อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 77

            ควรจะอธิบายถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้อย่างไรดี

            อาจจะเพราะ “ความกดดัน” ของพ่อบ้านที่รออยู่ตรงมุมห้อง 

            หรือเพราะคำพูดของเหล่าเมดที่รออยู่ตรงทางเดินเพื่อเสิร์ฟน้ำชาเหมือนอย่างทุกที—-ที่บอกว่า ทั้งที่อยู่หน้าร้อนแต่กลับเสียวสันหลัง

            รีกที่ยืนอยู่กลางห้องยังทำสีหน้าสบายๆเหมือนเดิม

            แต่ถ้าสังเกตดูดีๆจะเห็นว่าปลายนิ้วของเขาที่ยื่นไปหาแก้วชาสั่นอยู่เล็กน้อย

            ดวงตาสีเขียวที่มองคนที่นั่งอยู่ด่านหน้าก็ส่ายไปมา

            “ดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยนะ”

            เสียงที่หนักอึ้งราวกับก้อนหิน

            คนที่โดนอาทิตย์ย้อนแสงสาดส่อง—-คือพ่อของรีก เจ้าบ้านตระกูลเรียวกิที่อยู่จุดสูงสุดของลูมาเนีย บิริออน เรียวกิ ลูมาเนีย พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยหน่าย

            ที่เหมือนกับรีกคงมีแค่สีของดวงตากับเส้นผมที่เป็นสีเขียวเท่านั้น

            ร่างกายกำยำ สีหน้าโหดเหี้ยม ดูแตกต่างกับรีกโดยสิ้นเชิง

            “เลิกเรียนได้แล้วมั้ง?”

            “ท่านพ่อ เรื่องนั้น……”

            “รู้แล้วๆ สัญญาที่ให้ไว้ตอนเข้าเรียนสินะ ว่าขอเวลาเรียน 2 ปี แต่—-นี่ก็ผ่านมาหนึ่งไตรมาส ยังไม่เห็นผลอะไรสักอย่างเลย”

            “การเรียนรู้ไม่มีทางลัดหรอกครับ”

            “ข้าไม่ชอบเรื่องงี่เง่าอะไรอย่างนั้น เอาเถอะรีก พวกเราคือเผ่าเรียวกิต้องคอยค้ำจุนและแบกรับลูมาเนียเอาไว้ ถือเป็นภาระอันหนักอึ้งของเผ่าเรียวกิที่สืบสายเลือดมาจากโอโทริของลูมาเนีย”

            สิ่งที่บิริออนพูดคือตำนานที่พูดต่อกันมาในลูมาเนีย

            เผ่า “โอโทริ” พวกเขาเป็นผู้ก่อตั้งประเทศลูมาเนียขึ้นมา

            ถึงพวกเขาจะพ่ายแพ้ในสงคราม แต่ “เรียวกิ” ก็ยังดำรงสืบทอดลูมาเนียต่อมาเรื่อยๆ—-

            เรื่องเล่าที่ฟังจนเบื่อ

            ตอนจบของเรื่องเป็นดังนี้

            —-สำหรับเผ่าเรียวกิที่สืบสายเลือดสูงศักดิ์มา จะต้องอยู่บนจุดสูงสุดของลูมาเนีย

            “ท่านพ่อเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วครับ ผมก็ยึดถือสิ่งนั้นจนมาถึงตรงนี้ครับ พอสิ้นสุดฤดูหนาวปีหน้าจะกลับมาที่นี่อย่างแน่นอนครับ หลังจากนั้นจะร่วมทำงานกับท่านพ่อครับ”

            “ฤดูหนาวมันยาวนาน และสำหรับพวกเราฤดูหนาวเป็นอะไรที่สำคัญมาก”

            ฤดูหนาวที่ยาวนานของสหพันธรัฐฟอเรสเทียเป็น “ฤดูการเมือง”

            โดยเรื่องสำคัญจะถูกตัดสินใจในช่วงหน้าหนาวนี้

            “กลับมาก่อนถึงฤดูหนาวซะ”

            “ท่านพ่อ!”

            “หน้าหนาวในเมืองอย่างนั้นจะไปทำอะไรได้?”

            “แต่ว่าเรื่องสัญญา—-”

            “ตัดสินใจแล้ว ถ้าไม่ชอบจะย้ายมาตั้งแต่วันนี้เลยก็ได้”

            “…………เข้าใจแล้วครับ”

            เขากัดฟันพูด

            ถึงรีกจะได้รับการสั่งสอนจากพ่อตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ได้รับการสอนเรื่องของโลกอีกด้านโดยครูสอนพิเศษ

            ไม่ใช่โลกที่พ่อพร่ำบอกว่า “ลูมาเนียจะต้องเป็นผู้นำของสหพันธรัฐ” —-

            —-ไม่คิดบ้างหรือ ถ้าหากทั้ง 7 ประเทศร่วมมือกันแล้วละก็ มันจะเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่านี้

            การกระทำของรีกในตอนนี้มาจากความคิดนั้น

            ความสัมพันธ์ที่ลืมเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งในอดีต แล้วร่วมมือกันเพื่ออนาคต 

            ถ้าหากสร้างสิ่งนี้ได้แล้วละก็—-อาจจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างก็ได้

            มหาประเทศอย่างราชอาณาจักรพอนโซเนียกับจักรวรรดิควินแบรนด์จะมารุกรานทางนี้เมื่อไรก็ไม่รู้

            อาจารย์สอนพิเศษ จริงๆแล้วเป็นคนของโคโทบี้ แต่ปลอมแปลงว่าเป็นคนของลูมาเนีย ซึ่งเรื่องนั้นความแตกและโดนไล่ออกทันที แต่คำสอนของเขายังคงอยู่ในใจของรีกจนมาถึงตอนนี้

            การจะทำตามความคิดนี้ ยังไงก็ต้องออกห่างจากพ่อ

            โดยยื่นเงื่อนไขผ่อนผันไปว่า ขอไปโรงเรียน 2 ปี “หลังจาก2 ปีนั้นจะกลับมาสืบทอดตระกูลต่อจากพ่อ”

            พ่อเองก็ยินดีกับลูกชายที่ไม่สำนึกสักทีว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลเรียวกิ พร้อมกับบอกว่า “ในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้วสินะ”

            (อีกแค่ 2 ปี……ไม่สิ ถ้าไม่นับฤดูหนาวก็เหลืออีกแค่ 1 ปีครึ่ง……ด้วยเวลาแค่นี้จะทำได้หรือเปล่า? แล้วจะเพิ่มพรรคพวกที่อยู่ต่างประเทศได้แค่ไหนกัน?)

            เขาเริ่มร้อนใจ

            ที่จริงแล้วก็ไม่มีเวลาว่างพอจะพาสาวๆลูมาเนียไปที่ร้านคาเฟ่หรอก แต่พวกเธอเป็น “ผู้จับตามอง” ที่พวกของพ่อส่งมา

            ยังไงก็ต้องตอบรับตามเหมาะสมเพื่อตบตา

            ทั้งที่ไม่มีเวลาแท้ๆ

            “จะว่าไป เจ้าได้ยินเรื่องการต่อสู้ระหว่างพอนโซเนียกับควินแบรนด์หรือเปล่า?”

            บิริออนที่กำลังยินดีเพราะลดเวลาผ่อนผันไปได้พูดออกมา

            “……ครับ ได้ยินมาว่าพอนโซเนียมีกำลังที่เหนือกว่า”

            “ใช่แล้ว หัวหน้ากลุ่มอัศวิน ‘เคนเซย์’ ลอวเรนซ์ออกมาแนวหน้าแล้ว ดูเหมือนทหารม้าที่ควินแบรนด์ภาคภูมิใจจะโดนกวาดเรียบเลย เอาเถอะ ถึงจะบอกว่า ‘เคนเซย์’ แต่หัวหน้ากลุ่มอัศวินของพวกเราน่าจะแข็งแกร่งกว่าอยู่แล้ว”

            ที่บอกว่าของเรานั้นไม่ใช่ “ของสหพันธรัฐ” แต่เป็น “ของลูมาเนีย”

            หัวหน้ากลุ่มอัศวินที่ว่าคือตำแหน่งของตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อน โดยเป็นหัวหน้ากลุ่มเป็น “ทหารส่วนตัว” ที่รวบรวมอย่างเปิดเผยโดยบิริออน

            “เคนเซย์” ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงประเทศอื่นอย่างลอวเรนซ์ กับหัวหน้ากลุ่มอัศวินส่วนตัวของลูมาเนียระดับมันต่างกัน……ถึงรีกจะคิดอย่างนั้น แต่ไม่ได้พูดกับพ่อที่กำลังอารมณ์ดี

            จากประสบการณ์ ถึงบอกไปคงโดนตอกกลับมาว่า “อย่างแกจะไปรู้อะไร” แล้วบอกต่อว่า “ถึงเจ้าไม่อยากแต่คงต้องให้รับรู้ถึงงานที่ข้าต้องทำซะแล้ว”

            “แต่พอนโซเนียนั้น กลับถอนกำลังทหารทั้งที่กำลังจะยึดเมืองส่วนนอกได้แล้วแท้ๆ”

            “เอ๊ะ?”

            สิ่งนั้นเป็นข้อมูลที่เหนือความคาดหมาย

            ที่รีกคาดการณ์เอาไว้คือพอนโซเนียจะบุกยึดต่อทั้งอย่างนั้น แล้วควินแบรนด์จะเจรจาสัญญาสงบศึก แล้วความสงบจะอยู่ต่อไปหลายปี—ระหว่างนั้นก็รอให้สหพันธรัฐยุคต่อไปของพวกตัวเองมาถึงอยู่

            “ควินแบรนด์ทำอะไรลงไปอย่างนั้นหรือครับ?”

            “ไม่รู้สิ เกี่ยวกับเรื่องนี้แทบจะไม่มีข้อมูลอะไรเลย……”

            “หรือว่าเลขานุการเอกแวน โฮลเทนซ์?”

            “นังจิ้งจอกสาวคนนั้นยืนกรานว่า ‘ไม่รู้อะไรเลย’ มันจะไม่รู้ได้ยังไง มันน่าสงสัยตั้งแต่พวกลูกน้องของข้าโดนจัดการไปแล้ว……”

            “ลูกน้อง—-หรือว่ากลุ่มผู้ใกลชิดทั้ง 7”

            ที่รีกพูดออกมาคือ เหล่าตัวแทน “ที่ปรึกษาบริหารประเทศ” ของแต่ละประเทศที่อยู่ข้างกายราชินีมัลเกโด้

            “ไม่ใช่ สปายต่างหาก”

            “……หา? สปาย?”

            “ยังไม่ได้บอกเจ้าสินะ แต่เพื่อที่จะรวบรวมข้อมูลของราชินีเลยส่งสปายเข้าไป”

            “อะไรกัน”

            รีกคิดว่ามันเป็นการกระทำที่เหมือนกับการหักหลังอยู่ แต่ก็ดึงสติและความเยือกเย็นกลับมาได้ในทันที

            “ฮึๆ……อยากได้ความใจเย็นอย่างนี้ของเจ้านั่นแหละ”

            บิริออนยิ้มเยาะออกมา

            ใช่แล้ว พ่อกำลังทดสอบตัวเราอยู่ คงคิดว่าถ้าหวั่นไหวกับเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้คงไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำตระกูล

            มันก็เป็นอย่างนี้

            ถ้าเป็นพ่อที่คิดว่า “ลูมาเนียต้องอยู่จุดสูงสุด”, “ลูมาเนียต้องเป็นผู้นำของสหพันธรัฐ” แล้วละก็ การจะส่งสปายไปหาราชินีที่เกิดในคิรีฮาลก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

            “ตั้งใจเรียนเข้าซะ”

            บิริออนยืนขึ้นและเดินจากไปราวกับจะบอกว่าจบการพุดคุยแต่เพียงเท่านี้

 

—————————————–

ป.ล. ช่วงนี้งานยุ่งมาก คงอัพช้าหน่อย

 

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset