เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 140 จัดการแมลงกู่

ในตอนท้ายของคําพูดชายชราคิ้สขาว ดวงตาของลั่วเทียนก็สั่นไหวก่อนที่จะค่อยๆลืมตา

 

“ฟู่ววว…”

 

ลั่วเทียนพ่นลมเย็นออกมา ฝ่ามือและหลังมือของเขาเต็มไปด้วยชั้นน้ำแข็งเพราะแมลงที่อยู่ในสมองของเขากัดกินไม่หยุดหย่อน มันอึดอัดอย่างมากจนเขาแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไป…

 

ในระหว่างการเดินทางของเขามาที่นี่เขารู้สึกเหมือนกําลังจะตาย การสูญเสียความนึกคิดที่ค่อยๆหายไปทีละเล็กทีละ น้อยทําให้เขารู้สึกตกใจ ถ้ามันไม่ใช่ว่าเพราะพลังวิญญาณลับที่เขาได้ซ่อนเอาไว้แต่เนิ่นๆ เมื่อเขาเปิดใช้งานแมลงภู่ศักดิ์สิทธิ์ เขาอาจจะถูกทําให้กลายเป็นหุ่นเชิดของหยินซางในสักวัน

 

ลั่วเทียนต่อต้านและยับยั้งตัวเองอย่างสุดขีด ดังนั้นการแสดงออกจริงๆของเขาจึงไม่ได้เผยออกมาทางใบหน้า

 

เมื่อถูกพาตัวมายังนรกชั้น 19 หัวใจของลั่วเทียนก็รู้สึกจุดขึ้นมาถึงลําคอตลอดทางที่เขามาถึง ถ้าหยินซางพบอุบายของเขา ทุกอย่างจะจบลง

 

เมื่อเขาได้ยินเสียงของชายชรา ลั่วเทียนก็รู้ว่าในที่สุดเขาก็ทํามันได้เสร็จสิ้น เขาค่อยๆลืมตาและก็เป็นชายชราปรากฏอยู่เบื้องหน้าของสายตา ริมฝีปากของเขากระตุกก่อนที่จะพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “เวรจริงๆ ในที่สุดที่ข้าได้ต่อต้านก็เสร็จสิ้นลง”

 

สายตาของเขากลอกไปมาก่อนที่จะเป็นลม

 

ชายชราคิ้วขาวได้เข้ามารับลัวเทียน เขามองไปที่หน้าผากลัวเทียนที่มีแมลงตัวหนึ่งส่องแสงออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะพูดด้วยความตกใจ “จริงๆแล้วไอ้เด็กนี้ได้ต่อต้านมานานมาก! จะมีกี่คนที่สามารถทนความเจ็บปวดแบบเขาได้?” 

 

“ไม่เลว เขาเป็นคนที่มีความพยายามมาจริงๆ”

 

“ยายเฒ่า ดูเหมือนว่าเราจะมีประแห่งความหวังจริงๆ” 

 

ท้องฟ้าที่มืดครื้มและพื้นดินที่ดําทมิฬ.

 

ไม่มีดวงอาทิตย์ ไม่มีดวงจันทร์ ไม่มีร่องรอยใดๆที่มีแสง

 

มันมีแต่ความมืดมิดและเย็นยะเยือก

 

สภาพแวดล้อมเหล่านี้คล้ายกับสถานที่แห่งความตาย มันมีความรู้สึกที่ว่างเปล่าและมันเกินจะทานทน.

 

“ที่นี่คือ?”

 

“ข้าตายแล้ว?”

 

“ไอ้เลวนั่น บิดาคนนั้นไม่ได้ต้านทานจนตายใช่ไหม? ยายเฒ่านั่นหลอกข้าจริงๆหรือ? ไม่มีทาง นางไม่ได้โกหกขณะที่นางพูด?”ลัวเทียนกําลังคิดอยู่ในหัวของตัวเอง ใจของเขาราวกับดิ่งลงเหว ถ้าเขาตายไปจริงๆ งั้น…

 

ใครจะช่วยแม่ของชุนชุนกัน?

 

สําหรับหญิงสาวที่กําลังจะถูกตบแต่งในอีกสามปี ใครจะไปลักพาตัวเจ้าสาวเล่า?

 

ใครจะตบก้นงอนๆของสาวงามน้ำแข็ง หลิงฮานซาน?

 

ใครกันจะปกป้องตระกูลลั่วที่เหลืออยู่?

 

“ไอ้เวร!”

 

“โอ้ สวรรค์ ท่านไม่ได้ปล่อยให้บิดาคนนี้ตายแบบนี้ใช่ไหม? ข้ายังซิงอยู่เลย อย่างน้อยๆก็ให้ข้าเสียมันไปก่อน!” ลั่วเทียนกล่าวอย่างขมขื่น.

 

“แค่ก, แค่ก”

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงออกมาจากความว่างเปล่า

 

เป็นเสียงที่ค่อนข้างชราและแหบแห้ง “นี่ เด็กน้อย เจ้าคิดว่าโลกนี้มันคืออะไร? เจ้ายังไม่ตาย เจ้ายังคงสํารวจตัวเองได้ เพราะความตั้งใจของเจ้าทําให้เจ้าได้เข้ามาในพื้นที่มติของข้าชั่วคราว เจ้าต้องฟังคําพูดของข้าให้ดี ไม่ว่าเจ้าจะมีชีวิตต่อไปได้หรือไม่นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับมัน.”

 

ลัวเทียนก็มีความสุขอยู่บนใบหน้าทันทีที่เขาตอบ “สวัดดีตาเฒ่า ท่านเป็นสามีของยายเฒ่านั้นใช่ไหม?”

 

“ถูกต้อง!”

 

ลั่วเทียนจึงพูดกับตัวเองว่า “งั้นข้าอยู่ที่ไหน”

 

ลั่วเทียนพูดต่อ “มาเลยและบอกข้า ข้าพร้อมฟังอยู่ ข้าต้องการควบคุมร่างกายของข้าเร็วๆ และจัดการชะล้างทะเลซากศพนี้ จากนั้นเขาจะกลับไปข้างบนและเอาชนะหยินชางจนกว่ามันจะหายไป.”

 

“ดี!”

 

“ฟังให้ดี”

 

“ตั้งแต่ที่ภรรยาข้าได้เลือกเจ้าแล้ว ข้าจะเดิมพันทั้งหมดกับเจ้า หากเจ้าทําตามคําแนะนําของข้า ข้าจะให้อํานาจนับหมื่นเท่ากับเจ้า ในเวลานั้นไม่ว่าแมลงภู่จะแข็งแกร่งแค่ไหน มันก็ไม่อาจบุกเข้าไปในสมองของเจ้าได้.” เสียงของชายชราพูดอย่างแข็งขัน.

 

คําพูดของเขามีร่องรอยของความเย่อหยิ่งและป่าเถื่อน. 

 

เขามีคุณสมบัติที่จะพูดเช่นนี้ เพราะว่าเขาเป็นราชาของเผ่าหลักของโลก เพียงแค่ใช้ทักษะแมลงภู่ของเขา เขาก็สามารถเป็นผู้นําของเผ่าหลักของโลกและออกจากจุดต่ำสุดในประวัติศาตร์,

 

“เพิ่มอํานาจจิตนับหมื่นเท่า?”

 

“เวรแล้ว นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เจ็บปวดเหมือนกับที่ข้ากลั่นแมลงภู่ นอกจากนี้ยังหมายความว่าสามารถขอบคุณหุ่นเชิดทหารของข้าได้อย่างไม่มีปัญหาอีก 5555…ตาเฒ่า มันไม่น่าแปลกใจที่ยายเฒ่ายังคงรักท่านอยู่ใครจะรู้ว่าท่านจะยอดเยี่ยมขนาดนี้?”ลั่วเทียนหัวเราะอย่างสบายใจ

 

ชายชราคิ้วขาวหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะกลับมาจริงจัง จากนั้นเขาก็ตะโกน “เจตจํานงอย่างหนึ่งคือมาจากเจตนาในจิตวิญญาณของเจ้า ยิ่งมีความขยันของเจ้ามากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น แมลงภู่สีเขียวศักดิ์สิทธิ์นั้นยากที่จะฆ่า แต่มันก็ไม่ยากเกินไปหากว่าเจ้าทําตามคําแนะนําข้าในระหว่างขั้นตอนนี้ ความเจ็บปวดของเจ้าจะรุนแรงมากกว่าที่เจ้าเคยรู้สึกนับร้อยเท่า เราไม่อาจหยุดพักหรือหยุดกระบวนการได้ เราต้องรับมุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเลและไม่อาจถอยหลังได้แม้แต่ก้าวเดียว”

 

นี่เป็นขั้นตอนที่ยากอย่างมาก!

 

แมลงภู่เขียวศักดิ์สิทธิ์นั้นทรงพลังอย่างมากและการฆ่ามันก็ยากมากสุดๆ

 

แต่…

มันไม่มีทางอื่น พวกเขาต้องใช้เจตนาทางวิญญาณที่ลั่วเทียนได้ทิ้งเอาไว้หลังจากที่ฆ่ามัน ในขั้นตอนการฆ่าแมลงภู่ ลั่วเทียนจะรู้สึกเจ็บปวกมากยิ่งกว่าการเดนผ่านนรกทั้ง 18 ขุมเสียอีก.

 

ลั่วเทียนขมวดคิ้วก่อนที่จะยิ้มเบาๆ “ไม่ต้องห่วง ข้าจะอดทนต่อมัน ตาเฒ่า มาเลย มาเริ่มกัน”

 

“ดี”

 

ชายชราไม่พูดอะไรไร้สาระอีกต่อไปและพูดว่า “ปล่อยให้เจตจํานงทางวิญญาณของเจ้าให้ข้าได้ควบคุมมัน!” 

 

ลั่วเทียนทําตามคําพูดของเขาทันที

 

ในเวลาที่เขาได้ปล่อยเจตนารมณ์ออกไป ลั่วเทียนรู้สึกเหมือนกับร่างกายของเขาอยู่ในเหวลึกและหัวใจของเขากําลังจะระเบิด ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อร่างกายของเขานั้นราวกับมีมดนับล้านๆตัวเคลื่อนไหวอยู่ภายในร่างกาของเขา

 

เจ็บ เจ็บโครต!

 

“เด็กน้อย เจ้าต้องอดทนมัน ข้าจะเริ่มแล้ว”

 

เมื่อเสียงของชายชราพูดจบ ในใจของลัวเทียนก็ไม่อาจตอบสนองได้อีก เขาเกร็งไปทั้งตัว มันแข็งราวกับเหล็กก่อนที่จะคํารามออกไปในอากาศ“แมร่งเอ้ย ทําไปเลย! บิดาคนนี้ไม่เชื่อว่าข้าไม่อาจจัดการได้ !”

 

ยิ่งเข้ารู้สึกเจ็บมากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกบ้ามากเท่านั้น

 

ในเวลานี้ ลั่วเทียนก็กลายเป็นคนบ้าสติไปแล้ว

 

กัดฟันแน่นและปล่อยให้ชีวิตอยู่บนเส้นด้าย นี่คือการเดินไปบนเส้นแบ่งของชีวิตและความตาย มันคล้ายกับการแบกโลงศพไว้ข้างหลังและเต้นไปตามทํานางของมัน.

 

คําเดียวที่ลั่วเทียนใช้เสมอ:

 

หากมันเป็นของเจ้างั้นมันก็จะเป็นเป็นเจ้า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม หากไม่ใช่ของเจ้ามันก็ไม่ใช่ของเจ้าอยู่วันยังค่ำ

 

นอกจากนี้ยังมีอีกจุดหนึ่งที่สําคัญมาก

 

ยิ่งเขาเจ็บปวดมากเท่าไร ร่างกายของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น นี่มคล้ายกับที่เขาได้ฝึกร่างกายของเขาโดยการถูกกระแทกจากมอนเตอร์ปกติ

 

เจตจํานงทางวิญญาณของชายชราเริ่มเคลื่อนไหวและนําทางให้กับความตั้งใจของลัวเทียนเข้าสู่สมอง เมื่อเผชิญหน้ากับแมลงภู่สีเขียวศักดิ์สิทธิ์ เจตจํานงทั้งสองก็รีบพุ่งเข้าใส่มัน! 

 

แมลงภู่ไม่อาจควบคุมร่างกายของลัวเทียนได้ ตลอดเวลาและกลายเป็นยากลําบากมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นความตั้งใจของวิญญาณลับของลั่วเทียนมันก็กลายมาเป็นโกรธเกรี้ยวทันที

 

มันดูเหมือนจะเป็นแมลงตัวเล็กที่อยู่ในสทอง มันดูเหมือนกับเป็นสัตว์ประหลาดตัวเขื่องเมื่อเทียบกับความตั้งใจเล็กๆนั่น

 

“ฆ่า!”

 

“ฆ่า!”

 

“ฆ่า!”

 

ความตั้งใจของลั่วเทียนตอบรับด้วยตัวมันเองและเริ่มแผ่ความคิดของจิตสังหาร สิ่งนี้ทําให้ชายชราตื่นเต้นอย่างลับๆ เพราะพลังเจตจํานงทางวิญญาณของลั่วเทียนนั้นเกินความคาดหมายของเขาอย่างมาก เมื่อเห็นจิตสังหารที่ทรงพลังปรากฏขึ้น ชายชราก็รู้ว่ามีโอกาสที่จะประสบความสบเร็จมากขึ้น

 

ในเวลานั้น….

 

ภายในใจของลั่วเทียนที่เป็นสนามรับขนาดใหญ่

 

กองทัพนับพันได้ถูกฆ่าตายอย่างต่อเนื่อง

 

ความรู้สึกที่ราวกับสมองถูกฉีกขาดและแยกออกจา กันหนึ่งครั้ง เท่ากับความเจ็บปวดนับแสนเท่าจากที่เขารู้สึกในอดีต

 

ความเจ็บปวดเจียนตายบังคับให้เขามีชีวิตอยู่ต่อ!

 

แต่ลั่วเทียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและหยิ่งยโส.

 

หากไม่แสดงออกมาอย่างนั้น เขาจะยังมีชีวิตเป็นตัวเขาอยู่ได้อีกไหม?!

 

หากเขาทําตัวเป็นกลายในต่างโลก เขาจะต่างจากตัวเขาในโลกที่แล้วได้อย่างไร?

 

ป่าเถื่อน

 

บิดาคนนี้จะป่าเถื่อจนกว่าสวรรค์และปฐพี่จะสั่นสะท้าน!

 

เวลามากมายที่ได้พ่านพ้นไป…

สุดท้าย…

 

ในจิตใจของลั่วเทียน ก็มีเสียงดังขึ้นมาอย่างเหนื่อยอ่อนว่า “นี่ เด็กน้อย เสร็จสิ้นแล้ว!”

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset