อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 78

            แล้วลาเวียก็เข้าเรียนคลาสดาบสั้นด้วย มิเรทำหน้าสิ้นหวังแบบว่า “มีนักเรียนที่จุกจิกกว่าฮิคารุเพิ่มขึ้นอีกแล้วเหรอ…….” กับเหล่านักเรียนดาบใหญ่ที่โผล่มาเรียนด้วยบ่อยขึ้นยังแซวว่า “มาจู๋จี๋กันที่นี่อย่างนี้มันต้องเจอดีซะแล้ว?” ก่อนที่จะเข้ามาสู้กับฮิคารุอย่างมุ่งมั่นแต่ก็โจมตีไม่โดนสักครั้งจนหมดแรงไปเอง

            ซึ่งลาเวียบอกว่า 

            “…………ดะ ดูเหมือน……จะเรียน จริงจัง……นะเนี่ย…………”

            เธอนอนแผ่หราหายใจหอบอยู่ตรงพื้น

            เธอฝึกพื้นฐานแบบเดียวกับของฮิคารุเป็นเวลา 2 ชั่วโมง

            “ลาเวีย มันไม่ฝืนเกินไปหน่อยเหรอ เธอไม่เคยฝึกฝนพลังกายพื้นฐานมาก่อนแล้วเข้าร่วมอย่างนี้เนี่ย”

            “ฉะ ฉันเอง……ก็มีสตามิน่าเหมือนกันนะ……”

            ถึงจะเพิ่ม “สตามิน่า” 1 ให้กับโซลบอร์ดของลาเวีย แต่ก็ต้องบอกว่าเพิ่มให้แค่นั้นจริงๆ

            สิ่งนี้เป็นมันแตกต่างกับการวิ่งหรือเดินทางระยะไกลอยู่ มันเป็นการฝึกฝนพลังออกตัวซ้ำไปซ้ำมาหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ลาเวียหมดแรง

            “ลาเวีย เดินไหวไหม? กลับไปพักที่บ้านก็ได้นะ”

            “………ดูเหมือน จะไม่ไหว”

            ถึงเธอพยายามจะลุกขึ้น แต่ที่ขยับกลับมีแค่แขน

            ช่วยไม่ได้ ฮิคารุเลยไปเข้าไปใกล้ลาเวีย

            “——อะ เอ๊ะ??”

            เขาอุ้มเธอขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้าง—-หรืออุ้มท่าเจ้าหญิง

            “เอาละ กลับกันเถอะ”

            “ฮะ ฮะ ฮิคารุ แบบว่าฉัน”

            “ถึงจะบอกว่าอายก็ไม่ยอมหรอกนะ จะให้นอนข้างนอกก็ไม่ได้ด้วย ยังดีที่บ้านอยู่ใกล้ ทนหน่อยนะ”

            “ฮะ ฮิคารุเองก็เหนื่อยไม่ใช่เหรอ……?”

            “ลาเวียตัวเบาจะตายไป”

            “อือ……”

            ลาเวียที่อายมากเอาหน้าซุกไปตรงอกของฮิคารุ

            เหล่านักเรียนดาบใหญ่กับโรเย่—-ที่นอนหมดแรงอยู่ตรงพื้น—-พอเห็นภาพนั้นก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมา

            “โธ่เว้ย? ทำไมกัน? ทำไมถึงมาจู๋จี๋กันตรงนี้เนี่ย?”

            “คิดจะฆ่าพวกฉันงั้นเหรอ?”

            “อ้าเข้าใจแล้ว……ฉันเอาชนะฮิคารุไม่ได้……”

            ฮิคารุไม่สนใจพวกเขาแล้วพูดกับมิเร

            “ถ้างั้น ขอตัวก่อนนะ”

            “อ้อ อือ—-ฝากข้าวเที่ยงด้วยนะ?”

            “ไม่ใช่ข้าวเที่ยงแต่น่าจะเป็นเหล้าใช่ไหมล่ะ……”

            “ก็ทั้งคู่นั่นแหละ? เหล้าที่เข้ากับข้าว และข้าวที่เข้ากับเหล้า อ้า—-แล้วเมื่อไรจะมีคนมาอุ้มฉันอย่างนั้นบ้างนะ?”

            “คิดว่าคงไม่มีสำหรับคนที่เรียกรับประทานอาหารว่า ‘แดกข้าว’ หรอก”

            “หาาาา? มีหลายคนที่บอกว่า ‘มิเรจังพูดไม่มีหางเสียงอย่างนี้ก็ดีแล้ว’ อยู่เยอะเลยนะ? ฮิคารุตาไม่ถึงเองหรือเปล่า?”

            “ใช่แล้วๆ ทุกคนในจาราซักเองก็บอกว่าอาจารย์มิเรมีเสน่ห์ด้วย”

            ฮิคารุยังไม่ทันได้พูดอะไร  เหล่านักเรียนดาบใหญ่ก็ยืนขึ้นมาอย่างโงนเงน พร้อมกับบอกออกมาว่า “อาจารย์? พุ่งเข้ามาสู่อ้อมอกของผมได้เลย?”, “ไม่ ของฉันต่างหาก?”, “ฉันต่างหาก?”

            “ถ้าโจมตีฮิคารุได้ 1 ทีอะนะ”

            มิเรพูดยุยงเกินความจำเป็นกับเหล่านักเรียน

            ฮิคารุไม่คิดจะเอาด้วย เลยรีบๆไปจากตรงนั้น

            “……ฮิคารุ”

            “หือ?”

            ลาเวียที่อยู่ในอ้อมแขนพูดขึ้นมา

            “ฮิคารุทำยังไงถึงมีพลังกายมากขนาดนี้เหรอ? หรือว่า……เพิ่มด้วยโซลบอร์ด?”

            “เปล่าหรอก ‘สตามิน่า’ ของผมยังเป็น 0 อยู่”

            “เอ๊ะ? อย่างงั้นเหรอ?”

            “ผมฝึกด้วยตนเองมาสักพักเพื่อเพิ่มพลังกายพื้นฐาน แล้วก็ฝึกเทคนิค—-ที่ไม่ค่อยต้องใช้แรงกายมากสักเท่าไรให้ร่างกายจดจำได้ไง”

            ตอนแรกฮิคารุพยายามหลบการโจมตีของดาบใหญ่อย่างสุดกำลัง เพราะมีค่าสเตตัส “พลังออกตัว” 2 ในโซลบอร์ด ทำให้มีความเร็วพอตัวอยู่

            แต่วิธีการหลบนั้นมันสิ้นเปลืองพลังกายมาก

            เลยหลบการโจมตีด้วยการเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด แล้วโจมตีสวนกลับไปด้วยการทำให้ร่างกายของอีกฝ่ายเสียสมดุล

            ใช้วิธีการนั้นหยอกล้อกับเหล่านักเรียนดาบใหญ่

            “……ฉันเองจะทำอย่างนั้นได้หรือเปล่า?”

            “ลาเวียไม่ต้องจำเรื่องนั้นก็ได้? ตอนหนีก็หนีให้สุดแรงเกิดไปเลย เธอเป็นผู้ใช้เวทมนตร์แห่งภูต อยากให้จดจ่อกับหลักพื้นฐานอย่าง ‘ห้ามให้เจอตัว’ ไง”

            แล้วฮิคารุก็เสริมต่อว่า มันก็เหมือนกับวิธีการการต่อสู้ของผมนั่นแหละ

            “ลาเวียเองก็คิดหาวิธีการใช้ ‘อำพราง’ ร่วมในการต่อสู้ด้วยก็ดีนะ……นี่ ลาเวีย?”

            พอรู้สึกตัวอีกที ลาเวียก็หลับไปแล้ว

            “……พยายามมากเลยนะ ทั้งที่เก็บตัวมาตลอดเนี่ย”

            พอเห็นใบหน้ายามหลับของเธอ ฮิคารุก็ยิ้มออกมา

            พากลับไปนอนที่บ้าน กับเตรียมน้ำไว้ตรงโต๊ะข้างเตียงเผื่อตื่นเอาไว้ให้ด้วย

            คาบเรียนดาบสั้นเองก็มีประโยนข์ดีนะเนี่ย ถ้าทำให้ลาเวียแข็งแรงได้—-

            “จะว่าไป—-วันนี้รีกไม่มาเรียน”

            จู่ๆฮิคารุก็นึกขึ้นมาได้

            เนื่องจากตอนนี้ลาเวียยังหลับอยู่ เลยพาเธอไปนอนที่ห้อง ส่วนฮิคารุไปที่ร้าน “เอ้า ดื่ม” คนเดียวเพื่อทำอาหาร เหล่านักเรียนดาบใหญ่มากินอาหารกลางวันที่ร้านในสภาพอิดโรย เนื่องจากโรเย่อยู่ด้วยเลยถามไปว่า “รีกล่ะ?”

            “……รีกเป็นคนของเรียวกิ ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้เท่าไรหรอก”

            เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนด้อย

            ดูเหมือนจะกลับไปที่บ้านเกิดในลูมาเนียพร้อมกับชายผมแดงที่อยู่ด้วยกันตรงกิลด์นักผจญภัย

            ดูท่าทางโรเย่เองไม่ได้สนิทกับนักเรียนของลูมาเนียคนอื่นสักเท่าไร

            “อะไร? ฮิคารุเป็นห่วงรีกเหรอ?”

            “ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ เห็นรีกเดินเล่นกับเด็กผู้หญิง 6 คนด้วย”

            พอลองฟ้องแบบลอยๆออกไป เหล่านักเรียนดาบใหญ่ก็ลุกขึ้นยืน แต่โรเย่กลับทำสีหน้าเหมือนเป็นเรื่องปกติ

            “มันก็แน่อยู่แล้ว เผ่าชั้นนำของลูมาเนียก็ต้องมีสาวๆมาติดอยู่แล้วไง”

            “…………”

            “………….”

            “…………..”

            “……………”

            แล้วฮิคารุกับเหล่านักเรียนก็นั่งลงไปอย่างจ๋อยๆ

            “แล้วฮิคารุจะมาจ๋อยด้วยทำไมเนี่ย? อยู่กลุ่มผู้ชนะแล้วชัดๆ?”

            “ใช่แล้ว? แนะนำสาวๆให้พวกฉันบ้างดิ?”

            “ทำถึงขนาดนี้ทำไมไม่โดนฟ้าลงโทษสักที อล้วทำไมเพิ่งจะมาแนะนำเธอเอาป่านนี้? ไอ้คนไร้น้ำใจ?”

            “ไอ้คนไร้น้ำใจ? ปิศาจ?”

            “ใช่แล้วปิศาจจริงๆ?”

            โดนด่าอย่างไร้เหตุผล

            หลังกินอาหารกลางวันเสร็จก็ไปดูสภาพของลาเวีย ซึ่งเธอยังหลับอยู่ ฮิคารุเลยมุ่งหน้าไปห้องสมุดคนเดียว

            ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลาเวียที่ใช้งานทุกวันเดินแนะนำอยู่หรอก แต่เอาไว้คราวหน้าก็ได้

            นักเรียนเข้าได้ฟรี

            ก่อนอื่นก็ห้องโถงทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีที่วางหนังสือเรียงรายอยู่

            พอเดินตามผนังไปก็พบกับชั้นหนังสือ พอผ่านไปก็เห็นโถงชั้นสองที่มีชั้นหนังสือเรียงกันราวกับเขาวงกต

            “สุดยอดไปเลย……แบ่งชนิดของหนังสือยังไงเนี่ย? จะหาหนังสือที่ต้องการได้ยังไงกัน?”

            ฮิคารุพึมพำออกมา

            “หาหนังสืออะไรอยู่หรือเปล่า?”

            บรรณารักษ์สูงวัยส่งเสียงทักทายออกมา

            ดูเหมือนจะมีบรรณารักษ์เยอะพอตัว เพราะเห็นอยู่ตรงนั้นตรงนี้ บางคนก็เก็บหนังสือ บางคนก็หยิบหนังสือที่เสียหายออกมา

            “อะ เอ่อ……อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับโบราณวัตถุของซูบร้าครับ”

            “โห ถ้างั้นเชิญทางนี้เลย”

            เดินตามหลังบรรณารักษ์ที่คล้ายกับพ่อบ้านไป

            เดินขึ้นไปชั้น 2 และไปจนถึงสุดทางเขาวงกต ตรงส่วนที่ไม่มีแสงอาทิตย์ส่องสว่างด้วยแสงจากตะเกียงเวทมนตร์

            ตรงชั้นหนังสือมีหนังสือขนาดต่างกันเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก

            หนังสือโบราณที่ทำจากหนังแกะ หรือสิ่งตีพิมพ์ที่ตีพิมพ์ลงกระดาษสา

            ไม่ว่าเล่มไหนๆก็ถูกเข้าเล่มไว้ด้วยปกหนัง สำหรับโลกนี้ “หนังสือ” อาจจะเป็น “สิ่งที่ถูกเข้าเล่มมด้วยปกหนัง” ก็ได้

            “ตรงนี้เป็นชั้นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับ ‘โบราณวัตถุของซูบร้า’ ครับ”

            “……ว้าว”

            เบื้องหน้ามีชั้นหนังสืออยู่ โดยมีความสูงราวๆ 10 ชั้น “การวิจัย ‘กล่องโลหะ’ อาร์ติแฟกของซูบร้า”, “การเจาะจงสถานที่ค้นพบโบราณวัตถุ”, “แผนผังโบราณสถานคานาลฮันด์”—-มันมีเนื้อหาที่หลากหลายเหมือนกับยังไม่ได้ทำการจัดเรียง

            “เอ่อ”

            “ว่าไงครับ”

            “ได้ยินมาว่ามี ‘ลิสต์โบราณวัตถุ’ อยู่ ไม่ทราบว่าสิ่งนั้นอยู่ตรงไหนเหรอครับ”

            “……ต้องขอประทานโทษด้วย ไม่ทราบว่าพอจะแสดงโซลการ์ด หรือกิลด์การ์ดได้หรือเปล่าครับ?”

            “ต้องถามหาอะไรอย่างนั้นด้วยเหรอ?”

            “ถึงจะมีลิสต์ของโบราณวัตถุ แต่จำกัดการเข้าถึงครับ”

            “จำกัด? ทั้งที่นักเรียนของลูมาเนียก็ดูได้ไม่ใช่เหรอ?”

            ถ้าบอกว่าดูได้แค่คนที่เกิดในซูบร้าอย่างเดียวยังพอเข้าใจ แต่โรเย่เป็นนักเรียนของลูมาเนีย

            “ลูมาเนียท่านนั้น เป็นเผ่าระดับสูงหรือเปล่าครับ?”

            “สูงหรือเปล่าก็ไม่รู้หรอกนะ แต่อยู่เผ่าโคกะ”

            “โห หนึ่งในเผ่าหลักนะครับเนี่ย”

            ดูเหมือนโรเย่จะเกิดในเผ่าระดับสูงอยู่

            “……เดิมทีผมไม่ได้เกิดที่สหพันธรัฐฟอเรสเทียด้วย”

            “อย่างนั้นหรือครับ ถ้าอย่างนั้นก็น่าเสียดายคงให้ดูไม่ได้ครับ”

            “ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้งั้นเหรอ?”

            “ยังไงก็ไม่ได้ กฎมันว่าไว้อย่างนั้นครับ”

            “อย่างน้อยช่วยบอกทีว่าหนังสือนั้นอยู่ที่ไหน?”

            “เรื่องนั้นก็บอกไม่ได้ครับ”

            ชิ ทำการเดาะลิ้นในใจ

            ถ้ารู้ตำแหน่ง ว่าจะใช้ “อำพราง” ไปดูอยู่หรอก

            “อืม……”

            “น่าเสียดายที่ไม่สามารถบอกแนะนำเกี่ยวกับโบราณวัตถุของซูบร้าได้ ถ้าไม่มีคำถามอื่นคงต้องขอตัวเพียงเท่า—-”

            “—-รอก่อน”

            คนที่พูดไม่ใช่ฮิคารุ

            บรรณารักษ์ตกใจกับเสียงนั้นเลยหันกลับไป

            “อ้า……ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรที่นี่หรือครับ”

            ฮิคารุเองก็ประหลาดใจ

            “ฉันอนุญาตให้เด็กหนุ่มตรงนั้นดูลิสต์ได้”

            คนที่พูดออกมาอย่างนั้น คือผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดในซูบร้า

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset