อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 83

ตอนนที่ 83 นักเรียนของคิรีฮาล

            พอเคธี่บอกว่าจะแนะนำน้องสาวให้ ฮิคารุกับลาเวียก็ออกจากห้องวิจัย

            ตระกูลของเคธี่เองก็เป็นตระกูลมีชื่อในโคโทบี้

            โคโทบี้ที่มีจุดแข็งทางด้านการแปรรูปโลหะมีค่า กับการส่งออกอัญมณีต่างๆ เพราะมีเมืองเหมืองอยู่หลายแห่ง

            ผู้ที่ครอบครองเหมืองจะมีสิทธิ์ออกเสียงภายในโคโทบี้ได้ ซึ่งครอบครัวของเคธี่มีเหมืองอยู่ 2 แห่ง

            “ที่เหลือก็แค่นักเรียนของคิรีฮาล, ลูดันช่า แล้วก็ยูราบะ”

            ฮิคารุคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อดี

            “ถ้าคนของยูราบะพอจะมีเข้าเค้าอยู่”

            ลาเวียพูดขึ้นมา

            “เข้าเค้า……เหรอ?”

            “ตามปกติฉันอยู่ที่ห้องสมุดใช่ไหม? แล้วก็มีเพื่อนนักเรียนอยู่ตรงโน้นด้วย คนคนนั้นเกิดที่ยูราบะ เห็นบอกเป็นตระกูลที่มีเครือญาติอยู่ในสภาของสหพันธรัฐด้วย”

            “อย่างนั้น……เป็นคนที่คุณสมบัติครบถ้วนเลยนี่”

            ฮิคารุที่พูดตอบไปเรื่อยๆ รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อยเพราะลาเวียไม่เคยบอกเรื่องมีคนรู้จักจนถึงตอนนี้

            (ผมเองก็ไม่ได้พูดเรื่องของอาจารย์มิเร……แล้วไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไร?……อ้า ไม่ได้ๆ อย่างนี้เหมือนเป็นการอยากครอบครองคนเดียว……ผมเนี่ยมันไม่ได้เรื่องเลย)

            “ฮิคารุ? เป็นอะไรไปเหรอ?”

            “เปล่าหรอก—-ไม่มีอะไร”

            “เกี่ยวกับคนคนนี้……ว่าจะแนะนำให้รู้จักอยู่หรอก แต่ไม่มีโอกาสสักที ต้องขอโทษด้วยนะ”

            “ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก”

            “แต่ฮิคารุทำสีหน้าเหงาๆออกมาไง”

            “……ไม่ได้ทำสักหน่อย”

            “เหรอ?”

            “อืม เปล่าสักหน่อย”

            “ไม่เป็นไรหรอก สำหรับฉันฮิคารุเป็นที่หนึ่งเสมอไง”

            “มะ ไม่ได้กังวลเรื่องนั้นสักหน่อย”

            “แล้วก็คนที่รู้จักเป็นเด็กผู้หญิง”

            อย่างนั้นเหรอ—-รู้ได้เลยว่าตัวเองรู้สึกโล่งใจขึ้นมา

            ลาเวียยิ้ม

            รู้สึกเหมือนโดนมองทะลุปรุโปร่งเลย ฮิคารุเลยพูดออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความอาย

            “ถ้างั้น ฝากคนคนนั้นทีได้ไหม? จะว่าไปให้ลาเวียเข้ามาพัวพันอย่างนี้จะดีหรือเปล่านะ?”

            “แน่นอน เคยบอกไปแล้วนี่ ตราบเท่าที่คุณยังไม่ปฏิเสธฉัน ฉันก็จะขอตามไปเรื่อยๆนี่? ทางด้านฮิคารุจะทำยังไงกับคิรีฮาลกับลูดันช่าเหรอ?”

            “อืม—-คิรีฮาลพอจะทำอะไรได้อยู่ ขอออกไปข้างนอกสักสองสามวันได้ไหม?”

            ลาเวียทำหน้าตาสงสัยว่า จะไปที่ไหนเหรอ?

            *   *

            ทั้งคู่เดินอยู่บนระเบียงยาว

            ถ้าพูดให้ถูกต้องบอกว่า 2 คน บวกกับอีก 7 คน แต่ที่ยืนอยู่คุยกันมีแค่ 2 คน ส่วนอีก 7 คนแค่มาสังเกตการณ์ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไร

            “เหนื่อยจริงๆเลย แค่ตัดสินใจว่าจะรับมือกับพอนโซเนียยังไงทำไมต้องขัดแย้งอะไรกันขนาดนี้ด้วย……”

            ราชินีแห่งสหพันธรัฐฟอเรสเทีย มัลเกโด้ มิราลูก้า คิรีฮาลพูดบ่นออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

            เลขานุการเอกโซฟีร่า แวน โฮลเทนซ์ที่เดินอยู่ข้างๆยิ้มออกมา

            “ฉันจะรินน้ำชาให้กับฝ่าบาทที่เหนื่อยล้าเองค่ะ”

            “โอ้ อย่างนั้นก็ดีนะ—-ทุกคนพอแค่นี้ การบริหารงานวันนี้จบลงแล้ว”

            พอหันกลับไป “ที่ปรึกษาบริหารประเทศ” ทั้ง 7 ก็ยิ้มโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะโค้งแล้วจากไป

            “……ไม่แปลกไปหน่อยเหรอ? ที่คนพวกนั้นว่าง่ายเกินไป”

            “นั่นสินะ อาจจะส่งสปายมาลแล้วก็ได้”

            “อ้าว ไม่ใช่ว่าผ้าคลุมดำจัดการไปแล้วเหรอ?”

            “เท่าที่ตรวจสอบพอจะเชื่อถือได้อยู่ ก็อยากจะบอกว่าไม่เป็นไรอยู่หรอก……”

            “เฮ้อ ไม่มีเวลาให้พักบ้างเลยเหรอ?”

            มัลเกโด้ถอนหายใจออกมา

            “ได้ยินมาว่าโคโทบี้มีอุปกรณ์เวทมนตร์ ‘ปิดกั้นเสียง’ อยู่ จะลองขอมาใช้ไหม?”

            “ไม่อยากจะติดหนี้โคโทบี้น่ะ ลองถามดูดีกว่าว่าคิรีฮาลพอจะทำมันขึ้นมาได้หรือเปล่า……”

            ทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของราชินี

            โซฟีร่าจัดแจงน้ำชาอย่างเชี่ยวชาญ ส่วนมัลเกโด้ก็นั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาดัง “ฟู่”

            “ไง”

            “ว้าย!?”

            ในห้องที่ไม่น่าจะมีใคร กลับมีคนสวมฮู้ดดำ ทำให้มัลเกโด้ส่งเสียงแปลกๆออกมา

            “นะ นะ นะ นาย……!”

            “ไม่ได้เจอกันสักพักเลยนะ ผมขอน้ำชาด้วยได้ไหม? คอแห้งนิดหน่อย”

            “……ช่วยนัดก่อนจะมาหาได้ไหม ถ้ายังเสียมารยาทอยู่อย่างนี้ ทางนี้คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว”

            โซฟีร่าจ้องมองเด็กหนุ่มชุดดำ—-หรือฮิคารุ

            แต่เด็กหนุ่มทำหูทวนลม เนื่องจากสวมหน้ากากเทพพระอาทิตย์เหมือนอย่างเคยทำให้อ่านสีหน้าไม่ออก

            “อ้อ ใช่แล้ว ทั้งคู่มีนิสัยชอบเปิดเผยเหรอ? ห้องนี้มีสปายมาสอดส่องเพิ่มขึ้นอีกแล้วนะ”

            “เอ๊ะ……”

            “มี 6 คน ตอนนี้จับมัดทุกคนไว้ด้านหลังของตึกแล้ว หลังจากนี้ไปจัดการด้วยนะ”

            “หะ หกคน!?”

            “อือ ซ่อนในที่แปลกๆด้วย แอบอยู่กระทั่งตรงพื้นกับตรงเสาไง”

            “…………”

            “………….”

            โซฟีร่ากับมัลเกโด้มองตากันด้วยความประหลาดใจ

            “พวกคนที่ซ่อนในที่แปลกๆอย่างนั้น นายหาเจอได้ยังไงกัน?”

            ถ้ามี “ตรวจจับพลังชีวิต” กับ “ตรวจจับพลังเวท” แล้วละก็จะซ่อนตรงไหนก็รู้หมด แต่เด็กหนุ่มไม่คิดจะบอกเรื่องนั้น

            “ครั้งนี้ที่จับ 6 คนนี้ไม่ต้องถือเป็นหนี้บุญคุณก็ได้ ฉันเป็นคนโลเลอย่างนี้แหละ อ้อ แต่ว่า แบบว่า ถ้าเป็นไปได้มีเรื่องอยากจะขอร้องสักเรื่องอยู่หรอก”

            “ไม่ต้องมาพูดแบบเสแสร้ง……อยากได้อะไร”

            ก่อนอื่นเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้ตั้งตัวเป็นศัตรู

            ณ ตอนนี้ เด็กหนุ่มอยู่ในจุดยืนที่ให้ความร่วมมือกับกราฟาสตี้ ถึงจะเชื่อใจเต็มร้อยไม่ได้ แต่ก็คงไม่คิดตั้งตัวเป็นศัตรู

            มัลเกโด้รู้สึกปวดหัวก่อนจะเร่งให้เด็กหนุ่มพูด

            “อยากให้แนะนำนักเรียนของศูนย์วิจัยนานาชาติให้ที”

            “……นักเรียน? ไม่ใช่นักวิจัยเหรอ?

            “ถ้าเป็นนักเรียนของคิรีฮาลแล้วละก็ องค์ราชินีพูดแค่บอกคำเดียวก็สามารถพบได้ทันทีใช่ไหม”

            “หรือว่า คิดจะทำอันตรายกับนักเรียน—-”

            “ไม่ใช่อย่างนั้นอยู่แล้ว ผมที่สามารถลอบเข้ามาถึงที่นี่ได้โดยไม่มีใครรู้ตัว ทำไมถึงต้องอ้อมค้อมที่จะทำร้ายนักเรียนด้วยล่ะ แค่อยากให้แนะนำเท่านั้นเอง ส่วนเหตุผลนั้นบอกไม่ได้”

            “ถ้าไม่บอกเหตุผลก็แนะนำให้ไม่ได้”

            “ถ้าบอกเหตุผล จะให้ความร่วมมือเต็มที่อย่างนั้นเหรอ?”

            “……เรื่องนั้นมันก็”

            “ฝ่าบาท”

            โซฟีร่าเตือนขึ้นมาก่อนที่มัลเกโด้จะพูดอะไรออกมา

            “ถ้าแค่แนะนำนักเรียนให้ฉันทำก็ได้ค่ะ ถ้าใช้ชื่อของฝ่าบาทมันจะยิ่งสะดุดตาเกินไป ถ้าอย่างนั้นแล้ว ฝ่าบาทอาจจะโดนจับตามองจากทุกฝ่ายเลยก็ได้ค่ะ”

            “ให้เลขานุการเอกแนะนำไม่ได้หรอก”

            “ทำไมกัน”

            “ต้องเป็นนักเรียนของคิรีฮาล และเป็นคนที่มีอิทธิพลภายในคิรีฮาลด้วย ถ้าเลขานุการเอกโซฟีร่ารู้จักคนแบบนั้นแล้วละก็ น่าจะได้อยู่หรอก”

            “……นาย คิดจะทำอะไรกัน—-”

            “เข้าใจแล้ว โซฟีร่าพอแค่นั้นแหละ ฉันจะเขียนจดหมายแนะนำตัวให้นักเรียนคนนั้น ในทางกลับกันอยากให้บอกข้อมูลกับทางนี้ที”

            “ข้อมูล?”

            “ข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนไง ถึงจะมีผู้อำนวยการโรงเรียนของซูบร้าอยู่ แต่ได้ยินมาว่าลูมาเนียเข้าไปยุ่มย่ามอยู่”

            “…………..”

            “ถ้านายรู้อะไรเกี่ยวกับข้อมูลนี้ก็ให้บอกที แล้วก็ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับนักเรียนแล้วละก็—-จะไม่ให้อภัยอย่างแน่นอน”

            “……อือ ก็ได้ เตรียมรอข้อมูลที่น่าสนใจได้เลย”

            เด็กหนุ่มรับจดหมายแนะนำตัว และลบร่องรอย—-ออกจากห้องไปเหมือนอย่างทุกที

            และด้านหลังของตึกก็มีสปาย 6 คนโดนมัดอยู่อย่างที่เขาบอกเอาไว้

            “โซฟีร่าคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”

            “น่าจะแอบย่องเข้ามาที่ห้องของราชินี เพื่อขอจดหมายแนะนำตัวนักเรียน แล้วบังเอิญจับสปายได้หรือเปล่า? คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอก……ขอไปตรวจสอบก่อนค่ะ”

            “ฝากด้วยนะ”

            มัลเกโด้กับโซฟีร่าคุยกันด้วยสีหน้าจริงจัง

            จริงๆแล้วฮิคารุไม่รู้จักคนที่เกิดในคิรีฮาลอื่นแล้วแค่นั้นเอง

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset