ เขาถึงได้รู้ถึงมวลของพลังเวทย์ มานามากมายอัดแน่นอยู่ในห้องขังนั่น มากเสียจนมันดูเหมือนว่าเธอนั้นจะถูกลบหายไป เขาอยากจะเช็คโซลบอร์ดของเธอ แต่ทำไม่ได้

เพราะกรงนั่นเหรอ….ชิ

ตอนที่เขาพยายามเรียกโซลบอร์ดของเธอออก อักษรเวทย์ก็ส่องแสงขึ้น มันคอยขัดขวางเขาอยู่ เวทย์ของเด็กสาวก็ถูกลบไปเช่นกัน ไม่ใช่แค่ที่ลูกกรงเท่านั้น ทั้งกำแพง พื้น และอื่นๆต่างก็มีอักษรเวทย์ทั้งนั้น แต่ถึงกระนั้น อากาศรอบๆตัวของฮิคารุก็ยังเปลี่ยนไป 

“ขอบคุณที่มาที่นี่นะ เราไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาเพื่อช่วยเรา ”

“ใครเป็นคนที่ทำให้เธอกลายเป็นฆาตกรกันน่ะ”

“ไม่สำคัญหรอก”

“สำคัญสิ มีอะไรตั้งหลายอย่างที่ผมไม่เข้าใจ เธอเกลียดพลังของตัวเองไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงแสดงมันให้ผมดูล่ะ”

เธอเอียงหัวเล็กน้อยแล้วยิ้ม

“นายถามว่าใครเป็นคนจั่วหัวว่าเราเป็นฆาตกรสินะ เบาะแสน่ะ ก็อยู่ในคำพูดของนายไง”

 

“หมายความว่ายังไงน่ะ”

“เรากำลังจะถูกส่งไปที่เมืองหลวงในฐานะฆาตกรในวันพรุ่งนี้แล้ว พวกเขาจะแสดงพลังของเราให้เหล่าบริวารดู จากนั้น อาณาจักรก็จะรู้เกี่ยวกับพลังของเรา แล้วเราจะถูกบรรจุในหน่วยพิเศษ ด้วยข้อหาที่ฆ่าพ่อของตัวเอง พวกนั้นจะทำให้เรากลายเป็นเครื่องจักรสังหาร ฆ่าคนอย่าไม่สิ้นสุดในแนวหน้าของสงคราม เราจะถูกเลื่องลือในฐานะของฆาตรกรที่ฆ่าพ่ออตัวเอง และจากนั้น เราก็จะกลายเป็นมลทินของอาณาจักร และถูกลบหายไปในความมืด”

“เดี๋ยวนะ เธอจะบอกว่า คนที่บอกว่าเธอเป็นฆาตรกรคือ…”

ฮิคารุเลียริมฝีปากตัวเอง

“….พระราชา”

“ตั้งแต่ที่นายเป็นห่วงเราน่ะ เราก็เลยอยากให้นายรู้ไว้” เธอพูด โดยที่ไม่ได้ค้านหรือสนับสนุนคำพูดของฮิคารุ

เธอยิ้ม ยิ้มอย่างพึงพอใจ เหมือนกับว่าในที่สุดก็ได้พูดถึงสิ่งที่อยากพูดสักที

“…….”

เปราะบางมาก ฮิคารุคิด ทำไมเธอถึงบอบบางขนาดนี้ ทำไมเธอถึงยอมแพ้ง่ายๆ

“ขอบคุณที่มานะ พวกหน่วยลาดตระเวณจะมาที่นี่ในอีกไม่นาน นายกลับไปได้แล้วล่ะ……แล้ว อย่ากลับมานะ มันอันตราย”

ทั้งคู่นั้นใช้ชีวิตอยู่คนละโลก ฮิคารุก็ห่างเหินกับครอบครัวเช่นกัน แต่เธอล่ะ ไม่ใช่แค่ไม่ได้รับความรัก แต่ยังโดนใช้อย่างเครื่องมือ และรู้ถึงสิ่งนั้นอยู่แล้ว

เธอไม่อยากใช้ชีวิตอย่างอิสระเพราะคิดว่าตัวเองเป็นเครื่องมืองั้นเหรอ ไม่อยากมีชีวิตเป็นของตัวบ้างเลยรึไง

ไม่

มือของเด็กสาวที่วางทับกันอยู่นั้น สั่นอยู่ อาจจะเล็กน้อยแต่ก็รับรู้ได้

ฮิคารุถอดหน้ากากออก เจอจ้องหน้าของเขา และตกใจเล็กน้อย มันเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากที่ได้พบเขาในคืนนั้น ตอนนั้นเขามีผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า แต่ตอนนี้ทั้งหมดมันกลายเป็นสีดำไปแล้ว

“….ผมอยากรู้ชื่อของเธอหน่อยน่ะ” ฮิคารุพูกและจ้องไปที่เธอ

“ชื่อที่ลืมง่ายๆน่ะ ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก—-”

“ผมชื่อฮิคารุ”

“…….”

เธอยอมแพ้แล้วเหรอ ไม่เลย นั่นมันไม่ใกล้ความจริงเลยสักนิด

“บอกชื่อของเธอมาซะ”

ถ้าใช่ มือของเธอคงไม่สั่น

ถ้าใช่ เธอคงไม่นั่งอ่านนิยายผจญภัยแบบนี้

ถ้าใช่ เธอคงไม่ปฏิเสธที่จะบอกชื่อให้กับเรา

เธอกลัว กลัวว่าถ้าบอกชื่อไปแล้ว จะให้ความหวังลมๆแล้งๆกับตัวเอง

“….เราชื่อ ลาเวีย ดี มอร์คสแตท….ไม่สิ ลาเวีย แค่ลาเวียเฉยๆ”

ถ้าเธอยอมแพ้ไปแล้ว แล้วทำไม แก้ของเธอถึงเปียกล่ะ?

“ลาเวีย ผมสัญญา ผมจะ—”

“ไม่”เธอพูดเสียงดังจนเกือบกลายเป็นการตะโกน

“อย่าพูดไปมากกวานี้นะ ถ้าพูดอีกล่ะก็ เราคงจะมีความหวัง ถ้าเรามีความหวังแล้ว เราจะหยุดหวังต่อไปไม่ได้ เราโชคดีพอแล้วที่ชายที่คอยผูกมัดเรามาตลอดตายไปเสียที เราไม่อยากหวังมากไปกว่านี้แล้ว”

แต่ฮิคารุก็ยังเดินหน้าต่อไป

“ผมสาบาน ว่าจะต้องช่วยเธอให้ได้”

น้ำตาพรั่งพรูออกมาและไหลผ่ารแก้มของเธอ

“ไม่ อย่าพูดนะ”

ลาเวียนั้นเตรียมใจที่จะใช้ชีวิตในความมืดแล้ว แต่ก็มีสิ่งหนึ่งมากระชากอารมณ์ของเธอให้ระเบิดออกมาจากใจ

“เธอพูดถูก ผมน่ะฆ่าผผู้บริสุทธิไม่ได้ ถ้าอย่างนั้น ผมจะไม่ฆ่าใครเลย ผมจะพาเธอหนีให้ได้โดยไม่มีใครต้องหลั่งเลือด ผมจะเริ่มทุกอย่างในวันที่เธอถูกส่งไปที่เมืองหลวงสามวันจากนี้”

เธอไม่ตอบ น้ำตายังคงไหลอยู่อย่างนั้น เธอยังคงร้องไห้ต่อไป ฮิคารุยื่นมืออกมา เขารับรู้ได้ถึงบาเรียที่อยู่รอบๆห้องขัง เขาแนบมือลงไปที่มัน

“มีคนเคยพูดไว้ว่าผมน่ะเป็นพวกหยิ่งทะนง ผมมั่นใจในตัวเองมากเกินไป ผมมั่นใจเลยว่าจะต้องทำตามที่พูดได้แน่ๆ ไม่ว่าเธอจะหวังหรือไม่ก็ตาม ผมจะช่วยเธอเอง ผมจะแทรกเขาไปในชีวิตของเธอ…..เหมือนกับที่เข้ามาฆ่าพ่อเธอนั่นแหละ….”

ลาเวียขยับมาทางเขา จากอีกฝั่งของบาเรียที่มองไม่เห็น เธอแนบมือประสานกับมือของฮิคารุ

“เราเชื่อในตัวนายได้ใช่มั้ย”

 “ได้สิ”

“ถ้านายช่วยเรา เราจะให้นายทุกๆสิ่งเลย”

“ไม่เป็นไรน่า เธอช่วยผมไว้ก่อนนะ ผมไม่ยอมนั่งดูผู้มีพระคุณตายไปเฉยๆหรอกนะ”

ประตูเปิดออก อัศวินสองคนเข้ามาข้างใน ชายคนที่หลับยามกับอีสนั่นเอง

“อ๊า ให้ตายเหอะ ไม่คิดว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เลยน้า”

“นั่นทำให้นายทำงานไม่ได้รึไง”

“น่าน่า อย่าโมโหไปสิ โอ้ วันนี้นอนเร็วดีนะคุณหนู”

ลาเวียนอนหันหลังให้พวกเขา

“……”

“อะไรงั้นเหรออีส”

“ปรกติตอนนี้เธอน่าจะอ่านหนังสืออยู่นี่นา”

“เธอน่าจะหมดแรงล่ะมั้ง”

“…..คงใช่”

“ไม่ต้องห่วงเธอมากขนาดนั้นก็ได้น่า”

“จะไม่ให้ห่วงได้ยังไงล่ะ”

ทั้งสองคนไม่ได้รู้เลยว่าเด็กสาวที่นอนหันหลังให้นั้นตื่นอยู่ ตาของเธอบวมจากการร้องไห้ เธอไม่อยากให้พวกเขาเห็น

เขายังไม่รู้ถึงตัวตนของเด็กหนุ่มที่เพิ่งแอบย่องออกไปข้างนอกห้องด้วย

เวลาที่เหลือ สามวัน

เงินที่เหลือ 1,390 กิลลัน (+7,500 และค่าเขา)

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset