เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 142

นรกชั้น 19.

 

ภายในบ้านของชายชราคิ้วขาว

 

ชายชรามองไปที่ลั่วเทียนอย่างอยากรู้อยากเห็น ขณะที่คิ้วสีขาวของเขาเลิกขึ้น จากนั้นเขาก็พึมพํากับตัวเองอย่างงงงวย “เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ง่ายๆ ไม่ว่าเขาจะอัจฉริยะแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่เขาจะทะลวงขั้นได้ถึงสองขั้นใน 6 ชั่วโมง.”

 

6 ชั่วโมง 2 ขั้น!

 

แม้กระทั่งอัจฉริยะอันดับหนึ่งของมนุษย์ มู่หรงหวั่นเจียก็ไม่อาจทําสิ่งนี้ได้

 

ไม่ต้องพูดถึงมู่หรงหวั่นเจีย ไม่มีสักคนในประวัติศาตร์ทั้งหมดในทวีปที่จะสามารถทําอย่างนี้ได้

 

การบ่มเพาะและทะลวงผ่านสักด่านนั้น ยากเป็นอย่างยิ่ง แต่ความประหลาดนี้ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขา เขาทะลวงขั้นไปถึง 2 ขั้นใน 6 ชั่วโมง เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่?

 

การทะลวงด่านก็เหมือนกับการละเล่นของเขา?

 

หรือว่าสายตาของเขาจะแย่ลงและเขาก็มองเห็นผีจริงๆ? 

 

เมื่อเห็นว่าตาเฒ่าจ้องมองเขาอย่างประหลาดใจมาเนิ่นนาน ลั่วเทียนก็เดินถอยหลังอย่างไม่รู้ตัวและพูดว่า “ตาเฒ่า เจ้ากําลังทําอะไร? เจ้ารู้จักข้าใช่ไหม?”

 

“แค่ก แค่ก”

 

ชายชราคิ้วขาวกระแอ่มสองที เขาทนจากความอยากรู้ อยากเห็นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว และถามว่า “เด็กน้อย เจ้าทําอะไรอยู่?”

 

“มันก็เรื่องง่ายๆ”

 

“ข้ากําลังฆ่าพวกเขา” ลั่วเทียนหัวเราะเบาๆและโดยปกติ แล้วเขาจะไม่อธิบายเกี่ยวกับระบบของเกมส์ในตัวของเขา นี่เป็นสิ่งที่เขาจะไม่บอกใครเพราะความลับนี้ยิ่งใหญ่อย่างมาก

 

ชายชรากลอกตามองลั่วเทียน

 

ถั่วเทียนยิ้มและถามว่า “เจ้ามีอะไรอีกไหมตาเฒ่า? ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าจะได้รับเร่งทะลวงขั้น.”

 

ยังมียามอยู่มากมาย

 

พวกเขาล้วนแล้วแต่ให้ค่า Exp และพลังปราณ!

 

การเสียเวลาที่นี่ไม่ต่างกับตายไปแล้ว

 

ลั่วเทียนรู้สึกอารมณ์แปรปรวน นับตั้งแต่ที่เขาย้ายมายังโลกใบใหม่นี้ เขาก็ไม่เคยได้สัมผัสกับความรู้สึกดีๆอย่างนี้และการอัพเลเวลในที่นี้ทําให้เขารู้สึกดีอย่างมาก!

 

มองไปที่ด้านนอกที่มีเหล่ายามรอให้เขาไปเก็บเพื่ออัพเลเวล.

 

ชายชราถอนหายใจและพูด “แน่นอน ข้ามีเหตุผลที่ให้เจ้ากลับมา ข้าตัดสินใจที่จะถ่ายถอดทักษะการกําจัดแมลงภู่ แต่เจ้าต้องสัญญาด้วยว่าเจ้าจะไม่ถ่ายทอดไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งรวมถึงทักษะกลั่น!”

 

หลังจากพูดอย่างนั้น ชายชราก็มองไปที่สั่วเทียนอย่างจริงจัง.

 

ถั่วเทียนรู้สึกถึงกับเรื่องนี้จริงๆและมันก็กลายเป็นความสุขก่อนที่เขาจะพูดว่า “ข้าขอสาบานต่อสวรรค์ ว่าข้าจะไม่ถ่ายถอดทักษะนี้ไปยังคนอื่น”

 

ลั่วเทียนพูดกับตัวเองว่า “แม้ว่าข้าจะถ่ายทอดไปให้คนอื่น แต่ก็ไม่มีทางที่ข้าจะทําสําเร็จได้”

 

ลั่วเทียนต้องการที่จะถ่ายทอดไปยังเจ้าอ้วน แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาะพยายามถ่ายทอดมัน ความตั้งใจของเขาก็จะหายไปวิธีที่เขาได้รับทักษะนั้นแตกต่างจากคนในทวีปเทียนหยวน ดังนั้นวิธีฝึกฝนเหล่านี้อาจจะเป็นไปได้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่ฝึกฝนแบบนี้ได้

 

หากจะพูดแบบเดียวกับเกมส์ ทักษะเหล่านี้เขาไม่อาจซื้อหรือขายได้ รวมไปถึงไม่อาจทิ้งได้!

 

เขาสามารถเข้าใจได้เพียงคนเดียว

 

“ดี!”

 

“เจ้าต้องฟังอย่างจริงจัง…” ชายชราพูดด้วยท่าทางจริงจังก่อนที่จะพูดในใจ “สําหรับบรรพบุรุษเผ่าหลักของโลก เพื่อที่จะฆ่าคนทรยศหยินซาง ศิษย์ไปเม่ยคนนี้ไม่อาจไม่จริงจังได้ คนตรงหน้าของข้าเป็นคนที่มีคุณธรรมและมีน้ําใจพร้อมกับเป็นผู้มีพระคุณอย่างมากต่อเผ่าหลักของโลก ข้าหวังว่าบรรพบุรุษจะเข้าใจว่าเพราะเหตุใจข้าถึงได้ทําอย่างนี้”

 

ชายชราที่ชื่อว่าไปเม่ยอธิษฐานอยู่ในใจก่อนที่จะมองซ้ายมองขวา หลังจากที่เขาตรวจสอบแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่รอบๆเขา เขาจึงท่องประโยคของทักษะให้ลั่วเทียนฟัง. 

 

ลั่วเทียนฟังทุกคําอย่างระมัดระวัง

 

สิบนาทีต่อมา

 

เสียงระบบก็ได้แจ้งเตือน

 

“ติ้ง!”

 

“ขอแสดงความยินดีด้วยกับผู้เล่น ลั่วเทียนที่ได้รับการบ่มเพาะปัดเป่าแมลงภู่!”

 

ลั่วเทียนรู้สึกดีใจอย่างมาก จากนี้ไปเขาจะสามารถใช้ทักษะการกลั่นกู้ได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่า ‘ยินดี’ เขาจะมีความชํานาญในเรื่องนี้อย่างมากและใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความคิดของลัวเทียนเริ่มเป็นนิสัยในทางที่ผิด

 

เขาคิดว่าเมื่อเขาใช้ทักษะภู่อย่างเฉพาะเจาะจง เหยื่อคงจะไม่ตายหากว่าเขาไม่หยุดมัน?

 

นี่….

 

เมื่อคิดว่าลูกผู้ชายที่อ่อนล้าจนลุกขึ้นไม่ไหว ลั่วเทียนรู้สึกหนาวสั่นไปถึงหลังคอ ตอนนี้เขามีความสามารถที่จะกําจัดได้แล้ว ตอนนี้เขาก็ไม่อาจจําเป็นต้องกลัวอะไรอีกต่อไป

 

“เจ้าจําได้แล้วหรือยัง?” ชายชราถาม.

 

ลั่วเทียนพยักหน้า “อึม!”

 

ไปเม่ยมองไปที่ลั่วเทียนอย่างจริงจังและถามด้วยควาสงสัย “เจ้าสามารถจําได้ทุกอย่างแล้ว ข้าก็จะท่องเพียงครั้งเดียว? นอกจากความเร็วที่เจ้าพัฒนาได้แล้ว ความเข้าใจของเจ้ายังเร็วอย่างมากอีกด้วยงั้นรึ? เจ้ายังเป็นคนอยู่อีกหรือไม่?”

 

ลั่วเทียนยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไรที่ข้าจะทําได้ เมื่อใครเกิดมาและดูดีเหมือนกับข้า การเรียนรู้สิ่งต่างๆก็จะเร็วขึ้นมากอย่างเป็นธรรมชาติเช่นกัน ตาเฒ่า ถ้าเจ้าไม่เชื่อเจ้าสามารถสอน ข้าถึงการบ่มเพาะของเผ่าหลักของโลกให้ข้าสักสองสามอย่าง และมาดูกันว่าข้าจะจํามันได้ทั้งหมดหรือไม่.”

 

“เจ้านี่มันน่าหยะแหยงจริงๆ!”

 

“เจ้าเด็กบ้า เลิกพยายามที่จะหลอกให้ข้าสอนทักษะเสียเถอะ”ไปเม่ยไม่สงสัยลัวเทียนอีกต่อไป เมื่อเห็นท่าทางปัจจุบันของเขา หัวใจของเขาตื่นเต้นอย่างมากขณะที่พูดกับตัวเองอย่างใจหาย “แน่นอนว่าเด็กนี่มันไม่ธรรมดาจริงๆ บางทีข้าอาจจะช่วยเผ่าหลักของโลกเราและบางทีเขาอาจจะเป็นคนที่อยู่ในคําทํานาย!”

 

“ข้าหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ”

 

ไปเม่ยพูดในใจ.

 

“ตกลง งั้น!”

 

“ข้าจะถ่ายทอดการปัดเปากให้กับเจ้า ดังนั้นมันจะช่วยให้เจ้าช่วยทั้งสองคนนั้นได้?” ชายชราถามอย่างท้อแท้

 

มันคงไม่ยากเกินไปที่จะช่วยพวกเขา ด้วยความแข็งแกร่งทางวิญญาณของลัวเทียน

 

ชายชราคิดว่าถั่วเทียนจะเริ่มทันที แต่ลั่วเทียนก็หายไปก่อนที่จะถามว่า “ตาเฒ่า เจ้ารู้หรือไม่ว่าหยินซางจะลงมาหาเจ้าอีกครั้งเมื่อไหร่?”

 

ไปเม่ยตอบ “7 วันหลังจากนี้เพื่อให้เผ่าหลักเป็นเครื่องบูชายัน ก่อนวันที่จะทําพิธีเขาจะลงมาเพื่อเอาพวกเจ้าทั้งสาม ทําไมเจ้าถึงถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ และสิ่งนี้ก็เกี่ยวข้องกับทั้งสองหรือเปล่า?”

 

“แมลงภู่ในตัวของพวกเขาไม่แข็งแกร่งเท่าของเจ้า แต่เจ้าก็ไม่ควรชักช้านานเกินไป ยิ่งเจ้าถ่วงเวลามากไปเท่าไหร่ มันก็ยิ่งยากที่จะเอาออกเท่านั้น”

 

ลั่วเทียนพยักหน้า “ข้าเข้าใจ”

 

ทันทีหลังจากนั้น

 

ลั่วเทียนก็วิ่งออกจากบ้านอย่างรวดเร็วแพื่อไปฆ่าทะเล ซากศพต่อหมื่นสายฟ้าคํารามและศพจํานวนมากล้มลง, 

 

“ตูม-…”

 

“ต้าม- ”

 

เสียงมันดังก้องไปจนนรกชั้น 19.

 

ไปเม่ยรู้สึกตะลึงงันเพราะเขาไม่เข้าในว่าถั่วเทียนกําลังทําอะไรอยู่ เมื่อมองดูไอ้ปีศาจตั๋วเทียนอยู่นั่น เขาก็เริ่มดูกับตัวเอง “เด็กคนนี้มันไปอยู่โลกไหนมา? ทําไมข้าไม่อาจเข้าใจอะไรได้เลย?”

 

หลังจากการฆ่ายามไปมากมาย ลั่วเทียนยังคงต้องทําบางอย่างที่เป็นสิ่งสําคัญอย่างมาก นั่นก็คือ การเพิ่มเลเวลทักษะการปัดเปา

 

มีอันตรายบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการกําจัด

 

และมันก็อันตรายต่อทั้งสองเช่นกัน

 

เนื่องจากการกําจัดของเขาอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ลั่วเทียนจึงยังไม่กล้าช่วยพวกเขา เมื่อเขามีความมั่นใจมากพอ เขาจะลองทําไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ลงมือ

 

ทะเลศพเป็นที่ที่ดีต่อการตอบสนองความต้องการของเขา ซอมบี้เหล่านี้แต่ละตัวมีแมลงภู่อยู่ในสมองและมันก็เป็นการทดสอบที่เหมาะที่สุดในการฝึกทักษะปัดเปาอู่ ก่อนที่จะใช้ทักษะหมื่นสายฟ้าคําราม พลังวิญญาณของลั่วเทียนก็เริ่มโคจรเพื่อปัดเปาคู่

 

“ตั้ง!”

 

“ล้มเหลว!”

 

“ติ้ง!”

 

“สําเร็จ! ความชํานาญ +2.”

 

มีทั้งสําเร็จและล้มเหลว ขั้นตอนเหล่านี้ไม่แน่นอน,

 

ถั่วเทียนค่อนข้างกังวลอยู่ในใจ เพราะเวลา 7 วันนั้นสั้นเกินไป หากเขาสามารถปัดเป่าคู่ให้กับสองคนนี้ โอกาสที่เขาจะฆ่าหยินซางก็จะเพิ่มเล็กน้อย นั่นเป็นสาเหตุที่เขาพยายามช่วยพวกเขา

 

คนที่อยู่ในจุดสุดยอดของปราณวิญญาณ ขั้น 9 นั่นแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง

 

เขาต้องการความช่วยเหลือของสองคนนี้!

 

ตลอดหนึ่งวันหนึ่งคืนได้พ้นไป ลั่วเทียนก็ยังไม่หยุดการฝึกฝนแม้แต่น้อย

 

ในที่สุดเขาก็เพิ่มเลเวลของทักษะปัดเป่า เป็นเลเวล 3!

 

อัตราความสําเร็จอยู่ที่ 60% และเขาก็สามารถจัดการมันได้ 100% สําหรับคู่เลเวล 1!

 

เมื่อเขาเลเวลอัพ เขาก็รีบไปที่บ้านของชายชราคิ้วขาว

 

พอเขาเข้าไป ลั่วเทียนก็เห็นชายชรานอนอยู่ที่พื้นพร้อมกับเลือดเต็มพื้น ถัดจากเขา เป็นชายกํายําร่างใหญ่และมีค้อนคู่ที่กําลังทําหน้าเหี้ยมเกรียมพร้อมกับเสียงร้องที่โหยหวนของชายชรา.

 

หางตาของลัวเทียนกระตุกและจิตสังหารก็ก่อตัวในกาย องเขา จากนั้นเขาก็แค่นเสียงอย่างเย็นชา “เจ้าเข้ามารับความตายของเจ้าซะ!”

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset