เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 29 – ลั่วหลิน

ลั่วหมิงและโจวเฮิรหร่านถูกฆ่าจากการต่อยของลั่วเทียน นี่เป็นตอนจบที่ไม่มีใครคาดคิด.
นี่มันผู้เชี่ยวชาญขั้นก่อตั้งห่าเหวอะไร? พวกเขาทำให้บรรพบุรุษขายหน้า!
หรือว่าลั่วเทียนแข็งแกร่ง?
เมื่อเทียบกับระดับบ่มเพาะแล้วลั่วเทียนไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ตรงข้ามได้ มีผลเพียงอย่างเดียวคือเขาถูกทรมาณจนตาย แต่เขาก็สามารถคว้าโอกาสที่เหมาะสมได้.
โจวเฮินหร่านตายเพราะความประมาทของตัวเอง.
เขาไม่คิดว่าลั่วเทียนจะแอบลอบโจมตีเขา.
ดังนั้นเขาจึงตายอย่างสยดสยอง หัวของเขาถูกทุบเหมือนกับเนื้อบด.
ลั่วหมิงตายเพราะประเมิณศัตรูต่ำเกินไป.
การโจมตีของกระทิงทำให้เขาไม่สามารถป้องกันตัวได้ ขณะที่เขาบินออกจากแรงกระแทกลั่วเทียนก็เปลี่ยนตำแหน่งอย่างฉับพลันและทำลายการป้องกันและจังหวะของเขาก่อนที่จะโดนการโจมตีสุ่มๆอย่างต่อเนื่อง หมัดของเขามีพลังทำลายมากและหลังจากนั้น….ไม่มีอะไรหลังจากนั้น.
มีคำโบราณว่า การโจมตีสุ่มๆอาจจะฆ่าอาวุโสแก่ๆได้!
ทั้งสองตายคาที่ หากลั่วเทียนถูกบังคับให้เข้าปะทะกันด้านบน แน่นอนว่าเขาไม่สามารถต่อสู้ได้.
เมื่อผู้เชี่ยวชาญขั้นก่อตั้งทั้งสองตาย ลั่วหลินตกใจมาก เมื่อเห็นว่าโจวเฮินหร่านและลั่วหมิงตาย เขากลัวมากจนกระทั้งฉี่ใส่กางเกงของเขา บริเวณเป้ากางเกงของลั่วหลินเปียกแลฃะริมฝีปากของเขาซีดและตัวสั่น ความกลัวอยู่ในสายตาของเขาและเขาก็ไม่ได้มีท่าทางที่เย่อหยิ่งอีก.
มีสาวกตระกูลลั่วเป็นจำนวนมากที่อยู่ในบริเวณนี้และขาของพวกเขาก็สั่นด้วยความหวาดกลัวขณะที่บางคนตกใจหนีไป.
ลั่วเทียนขี้เกียจวิ่งไล่ตามพวกเขา.
เขาไม่อยากฆ่าล้างบางผู้คน พวกเขายังเป็นสาวกและลูกศิษย์ตระกูลลั่วและไม่อยากเป็นคนไร้ความปราณี.
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเป้าหมายของเขา–ลั่วหลิน!
“อย่าวิ่ง อย่าวิ่ง ทำไมพวกเขาถึงวิ่งออกไป?”
“กลับมาลั่วเซิ่น! เจ้าไม่อยากเป็นศิษย์หลัก? ทำไมทุกคนถึงวิ่งกัน…?!”
ลั่วหลินตะโกนออกมาดังๆแต่ไม่มีใครสนใจคำสั่งของเขา.
หัวใจของลั่วหลินหนาวเหน็บหลังจากเห็นฉากเหล่านี้และสถบออกมาดังๆว่า “เจ้าพวกสุนัขทั้งหลาย จำไว้เมื่อบิดาคนนี้กลับไปที่บ้าน ตระกูลลั่วจะดูแลพวกเขาอย่างดี!”
สาวกที่หลบหนีออกไปมีการแสดงออกที่มืดมน.
พ่อของลั่วหลินคือผู้รักษาการณ์ประมุขหากว่าเขากลับไปได้ พวกเขาจะไม่มีวันที่ดีในอนาคตอีกต่อไป.
ขณะเดียวกันสาวกหลายคนก็หยุดหนี.
ลั่วเทียนเยาะเย้ยเสียงต่ำ “ถ้าลั่วหลินไม่ตายพวกเจ้าทุกคนก็จะถูกเล่นงานเมื่อทุกคนกลับไป แต่ถ้าเขาตาย?”
“เทือกเขาวิญญาณเป็นสถานที่ๆสัตว์ปีศาจเดินขบวนอย่างอิสระ มีโอกาสที่ทุกคนตายด้วยมือของสัตว์ประหลาดเหล่านี้…พวกเจ้าไม่เห็นหรอ?”
ขณะที่พูดลั่วเทียนก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา.
เมื่อผู้คนได้ยินเสียงเหล่านี้ดูเหมือนพวกเขาจะรู้แจ้งและจ้องไปที่ลั่วหลิน.
จิตใจของลั่วหลินสั่นและเขาพูดขึ้นทันทีว่า “พ่อของข้าคือประมุขตระกูลลั่ว ตาาบเท่าที่พวกเจ้าฆ่าลั่วเทียนเพื่อข้า ไม่เพียงแต่พวกเขาจะกลายเป็นศิษย์หลักตระกูลลั่วทุกคนจะได้รับการตอบแทนตามความชอบของพวกเขา ทุกคนจะได้รับประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่และอาจจะเป็นอาวุโสในตระกูลลั่ว.”
ผูงชนลังเลและไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร.
ลั่วเทียนยิ้มและควบคุมกระทิงด้วยความคิดของเขา กระทิงเริ่มคำรามในอากาศและทำให้ทุกคนสะดุ้ง “พวกเจ้าทุกคนคิดสิว่าการฆ่าข้าง่ายกว่าหรือฆ่าเขาง่ายกว่า?”
“สิ่งที่นายน้อยลั่วเทียนกล่าวถูกต้อง เมื่อลั่วหลินกลับไปที่ตระกูลพวกเขาทุกคนคงจบไม่สวย.”
“ตามข้ามาเหล่าพี่น้องทั้งหลายลั่วหลินไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้.”
“ฆ่าเขา!”
“ฆ่าเขา!”
ฟ้าคะนองคำรามนับหมื่นของกระทิงมีประสิทธิภาพมากเกินกว่าจะเป็นฝ่ายตรงข้าม พวกเขากลัวเกินกว่าที่จะรู้ว่าตัวเองจะตายอย่างไร?
ตอนนี้การฆ่าลั่วหลินนั้นง่ายนิดเดียว.
ฝูงชนเริ่มล้อมกรอบลั่วหลินและจ้องมองเขาด้วยเจตนาฆ่า สถานการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพียงแต่เป้าหมายคราวนี้คือลั่วหลิน.
ลั่วเทียนยิ้มเยาะอย่างเย็นชาไปที่ลั่วหลิน “แกอยากจะเล่นกับข้าหรอ? เจ้ายังเด็กเกินไป!”
ขณะที่จับตัวซูเอ๋อร์อยู่ลั่วหลินได้ถอยหลังออกไปช้าๆ เมื่อเห็นทุกคนในตระกูลลั่วล้อมวงเข้ามาใกล้เขา เขาไม่สามารถทำอะไรได้ได้แต่สาปแช่งว่า “ลั่วเทียนเจ้าเศษขยะ! เจ้าเป็นบุรุษประเภทไหนกันถึงต้องใช้คนมากขนาดนี้เพื่อจัดการข้า!? เจ้ากล้าที่จะต่อสู้กับบิดาคนนี้หรือไม่!”
ลั่วเทียนหัวเราะอย่าน่ารังเกียจ “ข้าไม่เคยบอกว่าข้าเป็นวีรบุรุษ… สักอย่าง? สมองเจ้ากลายเป็นอึไปแล้ว?”
“5555…”
“น้องสาวซูเอ๋อร์เห็นหรือไม่? นั่นคือคนที่เจ้าเรียกว่าพี่ใหญ่ลั่วเทียน ซึ่งเป็นเศษขยะขี้ขลาด.”ลั่วหลินหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขณะสาปแช่งออกมา.
ด้วยการปรายตาสั้นลั่วหลินผลักเธอออกไปข้างหน้าและบีบเข้ากับคอของเธอ “ลั่วเทียนบอกพวกเขาว่าอย่าขยับหรือจะให้ข้าหักคอของเธอ!”
ซูเอ๋อร์เป็นไพ่ใบสุดท้ายของเขา.
ความแข็งแรงของเขามีมากเกินไปทำให้ใบหน้าของซูเอ๋อเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เธอก็ยังตะโกนออกมาว่า “พี่ใหญ่ลั่วเทียนอย่าให้ข้าเป็นช่องว่างในการปล่อยเขา ไม่ว่าทางใดก็อย่าให้เขากลับไปที่ตระกูลลั่วเด็ดขาด…”
“หุบปากนังแพศยา!” ลั่วหลินตะโกนกดดัน.
ตาของลั่วเทียนลึกลงไป เขาไม่ได้ทำอะไรกับลั่วหลินเพราะกลัวว่าเขาจะทำร้ายหลี่ซูเอ๋อร์อย่างไม่คาดคิด ตอนนี้เขามองไปที่หน้าของเธอทำให้หัวใจของเขาอึดอัดอย่างมาก เมื่อใบหน้าเขากลับมาอย่างสงบแล้วเขาก็ถามว่า “เจ้าต้องการออะไรลั่วหลิน?”
“ก่อนอื่นให้พวกเขาถอยออกไป!” ลั่วหลินตะโกนออกมา.
ลั่วเทียนถอนหายใจก่อนที่จะพูดเบาๆว่า “พี่น้องตระกูลลั่วถอยออกไปสักหน่อยได้หรือไม่ตอนนี้?”
“เราไม่สามารถถอยออกไปได้เพราะเขาไม่สามารถกลับไปยังเมืองภูเขาหยกได้.”
“ถูกต้อง เราไม่สามารถปล่อยให้เขากลับไปได้เมื่อเขากลับไปนั่นหมายถึงจุดจบของพวกเรา.”
“ไม่ว่าพวกเราจะตายหรือไม่ ทุกคนต่างโจมตีไปที่เขา ไม่ว่าลั่วหลินจะแข็งแกร่งขนาดไหนเขาก็ไม่สามารถป้องกันพวกเราได้.”
“พูดได้เยี่ยม!”
ไม่มีใครถอยหลังขณะที่พวกเขายังเดินหน้าต่อไปด้วยท่าทางน่ากลัว.
สิ่งเหล่านี้เมื่อได้รับการเปิดเผยออกมาแล้วจึงไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยให้ลั่วหลินกลับไปที่ครอบครัวแบบมีชีวิตอยู่ เมื่อพวกเขากลับไปที่ตระกูลลั่วแล้วเส้นทางที่เหลือของพวกเขาคือความตาย.
ลั่วหลินตระหนกมากขึ้นและตะโกน“ลั่วเทียน ถ้าพวกเขายังไม่หลบไปอย่าหาว่าพวกเขาไม่ปราณี!”
“สารเลว!”
ลั่วเทียนไม่มีความสุขสักนิด มันเป็นความรู้สึกที่ถูกควบคุมโดยสมบูรณ์กับได้ตุ๊ดคนนี้. กระทิงยังกระทืบพื้นด้วยเสียงอันดังก้อง“ครึ่นน” ลั่วเทียนกล่าวขึ้นมาและตะโกนว่า “ลั่วหลินข้าขอแนะนำว่าอย่าได้เคลื่อนไหวไม่อย่างนั้นเจ้าจะตายอย่างสังเวช!”
“5555…”
“ลั่วเทียนข้ารู้สึกว่าจะเป็นห่วงเป็นใยเธอมาก.” ลั่วหลินพูดอย่างตื่นเต้น “ตอนนี้ข้าขอสั่งให้เจ้าฆ่าสาวกที่ทรยศเหล่านี้ให้หมด ไม่อาจมีใครรอดได้!”
“ถ้าไม่ฆ่าพวกเขาข้าจะฆ่าเธอ! 555…”
“บัดซบ!”
เปลวไฟแฝดเผาในใจของลั่วเทียนอย่างรุนแรง เขาไม่อาจปราณีได้อีกต่อไป เขากำหมัดแน่นและจับขากรรไกรของเขาขณะที่มองหน้าแดงๆของซูเอ๋อร์.
เขาไม่มั่นใจ!
ด้วยความแข็งแกร่งพื้นฐานระดับ 7 และเบอร์เซิร์ก ไม่มีทางไหนที่ลั่วหลินจะรอดไปจากความตายได้
นอกจากนี้ลั่วหลินยังให้ซูเอ๋อร์เป็นโล่เบื้องหน้าเขา ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันกับซูเอ๋อร์มันคงจะเป็นสิ่งที่เขาจะเสียใจที่สุดในชีวิต.
ถ้าเขาเร็วกว่านี้อีกครึ่งวินาทีเท่านั้น…แค่ครึ่งวินาทีเขาสามารถจัดการลั่วหลินให้ไร้ที่ฝังศพได้.
ความแข็งแกร่ง!
ทุกอย่างขึ้นกับความแข็งแกร่งบัดซบนี้! เขายังอ่อนแออย่างมากและไม่แม้แต่จะปกป้องผู้หญิงของเขาได้?
ลั่วเทียนกำลังโกรธมากจากภายใน เขากำลังโกรธอย่างสิ้นเชิงและตระหนกเมื่อได้เห็นใบหน้าที่หยิ่งพยองของเขา.
ขณะเดียวกัน…
ฟางเล่ยที่นอนตลอดเวลาก็ลุกขึ้นมายืนได้ ร่างกายของเขามีประกายสีแดงที่เต็มไปด้วยกลิ่นเลือด สายตาของเขาตอนนี้กลายเป็นสีแดงและดูเหมือนกับสัตว์ร้ายโบราณที่ปรากฎอยู่บนหัวที่ล้านเลี่ยนของเขาสัตว์ร้ายที่มีค้อนอยู่ในมือข้างหนึ่งและมีเล็บที่ใหญ่ยักษ์ในมืออีกข้าง.
ปัจจุบันปางเล่ยดูน่ากลัวมากสำหรับคนอื่นๆ.
ตอนนี้เขาดูเหมือนกับคนที่คลานออกมาจากบ้อเลือด แม้กระทั่งกระทิงก็ลดตัวลงและเริ่มสั่นด้วยความหวาดกลัว.
ฝูงชนตกใจมากยิ่งขึ้นขณะที่ขาของเขาเริ่มสั่นด้วยความหวาดกลัว.
“เจ้านาย…”
ฟางเล่ยตระโกนขึ้นมาในอากาศและมีแสงไฟกระพริบออกมา มือของเขาเริ่มที่จะเคลื่อนไหวแปลกๆก่อนที่มันจะดูเหมือนกับว่าเขากำลังจากเหวี่ยงค้อนสักอย่างที่หนักอย่างมาก!
“ครึ่นๆๆๆ…”
ฟ้าแลบที่ไม่อาจรู้ว่าเกิดได้อย่างไร.
“ปัง!”
หลังจากเสียงที่ดังนั้นลั่วหลินถอยไปข้างหลัง ศรีษะของเขาสั่นไหวก่อนที่จะเป็นลม.
ในเวลาเดียวกัน…
ลั่วเทียนคำรามออก “Berserk!”
“หืม…”
ร่างกายของเขาพุ่งออกไปและเมื่อเขาพุ่งไปหาลั่วหลิน หมัดคู่ของเขาก็ถูกปล่อยออกมา “พยัคฆ์สายฟ้าจู่โจม!”
หมัดคู่ของเขาเหมือนกับปืนใหญ่.
ลั่วหลินพุ่งขึ้นไปในอากาศก่อนที่จะชนต้นไม้และมีเสียงดัง “ปัง” มีรอยยุบอยู่ที่หน้าอกของเขาขนาดใหญ่คล้ายบ่อเลือด แขนของเขาบิดหักและหายใจสองสามครั้งก่อนที่เขาจะตาย.
เสียงเตือนอันหอมหวานดังขึ้นในใจของลั่วเทียน
ลั่วเทียนตื่นเต้นมากขณะที่เขาพูดกับตัวเอง “ระเบิด!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset