เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 24 –วิกฤติ

ตอนเช้าในโถงหลักของตระกูลลั่ว.
ลั่วจินซานกำลังขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่ผู้อาวุโสสี่ลั่วคุนซานอย่างมึนงง.จากนั้นเขาก็ทำท่าทางเหมือนกับเป็นผู้นำตระกูลลั่วและกล่าวตำหนิออกมา “ผู้อาวุโสสี่ท่านทำความสะอานพื้นที่ล่าสัตว์อย่างไร?ท่านไม่ได้สังเกตหรือว่ามีสัตว์ปีศาจระดับ 4? ถ้าคุณไม่แม้แต่จะดูแลเรื่องเล็กๆนี้ได้ ข้ากลัวว่าท่านจะไม่อาจทำหน้าที่ในการเป็นผู้อาวุโสได้!”
ลั่วคุนซานรับผิดชอบเรื่องนี้และเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีสัตว์ปีศาจระดับ 4 ปรากฎขึ้นมาอย่างฉับพลัน
แต่…
นี่คือการจัดการของลั่วจินซาน เขาใช้โอกาสนี้เพื่อมาเยาะเย้ยเขาและลั่วคุนซานก็ไม่อาจจะเงยศรีษะขึ้นมาได้.นอกจากนี้ทั้งหมดอาจจะบอกได้ว่านี่คือความประมาทของเขา.
ลั่วเสียวซานหัวเราะเยาะและใช้โอกาสนี้ใส่ไฟ “พี่น้องคุนซานลำหรับกระทิงเดือดฟ้าคะนองตัวนี้เมื่อมันเข้ามาในพื้นที่ล่าสัตว์อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเสือที่เข้าไปอยู่ในฝูงแกะ.นำหรับความบกพร่องที่ใหญ่โตขนาดนี้พ่อแม่ของสาวกคงไม่ปล่อยให้เรื่อวนี้ผ่านไปง่ายๆ.ภาพรวมของตระกูลลั่วของเราที่เมืองภูเขาหยอกอ่อนแอเป็นอย่างมากดังนั้น ข้าคิดว่าท่านน่าจะลาออกจากการเป็นผู้อาวุโส.”
ตาของลั่วคุนซานหดลงและกล่าวออกมาเบาๆ “เมื่อข้าไปกวาดล้างพื้นที่ข้าไม่พบร่องรอยอะไรของกระทิงเดือดฟ้าคะนองตัวนี้.มันมีอุบัติเหตุมามายในเทือกวิญญาณท่านไม่ควรมาโทษข้าคนเดียว.”
ลั่สเสียวซานคำรามด้วยความโกรธอย่างเย็นชา“ถ้าเราไม่โทษท่าน เราควรจะตำหนิตัวเอง?ท่านจะไม่รับผิดชอบเรื่องนี้ในเวลานี้ ตอนนี้ท่านได้คิดถึงเรื่องนี้บ้างหรือไม่?”
“ถ้ามันเป็นความรับผิดชอบของข้าแน่นอนข้าจะแบกรับความรับผิดชอบนั้น.”
“แต่เรายังไม่ทราบว่าเป็นความผิดข้าหรือไม่ ดังนั้นไม่ควรโทษเพียงฝ่ายเดียว.ท่านต้องการให้ข้าออกจากตำแหน่งผู้อาวุโส? หยุดฝัน! ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะบังคับข้า.ลั่วจินซานอย่าลืมถึงตำแหน่งของเจ้า.เจ้าเป็นเพียงผู้รักษาการณ์ประมุขเท่านั้น เจ้าไม่มีอำนาจ.” ลั่วคุนซานกล่าวออกมาอย่างลืมตัว.
ด้วยคำ “รักษาการณ์” ทำให้ลั่วจินซานเปลี่ยนไปการมองของเขาเปลี่ยนไปโดยไม่ได้ตั้งใจ.
“เลิกเถียง.”
“ไม่มีใครอยากเห็นกระทิงเดือดฟ้าคะนองตัวนั้นเข้ามาในพื้นที่ล่าสัตว์.สิ่งแรกที่เราต้องทำคือปล่อยพื้นที่ล่าสัตว์ไปไม่งั้นมันจะสายไปมากกว่านี้.”
“คำพูดของอาวุโสสองพูดถูกต้องเราควรจะนำสาวกออกจากพื้นที่ล่าสัตว์.”
ดวงตาของลั่วจินซานเปลี่ยนไปเขาลุกขึ้นยืนและตะโกนด้วยท่าทางสง่างามว่า “การแข่งขันล่าสัตว์จะเป็นเกมกำจัดจุดอ่อน.โลกนี้มีเพียงความอยู่รอดเท่านั้นดังนั้นการเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้จะถือว่าเป็นการทดสอบที่ครอบคลุมมากที่สุดสำหรับพวกเขา.”
“เห็นได้ชัดว่าท่านไม่ได้เป็นห่วงลูกชายท่านที่อยู่พื้นซานระดับ 8 เขาสามารถที่จะหลบหนีออกมาได้ แต่สำหรับคนอื่นๆ?”
“จินซานท่านควรจะมองเห็นภาพรวม.พวกเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราและลูกชายคุณก็เหมือนกัน. จะเกิดอะไรขึ้นถ้า…”
“หืมม!” ลั่วจินซานฮ่มเสียงต่ำก่อนจะกล่าวว่า “อาวุโสสอง อาวุโสสาม ข้าก็กังวลเช่นกันตั้งแต่ที่ลูกชายข้าอยู่ที่นั่น.แต่ท่านไม่ควรลืมกฏของตระกูลลั่ว ภายในสามวันของการแข่งขันล่าสัตว์ไม่มีใครได้รับอนุญาติให้เข้าแทรงแซงสิ่งใด.แม้ว่าจะมีสัตว์ปีศาจระดับ 10 ก็ไม่สามารถแทรกแซงได้.ยกเว้นกระณีที่ท่านต้องการละเมิดกฏ…?!”
การละเมิดกฏของตระกูลถือเป็นเรื่องร้ายแรง.เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้วลั่วจินซานจะมีบางอย่างคุ้มหัวเขาดังนั้นจะมีใครกล้าแข่งขันกับเขาในตำแหน่งประมุข?
การปรากฎตัวของกระทิงเดือดฟ้าคะนองทำให้ลั่วจินซานหัวเราะกับตัวเอง กระทิงเป็นตัวเร่งที่ดีที่สุดสำหรับแผนของเขา.
ส่วนเรื่องของลั่วหลินเขาเชื่อว่าลูกชายของเขาจะก้าวไปสู่ระดับ 9 ด้วยการช่วยเหลือของหินหยวนและมีพลังมากพอที่จะปกป้องตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงลั่วหมิงที่อยู่ข้างกายเขาดังนั้นจึงไม่มีทางที่กระทิงเดือดฟ้าคะนองจะสามารถทำร้านลั่วหลินได้เลย.
สำหรับลูกชายของอาวุโสสองและสาม พวกเขา…
“555… สำหรับคนที่ต้องการเป็นใหญ่ไม่ควรจะเอาใจใส่กับปลาซิวปลาสร้อยได้.ลั่วเทียนต้องตาย.ลูกชายของอาวุโสสองและสามต้องตาย.มาดูกันว่าใครยังต้องการจะต่อสู้กับข้า… 555.”ลั่วจินซานหัวเราะในใจของเขาก่อนที่จะพูดกับตัวเองว่า “แม้แต่สวรค์ยังเป็นใจให้ข้า!”
ตอนนี้ตระกูลลั่วได้เน่าไปถึงกระดูก!
—————-
“อะไร? พวกเขาตายแล้ว?”
“พวกขยะสองตัวนั่น พวกมันไม่แม้แต่จะทำสำเร็จ!” ลั่วหลินพูดด้วยความรังเกียจเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจการตายของลั่วฉิงและวังชาง.
หลังจากนั้นไม่นานลั่วหลินก็กล่าวว่า “ไอ้เศษขยะถังเทียน เจ้าทั้งสองเจอตัวหรือไม่?”
สาวกจระกูลลั่วกล่าวว่า “ตอบนายน้อย เราพบเขาแล้ว.เขาอยู่กลางเขาทางทิศใต้ห่างออกไป 40 กม.จากที่นี่. นอกจากนี้…”
ลั่วหลินพูดเบาๆ “นอกจากนี้อะไร?”
สาวกตระกูลลั่วกล่าวต่อ “หญิงหลี่ซูเอ๋อร์อยู่กับเขาด้วย.”
“กับใคร?”ตาของลั่วหลินเปลี่ยนไปขณะที่ตะโกน.
“ด้วยกันกับลั่วเทียน…”
“บัดซบ!”
“แกไอ้ขยะบัดซบ, เจ้ากล้าที่จะอยู่เบื้องหน้าของผู้หญิงบดาคนนี้? วันนี้ข้าจะไม่ล่าสัตว์ปีศาจอีกต่อไป ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน!”ตาของลั่วหลินเริ่มมีประกายของการฆ่า.
“พ่อหนุ่ม มีสัตว์ปีศาจที่มีพลังมากอยู่ทางใต้ เรา…”
“ผัวะ!”
ลั่วหลินตบไปที่สาวกคนนั้นและก็เตะเขาอีกรอบก่อนจะสถบด่าออกมา“คิดว่าข้ากลัวงั่นรึไอ้สารเลว!”
เมื่อรู้ว่าหลี่ซูเอ๋อร์อยู่กับลั่วเทียนความโกรธของเขาก็ประทถออกมาอย่างที่ไม่เคยปรากฏออกมาก่อน.เมื่อคิดถึงตอนที่พวกเขาอยู่หลังภูเขาทั้งสองมีความรู้สึกดีต่อกันและเขาก็เริ่มสาปแช่งออกมาในใจว่า“แกอีตัวที่ระริกระรี้ มาดูกันว่าบิดาจะจัดการเจ้าอย่างไร!”
หลังจากที่ล่าสัตว์ในช่วงบ่ายและยังต่ออีกตอนดึกที่ผ่านมา ป้ายมิติของเขาเต็มไปด้วยหัวของสัตว์ปีศาจนับร้อยหัว มีคนจำนวนมากฆ่าสัตว์ปีศาจเหล่านั้นในตอนนี้ ดังนั้นอันดับแรกในการล่าสัตว์ต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน
นอกจากนี้…
ในขณะที่เกิดการต่อสู้เมื่อวานนี้เขาได้ทะลวงความก้าวหน้าและอยู่ในระดับที่ 9 ของขั้นพื้นฐาน.นี่หมายความว่าเขาได้บรรลุเป้าหมายครึ่งนึงของการเข้าร่วมแข่งขันล่าสัตว์แล้ว.
อีกหนึ่งเป้าหมายของเขาคือการกำจัดลั่วเทียนและผลักดันหลี่ซูเอ๋อร์ลงกำพื้นเพื่อที่จะไปอยู่ด้านบนของเธอ!
คิดถึงรูปร่างที่ยั่วยวนของหลี่ซูเอ๋อร์ ลั่วหลินไม่สามารถที่จะกลืนน้ำลายได้.ริมฝีปากของเขาโค้งงอเป็นรอยยิ้มที่ชั่วร้ายและพูดกับตัวเองว่า “บิดาคนนี้จะทำให้เจ้ามีความสุขในวันนี้เอง!”
ทันทีหลังจาก…
ลั่วหลินตะโกนด้วยเสียงที่ต่ำ“แกเจ้าสุนัขลั่วเทียน คอยดูว่าบิดาจะคอยดูว่าเจ้าจะตายอย่างไร!”
“ไปได้!”
สาวกตระกูลลั่วทั้งแปดที่อยู่เบื้องหลังลั่วหลินก่อนที่จะวิ่งไปทางทิศใต้อย่างรวดเร็ว.
ไม่ห่างไกลเท่าไรจากกลุ่ม ลั่วหมิงกำลังติดตามพวกเขาผ่านป่ามืดสงัดในขณะที่ให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมอย่างรอบคอบ
—————
“ครึ่กกกๆๆ…”
“ครึ่กกกๆๆ…”
เสียงที่ดังก้องไปถึงสวรรค์ขณะที่สัตว์ปีศาจวิ่งกระจายไปยังทิศทางต่างๆกลุ่มของลั่วเทียนรักษาระยะห่างจากกระทิงเดืิอดในขณะที่ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้
สัตว์ปีศาจที่อยู่ในระดับ 1 ไม่สามารถช่วยได้เมื่ออยู่ต่อหน้าระดับที่ 4 พวกมันจึงวิ่งหนีโดยไม่คิดชีวิต.
สิ่งนี้ทำให้ลั่วเทียนเห็นโอกาสในการล่าสัตว์ เขาไม่จำเป็นต้องค้นหาสัตว์ปีศาจทั้งหมดเพราะเขาจะวิ่งตรงเข้าไปหาขณะที่มันพยายามหลบหนี สัตว์ปีศาจเหล่านี้ไม่มีทางสู้ มันเหมือนกับว่าพวกมันเป็นปลาที่กระโดดขึ้นมาบนฝั่ง
“ติ๊ง!”
“ขอแสดงความยินดีผู้เล่นลั่วเทียนได้ประสบความสำเร็จในการฆ่าหมูหนังโลหะ. คุณจะได้รับค่าประสบการณ์ 200 และพลังปราณ 20 แต้ม…”
“พี่ใหญ่ลั่วเทียนมีที่นี่อีกจัดการมัน!”
หลี่ซูเอ๋อร์แกว่งดาบของเธอแลละปัดป้องสัตว์ปีศาจที่อยู่บนอากาศให้ตกลงมาเบื้อหน้าลั่วเทียน แล้วตามด้วยการทุบหมัดของเขาลง “Break!”
สัตว์ปีศาจตายและเสียงจากระบบแจ้งเตือน
“พี่ใหญ่ลั่วเทียน จัดการ…”
“จัดการ…”
“จัดการ…”
หลี่ซูเอ๋อร์ยังส่งสัตว์ปีศาจไปให้ลั่วเทียนอย่างต่อเนื่อง.เขายุ่งยากเป็นอย่างมากแต่เขาก็มีความสุจขไปในเวลาเดียวกัน.แถบประสบการณ์สามารถที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า.หลังจากการฆ่ากันมากกว่า 2 ชั่วโมงเหลือเพียงอีกประมาณ 10% ก็จะไปถึงขั้นพื้นฐานระดับ 7.
มันเป็นอะไรที่โคตะระเร็วมาก
เขากำลังเลเวลอัพภายในไม่ถึง 2 ชั่วโมง
ลั่วเทียนโยนสัตว์ปีศาจที่เขาฆ่าไปยังฟางเล่ยที่ตอนนี้ชุ่มไปด้วยเลือด. “เจ้าอ้วนเล่ย เจ้าเร็วกว่านี้ได้ไหม? อย่าปล่อยให้สัตว์ปีศาจต่างๆสูญเปล่านัก.”
ฟางเล่ยที่กำลังดูดแก่นโลหิตของสัตว์ปีศาจและมีแสงสีแดงจากขึ้นบนหัวที่ล้านเลี่ยนของเขา.ที่ด้านหลังมีเส้นเลือดสีดำที่วาววับก่อนที่จะหายไป.
ฟางเล่ยไม่รู้สึกเห็นถึงความผิดปกติอะไรก่อนที่เขาจะเกาหัว “ชายคนนี้เข้าใจแล้ว!”
“ครึ่กๆๆ…”
มีเสียงฝีเท้าหนักๆให้ได้ยินอีกรอบ ตาของลั่วเทียนหดเกร็งและตะโกน “ใส่ใจกับระยะห่างของคุณอย่าให้มันมาใกล้เรา.”
“ข้ารู้.” หลี่ซูเอ๋อร์ยิ้มในหัวใจขณะที่เธอพูดกับตัวเอง“พี่ใหญ่ลั่วเทียนกังวลเกี่ยวกับข้า พี่ใหญ่ลั่วเทียนเป็นห่วงข้า ฮี่ๆ…”
ลั่วเทียนมองเห็นรอยยิ้มบางๆของหลี่ซูเอ๋อร์ก่อนจะคิดในใจ “หญิงสาวคนนี้กำลังคิดอะไร? ข้าเพียงแค่บอกให้ระวังทำไมต้องมีความสุขด้วย?”
“แต่เด็กหญิงคนนี้น่าสนใจมากจริงๆขณะที่เธอยิ้ม!”
ในพื้นที่ลับๆ…
ลั่วหลินขบฟันแน่นเมื่อเขาเห็นฉากนี้ เขาโบกมือขวาและยิ้มอย่างเย็นชา “ทำการเคลื่อนไหว!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset