เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 – ตอนที่ 206 การปรากฏตัวของเป่ยฉวนเฟิงหลิวตัวจริง

เด็กรับใช้พากันเข้ามาล้อมตัวซูหวานหว่านเอาไว้ทันที พวกเขาทำราวกับว่านางจะหายไปอย่างไรอย่างงั้น!

“ช้าก่อน!” ในขณะนั้นเองซุนฉางอานก็เกิดความตื่นตระหนก ถึงแม้ว่าซูหวานหว่านจะเป็นผู้ชาย แต่ว่า…ความจริงแล้วเขาก็รู้สึกใจเต้น ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำให้คนที่เขารักเจ็บ!

“คุณชายซุน เป็นไปได้ไหม…ที่ท่านจะตกหลุมรักเป่ยฉวนเฟิงหลิวเสียแล้ว?” ทันใดนั้นซูเสี่ยวเหยียนก็หัวเราะออกมาดัง ๆ และกลุ่มคนที่ยืนดูก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

ฮูหยินซุนถึงกลับหน้าเปลี่ยนสี ส่วนซุนซ่างชูเองก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่ซุนฮวนกลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและพูดว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านจะโกรธทำไม? ในเมื่อพี่ใหญ่ของข้าในที่สุดก็เจอคนที่ชอบ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชาย พวกเราควรอวยพรให้เขาถึงจะถูกต้อง! ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่ก็คงจะแก่ตายไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีคนรักเช่นนี้!”

คำพูดเหล่านี้ฟังดูเหมือนจะพูดแทนซุนฉางอาน แต่เห็นได้ชัดว่ากำลังจะใส่ไฟให้เพิ่มขึ้นไปต่างหาก ซูหวานหว่านมองไปที่ซุนฮวนอย่างเงียบ ๆ แล้วพูดว่า “ลากเขาจมดิน แล้วเจ้าล่ะมีอะไรดี?”

ซุนซ่างชูพูดออกมาอย่างโกรธเคือง “หุบปาก! เขาอุตส่าห์ช่วยพูดแทน พวกเจ้ายังจะไปว่าเขาอีก! ไร้สำนึกสิ้นดี!”

เมื่อคิดว่าการที่มีลูกชายชอบชายหนุ่มด้วยกันเองอยู่ในครอบครัวแบบนี้ แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด? แน่นอนว่าเรื่องนี้จะต้องถูกประจานออกไปแน่!

ซุนซ่างชูยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิม ชายชราชี้ไปที่ซูหวานหว่านแล้วพูดว่า “พวกเจ้ามัวยืนทำอะไรกันอยู่! รีบเดินเข้ามาสิ! โบยเขาให้ตาย!”

ซุนฉางอานรีบเข้าไปขวางกลุ่มคนใช้ ชายหนุ่มจับมือของซูหวานหว่านเอาไว้แล้วคุกเข่าลงบนพื้น “ท่านพ่อ ท่านแม่ อย่าทำอะไรเขาเลยขอรับ!”

“พี่ใหญ่! เหตุใดท่านถึงทำแบบนี้กันเล่า! คนอื่นจะมองตระกูลซุนของเราอย่างไร? ท่านทำเช่นนี้มันเหมือนไม่ไว้หน้าหน้าท่านพ่อของท่านเลย ต่อไปเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!” ซุนฮวนขมวดคิ้วแล้วพูดออกมาด้วยท่าทางที่เป็นทุกข์

“ซุนฉางอาน! เจ้ากำลังจะปกป้องเขาอย่างงั้นเหรอ?” ซุนซ่างชูขมวดคิ้วและเกิดความรู้สึกรังเกียจขึ้นในใจ ถึงแม้ว่าลูกชายคนนี้จะเป็นชายสูงศักดิ์ แต่เขายังไม่ได้เป็นข้าราชการและไม่มีเงินเดือน ซุนฮวนยังดีกว่ามาก! อีกทั้งตอนนี้ยังมาสร้างความอับอายให้แก่ตระกูลอีก “ซุนฉางอาน! ถ้าเจ้าพยายามที่จะปกป้องเขา เช่นนั้นข้าขอตัดขาดพ่อลูกกับเจ้า ไสหัวออกไปจากบ้านซะ!”

“สวรรค์! ใต้เท้าซ่างชูกำลังโกรธมากจริง ๆ! คงจะผิดหวังกับคุณชายซุนเป็นอย่างมาก! ไม่เช่นนั้นคงจะไม่พูดแบบนั้นออกมา!”

“ใช่แล้ว! คุณชายซุนน่าสงสารมาก แต่เมื่อถ้าคิดดูแล้วคุณชายซุนก็น่าขยะแขยงเช่นกัน ถ้าเป็นลูกชายของข้า ข้าก็ไม่ต้องการเขา!”

“…”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ใบหน้าของซุนฉางอานขาวซีด หัวใจของเขาเย็นชาไปหมด เขากำมือของซูหวานหว่านเอาไว้และพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ตกลง! ข้าซุนฉางอานยินยอมที่จะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่านและออกจากบ้านของท่านไป!”

“เจ้า…” ซูหวานหว่านตกใจมาก ซุนฉางอานทำแบบนี้ก็เพื่อช่วยนาง! อีกทั้งเขายังรู้จักซูหวานหว่านที่เป็นเพียงชายหนุ่มเท่านั้น!

ซูหวานหว่านรู้สึกตื้นตันมาก และเห็นว่าดวงตาของซุนฉางอานเองก็เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเช่นกัน

ซูเสี่ยวเหยียนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็อดที่จะพูดออกมาไม่ได้ “ดูเหมือนว่าเป่ยฉวนเฟิงหลิว และซุนฉางอานจะรักกันจริง ๆ!”

ใบหน้าของซุนซ่างชูเคียดแค้นเข้าไปใหญ่ เขาถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชาแล้วสั่งให้คนใช้นำตราประทับออกมากก่อนจะประทับลงบนกระดาษ และโยนกระดาษใส่ซุนฉางอาน “เอาล่ะ! ตอนนี้เจ้ากับข้าไม่ใช่พ่อลูกกันอีกต่อไป! เจ้าอยากไปที่ไหนก็ไสหัวไป!”

“ขอบคุณ… ท่านซุนซ่างชู” ซุนฉางอานกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นยืน และดึงตัวซูหวานหว่านไปที่ประตู

ไม่มีผู้ใดเอ่ยขอร้องเขาเลย! ซุนซ่างชูโกรธมากจนขว้างของใส่ซูหวานหว่านและลูกชายของเขาทันที “ไสหัวออกไป! รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”

ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นทางด้านนอกประตู ผู้คนต่างตื่นตกใจเพราะชายผู้นั้นเหมือนซูหวานหว่านมาก!

ทุกคนมองด้วยความสงสัยและอึ้งไปชั่วขณะ เหตุใดถึงมีผู้ชายที่เหมือนกับซูหวานหว่านปรากฏตัวขึ้น! แต่… มีคนบอกว่าซูหวานหว่านเป็นผู้ชายไม่ใช่หรือ? แล้วจะมีผู้ชายอีกคนได้อย่างไร? ตกลงใครกันแน่ที่คือเป่ยฉวนเฟิงหลิว!

แม้แต่ซูหวานหว่านเองก็ตกใจ! เขาเป็นใครกันแน่!

ชายคนนั้นพลันเปิดคลี่พัดที่ทำจากหยกและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหัวเราะ “ข้าได้ยินมาว่าน้องสาวของข้าและคุณชายซุนรักกัน ข้าเลยอยากจะมาดูเสียหน่อย”

พวกคนเหล่านั้นยิ่งประหลาดใจ ชายคนนั้นก็ยิ้มออกมาและพูดว่า “เป็นอะไรไป? ไม่ต้อนรับหรือ? ดูเหมือนว่าตระกูลซุนจะต้อนรับแขกแบบนี้สินะ”

การปรากฏตัวของชายผู้นี้… เหมือนกับภาพที่นางไปเจอและทำเลียนแบบออกมาทุกประการ! ซู หวานหว่านสรุปได้ทันทีว่าชายคนนี้คือเป่ยชวนเฟิงหลิวตัวจริง นางถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ปล่อยมือของซุนฉางอาน เดินไปจับแขนเสื้อของเป่ยฉวนแล้วส่ายไปส่ายมา “ท่านพี่! ท่านดูที่พวกเขาทำสิ! ตระกูลซุนกล่าวหาว่าข้าเป็นผู้ชาย และข้าก็ให้พวกเขาตรวจสอบร่างกายของข้าแล้ว พวกเขายังมาใส่ความว่าข้านั้นเป็นผู้ชายอีก และตอนนี้…พวกเขาก็ได้ตัดสัมพันธ์ความเป็นพ่อลูกกับคุณชายซุนอีกด้วย ฮึ่ม!”

“อะไรนะ?” เป่ยชวนเฟิงหลิวขมวดคิ้ว “ตระกูลซุนช่างไม่คู่ควรกับเราเสียจริง พวกเรากลับกันเถอะ!”

พูดจบ ทั้งสองคนก็เดินออกไปพร้อมกัน โดยมีซุนฉางอานเดินตามไปด้วย

ในหัวของกลุ่มคนเหล่านั้นเต็มไปด้วยความสงสัย และแม่นมที่ตรวจสอบร่างกายของซูหวานหว่านก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นคลอ “ข้าน้อยได้ตรวจสอบแล้ว นางเป็นผู้หญิงจริง ๆ เจ้าค่ะ!”

เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็ต่างตั้งข้อสงสัยไปยังสิ่งที่เรียกว่าโทรศัพท์มือถือ ซุนซ่างชูที่ยิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไรเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น! เพราะเนื่องจากเขาเข้าใจผิดเรื่องนี้ทำให้เขาและซุนฉางอานตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกกัน! มันไม่ดีเลย! ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับโยนลงพื้นทุบมันจนแตกละเอียดเป็นชิ้น ๆ!

ซูเสี่ยวเหยียนที่เฝ้าดูจากด้านข้างรู้สึกเสียดายทันที เพราะนางเอาโทรศัพท์มาจากยุคปัจจุบัน! แต่ตอนนี้…

ซูเสี่ยวเหยียนยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่นางก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรกับซุนซ่างชู หากเขารู้ว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นของนาง เขาอาจจะโกรธมากจนอยากฆ่านางเลยก็ได้ ตอนนี้นางต้องรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก่อน

ในตอนนี้ทั้งสามคนก็เดินออกจากบ้านตระกูลซุนแล้ว ส่วนเรื่องที่ซูหวานหว่านเป็นชายหรือหญิงซุนฉางอานก็ได้ ‘สัมผัส’ พิสูจน์ไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า “พวกเจ้าสองคนเป็นพี่น้องกันเหรอ?”

“เจ้าคิดว่าอย่างไร?” เป่ยฉวนเฟิงหลิวเลิกคิ้วและถามซูหวานหว่านด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ เป็นพี่น้องกัน” ซูหวานหว่านยอมรับออกมา

เป่ยฉวนเฟิงหลิวเองก็ไม่รู้ว่าซูหวานหว่านนั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะฮวงเหล่าได้รับข่าวการตายของศิษย์น้องของเขา และขอให้เขามาที่นี่เพื่อดูให้แน่ชัดเขาก็คงจะไม่มาที่นี่ แต่เมื่อเขามาถึงที่นี่ก็ได้ยินข่าวที่ว่าเขาเป็นหลงหยาง และพอเข้าไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารก็มีคนเดินเข้ามาสอบถามความลับเกี่ยวกับการเลือกหินพนันของเขา เรื่องราวนี้ทำให้เขายิ่งงงงันเข้าไปใหญ่ อีกทั้งเขาได้ยินมาว่าน้องสาวของเป่ยฉวนเฟิงหลิวไปงานเลี้ยงตอนเย็นที่บ้านของตระกูลซุน เพื่อไปพบพ่อแม่ของคุณชายซุน ทำให้ความสงสัยของเขาเพิ่มขึ้นไปอีก เขาจึงต้องไปที่บ้านตระกูลซุนเพื่อตรวจสอบดู แต่ใครจะไปรู้ว่าเขานั้นไปผิดเวลาทำให้พลาดความสนุกไป!

เมื่อเห็นว่าทุกคนยังไม่พูดอะไรออกมา ซูหวานหว่านก็กำลังจะพูดแนะนำเมนูอาหาร แต่ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงที่นุ่มนวลของซุนรุยดังขึ้นมาว่า “พี่ฉางอาน! ข้ารู้ว่าอยู่แล้วว่าเป่ยฉวนเฟิงหลิวนางเป็นผู้หญิง ตอนที่นางกอดข้า ข้ารู้สึกได้! มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าท่านพี่จะขอนางแต่งงาน!”

คำพูดเหล่านี้ ท่าทางแบบนี้ เขาคงยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น! ซูหวานหว่านแสดงอาการเขินอายเล็กน้อย พร้อมกับส่งเสียงไอออกมา แต่นางก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี

อย่างที่ใครหลายคนบอก คำพูดของเด็กมักจริง ซุนฉางอานก็เข้าใจได้ในทันที หลังจากที่คิดอย่างรอบคอบแล้วใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาลังเลและไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี ซุนรุยจับขาของเขาและพูดพึมพำออกมา แต่ซูหวานหว่านกลับพูดออกมาว่า “คุณชายซุน เจ้าไปส่งน้องชายของเจ้ากลับบ้านก่อน ข้ากับพี่ชายจะไปที่ร้านอาหาร ถ้าเจ้าอยากจะมาหาพวกเราสองพี่น้องก็ไปที่ร้านอาหารได้เลย” ซูหวานหว่านพูดออกมาแล้วลากเป่ยชวนเฟิงหลิวไปที่ร้านอาหารเจวียเซ่อทันที

เมื่อมาถึงร้านอาหารพวกเขาก็เดินไปที่ห้องอาหารส่วนตัวทันที นางปิดประตูห้องและลงกลอนอย่างรวดเร็ว หญิงสาวจับไปเป่ยฉวนเฟิงหลิวนั่งลงบนเก้าอี้ นางเอื้อมสัมผัสไปบนใบหน้าของเป่ยฉวนเฟิงหลิวและพยายามหาข้อบกพร่องว่าเขาได้ใส่หน้ากากไหม “เจ้าเป็นใครกันแน่?”

“คำถามนี้ควรเป็นข้าที่จะถามออกมานะ? ข้าต้องการดูว่าใครกันที่มาใช้ใบหน้าของข้า! และที่สำคัญข้าจะบอกผลลัพธ์กับเจ้าที่บังอาจมาใช้ใบหน้าของข้าว่ามันจะเป็นอย่างไร!” หลังจากนั้นเป่ยฉวนเฟิงหลิวก็เงยหน้าขึ้น และไปสัมผัสใบหน้าของซูหวานหว่าน ไม่นานหน้ากากหนังมนุษย์ของซูหวานหว่านก็ขาดออกทันที!

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田ครั้นวสันตพิรุณเพิ่งผ่านพ้น ท้องฟ้าก็กลับมาแจ่มใสดังเดิม เมฆหมอกขาวบางเบาลอยล่องเหนือแนวบรรพต ก่อเกิดเป็นภาพทิวทัศน์อันตระการตา ในภาพนั้นมีทั้งต้นไม้ ใบหญ้า และผู้คน ‘ซูหวานหว่าน’ ก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพทิวทัศน์นั้น นางเพิ่งขุดผักป่าขึ้นมาเต็มตะกร้าและกำลังจะตรงกลับบ้าน “พี่หญิง!” ทันใดนั้นเอง เด็กชายวัยกระเตาะผู้หนึ่งก็รีบวิ่งมาหา พร้อมทั้งตะโกนเรียกนางไปด้วย “ช้า ๆ ก็ได้” ซูหวานหว่านมองไปที่น้องชายตัวแสบของตนพร้อมกับระบายยิ้มให้ ซูจิ่นหมิงกลับไม่มีทีท่าว่าจะวิ่งช้าลงแต่อย่างใด เขายังคงวิ่งตรงเข้ามาหาซูหวานหว่านอย่างรีบร้อน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset