เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 132 – ข้าจะใช้การเคลื่อนไหวแบบพิเศษของข้า

Chapter 132 – ข้าจะใช้การเคลื่อนไหวแบบพิเศษของข้า

“ตูม~!”

เสียงที่สั่นสะเทือนไปทั้งผืนดินและสวรรค์ทั้งเก้าได้ดังขึ้น!

ความแข็งแกร่งที่ราวกับทะเลคลั่งที่ได้บดขยี้ทุกอย่างที่ขวางทางของมัน!

ประตูหินทั้งสองบานก็ไม่อาจหยุดยั้งพลังของมันได้.

ในเวลานี้…

จิตสังหารที่ไหลออกมาจากลั่วเทียนที่ได้รวมตัวกันเป็นกริมริปเปอร์ได้พุ่งเข้าสู่เมือง มันเริ่มดูดกลิ่นอายแห่งความตายที่ไหลออกมาจากยามเหมือนเปลวเพลิงทั้งหมด.

ยามตัวแข็งค้างด้วยความตกใจ.

พวกเขาลืมแม้กระทั่งตอบโต้.

ท่ามกลางฝุ่นฝุ้งลั่วเทียนเริ่มเดินผ่านซากที่กำลังถล่ม เขาตะโกนอีกครั้ง “หยินซางไอ้หมาสาวเลว ไม่ต้องกลัวออกมาเจอกับบิดาเดี๋ยวนี้!”

เสียงของเขาสั่นสะเทือนไปบนอากาศและความยโสของเขาก็มีเพิ่มอย่างมาก!

เสียงตะโกนนั้นมีร่องรอยพลังโจมตีของเสือสิงห์ขยี้วิญญาณ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เสียงของลั่วเทียนดังก้องไปทั่วทุกที่ของเมืองซากศพทมิฬ ตามจริงแล้วมันได้เข้าไปถึงพระราชวังที่หยินซางอยู่ด้วยซ้ำ.

เงียบสนิท!

ทั่วทั้งเมืองเงียบสงบจนได้ยินแม้กระทั่งเข็มตก.

เขาเป็นบ้าที่สติฟั่นเฟื่อนไปแล้ว?

เขากล้าที่จะมาด้านหน้าเมืองซากศพทมิฬจริงๆ?

มีเพียงคนบ้าเท่านั้นที่ทำอะไรแบบนี้?

องค์ชายแห่งเมืองดาบสวรรค์และศิษย์จากนิกายทะเลเมฆยังไม่กล้สเข้าเมืองซากศพทมิฬตรงๆเลย เพราะงั้นชายคนนี้มาจากไหน?

และคนที่เข้ามาก็ไม่แม้กระทั่งอยู่ในปราณสุดยอดเชี่ยวชาญ!

ถ้าชายคนนี้ไม่ได้ทำสมองหายไปแล้วหล่ะก็ งั้นมันก็อาจจะเป็นอย่างอื่น?

ในเวลานี้ศิษย์จากนิกายทะเลเมฆทั้งสามก็จ้องลั่วเทียนด้วยความโง่งม ในหมู่พวกเขามีสาวงามที่หน้าอกใหญ่และดูเป็นพี่สาวอีกด้วย.

“เขาเป็นใคร?”

“เขาเป็นบ้าไปแล้ว?”

“เขากล้าที่จะทำตัวป่าเถือนในเมืองนี้เชียวหรอ? เขาอาจจะตายในไม่ช้า.”

นี่เป็นคำพูดที่คนนับไม่ถ้วนพูดกัน.

สมองของพวกเขาไม่อาจเข้าใจความกล้าของลั่วเทียนได้.

“ปราณเชียวชาญขั้น 9 อย่างเจ้ากำลังเอาชีวิตไปให้คนอื่น? รับหนีและหลบไป!”เป็นพี่สาวที่เร่าร้อนพูดขึ้นมา.

ในเวลาเดียวกัน…

ดาบเลือดทั้งสองของเลือดหนอนและเลือดเด็กได้ฟันลงมา.

“ชิ้ง~! ชิ้ง~!”

ศิษย์ชายที่อยู่ใกล้กับพี่สาวคนนั้นได้ถูกตัดคอ ขณะที่เลือดสดๆได้พุ่งออกมาจากคอเลือดหนอนและเลือดเด็กก็ได้พุ่งเข้ามาดูดเลือดบนลำคอของพวกเขา บางครั้งพวกเขาก็ไอและมีลิ่มเลือดออกมาขณะที่ดูด.

ขณะนี้ยามไม่รู้จักตายก็ยังไม่มีท่าทีใดๆ.

มีเสียงบางอย่างตะโกนออกมา “ฆ่าเขา!”

ลั่วเทียนเงยหน้ามองขึ้นที่พระราชวังที่สูงตระหง่าด้านหน้า ริมฝีปากของเขาปรากฏเป็นรอยยิ้มที่เย็นชาก่อนที่จะมองไปยังพี่สาวที่อยู่ไม่ห่างไกล เขากระโดดขึ้นและลงมาด้านหน้าของเธออย่างแรงและผลักเธอไปด้านหลังก่อนที่จะพูด “เจ้าสามารถหลบอยู่หลังข้าได้!”

เสียงของเขาดูแหบแห้ง.

มันเป็นเพราะว่าเขาโกรธมาก.

แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ.

สิ่งสำคัญที่สุดคือความคิดของฉินหยู่เอ๋อร์ที่สั่นสะท้านพร้อมกับเสียงของเขาและมันก็เป็นเสน่ห์ที่เป็นธรรมชาติ เธอส่ายหัวและพูดกับตัวเอง “ชายแบบที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน? ข้าจะหลงเสน่ห์ของเขาได้อย่างไร?”

“การบ่มเพาะของเจ้าอยู่แค่ปราณเชี่ยวชาญขั้น 9 เจ้าจะปกป้องข้าได้อย่างไร?”

“เด็กคนนี้อยากจะจับกระโปรงข้าโดยไม่สนใจชีวิตงั้นหรอ?”

“เจ้าคิดว่าข้าเป็นหญิงสาวที่อายุ 18 และอ่อนต่อโลก? หญิงสาวคนนี้อายุ 26 แล้ว! ชั่งโอหังนัก!”

มันไม่อาจรู้ได้เมื่อ…

ฉินหยู่เอ๋อร์โกรธเล็กน้อย เธอจ้องมองไปที่ลั่วเทียนและพูดว่า“น้องชาย เจ้าอายุเท่าไร? เจ้ายังเด็กและเจ้าก็จีบผู้หญิงแล้ว? เจ้ารู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน? นี่คือเมืองซากศพทมิฬและคนเหล่านี้ต่างก็เป็นอมตะ ไม่ว่าเจ้าจะโจมตีมันเท่าไร พวกมันก็จะไม่ตาย การบ่มเพาะน้อยๆของเจ้ามันไม่ค่อยเพียงพอดังนั้นเจ้าควรจะซ่อนหลบอยู่หลังพี่สาวคนนี้.”

“เพราะตราบที่ข้ายังมีลมหายใจ ข้าจะส่งเจ้าออกจากเมือง จากนั้นเจ้าควรจะไปที่เมืองดาบสวรรค์และเสาะหานิกายทะเลเมฆ จากนั้นก็ให้พวกเขาส่งกำลังเสริมกลัยมา…”

“หืม?”

“เจ้าได้ยินข้าไหม?”

“นี่ นี่ นี่ เจ้าพยายามจะทำอะไร?”

ฉินหยู่เอ๋อร์เกือบจะใจเสีย.

เพราะลั่วเทียนไม่ได้สนใจเธอและเดินออกไปข้างหน้า เหนือขึ้นไปมียามไม่รู้จักตายที่พากันตั้งแถวและมีร่างายที่ไม่อาจเอาชนะมันได้…

เวลานั้น…

ร่างกายของลั่วเทียนก็เคลื่อนไหวและมือของเขาก็กลายเป็นกรงเล็บ หัวของนายทหารคนหนึ่งก็ถูกจับและระเบิดออกมา จากนั้นร่างกายก็ร่วงลงพื้นดินจนกลายเป็นขยะอยู่ตรงนั้น.

ยามไม่รู้จักตาย ถูกฆ่าทันที!

ฉินหยู่เอ๋อร์กลายเป็นโง่งม.

ตาของเธอเบิกกว้างพร้อมกับอ้าปากค้างขณะจ้องมองลั่วเทียนด้วยสายตาไม่กระพริบ มันนานกว่าครึ่งวันกว่าที่เธอจะตอบสนองได้ หัวใจเธอไม่อาจยอมรับมัน แต่เธอก็ต้องบอกกับตัวเอง“อะไรกัน?!เจ้าเด็กนี้เท่มาก! ยายเจ้า ยายเจ้าฉินหยู่เอ๋อร์!เวลาและสถานที่นี้คือที่ใด? เพือนของเจ้าทั้งสองคนพึ่งตายและเจ้าก็คิดว่าเด็กคนนั้นเท่ห์? ไม่ต้องพูดถึงที่ว่าเขาอายุน้อยกว่าเจ้า เจ้า…เจ้าเด็กบ้า!เขาดูดี พี่สาวคนนี้ไม่เคยลิ้มรสเด็กๆมาก่อน”

ความหลงใหล!

ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับจริงๆ.

ในขณะนั้นฉินหยู่เอ๋อร์กำลังคิดหาวิธีโจมตี(ข่มขืน)ลั่วเทียน.

เธอไม่ได้คิดเลยว่าเธอยังคงอยู่ในสถานการณ์แบบไหน? เธอต้องอยากตายแน่ๆ!

นี่มันก็เกินไป!

แน่นอน ว่ามันไม่อาจปฏิเสธได้ว่าดวงตาของลั่วเทียนเริ่มเหมือนพระเอกในนิยายแล้ว ตอนนี้เขาดูเท่ห์มากจริงๆ!

เกิดความวุ่นวายในกลุ่มยามไม่รู้จักตาย.

เมื่อเห็นเพือนของพวกเขาตาย ก็ปรากฏความสงสัยขึ้นในดวงตาของพวกเขา.

“เกิดอะไรขึ้น?”

“เกิดอะไรขึ้น?เราไม่อาจตายได้ ใช่ไหม? ราชาทมิฬมอบชีวิตที่ไม่มีวันตายให้กับเรา…”

“เขาเป็นคนในคำทำนายจริงๆหรอ?”

“มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่ฆ่าพวกเราได้!”

“ไม่มีทาง ไม่มีทาง เราไม่…”

ก่อนที่คำว่า“ตาย” จะถูกพูดออกมาหัวของเขาก็ระเบิดไปแล้ว มีแมลงกู่ที่เหี่ยวแห้งออกมาก่อนที่จะถูกลั่วเทียนใช้เท้าขยี้ มีเสียงแจ้งเตือนของระบบในใจ.

พระราชวังราชาทมิฬ.

หยินซางที่ท่าที่น่าเกลียดจริงๆ เขายืนอยู่ที่ทางเข้าห้องโถงขณะที่แมลงที่หัวของเขาโผล่ออกมาจากหัวของเขาและสั่นด้วยความกลัว.

มันทำให้หยินซางยิ่งโกรธมากขึ้น!

อีกด้าน เลือดพิราบที่มองมาอย่างอาฆาตขณะที่มีรอยยิ้มที่เย็นชาและพูดกับตัวเอง “นี่เป็นความลับของแมลงกู่!”

ทันทีหลังจากนั้น…

เลือดพิราบพูดน้อยๆ “มันก็แค่ขยะปราณเชียวชาญขั้น 9 เท่านั้น ราชาทมิฬเจ้าต้องการให้ข้าไปดูแลมันแทนเจ้าหรือไม่?”

เสียงของเขามีร่องรอยของการไตร่ตรองและต่อรอง.

เดิมทีเลือดพิราบมีความหวาดกลัวต่อราชาทมิฬ แต่ตอนนี้…

ความกลัวไม่เหลือแม้แต่น้อย.

หยินซางเหลือบมองไปที่เลือดพิราบด้วยหางตาและพูดว่า“อาวุโสเลือดพิราบ เจ้าควรจะบอกให้คนของเจ้าทำให้มันถูกต้อง ถ้าเจ้ากล้าที่จะมายุ่งกับเหยื่อของข้า ข้าจะส่งเจ้าไปสู่ความตาย!”

ภายใต้เสื้อคลุมร่างของเลือดพิราบสั่นสะท้านก่อนที่จะหลบออกไปด้านข้างและไม่พูดอะไร.

หยินซางแค่นเสียงเย็นชา จากนั้นเขาก็ออกจากห้องโถงใหญ่และเสียงของเขาก็ดังไปทั่วทั้งเมือง “ฆ่าเขาซะและข้าจะให้ชีวิตนิรันดร์กับเจ้า!”

เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและกลิ่นอายแห่งความตายกระจายไปทั่วทั้งมือง.

ยามไม่รู้จักตายก็ราวกับกินยาชูกำลังขณะที่สั่นด้วยความตื่นเต้น.

“ชีวิตนิรันดร์!”

“ชีวิตนิรันดร์!”

“ชีวิตนิรันดร์!”

ยามไม่รู้จักตายในเมืองซากศพทมิฬเริ่มโห่ร้องขึ้นฟ้าพร้อมๆกัน

เพียงประโยคเดียวก็กระตุ้นทุกคนให้เข้าร่วมต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง.

มีแม้กระทั่งความแตกต่างระหว่างไม่รู้จักตายและชีวิตนิรันดร์?

สำหรับแมลงกู่ไม่รู้จักตายจะอยู่ขั้น 1 ขณะที่แมลงกู่ชีวิตนิรันดร์อยู่ขั้น 4 และมีพลังมากกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือแมลงกู่ ขั้น 4 นั้นมันไม่สามารถฆ่าได้ทันที แมลงที่เติบโตขึ้นที่หัวของหยินซางนั้นอยู่ที่ขั้น 8!

ปากของลั่วเทียนเริ่มยิ้มเยาะขณะที่เขาหันไปพูดกับฉินหยู่เอ๋อร์ด้านหลังเขา“ถ้าเจ้าไม่ต้องการตาย ให้อยู่ด้านหลังข้าไว้ เพราะข้าจะใช้การเคลือนไหวพิเศษของข้า!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset