เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 46 – เหมือนคนบ้า เหมือนปีศาจ

กลางดึกที่มีอากาศเย็นเล็กน้อย
ยืนอยู่เบื้องหน้าของเทือกเขาวิญญาณ ลั่วเทียนรู้สึกเล็กมากเมื่อเทียบกับมัน
เขาโกรธอย่างมากกับสิ่งที่เกิดในคืนนี้
เขาไม่คิดว่าลั่วจินซานจะไร้ยางอายขนาดที่คุมตัวซูเอ๋อร์และฟางเล่ย สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนใกล้ชิดของเขา
เขาพูดกับตัวเองว่า เจ้าสามารถยุ่งกับข้าได้แต่ไม่สามารถยุ่งกับคนรอบข้างได้.
ถ้าเจ้ากล้าที่จะยุ่งวุ่นวายกับเพือนและครอบครัวของข้า ข้าจะไม่สนใจทุกอย่างและจัดการรุ่น18ปี!
มนุษย์ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธ!
เปลวไฟแห่งความโกรธนี้เกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ที่ลั่วเทียนมาโลกนี้ เปลวไฟแผ่ซ่านไปยังอัวยวะทั้ง 5 และไม่นานก็ไหลขึ้นไปยังความคิดของเขา.
ในเวลานี่ ฮี่ๆ…
ลั่วเทียนสงบลงหลังจากสูดลมหายใจลึกๆ 3 ครั้ง จากนั้นเขาก็มองไปที่ภูเขาหยกและพูดด้วยเสียงต่ำ “เพียงแค่รอข้า!”
คำ4คำที่เต็มไปด้วยความหมายที่แตกต่างกัน!
หลังจากนั้นลั่วเทียนก็เดินเข้าไปยังเทือกเขาวิญญาณ การปรากฎตัวของเขาทำให้นกและแมลงร้ายแตดกตื่นทำให้บรรยากาศรอบๆเต็มไปด้วยความอลม่าน
งานเลี้ยงฉลองแห่งการล่าได้เริ่มขึ้น!
ความตั้งใจเดิมของเขาในการฝึกฝนในเทือกเขาวิญญาณคือเพื่อที่จะไปต่อสู้กับสัตว์ปีศาจระดับ 4 แต่ ตอนนี้แตกต่างออกไป…
นอกเหนือจากฆ่าสัตว์ปีศาจระดับ 4 แล้วยังต้องลามไปถึงลาสบอสอีกด้วย.
เขาไม่ต้องการที่จะเสียเวลาอีกต่อไปแล้ว.
ลาสบอสตัวนี้ต้องถูกกำจัดไม่งั้นครั้งต่อไปคงไม่ใช่แค่การจับตัวประกันแน่นอน.
ลั่วเทียนไม่ได้เป็นคนที่จะปล่อยให้อันตรายมาเกิดกับคนใกล้ชิดเขา ถ้าเขารู้เขาจะต้องกำจัดมันออก!
คืนนั้นมืดเหมือนกับหมึกที่แต้มผืนผ้าใบ.
บางคนที่อยู่ในระดับ9ปราณพื้นฐานไม่อาจแม้จะมองเห็นข้างหน้าได้หลายเมตร การที่จะสัตว์ปีศาจภายในเงื่อนไขนี้เป็นไปได้ยากมาก.
ครึ่งชั่วโมงต่อมา…
ลั่วเทียนได้ฆ่าสัตว์ปีศาจระดับ 1 ไปได้ไม่กี่ตัวตามการเดินทางาของเขา “ นี่มัน ถ้าข้าไม่สามารถฆ่าสัตว์ปีศาจได้ ต่อไปคงต้องฆ่าอากาศแทนแล้วมั้ง?”
หลังจากคิดมาพักนึง…
คิ้วของลั่วเทียนก็ขมวดขึงขณะที่เขาตะโกน ร่างกายของเขาปล่อยกลิ่นอายที่ไม่อาจควบคุมถึงความยโสอย่ามากที่ระเบิดกลางอากาศและส่งออกไปรอบๆป่า.
ขณะนี้กลิ่นอายที่หนาวเย็นและดวงตาสีเขียวกว่าสิบคู่ก็จ้องเขาในเวลาไม่กี่วินาที.
สัตว์ปีศาจก็เหมือนกับมนุษย์ที่ไม่ชอบการถูกกระตุ้น.
กลิ่นอายของลั่วเทียนทำให้ความโกรธของพวกมันพุ่งขึ้น พวกมันเดินเข้ามาหาเขาและเมื่อพวกมันตระหนักได้ว่าตรงหน้าเป็นมนุษย์แววตาของพวกมันก็เปลี่ยนไปราวกับหิวโหยเป็นเวลานาน
น้ำลายเริ่มไหลออกมาจากปากของหนึ่งในนั้น มันครางต่ำราวกับเตือนตัวรอบๆว่าลั่วเทียนเป็นเหยื่อของมัน.
พริบตา…
สัตว์ปีศาจระดับ 2 หมาป่าโลหิตเพลิงเริ่มหอนขึ้น
ริมฝีปากของลั่วเทียนเยาะเย้ยและตะโกนออกมา “ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม!”
ลั่วเทียนยิ้มน้อยๆก่อนที่จะเอาป้ายมิติออกมา “ถึงเวลาแล้วที่จะทดสอบหุ่นเหล็กเหล่านั้น.”
“ข้าเลือกบับเบิ้ลบี!”
“แคร๊ก สวีซซซซ…”
เสียงของโลหะที่เสียดสีกันจนแสบหู สัตว์ปีศาจที่มองหุ่นเหล็กที่สูงกว่า4เมตรและมีแต่สีดำทำให้ดูน่ากลัวอย่างมาก ลั่วเทียนส่งความคิดและตาของบับเบิ้ลบีก็ส่องแสงก่อนที่จะมาอยู่เบื้องหน้าของเขา บับเบิ้ลบีมองไปยังหมาป่าโลหิตเพลิงขณะที่มันกระโจนขึ้นไป มันมองหมาป่าด้วยท่าทางที่ดูถูกอย่างมาก.
แขนขวายกขึ้นและตบอย่างหนักหน่วงออกไป.
“แผละ!”
หมาป่าโลหิตเพลิงถูกทุกกลางอากาศ ร่างกายของมันจมลงไปในดิน ขาทั้ง4ของมันกางออกหัวและหางของมันก็แบนราวกับโดนทับ.
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่นลั่วเทียนได้ฆ่าหมาป่าโลหิตเพลิง.คุณจะได้รับค่าประสบการณ์ 350 แต้มและปราณ 35 แต้ม…”
“โอพระเจ้า ฆ่าทันที!”
ลั่วเทียนตกใจอย่างมาก เขาเงยหน้ามองบับเบิ้ลบีด้วยความรู้สึกยากบรรยาย เขารู้อยู่แล้วว่าหุ่นเลเวล3ทรงพลังมาก แต่เขาไม่คิดว่ามันจะสุดยอดอย่างนี้ สัตว์ปีศาจระดับ 2 ตายจากการตบและดูเหมือนกับว่ามันตายอย่างง่ายดายราวกับแมลงวัน นี่…
“เจ๋งเป้ง!”
นี่คือคำอธิบายเดียวของความรู้สึกหลั่วเทียน
“แข็งแกร่ง แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!” ลั่วเทียนเกือบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี ความแข็งแกร่งของหุ่นเลเวล 3 เกินกว่าเขาเขาคาดมากนัก.
การฝึกฝนของเขา…
ลั่วเทียนรู้สึกตื่นเต้น
“ลั่วจินซานไอ้จิ้งจอกเฒ่าสารเลว เจ้าเพียงแค่รอบิดาเท่านั้น!”
“แน่นอนว่าข้าจะให้เจ้าระเบิดของออกมา!”
ลั่วเทียนแสดงรอยยิ้มที่น่ากลัว
ไม่นานหลังจากนั้น…
ลั่วเทียนดึงหมาป่าโลหิตเพลิงที่ติดอยู่ที่พื้นออกมาและกรีดลำคอให้เลือดของมันชโลมตัวเอง มีสัตว์ปีศาจมากมายในเทือกเขาวิญญาณดั่งดาวบนท้องฟ้าและกลิ่นเลือดนี้จะดึงดูดสัตว์ประหลาดอื่นๆออกมา ให้พวกมันสนใจกว่ากลิ่นอายของตัวลั่วเทียนอีก.
กลิ่นที่เปื้อนเลือดไหลออกมาในอากาศโดยรอบและเสียงคำรามที่สั่นไหวหัวใจก็แผ่ซ่านทั้งใกล้ไกลทำให้ป่าถึงกับสั่นสะเทือน
สิ่งมีชีวิตทุกตัวในบริเวณรอบๆเริ่มที่จะโกลาหล.
บรรดาสัตว์ร้ายที่หิวกระหายที่อยู่ใกล้ๆไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและรีบวิ่งไปราวกับพวกมันพยายามที่จะฉกฉวยทุกอย่างที่พวกเขาจะทำได้!
ลั่วเทียนมีรอยยิ้มที่โหดร้ายบนใบหน้าของเขาเมื่อสัตว์ปีศาจวิ่งมาหาเขา เพื่อประหยัดเวลาเขาดึงป้ายมิติออกมาอีกตัวและตะโกนว่า “ออฟติมัสไพมร์ จงออกมา!”
“บูม!”
มอนเตอร์เหล็กขนาดใหญ่ที่เหมือนกับลงมาจากสวรรค์และเหยียบเข้าไปที่สัตว์ปีศาจ จากนั้นมันก็เหมือนกริมริปเปอร์เหล็กที่หั่นพวกสัตว์เป็นชิ้นๆ.
ในเวลาเดียวกัน…
นอกเหนือจากที่เขาควบคุมหุ่นเชิดทั้งสองด้วยความคิดแล้วเขายังดึงดาบเมฆครามที่ได้มาจากโจวเฮิ่นหร่านและเริ่มเข้าร่วมฆ่าด้วย
ตอนนี้เวลาเป็นสิ่งมีค่าสำหรับเขา.
ลั่วเทียนไม่ต้องการเสียเวลาแม้แต่น้อย เขากำลังคิดถึงคำพูดที่น่ารังเกียจของลั่วจินซาน เขากำลังคิดถึงคำหยาบคายที่ออกมาจากปากของลั่วเซียวซาน เจากำลังคิดถึงกลุ่มคนที่ทำตามคำสั่งของลั่วจินซาน เขากำลังคิดถึงซูเอ๋อร์ที่ถูกจับกุมเพราะเขา เขากำลังคิดถึงฟางเล่ยที่กำลังถูกแกล้ง และเขาก็คิดว่าทุกคนในเมืองภูเขาหยกที่กำลังรอคอยฟังเรื่องของเขาเหมือนกับเป็นเรื่องตลก เปลวไฟที่แผดเผาหัวใจด้วยอารมณ์ต่างๆ ยิ่งคิดมันยิ่งร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฆ่า!!!”
ดาบที่โจมตีออกมาอย่างเต็มกำลังโดยไม่คิดที่จะต้องมีการป้องกันแม้แต่น้อย การออกดาบครั้งนี้เหมือนกับว่าเขาไม่สนใจชีวิตของตัวเอง!
การโจมตีด้วยดาบเพียงครั้งเดียวฟันเข้าไปในกระโหลกของสัตว์ปีศาจ
ระบบที่แจ้งเตือนด้วยเสียงที่หอมหวนก็ดังขึ้น
ลั่วเทียนดึงดาบออก ร่างกายของเขากลายเป็นเงาก่อนที่เขาจะจ้วงแทงอีกครั้งด้วยความแรงทั้งหมดของเขา.
“พุชิ!”
“ติ๊ง!”
“ติ๊ง!”
“ดิ๊ง!”
มีการแจ้งเตือนที่ต่อเนื่องจากระบบที่อาจทำให้หูของลั่วเทียนอื้ออึง แต่เขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
คนเพียงหนึ่งคนและหุ่นเชิดอีกสองตัวที่ฆ่าเหมือนคนบ้าและเหมือนปีศาจ
ด้วยกลิ่นอายที่หนาแน่น – ถ้าพระเจ้าขวางเขา เขาก็จะฆ่าพระเจ้า ถ้าพูทธเจ้าขวาง เขาก็จะฆ่า ใครก็ตามที่มีขวางหน้าของเขาลั่วเทียน จะต้องถูกทำลาย.
ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับเสียงคำราม,ความตาย,และเลือดที่พ่นออกไปทุกๆที่ ส่วนที่เหลือในร่างกายของลั่วเทียนที่ไม่ได้เปื้อนเลือดมีแค่ดวงตาเท่านั้น ส่วนที่เปื้อนเลือดก็เริ่มที่จะแห้งกรังและดำไป เลือดที่สาดเข้าใส่ทับไปเรื่อยๆจนแข็งตัว สุดท้ายลั่วเทียนก็เหมือนกับสวมเกราะที่สร้างจากเลือดซึ่งดูน่ากลัวมาก เหมือนกับว่าเขาออกมาจากส่วนลึกของนรก.
เช้าต่อมาไปยันเที่ยวและเย็น จนเข้าเช้าของอีกวัน…
ลั่วเทียนรู้สึกเหนื่อนมาก.
ถ้าไม่มีจิตใจที่แข็งแกร่งรองรับแล้วหล่ะก็เขาอาจจะหลับฟุบไปที่พื้นแล้ว
ราวกับกลัวว่ามันจะเสียเวลาทุกลมหายใจกับค่าประสบการณ์ ลั่วเทียนพยายามฆ่าสัตว์ปีศาจและแขวนชีวิตของเขาไว้บนเส้นด้าย เขากลายเป็นวิปลาสอย่างสมบูรณ์!
สุดท้าย…
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นลั่วเทียนที่ได้อัพเลเวล ระดับปัจจุบันของคุณคือ ปราณเชี่ยวชาญ ขั้น1!”
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นลั่วเทียนที่เลเวลอัพ. คุณจะได้ทักษะต่อสู้จากระบบ – ท่าร่างเงาวายุ!”
“เอ๋?”
“นี่ไม่ใช่ทักษะการต่อสู้ของจี้หนิงที่เป็นตัวหลักของเรื่อง แดนเปลี่ยวร้าง(Desolate Era)ที่ได้เรียนรู้ในช่วงแรกๆ? 5555…” หัวใจของลั่วเทียนของเขาอยู่ในความปิติเขาเปิดระบบเพื่อเรียนรู้ทักษะนี้ ทักษะใหม่ก็ปรากฎอยู่ในช่องสกิล.
ในเวลานั้น…
กลิ่นอายที่แผ่ออกมายิงหนาวเย็น–มันเป็นความต้องการฆ่า!
นี่เป็นความต้องการฆ่าที่ออกมาจากเข้มข้น!
ลั่วเทียนยิ้มอย่างเยือกเย็น“สิ่งที่สุนัขสารเลวคิด สุดท้ายข้าก็ไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป หึหึ?!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset