เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 47

ลั่วเซี่ยวซานได้ติดตามมาตลอด.
มีเพียงความคิดเดียวในใจของเขาเท่านั้น– ลั่วเทียนต้องตาย!
หลังจากที่เขาเข้าไปในเทือกเขาวิญญาณเขาก็เจอออปติมัสไพมร์และบับเบิ้บบี แต่เขาไม่รู้ว่าสัตว์เหล็กเวทนี้มาจากไหน.
ลั่วเซียวซานไม่เข้าใจสถานการณ์
เขาบอกว่าเขากำลังฝึก แต่ทำไมเขาต้องฆ่าสัตว์ปีศาจเหมือนคนบ้าด้วย?
เขาฝึกทักษะการต่อสู้จริงๆรึ?
ตั่งแต่ต้นจนจบลั่วเทียนไม่เคยใช้ทักษะการต่อสู้เลย การโจมตีของเขาแค่ละครั้งก็มาจากแรงกายล้วนๆไม่มีแม้แต่จะมีพลังปราณเสริมเข้าไป ไม่มีการใช้พลังปราณแม้แต่น้อย หรือว่าเป็นการฝึกของนิกายอื่นที่เขาใช้?
ลั่วเทียนมองดูเหมือนคนบ้า.
ลั่วเทียนฆ่าสัตว์ปีศาจโดยไม่ห่วงชีวิตตัวเอง เขามีบาดแผลมากมายที่ยังคงมีเลือดไหลอยู่และเขาก็ไม่ได้สนใจมันเลย ภายในเทือกเขาวิญญาณเขาตั้งใจปล่อยให้เลือดดึงดูดสัตว์ร้าย ถ้านี่ไม่ใช่คนบ้าแล้วมันเป็นคนประเภทไหน?
ใครจะทำสิ่งต่างๆแบบเขา?
ยิ่งนานเท่าไรลั่วเซียวซานก็ไม่เข้าใจว่าทำไมลั่วเทียนถึงทำอย่างนั้น.
คำสั่งได้ออกมาว่าให้จับตาดูเขาว่าเขาอยู่คนเดียวหรือกับใคร
จนถึงตอนนี้!
ลั่วเทียนตัดผ่าน!
พลังปราณขั้นเชี่ยวชาญได้กระแผ่กระจายออกมาทำให้ลั่วเซียวซานอยู่ในความตกใจและมึนงง ลั่วเทียนไม่เคยพ่มเพาะแล้วเขาตัดผ่านมันได้อย่างไร?
เขาสามารถตัดผ่านได้จากการฆ่าสัตว์ปีศาจ?
แล้วจะยังรอได้อย่างไร!
นี่เป็นเหตุผลที่เขาคิดที่จะแอบโจมตี ปราณเชี่ยวชาญขั้น 1 ด้วยอายุ 16 ปี นี่มันเหมือนกับลางร้าย.
ลั่วเซียวซานเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าถ้าเขาไม่หยุดตอนนี้ก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้วในอนาคต!
ดาบที่เย็นเยียบกระพริบผ่านในป่าที่มีแต่ความมืดและดาบที่กระจายออร่าอันนาวเหน็บพร้อมกับกับเจตนาฆ่าของลั่วเซียวซานที่เต็มไปได้พลังปราณเชี่ยวชาญขั้นที่ 3 เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆจากนั้นเขาก็คำราม “ดาบอุกาบาต!”
“เจ้าสมองสุนัขบัดซบ ไปนรกเพื่อข้าซะ!”
ดาบอุกาบาตเป็นทักษะระดับ2ของตระกูลลั่วเท่านั้น.
เมื่อโจมตีดาบออกไปจะเหมือนกับมีอุกาบาตตกลงมาจากฟากฟ้า พลังที่ไม่อาจหยั่งถึงได้.
การโจมตีทะลุลวงได้อย่างไม่น่าเชื่อ.
นี่เป็นพลังโจมตีที่สุดของลั่วเซียวซานที่ทำได้
นี่เป็นการโจมตีที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจขวางทางได้
ความกดดันถล่มลงมากดดันร่างกายของลั่วเทียนและจิตใจของเขา แต่โชคดีที่มันไม่ค่อยอึดอัดเหมือนกับในอดีตนี่เป็นข้อดีตั้งแต่ที่เขาเลือนไปยังขั้นเชี่ยวชาญ!
นี่คือข้อได้เปรียบอย่างสูงเมื่อการบ่มเพาะสูงขึ้น
ดาบที่กระจายกลิ่นอายกดดันที่ไร้รูปร่างวาบผ่านเข้ามาในใจของลั่วเทียน.
มันเป็นเรื่องยากที่จะอดทนจากการกดดันทางจิตใจและร่างกาย ลั่วเทียนหัวเราะอย่างเย็นชาขณะที่เขาหันกลับมามองและขมวดคิ้ว เขาจ้องมองไปที่ลั่วเซียวซานที่กำลังบินเข้ามาหาเขาและพูด “เจ้าสมองสุนัขบัดซบ เจ้าด่าตัวเองทำไม.”
“บิดาคนนี้รอให้ที่จะมอบความเจ็บปวดให้เจ้ามานานแล้ว!”
ริมฝีปากที่โค้งเป็นรอยยิ้มร่างกายของเขาไม่ขยับไปไหนและการแสดงออกทางสีหน้าดูเหมือนจะตื่นเต้นอย่างมาก.
ลั่วเทียนรู้ว่ามีใครตามมาตั้งแต่ต้น เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็รู้ว่าต้องเป็นใครบางคนที่อยู่ในขั้นปราณเชี่ยวชาญ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาฆ่าเหมือนกับคนบ้าจนไม่รู้แม้กระทั่งกลางวันกลางคืน เขายังฆ่าอย่างไม่หยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว
เขาเหนื่อยมากจนกระทั่งเขาอยากจะนอนที่พื้น แต่แน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะหลับ
เขาเตือนตัวเองในใจว่าห้ามหลับตลอด เขาต้องใช้เวลาทุกวินาทีเพื่อฆ่ามอนเตอร์และอัพเลเวล เมื่อเขาอยู่ในขั้นปราณเชี่ยวชาญแล้ว เขาจะมีแรงพอที่จะปกป้องชีวิตของเขาเอง.
ช่วงเวลาที่เขาตัดผ่านเขาจงใจทำเป็นไม่สนใจลั่วเซียวซานเพื่อที่จะเปิดโอกาสให้เขาใช้ประโยชน์จากมันและเริ่มโจมตี เขาไม่คิดว่าลั่วเซียวซานจะตกหลุมพรางนั้น.
ลั่วเทียนยิ้มอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นลั่วเซี่ยวซานพุ่งเข้ามา. “มอนเตอร์ชื่อแดงนี่มันจะต้องระเบิดของดีๆออกมาแน่นอนใช่มั๊ย?”
สายตาของเขาเปลี่ยนไปและดาบของเขาก็ส่องแสงความมืดออกมา รัศมีของเขาก็กลายเป็นเห็นได้ชัดเจนเหมือนกับดอกไม้ไฟตอนกลางคืน ขณะเดียวกับที่เขาตะโกนออกมา “ตาย!”
“ตาย?”
ลั่วเที่ยนยิ้มและลมก็พัดไปมา เหมือนกับสายฟ้าขณะที่เขาตะโกน “ท่าร่างเงาวายุ!”
ทักษะต่อสู้ระดับ 4 – ท่าร่างเงาวายุ!
เหมือนกับเงา เหมือนกับวายุ.
เงาที่เลือนลางที่ล่องลอยเหมือนกับลม.
ขณะที่เขาขยับเท้าร่างกายของลั่วเทียนดูเหมือนจะจางเข้ากับสายลม ร่างกายของเขากลายเป็นลวงตาและไม่สามารถบอกได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน.
“วูฟฟ!”
ดาบของลั่วเซียวซานแทงเข้าในอากาศ เท้าขวาของเขากระทืบพื้นกระโจนออกไปยังอากาศและอยู่ในพื้นที่ๆปลอดภัย
“5555…”
“แน่นอนว่าพระเอกจี้หนิงของแดนเปลี่ยวร้างได้พิสูจน์แล้วว่ามันพิเศษอย่างมาก” ลั่วเทียนพูดอย่างตื่นเต้น จากนั้นเขาก็เข้าไปหาลั่วเซียวซานที่กำลังร่วงลงกับพื้นและพูดในท่าทีที่ขี้เล่น “ จิ้งจอกเฒ่า ตาข้าบ้างหล่ะ.”
เขาไม่ได้เห็นลั่วเซียวซานอยู่ในสายตาของเขาเลย
ลั่วเซี่ยวซานโกรธอย่างมากและได้ยินเสียงกัดฟันจนมันแตกได้อย่างชัดเจน เมื่อมองไปที่ลั่วเทียนมือขวาเขาถือดาบขณะที่มือซ้ายของเขาเริ่มทำสัญลักษณ์กลางอากาศ “ลิงดูว่าเจ้าจะหลบสิ่งนี้และไม่ตาย จากข้า!”
“บูม!”
เสียงดังสนั่นทั่วทั้งอากาศก่อนที่จะมีบางอย่างลอยอยู่ที่นั่น
ในเวลานี้ลั่วเซียวซานแทงดาบมายังเบื้องหน้าลั่วเทียนอีกครั้งความเร็วและความดุดันมากกว่าแต่ก่อนมาก.
การโจมตีสองทิศทางที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะมีการโจมตีครั้งแรกจะไม่ได้ผล แต่ครั้งที่สองได้เข้าไปยังตำแหน่งที่เล็งไว้ การหลบครั้งแรกอาจจะทำได้ แต่จะให้หลบทุกครั้ง ไม่อาจเป็นไปได้.
ตอนนี้ลั่วเซียวซานอายุ 40 ปีแล้ว แม้ว่าจะไม่อาจบอกได้ว่าเขาเผ่านศึกมาอย่างโชกโชน แต่เขาก็ถือว่ามีประสบการณ์ต่อสู้ไม่น้อย
คิ้วของลั่วเทียนขมวดและหอบหายใจอย่างหนัก เหมือนกับลั่วเซียวซานมือขวาของเขากำลังจะคว้าจับแต่ก็เกิดเสียงที่ดังสนั่นซะก่อน
หลังจากนั้น…
เขาเป็นใช้งานท่าร่างเงาวายุ เมื่อร่างของเขาหลอมรวมเข้ากับสายลม ภาพของเขาปรากฏทุกที่ก่อนที่เขาจะโจมตีไปยังลั่วเซียวซาน
“เจ้ากล้าที่จะยืนเบื้องหน้าข้าด้วยปราณเชี่ยวชาญขั้น 1? หาที่ตาย!”
ลั่วเซี่ยวซานฮึมฮัมอย่างเย็นเยี่ยบก่อนที่จะมีมือใหญ่ๆยื่นมาหาลั่วเทียน
นี่เป็นการโจมตีด้วยพลังปราณล้วนๆ!
ลั่วเทียนก็ทำเหมือนกัน มือยักษ์ได้ออกมาจากเขาเพื่อสกัดกั้นมือยักษ์ของลั่วเซียวซาน หนึ่งฝ่ามือที่เต็มไปด้วยฟ้าผ่า ขณะที่อีกมือส่งเสียงคำรามคล้ายกับเสือก่อนที่จะชนกัน.
“ตูม~!”
นี่ไม่ใช่มาจากการเพิ่มพลังของ Berserk…
ลั่วเซียวซานอยู่ปราณเชี่ยวชาญขั้น3 ถึงแม้ว่าลั่วเทียนมีโอกาสดีๆแต่เขาก็เข้าใจความแตกต่างของระดับพลัง สิ่งนี้จะช่วยให้เขาเข้าใจถึงความแตกต่างของเขาก็ขั้นที่3ได้.
นี้จะช่วยให้เขาเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้กับลาสบอสลั่วจินซาน!
“ตูมมมมม!”
เสียงการปะทะกันของพลังปราณทำให้รอบๆเกิดความผันผวนของปราณและกระจายไปทั่วบริเวณ.
ไม่กี่วินาทีต่อมาพลังฝ่ามือของลั่วเทียนได้เริ่มแตกตัวขณะที่พลังฝ่ามือของลั่วเซียวซานยังคงรูปร่างเดิมไว้อยู่.
กำปั้นคู่ของลั่วเทียนได้ถูกพลังของดาบแทงเข้ามาในกำปั้น
ร่างกายของเขาสั่นขณะที่เขาอยู่ห่างออกไปหลายเมตรขณะที่ลั่วเซี่ยวซานใช้เพียงสองก้าวก็รักษาความมั่นคงทางร่างกายไว้ได้.
มีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างขั้น 1 และ 3 ลั่วเทียนพูดกับตัวเอง “นี่เป็นช่องว่างแค่สองขั้นแต่ไม่สามารถวัดความสามัญสำนึกของมันได้”
ลั่วเซียวซานยิ้มอย่างภูมิใจและพูด “เจ้ากล้าที่จะต่อสู้กับข้าด้วยความแข็งแกร่งขั้น 1 ? เจ้าประเมิณค่าตัวเองมากเกินไปแล้ว!”
ลั่วเทียนภูมิใจในความแข็งแกร่งของตัวเองและยิ้มอย่างเย็นชา“เอาหล่ะ ข้าจะไม่เล่นสนุกอีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะได้ตาย.”
เมื่อสิ้นพูดคำว่า “ตาย” ลั่วเทียนก็ตะโกนออกมา “Berserk!”
“บูมมม…”
ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและพลังปราณที่สั่นไหวจนเห็นด้วยตาเปล่า กิล่นอายของลั่วเทียนต่างไปจากเดิมและแรงกดดันของลั่วเซียวซานก็หายไป
นี่เป็นพลังหลังจากใช้ Berserk!
พริบตา…
ลั่วเทียนยิ้มอย่างโหดเหี้ยมและร่างกายของเขาก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วจนลั่วเซียวซานยังตกใจจนเกือบจะตอบสนองไม่ทันและทำได้แค่เพียงเอาดาบมาขวางไว้ที่หน้าอกพร้อมกับใบหน้าประหลาดใจ.
“ปัง!”
พลังหมักที่เหมือนกับลูกปืนใหญ่โจมตีออกมา
ความเจ็บปวดถูกส่งเข้าไปในอกของเขาและอวัยวะภายในก็รู้สึกเหมือนสั่นอย่างกับแผ่นดินไหว ใบหน้าของเขาซีดจางก่อนที่เขาจะหลิกตัวของเขาหนีออกไป.
“เจ้าต้องการหนี?”
“เจ้าจิ้งจอกเฒ่าสารเลวหลังจากท่ี่ต้องทนทรมาณจากเจ้ามาหลายปีแล้ว ตอนนี้เจ้าต้องการหนีจริงๆ?”ลั่วเทียนจับลั่วเซียวซานทันทีและปรากฎอยู่เบื้องหน้าเขา รอยยิ้มที่น่ากลัวบนใบหน้าของลั่วเทียนได้ปลอ่ยหมัดออกไปและทุบจนเขากลับไปที่เดิม.
ด้วยพลังของ Berserk’s ลั่วเซียวซานไม่ใช่คู่ต่อสู้กับลั่วเทียนอีกต่อไป.
ลั่วเซียวซานกลิ้งกระอักจากการกระทำของลั่วเทียน.
หลังจากที่ได้รับความเจ็บปวกอีกครั้งลั่วเทียนทีก็พ่นเลือดดำออกมา ราวกับว่าดวงตาของเขาสามารถพ่นเปลวไฟได้ “ลั่วเทียนเจ้ากล้าที่จะฆ่าข้า? พี่ใหญ่ของข้ารู้ว่าข้าติดตามเจ้า ถ้าเจ้ากล้าฆ่าหญิงสาวและคนรับใช้ของเจ้าจะตาย!”
“เจ้ากล้าที่จะข่มขู่บิดา?”
“สารเลว!”
“เจ้าเป็นคนแรกและต่อไปก็เป็นลั่วจินซาน.”ลั่วเทียนตะโกนระบายความโกรธภายในใจของเขา กำปั้นคู่ของเขาเหมือนกับฟ้าฝนคะนองขณะที่มันระดมโจมตีออกมา.
“บูม!”
ลั่วเซียวซานถูกทุบกระเด็นออกไปหลายสิบเมตรก่อนที่จะจมลงไปในต้นไม้ใหญ่ ใบหน้าของเขาซีดจางขณะที่ความคิดของเขาก็สั่นไหว เขามองไปที่ลั่วเทียนตอนนี้เหมือนกับจ้องมองยมทูตจากนรก!
หนี!
ตั้งแต่ที่เขาอยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตรลั่วเซียวซานก็ตัดสินใจหนีอย่างบ้าคลั่ง เขาเสียใจขณะที่มองรูปร่างที่น่าสงสารของเขากำลังวิ่งไปข้างหลังด้วยเท้า.
ลั่วเทียนหัวเราะอย่างเย็ยชาและไม่กังวลเกี่ยวกับการไล่ล่า เขาดึงป้ายมิติออกมาและตะโกน “เมกะทรอน ฆ่าเขาให้ข้า!”(<<นี่คือชื่อตอนของมัน)
“ทำให้เขาระเบิดเพื่อข้า!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset