เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 – ตอนที่ 214 กลับลำ

ตอนที่ 214 กลับลำ

“แม่นางเป่ยฉวน! เจ้าจะอวดดีเกินไปแล้ว เจ้าคงยังไม่รู้อะไรสินะ?” ซูเสี่ยวเหยียนหัวเราะออกมา “เจ้าคงไม่รู้ว่าตอนนี้น้ำยาของข้ามีประสิทธิภาพที่ดีมาก ข้าสามารถทำให้หญิงสาวที่ใบหน้ามีตุ่มแดงกลับมามีใบหน้าขาวใสได้! แต่ว่าน้ำศักดิ์ของเจ้ากลับมีผลลัพธ์แค่ระดับปานกลางเท่านั้น มันเทียบกับของข้าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ! ราคาขวดละห้าสิบเหรียญมันจะมากเกินไปแล้ว”

“ใช่แล้ว! มันมากเกินไป!” เสียงหนึ่งตะโกนออกมาจากในกลุ่มนั้น “นี่มันเป็นการขูดรีดเงินกันชัด ๆ! พวกเรารวมตัวกันไปร้องเรียนนางกันเถอะ จะได้ให้นางจ่ายเงินชดเชยคืนมา!”

“ใช่! หากนางไม่ยอมจ่ายก็จับนางเข้าคุกไปเลย!”

“…”

“เฮอะ” เมื่อได้ยินแบบนี้ซูหวานหว่านแค่นหัวเราะออกมา คนเหล่านี้ช่างไร้สาระจริง ๆ พวกเขายังไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังถูกซูเสี่ยวเหยียนหลอกใช้อยู่! อีกทั้งยังมาประท้วงนางอย่างหนัก! คอยดูต่อไปเถอะ ภายในอนาคตคนพวกนี้จะต้องมาขอร้องอ้อนวอนนาง

ซูหวานหว่านเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ ว่า “อย่าเพิ่งพูดเรื่องว่าข้าจะจ่ายหรือไม่จ่ายเงินชดเชยเลย ตอนนี้ทุกคนควรให้ข้าแข่งกับจูเหยียนก่อนดีหรือไม่ หากเจ้าแพ้ข้า ไม่เพียงแค่จ่ายเงินชดเชยแต่ข้าจะซื้อขวดน้ำงามของจูเหยียนให้ทุกคนคนละขวด ว่าอย่างไร?”

“งั้นก็ดี!” เหล่าชาวบ้านส่งเสียงร้องโห่ออกมา ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังซูหวานหว่าน

ซูหวานหว่านและซูเสี่ยวเหยียนเดินเข้าไปที่ลานประลองการแข่งขัน ท่าทางของพวกเขาทั้งสองคนดูนิ่งสงบ และผลก็เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้ ซูหวานหว่านแพ้การประลองภายในครั้งนี้!

ทั้งสองคนทดสอบกับผู้หญิงคนเดียวกัน ทาน้ำงามและน้ำศักดิ์สิทธิ์ของทั้งสองคนละครึ่งหน้า เมื่อซูหวานหว่านทาน้ำศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองลงไปบนหน้าของผู้หญิงคนนั้นใบหน้าของนางก็ดูเรียบเนียนขึ้นมาเพียงเล็กน้อย แต่ว่าน้ำงามของซูเสี่ยวเหยียนใช้เวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูป ร่องรอยบนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นก็หายหมดจน อีกทั้งจุดดำบนใบหน้าก็จางลง!

ใบหน้าครึ่งหนึ่งของหญิงคนนั้นทั้งเรียบเนียน อ่อนโยน และอิ่มฟู และในความขาวนั้นก็มีรอยเลือดฝาดจางปรากฏขึ้นทำให้ดูอ่อนวัยลงถึงสิบปี!

ทุกคนต่างตกตะลึงและเอ่ยชมผลลัพธ์จากน้ำงามของซูเสี่ยวเหยียน ทันใดนั้นนางก็พูดขึ้นมาว่า “แม่นางเป่ยฉวน เจ้าจะยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้แล้วหรือยัง?”

“อืม” ซูหวานหว่านพยักหน้ายอมรับและสั่งให้คนไปนำเงินมาซื้อน้ำงามทั้งหมดที่ซูเสี่ยวเหยียนมี หญิงสาวใช้เงินเกือบห้าร้อยตำลึง! และทุกคนที่ซื้อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของซูหวานหว่านไปก็มาขอมันไปจากนาง ส่วนคนที่ไม่เคยซื้อก็พยายามหาทางก่อกวนนางจนซูหวานหว่านใช้เงินของตัวเองซื้อให้พวกเขา!

ซุนฉางอานรู้สึกเสียดายเงินแทนซูหวานหว่าน! เมื่อมองไปที่ซูหวานหว่านเขาก็รู้ว่าราวกับว่านางไม่ได้เดือดร้อนเหมือนกับไม่ได้ใช้เงินตัวเองอย่างไรอย่างนั้น! ชายหนุ่มรู้สึกตกตะลึงจึงเอ่ยอกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “แม่นางเป่ยฉวน เจ้าได้คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเจ้าจะแพ้ใช่หรือไม่?”

“อืม” ซูหวานหว่านพยักหน้า “ใช่”

“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” ซุนฉางอานรู้สึกตกใจขึ้นมาอีกครั้ง ซูหวานหว่าน…กำลังโง่งมอยู่ใช่ไหม?

ซุนฉางอานเอ่ยถามออกมาอีกครั้งด้วยเสียงแผ่วเบา “เมื่อคืนเจ้าไปกินอะไรมาหรือเปล่า? ต้องการไปหาหมอหรือไม่?”

เขากำลังคิดว่านางป่วยเป็นอย่างงั้นหรือ? ซูหวานหว่านหัวเราะออกมาและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไป ที่จริงแล้ว…”

พลันใดนั้นนางก็รู้สึกว่ามีใครแอบฟังอยู่ข้าง ๆ ซูหวานหว่านจึงหยุดครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “อันที่จริงข้าแค่อยากจะรักษาชื่อเสียงของตัวเอง และมอบผลประโยชน์กับทุกคน นอกจากนี้ เงินห้าร้อยตำลึงก็ไม่ได้เป็นเงินจำนวนมาก รายได้ของร้านเจวียเซ่อคงจะทำกำไรคืนมาได้ภายในหนึ่งหรือสองเดือน”

หรือว่านี่จะเป็นคนรวยที่ใช้เงินด้วยความโง่เขลาอย่างที่เขาเล่ากันมา เหล่าผู้คนต่างรู้สึกดีใจที่ได้เครื่องประทินโฉมขวดนี้มาใช้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน

เมื่อเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ซูหวานหว่านก็สั่งให้คนนำเงินออกมาอีกหนึ่งร้อยตำลึงและจ่ายให้กับคนที่มาขอรับเงินคืน เมื่อซูเสี่ยวเหยียนเห็นการกระทำของซูหวานหว่าน นางพลันรู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย แต่นางยังไม่เห็นใครที่ใช้ของนางแล้วบอกว่ามันไม่ดี เมื่อเห็นว่าของมีเหลือไม่เพียงพอ นางเลยวิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้วหยิบดอกไม้สีแดงออกมาจากกล่องอีกกล่อง นางดึงดอกไม้ออกมาแล้วใส่มันลงไปในถังน้ำ รอกระทั่งผ่านไปสักครู่น้ำเปล่าก็กลายเป็นน้ำงามทันที!

ซูเสี่ยวเหยียนมองไปที่น้ำงามและพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “โชคดีของข้าจริง ๆ ที่ข้าขโมยสิ่งนี้มาจากบ้านของตระกูลเจียก่อนที่จะโดนไล่ออกมา มิฉะนั้นข้าคงจะลำบากไปมากกว่านี้!”

ในตอนนี้ซูหวานหว่านและซุนฉางอานได้กลับมาที่ร้านเจวียเซ่อเรียบร้อย หญิงสาวพลันหัวเราะออกมาและให้เด็กในร้านนำอาหารที่แพงที่สุดออกมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง สิ่งนี้ทำให้ซุนฉางอานไม่เข้าใจว่าทำไมต้องฉลอง

วันนี้เสียเงินไปเกือบพันตำลึงทีเดียว!

“แม่นางเป่ยฉวน สิ่งที่เจ้าทำลงไปในวันนี้ ชื่อเสียงจากร้านเครื่องประทินโฉมของเจ้าคงเสียหายไปหมดแล้วอย่างแน่นอน แล้วจะเอาอย่างไรกับร้านต่อไป?” ซุนฉางอานเอ่ยเตือนออกมา โดยคิดว่าซูหวานหว่านจะมีท่าทีที่เปลี่ยนไป หลังจากที่เขาเตือนออกมาแล้วกลับได้ยินซูหวานหว่านพูดออกมาว่า “เพราะว่าเจ้าเตือนข้า! ใครก็ได้เข้ามาหน่อยสิ! ไปติดประกาศเอาไว้ว่าร้านเครื่องประทินความงามของข้าได้ปิดลงแล้ว”

อะไรนะ? ปิดร้านจะไม่เปิดร้านแล้วหรืออย่างไร เขาไม่ได้บอกว่าจะให้นางปิดร้านเสียหน่อย! ซุน ฉางอานทำอะไรไม่ถูกจึงพูดออกมาว่า “เปิดร้านทิ้งไว้ก็ได้ แต่เพียงว่าเจ้าจะต้องกู้ชื่อเสียงของร้านคืนมา”

“ไม่เปิดแล้ว ข้าขี้เกียจ นอกเสียจากมีคนมาอ้อนวอนให้ข้าเปิด”

ซูหวานหว่านกล่าวออกมาอย่างสบาย ๆ แต่ใครจะมาขอร้องนางให้เปิดร้านกัน? ซุนฉางอานพยายามโน้มน้าวความคิดของซูหวานหว่านจนเริ่มรู้สึกเหนื่อย แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของซูหวานหว่านได้เลย

จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองสามวัน ซุนฉางอานก็เข้าใจเจตนาของซูหวานหว่านทันที! ที่นางทำเหมือนโง่ในตอนแรกแท้จริงแล้วนางมีความคิดที่เหนือชั้นมากกว่านั้น ถ้าหากว่าซูเสี่ยวเหยียนชนะ คนก็จะใช้ของนางเยอะขึ้น และหากใช้มันไปนาน ๆ ผลเสียของมันก็จะถูกเปิดเผยออกมาในไม่ช้า ใบหน้าที่ดูเหมือนจะเรียบขึ้นจะแสดงอาการออกมาทันที! สีแดงเลือดฝาด! ทำให้ผิวหนังกำพร้าบาง และมีตุ่มแดงเกิดขึ้นมาอีกมากมาย!

ที่น่ากลัวไปกว่านั้น เขาได้ยินข่าวลือมาว่ามีหญิงสาวหนึ่งส่องกระจกพบว่าใบหน้าของตนกลายเป็นสีแดง แม้นางจะล้างหน้าอย่างอ่อนโยน แต่กลับพบว่าใบหน้าของนางพังอย่างไม่มีชิ้นดี!

เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในเมืองนี้ทันที หลายคนรวมตัวกันที่ศาลาว่าการเพื่อร้องเรียนซูเสี่ยวเหยียน แต่นางได้แอบปิดร้านของนางไปแล้ว ไม่เห็นแม้แต่กระทั่งเงา

เวลาผ่านไปไม่นานก็มีคนมาขอให้ซูหวานหว่านเปิดร้านอีกครั้งเพราะต้องการซื้อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนส่วนใหญ่ที่มายังร้านเจวียเซ่อต่างเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ แต่พวกเขากลับพบว่าซูหวานหว่านไม่ได้อยู่ที่ร้าน

วันหนึ่งในขณะที่ซูหวานหว่านและซุนฉางอานกำลังนั่งกินข้าวกลางวันกันอยู่ เหล่าหญิงสาวที่ติดสินบนเด็กในร้านเอาไว้ก็บุกเข้ามา นางร้องห่มร้องไห้ พูดออกมาอย่างสะอึกสะอื้น “แม่นางเป่ยฉวน เจ้ายังขายน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือไม่ ที่พวกเราซื้อมาลองใช้มันหมดแล้ว! พวกเราใช้มันหมดแล้ว!”

“โอ้? ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะยังใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์ของข้าอยู่?” ซูหวานหว่านเลิกคิ้วขึ้นถามออกมาด้วยรอยยิ้ม

“อ๊ะ! อย่าพูดแบบนั้นเลย น้ำศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าใช้ได้ผลดีมาก ๆ! ข้าได้ยินเกี่ยวกับหญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยตุ่มแดง นางได้ใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าและเห็นผลของมันทันที มันทำให้ตุ่มใบหน้าของนางหายไป! มันใช้ได้ดีมาก ๆ!” ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมา

“คิดไม่ถึงเลยนะ ในตอนแรกข้าได้ยินว่าพวกเจ้าบอกว่าของข้าไม่ดี อีกทั้งยังมาเรียกร้องให้ข้าจ่ายเงินชดเชย แล้วข้าก็ได้ซื้อน้ำของจูเหยียนให้เจ้าไปใช้โดยไม่เสียตังไม่ใช่หรือ?” ซูหวานหว่านจิบชาช้า ๆ “หากเจ้าอยากจะซื้อของข้าจริง ๆ ก็ต้องแสดงความจริงใจให้ข้าเห็นเสียก่อน มิฉะนั้น…ข้าจะไม่ขายมันให้พวกเจ้า!”

“อะไรนะ! เหตุใดถึงไม่ขายเล่า!” พวกนางตกใจมากที่ซูหวานหว่านพูดว่าจะไม่ขาย

“ใช่แล้ว ไม่ขายเว้นแต่ว่าพวกเจ้านั้นจะ… มาขอร้องอ้อนวอนต่อข้า!” ซูหวานหว่านเผยรอยยิ้มออกมา

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田ครั้นวสันตพิรุณเพิ่งผ่านพ้น ท้องฟ้าก็กลับมาแจ่มใสดังเดิม เมฆหมอกขาวบางเบาลอยล่องเหนือแนวบรรพต ก่อเกิดเป็นภาพทิวทัศน์อันตระการตา ในภาพนั้นมีทั้งต้นไม้ ใบหญ้า และผู้คน ‘ซูหวานหว่าน’ ก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพทิวทัศน์นั้น นางเพิ่งขุดผักป่าขึ้นมาเต็มตะกร้าและกำลังจะตรงกลับบ้าน “พี่หญิง!” ทันใดนั้นเอง เด็กชายวัยกระเตาะผู้หนึ่งก็รีบวิ่งมาหา พร้อมทั้งตะโกนเรียกนางไปด้วย “ช้า ๆ ก็ได้” ซูหวานหว่านมองไปที่น้องชายตัวแสบของตนพร้อมกับระบายยิ้มให้ ซูจิ่นหมิงกลับไม่มีทีท่าว่าจะวิ่งช้าลงแต่อย่างใด เขายังคงวิ่งตรงเข้ามาหาซูหวานหว่านอย่างรีบร้อน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset