อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 89

ตอนที่ 89 การฝึกฝนของคลอร์ด

                การประชุมสหพันธ์นักเรียนสิ้นสุดลง แล้วสมาชิกรวมไปถึงรีกก็เดินจากไป

                โดยตอนท้ายของการประชุมรีกได้เสนอว่า “อยากให้คุณซิลเวสเตอร์เป็นประธานสหพันธ์นักเรียนยุคแรก” ซึ่งเขาก็ยอมรับ

                ถึงสมาชิกส่วนใหญ่จะประหลาดใจที่เลือกซิลเวสเตอร์จากซูบร้า ไม่ใช่ลูมาเนียที่มีอำนาจสูงสุดก็ตาม แต่ซิลเวสเตอร์กลับยอมรับมันอย่างง่ายดาย(ดูเหมือนจะคุยกันล่วงหน้าไว้แล้ว) เลยเป็นไปได้อย่างราบรื่น 

                “คุณเอคาเทรินา”

                ฮิคารุเรียกเอคาเทรินาที่กำลังจะออกไปเป็นคนสุดท้าย

                “……มีอะไรอย่างนั้นเหรอ?”

                “มีเรื่องอยากอยากจะคุยด้วยนิดหน่อยครับ”

                “ฮึ ฉันไม่คิดจะขอโทษเรื่องที่คัดค้านควมเห็นในครั้งนี้หรอกนะ เดิมทีมันไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้อยู่—-”

                “อยากจะพูดขอบคุณครับ”

                “—-ว่าไงนะ?”

                “ขอบคุณมากที่ช่วยคัดค้านความเห็นครับ”

                “…………”

                เอคาเทรินาจ้องมาที่ฮิคารุ

                “นายปกติเปล่าเนี่ย? หรือว่าจะเป็นการแกล้งเด็กใหม่?”

                “ไม่ใช่ครับ การประชุมที่คืบหน้าโดยไม่มีการคัดค้านหรือค้นหาความเสี่ยงมันอันตรายเกินไป การที่คุณคัดค้านตรงจุดนั้นถือว่าช่วยได้มากจริงๆครับ”

                “เปล่าสักหน่อย ฉันแค่พูดอะไรที่มันคิดว่าแปลกๆเท่านั้นเอง”

                “แต่ถ้ามีคนอื่นคัดค้านออกมา คุณก็คงเห็นด้วยไม่ใช่หรือครับ?”

                “………….”

                เธอปิดปากเงียบราวกับโดนจี้ใจดำ

                ฮิคารุคิดว่าการที่เธอแสดงความเห็นนั้นอาจจะเพราะว่าตัวเธอเป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายก็ได้ หลักฐานคือพอมีคนถามว่า “ควรจะลงมืออย่างไร” ก็สามารถบอกวิธีการออกมาได้ทันที

                ไม่ใช่แสดงความคิดเห็นส่วนตัว แต่คิดถึงแนวทางที่การประชุมควรดำเนิน และพิจารณาถึงสิ่งที่ควรทำ—-เธอมีความสามารถที่จะทำสิ่งนั้นได้

                พอจะรู้แล้วว่าทำไมตระกูลนี้ถึงส่งคนเข้ารับตำแหน่งในรัฐบาลผสมได้ค่อนข้างมาก

                “ฟู่ เข้าใจแล้ว ที่ควรระวังจริงๆไม่ใช่ลูมาเนียแต่เป็นนายสินะ?”

                “พูดเรื่องอะไรกัน รีกออกจะเป็นผู้ชายที่ดี แถมฉลาดด้วย”

                “พอนโซเนียเป็นประเทศที่น่าหวาดหวั่นจริงๆ ไหนจะมี ‘เคนเซย์’, นักวรรณคดีที่เปี่ยมไปด้วยความรู้อย่างลาเวียจัง ไหนจะผู้ชายที่เจ้าเล่ห์อย่างนายอีก”

                “เดี๋ยวสิเอคาเทรินา”

                ลาเวียพูดแทรกขึ้นมา

                “ไว้พบกันที่ห้องสมุดนะลาเวียจัง”

                เอคาเทรินาพูดเช่นนั้นก่อนจะเดินจากไป

                “……เป็นเพื่อนที่แปลกดีนะ”

                “ตอนที่พูดคุยกันในห้องสมุดก็ดูเรียบร้อยดีอยู่หรอก”

                “แล้ว ‘นักวรรณคดีที่เปี่ยมไปด้วยความรู้’ เนี่ยคือ?”

                “……โนคอมเมนต์”

                “บอกทีสิ ลาเวียที่เอคาเทรินารู้แต่ผมไม่รู้เนี่ยมันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ”

                “โนคอมเมนต์!”

                ลาเวียหน้าแดงด้วยความเขินอายก่อนจะเดินเข้าไปในเคาน์เตอร์

                ฮิคารุเองก็ยิ้มและเดินตามเข้าไปก่อนจะเริ่มล้างถ้วยชาม

                “ถึงอย่างนั้น……กลายเป็นเรื่องยุ่งยากนะเนี่ย”

                พอฮิคารุพูดขึ้นมา ลาเวียก็หัวเราะ  “ฮึๆ”

                “หัวเราะอะไรเหรอ”

                “ฮิคารุเป็นคนแนะนำตั้งหลายอย่างเองนี่ เพราะอย่างนั้นก็ต้องช่วยเหลือเรื่องสมรสรวมไง?”

                “เรื่องนั้นคงต้องให้พวกเขาทำกันเองมากกว่า”

                “แต่นอกจากฮิคารุแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องสมรสรวมเลยนะ”

                “……เรื่องนั้น มันก็ใช่อยู่หรอก”

                “แต่ประหลาดใจจริงๆนะ ที่ฮิคารุบอกว่าจะไปเกลี้ยกล่อมองค์ราชินีโดยตรง คุณ—-แบบว่าดูไม่ค่อยสนใจการกระทำของรีกสักเท่าไรไง”

                “หน้าที่ของผมคงมีแค่ ‘เกลี้ยกล่อมราชินี’ เท่านั้น คิดว่าราชินีมัลเกโด้คงไม่เข้ามายุ่งกับกิจกรรมของสหพันธ์นักเรียนหรอก เอาเถอะคงไม่เข้ามายุ่มย่ามในทันทีหรอก”

                “แล้วเรื่องช่วยคุณคลอร์ด……จะเอาไงเหรอ?”

                ฮิคารุหยุดมือที่เช็ดแก้ว

                “เรื่องนั้น—-ต้องการจะถามว่าจะใช้โซลบอร์ดหรือเปล่าสินะ?”

                “อือ”

                “การที่จะให้คลอร์ดเติบโดได้เร็วที่สุดคือการใช้โซลบอร์ดนั่นแหละ”

                “แล้วจะแข็งแกร่งได้ขนาดไหนเหรอ?”

                ฮิคารุยักไหล่

                “ถึงไหนก็ได้”

                “……ถึงไหนก็ได้?”

                “คิดว่าน่าจะเป็นยอดนักดาบแห่งทวีปยังได้เลย”

                “โกหกน่า”

                “พูดจริงๆ”

                คลอร์ดมีแต้มเหลืออยู่ 12 ซึ่งเขามี “ดาบ” อยู่ 2 แล้ว ถ้าใส่ไปอีก 8 ก็จะกลายเป็น “ดาบ” 10

                ยิ่งไปกว่านั้นถ้าใส่แต้มเข้าไปในปริมาณพลังกาย คงกลายเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดได้อยู่

                หัวหน้ากลุ่มอัศวินของพอนโซเนียอย่างลอวเรนซ์ยังมี “ดาบใหญ่” แค่ 6 ถ้า “ดาบ” 10 จะบอกว่าเป็นหนึ่งในทวีปก็ไม่ใช่การกล่าวอ้างเกินจริงสักเท่าไร

                เพราะฮิคารุพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้ลาเวียทำหน้าขึงขัง

                “ทำได้……ถึงขนาดนั้นเลยสินะ”

                “การเพิ่มสกิลจะส่งผลออกมาได้อย่างมหาศาล ซึ่งไม่อยากจะใช้มันสักเท่าไร แถมอาจจะรู้ว่าผมแอบทำอะไรลงไปก็ได้”

                “แต่ถ้าอย่างนั้น จะเอา 1 เสียงจาจาราซักไม่ได้นี่สิ?”

                “จะแอบช่วยเฉียดๆ แบบไม่ให้ผิดธรรมชาติน่ะ……อย่างใช้การสะกดจิต? แต่ยังไงก็ต้องเห็นคลอร์ดสู้จริงก่อนถึงจะรู้”

                แล้วคลอร์ดที่มาฝึกพิเศษไม่รู้ทำไมถึงต้องมาตอน “คาบเรียนดาบสั้น”

                “ทำไมมีคนมาเพิ่มขึ้นอีกแล้วเนี่ย”

                ด้านนอกห้องเก็บของ—-หรือตึกเรียน C มิเรย์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ใต้ร่มไม้พูดออกมาอย่างนั้นในขณะที่มองคลอร์ด

                ไม่ใช่แค่คลอร์ดเท่านั้น แต่ลูกะ, ซิลเวสเตอร์แล้วก็พวกเพื่อนๆของอีวานก็มาด้วย

                เอคาเทรินาคงจะอยู่ที่ห้องสมุดกับลาเวีย ส่วนเคธี่คงอยู่ห้องวิจัย ทางด้านรีกน่าจะสลัดผู้เฝ้าจับตา(ผู้หญิง) ไม่ได้

                “ถ้างั้นอยากจะดูหน่อยว่าคุณคลอร์ดสู้ได้ขนาดไหน”

                “นี่ฮิคารุคุง นี่มันคาบเรียนของฉันไม่ใช่เหรอ?”

                “หลังจากนี้จะฟังแน่นอนครับ—-อยากให้คุณคลอร์ดกับอีวานช่วยลองสู้กันหน่อย”

                “ไม่ใช่ฮิคารุเหรอ?”

                คลอร์ดถามออกมา ซึ่งคำถามนั้นมีความหมายแฝงอยู่ คงอยากจะบอกว่า “อยากจะตรวจสอบให้แน่ใจว่านายแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงหรือเปล่า”

                “คู่ต่อสู้ของคุณคลอร์ดใช้ดาบใหญ่นี่ครับ? ดังนั้นอีวานน่าจะเหมาะกว่าครับ”

                “เอาละ ให้ฉันจัดการเอง!”

                อีวานที่ได้รับการเรียกชื่อส่งเสียงดีใจออกมา

                “พยายามเข้านะอีวาน!”

                “อย่าแพ้คนของคิรีฮาลนะเฟ้ย!”

                พวกเพื่อนๆส่งเสียงให้กำลังใจ

                “งั้นเหรอ……นั่นสินะ ถ้างั้นจะลุยใส่อีวานให้เต็มที่เลย”

                “รอก่อนครับ”

                ฮิคารุห้ามคลอร์ดที่หยิบหอกขึ้นมา

                “ให้ใช้ดาบสั้นครับ ไม่ได้สันทัดเรื่องหอกนี่ครับ?”

                “……รู้ได้ยังไงกัน”

                “ไม่มีเวลาแล้ว คิดว่าควรจะพัฒนาสิ่งที่เก่งอยู่แล้วครับ ผมไม่มีเวลาให้มาวางมาดทำเท่หรอกนะครับ”

                “…………..”

                คลอร์ดกำลังสับสน ในระหว่างที่คิดว่าเพราะอะไร อีวานก็บอกออกมา

                “ฮิคารุ ดาบกับดาบใหญ่น่ะมันสู้กันไม่ได้หรอก”

                “หมายความว่ายังไง?”

                “ดาบมือเดียวเป็นแค่ ‘ดาบใหญ่ย่อส่วน’ เท่านั้น ทั้งความเร็วในการแกว่งหรือความรุนแรงดาบใหญ่เหนือกว่าเห็นๆ”

                “พูดถึงขนาดนั้น แต่ทำไมโจมตีผมไม่โดนสักครั้งเลยล่ะ”

                “ระ เรื่องนั้นเพราะฮิคารุมันผิดปกติไง!”

                พออีวานส่งเสียงออกมา ทำให้รอบๆส่งเสียงออกมาว่า “ใช่แล้วๆ”, “ที่ผิดปกติน่ะมันฮิคารุต่างหาก”

                ฮิคารุทำสีหน้าเย็นชาไม่สนใจสิ่งนั้น ก่อนจะหันกลับไปหาคลอร์ด

                “ถ้าอย่างนั้นแล้ว ใช้ดาบมือเดียวน่าจะดีกว่าครับ”

                “แล้วทำไมถึงได้มั่นใจขนาดนั้น? วิชาดาบที่ฉันเรียนมามันก็อย่างที่อีวานบอกนั่นแหละ เป็นแค่ดาบใหญ่ขนาดเล็กเท่านั้น ส่วนใหญ่ใช้ป้องกันตัวเอง แถมยังแฝงพวกพิธีการไว้เยอะด้วย”

                “อีกฝ่ายเองก็คิดอย่างนั้นใช้ไหมครับ แสดงว่ามีโอกาสชนะอยู่”

                “โอกาสชนะ……?”

                “ในช่วงเวลาสั้นๆแค่นี้ไม่มีวิธีที่จะทำให้เก่งขึ้นมาในทันทีได้หรอกครับ แต่ถ้าวิจัยศัตรูดีๆ น่าจะหาโอกาสเอาชนะในพริบตาเดียวได้อยู่ครับ”

                “……งั้นเหรอ อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ เข้าใจแล้วจะลองใช้ดาบสั้นก็แล้วกัน”

                “ขอบคุณมากครับ”

                “แล้วก็—-ฮิคารุ”

                ฮิคารุถามกลับไปว่า มีอะไรหรือครับ

                “เลิกใช้คำสุภาพกับฉันทีได้ไหม? ที่นี่ฉันได้รับการสอนจากนายนะ”

                “แต่ว่า……”

                “อย่างน้อยก็อยากให้เท่าเทียมกัน”

                “……………”

                ฮิคารุคิดอยู่ครู่หนึ่ง

                “ก็ได้ เข้าใจแล้ว กลับกันจะขอเข้มงวดสุดๆไปเลยนะ?”

                “อือ กำลังต้องการเลย”

                ถึงคลอร์ดจะพูดออกมาอย่างภูมิใจ แต่พวกอีวานที่เห็นฮิคารุยิ้มอย่างนั้นก็ส่งเสียงออกมาว่า “เหวอ” หรือไม่ก็ “ปิศาจกำลังหัวเราะ!”

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset