อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 42

ตอนที่ 42 เมืองใต้ดินแห่งเทพโบราณ

“เอ่อ คือ ขอโทษทีนะ” ฮิคารุขอโทษออกมา

เพราะก่อนหน้านี้คุยกันไว้ว่าถ้าคิดว่าอันตรายจะหนีทันทีแต่ว่าดันเลือดขึ้นหน้าประกาศว่าจะเคลียดันเจี้ยน จะให้มากลับคำตอนนี้มันก็ยากแล้ว ลาเวียหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“ไม่เป็นไรหรอกน่า เราไม่โกรธนายหรอก เรายังอยากชบออกไปว่านายเจ๋งสุดๆไปเลยนะ แต่เราไม่กล้าเนี่ยสิ แต่เราดีใจนะที่นายพูดเรื่องนั้นออกมาน่ะ”

“ขอบใจนะ”

“แล้วอีกอย่างเราไม่คิดว่านายคิดผิดหรอก แล้วถ้าเห็นว่ามันอันตรายก็ถอยหนีแล้วลืมเรื่องเคลียร์ดันเจี้ยนไปซะก็สิ้นเรื่อง”

“อื้ม สัญญาเลย”

“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ”

ย้อนกลับไปตอนที่ฮิคารุประกาศว่าจะเคลียร์ดันเจี้ยน พวกนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแล้วก็พูดแค่ว่า งั้นโชคดีล่ะ แล้วก็เข้าดันเจี้ยนไป

ส่วนพนักงานก็ยอมให้ทั้งคู่เข้าไปได้แต่ก็จะเขียนรายงานไปที่กิลด์ และตอนที่เขียนลงไปอย่างไม่เต็มใจนัก

เอาเซ่ เอาเลย จะรายงานอะไรไปก็เอาเลย ฮิคารุคิด 

“ไปกันเถอะ”

แล้วทั้งคู่ก็เดินออกไป ผ่านสุสานเพื่อตรงไปที่ทางเข้าดันเจี้ยน

บันไดที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อลงไปที่ดันเจี้ยน ที่จริงแล้วก็ไม่เชิงว่าเป็นทางเข้าเพราะตอนที่เพิ่งค้นพบดันเจี้ยนนี้มันมีแค่หลุมที่ลึกลงไปสองร้อยเมตรเท่านั้นเอง

จากที่นักประวัติศาสตร์ การ์ฟราสตี้ เอ็น วาล์ว สุสานนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเมืองใต้ดินเลยแม้แต่น้อย ส่วนพวกอันเดดที่อยู่ข้างล่างก็ใส่ชุดของราชวงศ์ โพเอลซิเนีย ที่ล่มสลายไปเมื่องหกร้อยปีก่อน

หรือก็คือ เมืองใต้ดินนี้ถูกสร้างโดยชาวโพเอลซิเนียที่กลายเป็นอันเดดนั่นเอง

จากที่หนังสือว่าไว้ดูเหมือนว่าพวกอันเดดจะขุดดินมาเรื่อยๆจนมาถึงที่สุสานได้ และแค่คิดถึงเรื่องนั้นก็ทำให้ฮิคารุขนลุกแล้ว

“ระวังด้วยล่ะ”

“ขอบใจนะ”

ฮิคารุก้าวลงบันไดและจับมือลาเวียไปด้วย ตะเกียงถูกติดตั้งอยู่ที่กำแพงแต่ละจุด ห่างกันเป็นระยะๆ พอให้สามารถมองเห็นได้ หลังจากที่เปิดใช้อำพรางหมู่แล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าไปข้างใน

หนาวแฮะ

ฮิคารุรู้สึกว่าอุณหภูมิลดลง ลมเย็นๆพัดผ่านทั้งคู่ เสียงของน้ำที่หยดลงจากหินงอกหินย้อยภายในถ้า ทีแรกฮิคารุรู้สึกว่าแค่สองร้อยเมตรมันก็ไม่เท่าไรแต่ว่าตอนนี้มันช่างดูไกลเหลือเกิน

“ว้าว ใหญ่จังเลย”

หลังจากที่มาจนสุดทาง ทั้งคู่ก็พบกับบ้านหินหลังใหญ่ที่สุดปลายทางนั้น กลิ่นอากาศแห้งๆถูกสูดเข้าปอด พื้นโคลนมีรอยเท้าของผู้คนมากมายที่เดินผ่าน 

เสียงคำรามดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ ทั้งคู่มองหน้ากัน เสียงนั่นไม่น่าจะใช่เสียงของหมาแน่นอน บางทีอาจจะเป็นเสียงของมอนสเตอร์ หรือบางที อาจจะเป็นเสียงของมนุษย์ก็ได้

ประตูไม้ถูกเปิดออกเผยให้เห็นถึงความมืดที่เป็นจุดเริ่มของดันเจี้ยน

ลาเวียถือตะเกียงด้วยมือข้างหนึ่งส่วนอีกข้างจับมือของฮิคารุไว้

“ไปกันเถอะ” ฮิคารุพูด ลาเวียพยักหน้าแล้วทั้งคู่ก็เดินออกไปจากบ้านที่เป็นจุดเริ่มต้น

ความเงียบปกคลุมทั้งคู่ ที่นี่มืดมากซะจนตอนกลางคืนยังสว่างกว่า

ทันทีที่เดินออกมา เหมือนกับว่าพื้นมันสูงขึ้น ดูเหมือนว่านี่จะเป็นสะพานข้ามน้ำที่แห้งไปหมดแล้ว ทั้งคู่ข้ามสะพานไป ฝุ่นคละคลุ้งไปทุกก้าวที่ทั้งคู่เดินออกไป

แสงของตะเกียงส่องให้เห็นบ้านอีกหลัง มันถูกสร้างด้วยหินเหมือนกันกับก่อหน้านี้ มีบันไดห้าขั้นด้านหน้าทางเข้า และเมื่อมองไปรอบๆก็จะพบกับบ้านที่ดีไซน์คล้ายๆกัน

เพราะสร้างจากหินมันก็เลยคงทน แต่ว่าหลังคาส่วนใหญ่ก็พังหมดแล้ว

“แหวะ กลิ่นอะไรเนี่ย”

ในเมืองที่เงียบสงัด ฮิคารุได้กลิ่นเน่าๆออกมา

“หืมม”

“ชู่ววว!”

เมื่อเห็นสิ่งนั้นฮิคารุรีบเอามือปิดปากลาเวีย มีสิ่งมีชีวิตที่เคยเป็นมนุษย์โผล่ออกมาจากข้างในบ้าน ลูกตาหลุดออกไป กรามล่างหาย แขนซ้ายตั้งแต่ศอกลงไปหายไป แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เห็นทั้งคู่

ผู้วายชนม์

มันคือมอนสเตอร์ระดับล่างสุดของเหล่าอันเดด แต่มันเองก็ยังสามารถทำให้เกิดความชิบหายได้คือ เรียกเพื่อนได้นั่นเอง เพราะที่นี่นั้นเคยเป็นเมืองเก่าดังนั้นเพื่อนเยอะแน่นอน

ดูเหมือนว่าอำพรางหมู่จะใช้ได้ผลสินะ ถึงจะมีตะเกียงแต่ก็มองไม่เห็นเราแฮะ ดูเหมือนว่าไอ้ตัวนี้มันไม่มีตา แปลว่ามีสกิลตรวจจับสินะ

ฮิคารุพยายามเรียกโซลบอร์ดของมันออกมาเพราะในทางเทคนิคแล้วมันเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่ว่าไม่ได้ผล ตรวจจับชีวิตนั้นไม่มีปฏิกิริยาอะไรแต่ว่าตรวจจับมานาเจอประมาณยี่สิบตัวได้ในระยะร้อยเมตรส่วนใหญ่าน่าจะเป็นพวกผู้วายชนม์

เยอะแฮะ ถ้าตัวเดียวพวกนักผจญภัยธรรมดาน่าจะพอรับมือไหวแต่ถ้ามันเรียกพวกมาก็จบเห่

ฮิคารุจูงมือลาเวียไปที่ข้างหลังของมัน แล้วจากนั้นก็ใช้มีดจ้วงเข้าที่หัวใจของมัน หรือจะเรียกว่าที่น่าจะมีหัวใจอยู่ดีล่ะ มันล้มลงที่พื้นส่งผลให้ฝุ่นคลุ้งไปทั่ว

“ไอ้เรื่องฆ่ามันไม่มีปัญหาหรอก แต่ไอ้ของเหลวนี่มันน่าหยะแหยงชะมัดเลยแฮะ”

ของเหลวสีดำติดอยู่ที่มีดของเขา

“ฮิคารุ เจ้านี่คือผู้วายชนม์สินะ แปลว่าจุดอ่อนคือหัวใจงั้นเหรอ เราไม่เห็นจะจำได้เลยว่ามันมีอยู่ในหนังสือด้วยน่ะ”

“พอดีเห็นว่ามานามันไปรวมอยู่ตรงนั้นน่ะ ก็เลยลองแทงไป”

ยกความดีความชอบให้ตรวจจับมานาไปเลย

“ถ้านายเห็นการไหลเวียนของมานาได้ก็แปลว่านายอาจจะใช้เวทได้ก็ได้นะ” ลาเวียพูด

“ฮะฮะ หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ”

ตอนนี้ฮิคารุมีคำถามอยู่ในหัวสองข้อด้วยกัน

ถ้าฆ่าพวกอันเดดไปแล้วโซลแรงค์จะขึ้นมั้ย

จะให้ลองไล่เชือดหลายๆตัวมันก็ได้อยู่ แต่ไม่ค่อยอยากทำเท่าไร เรื่องเวทมนต์ตัดทิ้งไปได้เลย ใช้ทีน่าจะดึงดูดความสนใจมากน่าดูแล้วกลิ่นของมันก็โคตรจะเหลือทนด้วย

แล้วทำไมถึงมีมอนอยู่ใกล้ๆกับทางเข้าด้วยล่ะ

และนั่นคือคำถามที่สอง เพราะที่นี่ถูกพบมาตั้งห้าปีแล้ว และมีคนมากมายที่มาที่นี่ ดังนั้นพวกมอนใกล้ๆทางเข้าน่าจะถูกกวาดล้างไปหมดแล้วสิ แต่นี่ออกมาจากทางเข้าไม่เท่าไรก็ป๊ะเข้าให้แล้ว และตัวที่เพิ่งเชือดไปก็ใส่ชุดขาดๆเก่าๆอยู่ที่เดิม

ช่างเถอะ ไปให้ลึกกว่านี้ดีกว่า

ต้องขอบคุณอำพรางหมู่ พวกผู้วายชนม์มองไม่เห็นทั้งคู่เลย และที่นี่ยังมีมอนชนิดอื่นอยู่ด้วย

สเกลตัน ผู้วายชนม์นี่เหลือแต่โครงกระดูก สเกลตันอามเมอร์ สเกลตันที่ชำนาญด้านการต่อสู้ที่ใช้มานาเป็นตัวเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย สเกลตันเมจ แน่นอนว่าไอ้ตัวนี้ถือไม้เท้าและใช้เวทได้ และ ผี มอนที่ดูเหมือนหมอกหนาๆ

ทั้งคู่เดินผ่านพวกมันอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าพวกนี้จะอยู่รวมกันประมาณสองสามตัวต่อกลุ่ม

แน่นอนว่าฮิคารุจัดการพวกมันทุกตัว สเกลตันนั้นมีจุดรวมมานาอยู่ที่หัวกะโหลกเขาจึงแทงเข้าที่หัวของมัน ฮิคารุไม่แน่ใจว่าการโจมตีกายภาพใช้ได้ผลกับผีมั้ย แต่ก็ลองอยู่ดี แล้วดันได้ผลด้วย ความรู้สึกเหมือนตัดผ้า

และคำถามแรกก็ได้รับคำตอบหลังจากที่เชือดไปจำนวนหนึ่ง โซลแรงค์ขึ้นมา แต่ช้ากว่าตอนที่ฆ่ากรีนวูล์ฟกับก็อบลินประมาณห้าเท่าได้

แล้วทั้งคู่ก็ได้ยินอะไรบางอย่าง

“เวรเอ้ย มาอีกแล้ว”

“รู้แล้วเว้ย อดทนไว้”

“ชิบหายเอ้ย”

เสียงของเหล็กที่กระทบกันดังอยู่ในความมืด ทั้งคู่เห็นแสงอยู่ที่ใกลๆ นักผจญภัยห้าคนกำลังสู้อยู่

“ทำไงดีเนี่ย จะฆ่าไปเท่าไรก็ไม่รู้จักหมดเลย”

“บอกแล้วใช่มั้นเห้ยว่าให้ซื้อน้ำมนต์มาให้มากกว่านี้น่ะ”

“พวกมันสู้ตัวต่อตัวไม่เก่ง แยกกันจัดการเรื่อยๆซะ”

“โทษทีแต่มานาหมดแล้วน่ะ…”

“อ๊าก บ้าเอ้ย ข้าโดนกัด เจ็บชิบเป๋งเลย”

ฮิคารุรู้ได้ทันที พวกเขาคือนักผจญภัยที่เจอกันก่อนหน้านี้นั่นเอง

“หา…”

ดูเหมือนว่าพวกนี้กำลังตกที่นั่งลำบาก

“นายดูไม่ค่อยสบายใจเลยนะ ฮิคารุ”

“งั้นเหรอ ฉันก็เป็นเหมือนปกตินะ”

ฮิคารุจูงมือลาเวียตรงไปที่การต่อสู้ข้างหน้านั่น

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset