อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 59

            “อะ อ้า!?”

            “คะ ใครก็ได้เรียกอาจารย์พยาบาลมาที!!”

            พอป้าธุรการล้มลงทำให้เริ่มมีการเคลื่อนไหว

            —-เอาจริงดิ อาจารย์ปิศาจแพ้งั้นเหรอ!?

            —-จะว่าไปเมื่อกี้เห็นหรือเปล่า!? ฉันไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น……

            —-หายไปไง จู่ๆหมอนั่นก็หายไป!

            “เอ่อ จะดูแลก็ไม่ว่าหรอก แต่การทดสอบจบแล้วใช่ไหม?”

            “เหวอ”

            พอทักไป เจ้าหน้าที่ธุรการคนอื่นก็ถอยกราวกันไป

            “เดี๋ยวสิๆ……ทางนู้นเป็นคนบอกให้มาทดสอบที่ไม่เห็นจะรู้เรื่องเองนะ อย่าหนีกันสิ?”

            “ขะ ขะ ขอโทษด้วยค่ะ! การอนุญาตให้เข้าเรียนแค่พวกฉันไม่สามารถตัดสินได้ค่ะ!”

            “หา? ป้าคนนั้นบอกว่าถ้าผ่านการทดสอบจะให้เข้าเรียนไม่ใช่เหรอ?”

            “เหวอ!? ดะ ได้โปรด อย่าโกรธไปเลยนะคะ……!”

            “หรือว่าต้องฆ่ามิไฮล์งั้นเหรอ?”

            “เรื่องนั้นขอร้องเถอะค่ะ!!”

            พนักงานธุรการที่ดูแลมิไฮล์ถึงกับร้อง “เหวอ” พร้อมกับลุกขึ้น

            ศีรษะของมิไฮล์กระแทกกับพื้นจนเกิดเสียงดังตึง

            “ถ้างั้นจะให้เข้าหรือไม่ให้เข้าเรียน?”

            “ให้เข้าแน่นอนค่ะ!”

            เธอพูดออกมาทั้งน้ำตา ถึงจะยังมีข้อกังขาอยู่แต่ก็ยอมรับให้ฮิคารุได้เข้าเรียน

            “ฮิคารุ แล้วฉันล่ะ?”

            “อ้อ นั่นสินะ ลาเวียเองก็ทดสอบด้วย—-”

            “ไม่เป็นไรค่ะ!! เข้าเรียนได้เลย!!”

            “—-งะ งั้นเหรอ”

            “ดีจังเลย ฉันไม่มีความมั่นใจว่าจะปรับพลังของตัวเองไม่ให้ฆ่าอีกฝ่ายได้เหมือนอย่างฮิคารุด้วยสิ”

            พอได้ยินคำพูดนั้นเหล่าพนักงานธุรการยิ่งกลัวขึ้นไปอีก

            “……แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย?”

            หลังจากนั้นฮิคารุกับลาเวียก็โดนผู้อำนวยการเรียกไปพบโดยตรง

            พอเข้าไปในห้องผู้อำนวยการ เธอเป็นหญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยชรา ถึงจะดูยิ้มแย้มแต่ตาไม่ได้ยิ้มด้วยเลย ส่วนข้างๆเธอมีอาจารย์สวมอาวุธ 4 คนยืนอยู่

            “ได้ยินเรื่องแล้ว จุดประสงค์ของเธอคืออะไรกันแน่?”

            “เข้าเรียน”

            “พอแค่นั้นเลย กรุณาตอบมาตามตรงด้วย เอ่ยชื่อของพอนโซเนียที่อยู่ระหว่างทำสงคราม แล้วยังทำให้อาจารย์บาดเจ็บ แถมทำให้พนักงานธุรการเกิดความสับสน จุดประสงค์คือตั้งใจจะด้อยค่าของโรงเรียนแห่งนี้จากภายในงั้นหรือ? แต่ถึงอย่างนั้นมันเป็นการกระทำที่ค่อนข้างไม่มีอะไรอยู่นะ?”

            “…………”

            ฮิคารุเริ่มรู้สึกปวดหัว

            ทำไมถึงไม่ยอมให้เข้าเรียนง่ายๆกัน ทั้งที่เตรียมจ่ายค่าเล่าเรียนแสนแพงไว้แล้วด้วยซ้ำ

            รู้สึกว่าค่าเล่าเรียน 2 ปี ต่อคนตกอยู่ที่ 5 แสนกีรัน

            “จะบอกว่า แค่กิลด์การ์ดของผมมีชื่อราชอาณาจักรพอนโซเนียอยู่ก็เป็นเรื่องที่ผิดแล้วเหรอ?”

            “……มันก็ต้องสงสัยคนที่น่าสงสัยไว้ก่อนอยู่แล้วนี่? ซึ่งเธอน่าสงสัยอย่างเพียงพอเลย”

            “ถ้าอย่างนั้นขอถามกลับหน่อย ต้องทำอะไรถึงจะยอมเชื่อใจ?”

            “ก็นะ? เรื่องนั้นเป็นสิ่งที่เธอต้องคิดไง?”

            ฮิคารุคิดขึ้นมา—-อ้า อย่างนี้มัน ทฤษฎีพิสูจน์ปิศาจเหรอ อยู่ในสภาพที่ไม่ยอมเชื่อใจอยู่แล้ว

            ไม่ไหวๆ เอายังไงดี

            ตอนที่คิดอย่างนั้นแล้วมองดูข้างๆ—-ลาเวียมองดูแคลนผู้อำนวยการ ถึงขนาดที่ทำให้ฮิคารุยังตกใจ

            (เดี๋ยวสิลาเวีย! ตา! สายตา! ความเกลียดชังออกมาเต็มๆเลย!)

            (ช่วยไม่ได้นี่ คนที่อ้างว่าเป็นผู้อำนวยการที่ไร้ความสามารถไม่ยอมเชื่อใจฮิคารุนี่)

            เธอพูดจิกกัดกลับมาเบาๆ

            “ใช่แล้ว ผู้อำนวยการ ถ้าเป็นอย่างนี้—–”

            จู่ๆอาจารย์ที่สวมอาวุธคนหนึ่งก็พูดขึ้นมา ผมหน้าม้าที่ยาวจนลงมาถึงดวงตา เป็นชายที่ดูไม่เป็นมิตร ในมือถือหอกสั้น ซึ่งในโซลบอร์ดก็มี “หอกสั้น” 2 อยู่ เป็นพวกดาดๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ปริมาณพลังกายเองก็น้อยกว่ามิไฮล์

            แล้วที่ไม่ชอบใจยิ่งกว่าก็คือ เอาแต่จ้องลาเวียตลอดตั้งแต่ฮิคารุเข้ามาในห้อง

            “ไม่ลองให้ไปหาใบริวจินคะดูล่ะครับ”

            “แต่ว่า! เรื่องนั้นมัน—-”

            “มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้อำนวยการนี่ครับ ยิ่งเป็นเรื่องของการช่วยชีวิตคนแล้วด้วย ถือเป็นหัวข้อที่เหมาะสมจะให้มาเป็นนักเรียนของที่นี่ไม่ใช่หรือครับ”

            “……ไม่ได้หรอก มันอันตรายเกินไป”

            “ผู้อำนวยการ……พูดอะไรออกมาครับ คนของพอนโซเนียเป็นพวกชอบอาละวาดอยู่แล้ว ต้องให้ทำประมาณนี้อยู่แล้วครับ”

            “เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน”

            “เอ่อ”

            ฮิคารุพูดแทรกขึ้นมา

            ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้พอจะเดาได้เลยว่าจะเป็นอย่างไร

            “ต้องขอโทษด้วยที่ขัดจังหวะ แต่ป้าธุรการบอกว่าจะให้ผมเข้าเรียนถ้าผ่าน “การทดสอบ” ซึ่งก็ผ่าน แต่ยังปฏิเสธไม่ให้เข้าเรียน แถมยังจะมาให้ทำอะไรอย่างอื่นอีกเนี่ยนะ?”

            ฮิคารุเริ่มรำคาญขึ้นมานิดหน่อย

            ต้องจ่ายเงินแพงๆเพื่อมาเป็นเงินเดือนให้เจ้าพวกนี้เหรอ? เอาเงินรางวัลที่ได้มาเยอะๆ ไปเรียนกับนักผจญภับที่เก่งด้าน “ลอบเร้น” ดีกว่าหรือเปล่านะ? —-ตอนที่เริ่มคิดเช่นนั้น

            “เกี่ยวกับ ‘การทดสอบ’……มันเป็นระเบียบทางการของโรงเรียน เอาไว้สำหรับ ‘ในกรณีที่ผู้ต้องการเข้าเรียนยังไม่รู้ความถนัด จะให้อาจารย์เป็นคนตัดสิน’ ไง”

            “ถ้างั้น ความถนัดของผมเป็น—-”

            “ฮิคารุ”

            ลาเวียพูดออกมาเสียงดัง

            จนถึงตอนนี้เธอไม่ได้เอ่ยปากออกมาสักครั้ง ทำให้ผู้อำนวยการหันไปมองลาเวียด้วยความสนใจ

            “ไปกันเถอะ ต่อให้ทุกคนในนี้เข้ามาพร้อมกันก็เอาชนะฮิคารุไม่ได้ ไม่มีความจำเป็นต้องเรียนจากที่อย่างนี้หรอก?”

            “หา—-”

            ผู้อำนวยการรวมไปถึงอาจารย์อีก 4 คนถึงกับพูดไม่ออก

            แล้วประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาอย่างแรง

            “ผู้อำนวยการ! —-โอ้ นายเองก็อยู่ที่นี่งั้นเหรอ”

            มิไฮล์นั่นเอง

            เขาแข็งแรงดีแล้ว คงฟื้นเพราะได้เวทมนตร์ฟื้นฟูสินะ

            “ควรให้หมอนี่เข้าเรียนครับ ผมลืมไปเสียสนนิทเลย—-ว่าจะไปดูถูกนักเรียนหรือคนที่อายุน้อยกว่าไม่ได้ ถ้าให้หมอนี่เข้าเรียนแล้วละก็รับรองว่าจะต้องเป็นสิ่งกระตุ้นที่รุนแรงแน่นอนครับ”

            “นี่ๆ มิไฮล์! โดนเล่นงานทีเผลออย่างนั้นยังมาพูดอย่างนี้อีกเหรอ!”

            เหล่าอาจารย์พูดออกมา

            “หนวกหู!!”

            มิไฮล์แผดเสียงโกรธออกมา

            “พวกนายเองต่อให้เล่นงานทีเผลอ ก็ไม่มีใครเอาชนะฉันได้สักคนแท้ๆ!! แต่หมอนี่—-”

            “พูดว่าหมอนี่ๆ อยู่นั่นแหละ ฮิคารุต่างหาก”

            “อะ อ้อ……ฮิคารุ ทำให้ฉันหมดสติได้ในชั่วพริบตา ไม่มีเวลาว่างมาให้คิดถึงเรื่องความตายหรืออะไรอย่างอื่นเลย พลังที่แท้จริงของหมอนี่ยังมีอะไรที่ไม่รู้อีกมาก จนฉันเองอยากอยากศึกษาด้วยเลย”

            คำพูดของมิไฮล์ทำให้เหล่าอาจารย์ถึงกับอึ้ง

            “ขนาดนั้นเลยเหรอ”

            “ใช่แล้วล่ะผู้อำนวยการ ยิ่งไปกว่านั้นหมอนี่ไม่ได้ฆ่าฉันด้วย……ทั้งที่ฉันบอกไว้ว่า ‘ต่อให้ตายก็ไม่เป็นไร’ ด้วย ถ้าเป็นมือสังหารจากพอนโซเนีย คงฆ่าอาจารย์ที่ดูสะดุดตาอย่างฉันไปแล้ว”

            “เรื่องนั้น……มันก็ใช่อยู่หรอก”

            ผู้อำนวยการเองก็คิดครู่หนึ่ง

            “……เข้าใจแล้ว อนุญาตให้เรียน”

            “ผู้อำนวยการ!?”

            เหล่าอาจารย์ร้องเสียงหลงออกมา

            มีแค่มิไฮล์คนเดียวที่ตบหลังของฮิคารุ

            “ดีจังเลยนะฮิคารุ!!”

            “……เจ็บๆ ถ้าบอกว่า ‘ยอมให้เข้าเรียน’ ด้วยสายตาดูถูกเหมือนอย่างก่อนหน้านี้คงโมโห แล้วว่าจะไม่เข้าเรียนแล้วด้วยซ้ำ”

            “อย่าพูดงั้นสิ! ผู้อำนวยการ ขอให้ฮิคารุได้เป็นนักเรียนพิเศษด้วย ถ้ามีอาจารย์แนะนำน่าจะทำได้ใช่ไหม”

            “นี่มิไฮล์!!”

            เหล่าอาจารย์ส่งเสียงโกรธขึ้นมา แต่

            “……เข้าใจแล้ว เอาอย่างนั้นก็ได้”

            ผู้อำนวยการรับฟังความคิดเห็นของมิไฮล์ ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน

            ฮิคารุรู้สึกสงสัยในความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างนี้ และเริ่มคิดว่าถ้าไม่เกี่ยวกับตัวเองก็คงจะดีอยู่หรอก

            “ฟู่……ถ้างั้นจะเข้าเรียนก็ได้ ถ้าไม่พอใจค่อยออก—-ลาเวียคิดว่าอย่างนั้นดีไหม?”

            “……ถ้าฮิคารุบอกอย่างนั้นก็ได้อยู่หรอก แต่ว่า……”

            ลาเวียยังมีความกังวลอยู่ แต่ก็ยอมรับมัน

            พอออกจากห้องผู้อำนวยการ มิไฮล์ก็ตามหลังมา

            “โทษทีนะ……ดูเหมือนจะทำให้โดนเกลียดเอาเรื่องเลย”

            “ไม่รู้เลยว่าเกลียดพอนโซเนียกันถึงขนาดนี้”

            “ถ้าไม่ต้องทำสงครามกับประเทศนายก็คงดีอยู่หรอก”

            “……เรื่องนั้นผมเองก็คิดเหมือนกัน ถึงงั้นทั้งที่ผมทำให้หมดสติแต่ยังพยายามผลักดันให้เข้าเรียนเนี่ย หรือว่าเป็นพวกโรคจิตรู้สึกดีใจเวลาโดนต่อยเหรอ?”

            “จะบ้าเหรอ!”

            “ถ้างั้น อยากจะสู้กับผมในสภาพเตรียมพร้อม? แล้วคิดว่าจะชนะได้เหรอ?”

            “—-อืม เรื่องนั้นก็อยากลองเหมือนกัน ไม่ใช่อย่างนั้น อยากที่บอกไปเมื่อกี้ ช่วงนี้การวิจัยของโรงเรียนมันเริ่มหยุดชะงักลง เลยอยากจะได้แรงกระตุ้นที่รุนแรงไง แล้วผู้อำนวยการ……ยังเป็นอย่างนี้อีก ถ้าหากนายไม่ได้มาจากพอนโซเนียคงต้อนรับอย่างดีเลยล่ะ”

            “มีความแค้นกับพอนโซเนียเหรอ”

            “มีหลานชายอยู่น่ะ……แล้วต้องออกไปรบระหว่างควินแบรนด์กับพอนโซเนีย แล้วก็—-”

            “โดนฆ่าเหรอ?”

            “อย่ามาบอกว่าโดนฆ่าตามใจชอบสิ ยังมีชีวิตอยู่แต่บาดเจ็บจากธนูอาบยาพิษแบบพิเศษของฝั่งพอนโซเนีย “

            มันเป็นพิษที่ทำให้เกิดไข้สูงและบาดแผลรักษาได้ช้า

            มันเป็นการยากที่จะถอนพิษด้วยเวทมนตร์ และจำเป็นต้องใช้สมุนไพรชนิดพิเศษ

            “วัตถุดิบคือใบริวจินคะสินะ”

            “หือ? ทำไมฮิคารุถึงรู้เรื่องนั้นล่ะ?”

            “ก็อาจารย์ที่ดูไม่เป็นมิตรที่ใช้หอกสั้น จะให้ผมไปหาไง”

            “อาจารย์คิลเนนโกเหรอ……เอาเถอะ ถ้าจะให้พูดหมอนั่นก็เฮงซวยจริงนั่นแหละ”

            มิไฮล์พูดออกมาอย่างรู้สึกดี ทำให้ฮิคารุถึงกับหลุดขำอกมา

            “ผมเองก็คิดเหมือนกัน”

            หลักๆเลยคือจ้องลาเวีย

            “ใจตรงกันนะเนี่ย!”

            “แค่เรื่องนี้แหละ”

            “แล้วฮิคารุจะเข้าเรียนดาบใหญ่ตั้งแต่เมื่อไรเหรอ? วันพรุ่งนี้ก็มีนะ!”

            “……หา? ดาบใหญ่?”

            “มันต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว เท่านี้ฉันกับฮิคารุจะได้มีมิตรภาพที่แน่นแฟ้น—-”

            “ไม่ต้องการมิตรภาพหรอกค่ะ”

            ลาเวียเข้ามาแทรกระหว่างฮิคารุกับมิไฮล์

            “มาสนิทกับฮิคารุตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว แล้วฮิคารุไม่ได้ใช้ดาบใหญ่ จะให้ไปเรียนดาบใหญ่เพื่อะไรกันคะ?”

            “เอ๋!? จะไม่เข้าเรียนดาบใหญ่เหรอ? ไม่มาวิจัยเคล็ดวิชาดาบใหญ่ที่สูญหายในอดีตกันหน่อยเหรอ?”

            “ไม่เอาหรอก จะว่าไปนายเนี่ยดูฉลาดกว่าที่เห็นนะเนี่ย”

            “ฉันเป็นพวกฉลาดในเรื่องของการต่อสู้ไง! แล้วอยากเรียนอะไรงั้นเหรอ”

            “คงจะเป็นมีดมั้ง—-เพราะอย่างนั้น ไปก่อนนะ”

            ฮิคารุพูดตัดบทมิไฮล์อย่างรวดเร็ว

            รู้สึกเหมือนลาเวียหึงยังไงไม่รู้สิ—-ทั้งที่แค่คุยกับผู้ชาย แถมกล้ามบึ้กอีก

            “เอ๋!? นายใช้มีดเหรอ……แต่อาจารย์คนนั้นเนี่ย…………”

            มิไฮล์พึมพำออกมาอย่างตกตะลึง

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset