เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 4 – บิดาคนนี้ต้องแข็งแกร่งขึ้น

Chapter 4 – บิดาคนนี้ต้องแข็งแกร่งขึ้น

ดาบที่ตวัดมาอย่างแรง!

เจตนาฆ่าทำให้วิญญาณของลั่วเทียนรู้ได้ทันที.

ทันใดนั้น…

มันเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบของลั่วเทียนก็ใช้หมัดพยัคฆ์สายฟ้าออกไป!

หมัดที่เปลื่อยเปล่าจะต้านคมดาบ?

คิ้วของชายหนุ่มที่หล่อเหลาสั่นไหว ขณะแค่นเสียงเย็นชา: “ไอ้เศษขยะ เจ้าต้องการต่อสู้กับดาบของนายน้อย? เจ้ากำลังแส่หาความตาย!”

ความเร็วที่เปลี่ยนไปอย่างกระทันหันและปลายดาบก็เบนไปยังกำปั้นของลั่วเทียน.

“ดูว่าข้าจะทำให้มือของเจ้าพิการ!”

การแสดงออกของหญิงสาวเปลี่ยนไปขณะที่เธอยกดาบของเธอเพื่อที่จะหยุดมัน แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปและเธอไม่อาจหยุดมันได้ทัน.

หัวใจของเธออดไม่ได้ที่จะกังวลกับลั่วเทียน.

ชายหนุ่มที่หล่อเหลาชื่อลั่วหลินและเขาก็เป็นหมายเลขหนึ่งของตระกูลลั่วในรุ่นเยาว์.

แต่…

เขาเคยเป็นที่สองขณะที่ลั่วเทียนเป็นที่หนึ่ง.

เมื่อย้อนกลับไปตอนที่ลั่วเทียนยังไม่ได้พิการลั่วหลินไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะต่อสู้กับเขา.

แต่ตอนนี้แตกต่างแล้ว.

ลั่วหลินมีการบ่อเพาะอยู่ที่ปราณพื้นฐานระดับ 8 ไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของเขา ตัวตนของเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงเหมือนกับในภาพยนต์ ผู้นำลั่วจินซานเป็นบิดาของเขาและเป็นผู้นำที่แท้จริงของตระกูลลั่ว.

ลั่วหลินมีการปลูกผังทักษะดาบที่สูงมาก ดาบของเขาดีที่สุดในตระกูล และในหมู่รุ่นเยาว์ก็ไม่อาจต่อสู้ได้!

ลั่วเทียนต้องการหลบ.

แต่ในเวลานี้ ร่างกายของเขาถูกปิดกั้นโดยดาบเย็นๆของลั่วหลิน เขาไม่อาจหลบหนีหรือหลีกเลี่ยงการปะทะได้ ดังนั้นเขาจึงต้องสู้กับมัน.

หมัดพยัคฆ์สายฟ้า.

ซ้ายสายฟ้า,ขวาพยัคฆ์ กำปั้นทั้งสองส่งเสริมซึ่งกันและกัน ราวกับกำปั้นของเขาผสานเข้ากับสายฟ้าและพยัคฆ์ การเกรี้ยวกราดของมันก็ทะยานออกมา!

“วู้ซ!”

“ปัง!”

ร่องรอยสายฟ้าแล่บออกมาจากหมัดซ้ายของลั่วเทียนขณะปะทะกับดาบ.

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาน้อยกว่าลมหายใจ ร่องรอยของสายฟ้าก็หายไปครึ่งนึง กลิ่นอายของมันก็ได้กระแทกเข้ากับอกของลั่วเทียน.

“ปัง!”

ลั่วเทียนลอยออกไปโดยพลังปะทะนี้.

มีแสงน้อยๆสว่างวาบออกมาจากตาของลั่วหลินที่ไม่คาดคิดว่าเขาจะรับกระบวนท่าด้วยมือของเขาได้ ลั่วหลินโกรธในใจและเขาก็ยิ้มเย็น: “ไอ้ขยะ เจ้าคิดว่าจะต้านดาบของนายน้อยคนนี้ได้? เจ้าไม่ไปฉี่และมองเงาตัวเองในนั้นว่าเจ้ามีคุณสมบัติอะไร!”

เสียงของเขายังไม่ทันจาง…

ท่าทางของลั่วหลินก็พริ้วไหวขณะชี้ดาบไปทางลั่วเทียนและพูดเสียงต่ำอีกรอบ: “ไอ้สุนัขขยะ ดูซิว่าเจ้าจะต้านได้นานแค่ไหน!”

ตาของลั่วเทียนเหลือบมองไปยังกำปั้นของเขา.

ความต่างของกำลังแตกต่างกันอย่างมาก.

ปราณพื้นฐานระดับ 1 และ 8 มันคือช่องว่างที่ยิ่งใหญ่ หัวใจของลั่วเทียนโกรธและปากของเขาก็ขบแน่นจนดัง”แกร๊ก แกร๊ก” จากนั้นเขาก็สัญญากับตัวเอง: “อย่าปล่อยให้บิดาคนนี้มีโอกาสรอดไปได้ ไม่งั้นข้าจะทุบเจ้าให้เป็นเละขี้!”

ด้วยดาบเล่มนี้ ลั่วเทียน ไม่มีแรงพอที่จะต่อต้าน.

ในสถานการณ์อย่างนี้ที่ไม่อาจสู้ได้ ความเจ็บปวดจากการถูกเหยียบย่ำไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นแบกรับได้.

ลั่วเทียนนั่งลงบนพื้นหญ้าและจ้องไปที่ลั่วหลิน กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาดูเศร้าอย่างมาก.

ดาบได้แทงเข้าไปที่ประตูชีิวิต(บริเวณหัว)ของลั่วเทียน ลั่วเทียนหลับตาขณะที่กำหมัดแน่น ในใจของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น จากนั้นเขาก็ตะโกนร้องอย่างกับปีศาจ: “ถ้าเจ้ามีความกล้าก็มาฆ่าบิดาได้เลย ไม่อย่างนั้นข้าจะให้เจ้าชดใช้เป็นพันๆเท่า!”

รู้สึกเหมือนกองอึ?

รู้สึกเหมือนอึสมบูรณ์?

เจ้าสามารถทำอะไรได้บ้าง?

โลกนี้เป็นโลกแห่งความแข็งแกร่งผู้อ่อนแอไม่มีสิทธิ์ในชีวิต!

ถ้าเจ้าต้องเปลี่ยนสิ่งนั้น เจ้าต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่า!

ช่วงเวลาก่อนที่ความตายของลั่วเทียนจะมาเขารู้สึกเหมือนมีเคียวมีพาดคอ.

ในเวลานั้น…

“หยุดมือ!”

ดาบของหญิงสาวโผล่ออกมากั้นดาบหน้าลั่วเทียนห่างออกไป 3 เซนติเมตร.

กลิ่นอายของดาบพรุ่งผ่านหัวลั่วเทียนไปพร้อมกับตัดเส้นผมไปกระจุกหนึ่ง หัวใจของลั่วเทียนสั่นรัวและจุกในลำคอและในขณะไม่สนใจท่าทีของตนเขาก็อยู่ในสภาพคลาน เขาแทบจะตายไปแล้วไม่ต้องพูดถึงภาพลักษณ์ตอนนี้!

การแสดงสีหน้าของลั่วหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อยและดาบของเขาก็เปลี่ยนทิศทาง เมื่อมองไปยังท่าทางที่น่าอับอายของลั่วเทียน ลั่วหลินอดไม่ได้ที่จะยิ้มและเยาะเย้ย. “ขยะก็เป็นขยะวันยังค่ำ ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเจ้าถึงยังอยากมีชีวิตอยู่ ถ้าเป็นข้า ข้าจะฆ่าตัวตายไปแล้ว.”

“ลั่วหลิน!”

หญิงสาวจ้องไปที่ลั่วหลินและพูด: “เขาก็เป็นคนเหมือนกัน เพราะงั้นข้าหวังว่าเจ้าจะพูดเบากว่านี้.”

ลั่วหลินหันกลับไปมองหญิงสาวและหัวเราะอย่างน่ารังเกียจ “เขายังเป็นคนอยู่อีก? ในสายตาของข้ามันต่ำกว่าสุนัข”

“น้องสาวซูเอ๋อร์เจ้าไม่รู้ แต่…”

“เขาเป็นคนตระกูลลั่ว…นั่นผิด เขาเป็นเศษขยะที่ใหญ่ที่สุดของเมืองภูเขาหยก นี่เป็นขยะที่สูญเสียการบ่มเพาะและหน้าตาของตระกูลลั่ว ต่อหน้าทุกคนในเมือภูเขาหยกเขาได้ถูกขอทานทำร้ายจนไม่อาจลุกขึ้นได้.”

“ถ้าเป็นข้า ข้าจะฆ่าตัวตาย!”

หน้าผากของลั่วเทียนย่นเข้าหากัน.

ความจำก็ไหลออกมา.

ตอนแรกเขาถูกทำร้ายโดนคนลึกลับจากนั้นก็มีคนจงใจเปลี่ยนยาของเขาเป็นยาสลายตันเถียน ในที่สุดเขาก็ถูกพามาที่ถนนและถูกคนตระกูลลั่วที่แกล้งเป็นขอทานทุบตี.

วันนั้นพลังปราณของเขาอยู่ในความวุ่นวายแล้วเขาจะมีแรงป้องกันตัวได้?

ในเวทีต่อสู้ต่อหน้าชาวเมืองภูเขาหยกลั่วเทียนถูกทำร้ายโดยขอทานจนทำให้เขาไม่อาจตอบโต้ได้ เขาไม่แม้แต่จะลุกขึ้นได้หลังจากนั้น.

ทั้งหมดเป็นกับดัก!

แม้ว่าลั่วเทียนจะเอาหัวแม่เท้าคิด เขาก็รู้ว่าทำหมดนี่เป็นการจัดฉากของลั่วจินชาน ตันเถียนของเขาพิการและการบ่อเพาะก็หายไป แม้กระนั้นหลังจากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ลั่วจินชานก็ยังปล่อยเขาไป และยังวางแผนให้เขาเสียหน้าตระกูลต่อหน้าผู้คนทั้งเมืองภูเขาหยก ลั่วจินชานต้องการให้ชาวเมืองรู้ว่าอดีตอัฉริยะลั่วเทียนกลายเป็นคนพิการและต่ำยิ่งกว่าขอทาน.

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาลั่วเทียน จะต้องทนทุกข์ทรมานเกือบทุกวัน.

ทุกคนในอารมณ์ไม่ดีจะใช้เขาเป็นกระสอบทราย.

จากนั้นเขาก็เป็นกระสอบทรายมนุษย์ของตระกูลลั่ว ถ้าพวกเขาอารมณ์ไม่ดีเขาจะถูกทุบตี ถ้าพวกเขาอยู่ในอารมณ์ดีเขาก็จะถูกตี.

ฉากความทรงจำเหล่านี้แล่นผ่านเข้ามาในใจของลั่วเทียน จากนั้นความโกรธของเขาก็ประทุขณะที่เขาพูดกับตัวเอง: “ตระกูลอึหมา! บิดาคนนี้ได้อ่านนิยายนับไม่ถ้วย แต่ไม่เคยเห็นตระกูลไหนที่ไร้เมตตาแบบนี้ พวกเจ้าแค่รอ ตราบเท่าข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะทวงทุกอย่างกลับมา!”

หญิงสาวเหลือบมองไปที่ลั่วเทียนและพึมพำ: “เขาคือลั่วเทียน?”

“ใช่!”

“เขาเป็นขยะชิ้นใหญ่ลั้วเทียน.” ลั่วเทียนยิ้มเย็นและพูด: “น้องสาวซูเอ๋อร์…”

ขณะที่ลั่วหลินกำลังพูดหญิงสาวคนนั้นก็เดินไปทางลั่วเทียนและก็ก้มลงหญิบเอาผมที่ตกอยู่บนหญ้า ดวงตาของเธอวูบวาบขณะเธอถามเบาๆ: “เจ็บไหม?”

“เอ่อ…?”

ลั่วเทียนรู้สึกกระวนกระวายใจขณะที่เขาดูท่าทางของเธเอ การแสดงออกของเธอดูเหมือนคุ้นเคย แต่เขาไม่อาจจำได้ว่าเขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ลั่วเทียนได้แต่ส่ายหัว“มันไม่เจ็บ.”

ด้านข้างตาของลั่วหลินราวกับมีเปลวไฟอยู่ภายใน ดาบในมือของเขาสั่นพร้อมกับเจตนาฆ่าและเริ่มส่งเสียงหึ่งๆ.

เด็กสาวไม่เคยพูดกับเขาอย่างอ่อนโยนขนาดนี้.

เศษขยะมีคุณสมบัติใดถึงได้รับการปฏิบัติอย่างนี้?

ใบหน้าของลั่วเทียนเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ตาของเขาหรี่มองลั่วเทียน.

และกลับมาเป็นอย่างเดิมทันที…

หญิงสาวหันมามองหน้าลั่วหลินก่อนที่จะพูด: “เจ้าไม่อยากให้ข้าฝึกดาบกับเจ้ารึ ถ้าเจ้าปล่อยเขาวันนี้ข้าจะฝึกดาบร่วมกับเจ้า.”

“ห๊ะ?!”

ลั่วหลินตะลึงและยิ้มออกมาทันที: “เจ้าพูดจริง?”

เด็กสาวพยักหน้า“ตราบเท่าที่เจ้าสัญญาว่าจะไม่ทำลำบากกับเขาอีก.”

ลั่วหลินไม่แม้แต่จะมองลั่วเทียนและพูด: “ตราบเท่าที่เจ้าสัญญาว่าจะฝึกดาบร่วมกับข้า ข้าจะไม่ไประรานไอ้เศษขยะนี่อีก 555…”

ขณะที่เขาพูดเขาก็มองลั่วเทียนที่พื้นและพูดในใจ, “ข้าจะไม่ทำให้เขารำบาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่ส่งให้คนอื่นไประรานเขา เศษขยะเจ้าต้องตาย!”

เด็กสาวหันกลับไปมองลั่วเทียนขณะที่หยาดน้ำตาหยดลงมา ดูเหมือนเธอต้องการพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็เก็บมันเอาไว้ “พี่ลั่วเทียน ท่านจำข้าไม่ได้จริงๆ?”

เธอต้องการถามเขาดังๆแต่ก็เก็บเอาไว้ในที่สุด.

เธอกลัวว่าจะดึงดูดปัญหาให้ลั่วเทียนมากกว่านี้.

ไม่นานหลังจากนั้นเด็กสาวก็เดินออกไป.

ลั่วหลินพูดเสียงเย็น: “ไอ้สุนัข ข้าจะปล่อยชีิวิตของเจ้าในวันนี้”

จากนั้นเขาก็วิ่งตามเด็กสาวคนนั้นไป.

ลั่วเทียนเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่เพราะไม่มีการบ่มเพาะ เขาเฝ้ามองเด็กสาวที่เดินจากไปและพึมพำ: “เธอเป็นใคร? ดูเหมือนจะคุ้นเคยมาก แต่ข้าจำไม่ได้.”

“ลืมไปซะ!”

“ไม่ต้องคิดเรื่องนี้ ความสำคัญตอนนี้คือการเพิ่มเลเวล!”

สิ่งที่เกิดขึ้นได้ทำให้ลั่วเทียนตระหนักถึงความแข็งแกร่งอีกครั้ง เมื่อไม่มีความแข็งแกร่งมันก็ต่ำกว่าสุนัข.

ถูกดาบชี้มาพร้อมกับแนวโน้มที่ไม่อาจตวบคุมตัวเองได้ ท้ายที่สุดเขาก็ได้แต่พึ่งพาเด็กสาวคนหนึ่งให้ช่วยเขา ทั้งหมดนี่กระตุ้นลั่วเทียนลึกๆ.

เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นให้มาก!

เมื่อเขาแข็งแกร่งเขาก็จะเปลี่ยนโชคชะตาและควบคุมมันได้.

ลั่วเทียนเงยหน้ามองฟ้าขณะกำหมัดแน่น จากนั้นเขาก็วิ่งไปบนรังมดแดงและกระทืบอย่างเมามันส์ หลังจากที่เฝ้ามองพวกมันวิ่งไปรอบๆ เขาก็กระทืบอย่างรุนแรง.

“แผละ แผละ…”

“ขอแสดงความยินดีด้วยกับผู้เล่น ที่ฆ่ามดแดง คุณจะได้รับค่าประสบการณ์ 1 แต้มและพลังปราณ 0…”

“ขอแสดงความยินดีด้วย…”

ทั้งสองเท้าเต็มไปด้วยมดแดงที่อยู่รอบๆขณะที่เขากระทืบให้มันตาย เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ยังคงดังต่อเนื่องและลั่วเทียนก็โดนมดตัวหนึ่งต่อยในที่สุด มันค่อนข้างเจ็บ แต่เขาไม่สนใจ เมื่อเทียบกับความอับอายที่เขาได้พบเจอมาในวันนี้.

“ตายๆๆ…”

หลังจากสิบนาทีหรือมากกว่านั้น มดกว่าร้อยตัวก็ตายไปด้วยเท้าของเขา ร่างกายของลั่วเทียนเต็มไปด้วยตุ่มสีแดง.

“ติ้ง!”

“ขอแสดงความยินดีดับผู้เล่นลั่วเทียน สำหรับการอัพเลเวล เลเวลของคุณตอนนี้คือ ปราณพื้นฐานระกับ 2!”

เลเวลอัพ!

ปราณพื้นฐานระดับ 2 ที่ทะลวงผ่านอย่างต่อเนื่องใน 1 วัน ไม่มีใครสามารถเทียบความเร็วกับเขาได้ แต่ลั่วเทียนไม่มีความสุขแม้แต่น้อย ปราณพื้นฐานระดับ 2 ยังคงอ่อนแอเกิดกว่าที่จะตอบโต้กับดาบของลั่วหลินได้!

หลังจากที่หยุดสักพัก ลั่วเทียนก็กระทืบอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ตะโกน: “อีก!”

——————

10 ปีก่อนในลานเล็กๆของตระกูลลั่ว.

เด็กชายและเด็กหญิงตัวน้อยกำลังเล่นกันอยู่.

“พี่ใหญ่ลั่วเทียนข้าจะเป็นเจ้าสาวให้กับท่านและเรามาแต่งงานกัน?” เด็กสาวตัวน้อยที่สวมชุดสีขาวถามอย่างจริงจัง.

เด็กชายตัวน้อยอีกคนกำลังเปิดกางเกง เขาปาดจมูกที่เต็มไปด้วยน้ำมูกและเช็ดหลังกางเกงก่อนที่จะเริ่มหัวเราะ: “แน่นอน.”

เด็กสาวตัวน้อยเริ่มหัวเราะเสียงดัง: “อนาคตเราจะแต่งงานกัน?”

เด็กชายตัวน้อยที่มีน้ำมูกไหลยิ้มอย่างอายๆและพยักหน้ารับ“อึ้ม.”

เด็กสาวตัวน้อยกระโดดขึ้นอย่างมีความสุขและหอมแก้มเด็กชายตัวน้อย จากนั้นเธอก็วิ่งหนีอย่างรวดเร็วแลพูดอย่างมีความสุข: “ถ้าพี่ใหญ่ลั่วเทียนต้องการให้ข้าเป็น ‘หญิง’ของเขา, ข้าจะได้เป็น‘ผู้หญิง’ของเขา…”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset