เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 – ตอนที่ 246 ความจริงที่ซับซ้อน

ตอนที่ 246 ความจริงที่ซับซ้อน

ซูหวานหว่านอยากจะให้ฮูหยินเฉียวปล่อยมือ หากแต่แรงของนางกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นนางก็ได้ยินเสียงพึมพำของฮูหยินเฉียว “เฉียวฝู่! เจ้าจะฆ่าซูหวานหว่านไม่ได้! ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ให้สิ่งที่เจ้าต้องการ!”

ห้ะ? นี่มันเรื่องอะไรกัน? แววตาของซูหวานหว่านเต็มไปด้วยความสงสัย เป็นไปได้หรือไม่ว่าฮูหยินเฉียวและนายท่านเฉียวมีเรื่องสำคัญที่ปิดบังเอาไว้

แรงบีบที่คอทำให้ซูหวานหว่านหายใจได้อย่างลำบาก นางไม่สนใจร่างกายของฮูหยินเฉียวอีกต่อไป และพยายามบีบมือข้อมือของฮูหยินเฉียวออก ฮูหยินเฉียวออกแรงขัดขืนอย่างรุนแรง และในที่สุดนางก็ลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นซูหวานหว่านนางก็ปล่อยมือ

ซูหวานหว่านลูบไล้ลำคอของตนเอง แล้วถามออกมาอย่างสงสัย “ฮูหยินเฉียว เมื่อครู่ท่านพูดว่าอย่างไรนะ?”

“นั่น… มันไม่มีอะไร!” ฮูหยินเฉียวพูดขึ้นมา เมื่อพบว่าซูหวานหว่านถูกตัวเองบีบคอจนเกิดเป็นรอยสีม่วงดำชัด นางจึงกำลังจะเอ่ยขอให้นางออกไป

แต่ซูหวานหว่านยังคงนิ่งเฉย ยืนนิ่งอยู่กับที่และมองไปที่ฮูหยินเฉียวถามขึ้นมาว่า “ฮูหยินเฉียว นายท่านเฉียวบอกว่าท่านเป็นแม่ของข้า มันคือเรื่องจริงใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ ข้าไม่ใช่แม่ของเจ้า แม่นางซูเจ้าอย่าพูดจาเหลวไหลเช่นนี้” ฮูหยินเฉียวหลุบตาลงหลบสายตาของซูหวานหว่าน เมื่อเห็นแบบนี้นางก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่นางไม่ได้สนใจที่จะยอมรับเรื่องนี้ จึงไม่เก็บเอามาใส่ใจเท่าใดนัก นางเก็บเข็มมาทำความสะอาดและนำน้ำแร่ออกมาจากมิติฟาร์มเทใส่อ่าง และก่อนที่จะออกไปนางเอ่ยเตือนว่า “คนที่วางยาพิษท่านโดยใช้เครื่องหอมก็คือเฉียวหน่วนอวี้ ส่วนยาพิษในยาที่ท่านดื่มไปก่อนหน้านี้ ข้าไม่ได้อยู่ด้วยก่อนหน้านี้ จึงไม่อาจรู้ได้ว่าผู้ใดเป็นคนทำ ท่านควรจะระวังคนรอบข้าง ๆ เอาไว้ให้ดี!”

“ขอบคุณแม่นางซู” ฮูหยินเฉียวกล่าวและลุกขึ้นเดินไปส่งซูหวานหว่านที่หน้าประตู ขณะซูหวานหว่านกำลังจะเอ่ยขอบคุณก็พบว่าใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นซีดเซียว อีกทั้งหน้าตาของฮูหยินเฉียวก็มีส่วนคล้ายคลึงกับนางมาก!

ดูเหมือนว่าฮูหยินเฉียวจะเป็นของแม่ของนางจริง ๆ ซูหวานหว่านกำลังจะเดินจากไปหากแต่นางก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ หญิงสาวจึงนำนกออกมาสองตัว ทิ้งเอาไว้เพื่อให้เฝ้าดูติดตามอาการของฮูหยินเฉียวให้นาง

ค่ำคืนนี้มืดสนิทราวกับคืนเดือนมืด ซูหวานหว่านเดินออกไปนานแล้วหากแต่นางยังเดินวนไปวนมารอบบ้านตระกูลเฉียว นางไม่รู้ว่านางเดินมาที่ใด เมื่อเห็นแสงเทียนส่องสว่างมาจากที่ไกล ๆ ก็หมายจะเดินเข้าไปถาม แต่จู่ ๆ นางก็ได้ยินเสียงของเฉียวหน่วนอวี้พูดขึ้นมาว่า “ท่านพ่อ! ท่านจะให้สินเดิมของข้าแค่หนึ่งแสนตำลึงงั้นรึ ครอบครัวของเราเป็นถึงพ่อค้าขายเกลือ! ท่านจะให้ลูกสาวของท่านแต่งงานแต่มีสินเดิมแค่หนึ่งแสนตำลึง จะไม่โดนคนอื่นเยาะเย้ยหรืออย่างไร!”

“เจ้าจะโวยวายไปทำไมกัน เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเงินเหรอ นังแก่นั่นต่างหากที่เป็นคนดูแลเรื่องนี้ อีกทั้งเจ้ายังลอบวางยาพิษนาง ข้ายังไม่รู้วิธีทำเกลือจากปากนางเลย! และก็ไม่รู้ด้วยว่านางเอาเงินไปซ่อนไว้ที่ไหน! หากนางตายการค้าเกลือตระกูลเฉียวของพวกเราก็คงจบแน่!”

ซูหวานหว่านเดินเข้าไปใกล้ ๆ และแอบมองผ่านเงาในหน้าต่างอย่างระมัดระวัง บุคคลที่กำลังพูดคุยกันอยู่คือเฉียวหน่วนอวี้และนายท่านเฉียว!

“ท่านพ่อ! ข้าเป็นลูกสาวในนามของนาง! ข้าเคยขอเงินนางแล้วแต่นางก็ไม่ให้ ข้ารู้สึกโกรธมาก!” เฉียวหน่วนอวี้พูดออกมาพร้อมกับกระทืบเท้าอย่างดุดัน “ท่านพ่อ ถึงแม้ว่าท่านจะฉวยโอกาสนำกิจการค้าเกลือตระกูลจ้าวมาเป็นของตระกูลตนเอง แต่ท่านจะต้องรู้สูตรในการทำเกลือมาให้เร็วที่สุด ลูกสาวของท่านกำลังจะแต่งงาน อีกทั้งซูหวานหว่านก็ยังมาปรากฏตัวขึ้นอีก! นางมีหน้าตาคล้ายกับนังแก่นั่นมาก เรื่องนี้มันน่าสงสัยนัก! นางจะต้องรู้แน่ ๆ ว่าข้าไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของนาง! พวกเราจะต้องนำตัวนางออกไปก่อนที่ข้าจะแต่งงานและฆ่านางทิ้งระหว่างทางซะ!”

สองคนนี้คิดแผนการได้ดีมาก!

ซูหวานหว่านรู้สึกตกใจทันที ที่แท้ที่นายท่านเฉียวเป็นห่วงกังวลเรื่องอาการป่วยของฮูหยินเฉียว… ทั้งหมดมันคือการแสดง! ความรู้โกรธพลันเกิดขึ้นในใจ

เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสองคน ซูหวานหว่านก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาอีกหนึ่งประการ ดูเหมือนว่าเฉียวหน่วนอวี้จะเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของนายท่านเฉียว แล้วตัวนางล่ะ? แต่ถ้าเป็นแบบนั้นเหตุใดนายท่านเฉียวถึงกับปฏิบัติต่อนางแบบนั้น เมื่อนึกถึงตรงนี้ซูหวานหว่านก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาอีกประการหนึ่งว่านางอาจจะเกิดมาจากฮูหยินเฉียวก็จริง แต่ว่านายท่านเฉียวไม่ใช่พ่อของนาง?

ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงพูดคุยดัง “ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าคิดวิธีนำสูตรที่แม่หวงแหนที่สุดชีวิตมาได้แล้ว ความจริงแล้วนางจะต้องตายไปหลายปีแล้วแต่นางก็ยังไม่ตายเสียที แน่นอนว่าคราวนี้แม่จะต้องพูดออกมาอย่างแน่นอน!” เฉียวหน่วนอวี้หัวเราะออกมาอย่างอวดดี จากนั้นก็พูดพึมพำออกมาครู่หนึ่ง ทันใดนั้นมีเสียงปรบมือดังออกมาจากในห้อง ซูหวานหว่านไม่ค่อยได้ยินเกี่ยวกับแผนการที่เฉียวหน่วนอวี้พูดออกมาเท่าไร นางจึงรู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับฮูหยินเฉียว นางรีบหันหลังกลับเดินไปห้องของฮูหยินทันที

แต่ทันทีที่นางเดินออกจากเรือน และกำลังจะเดินถึงเรือนของฮูหยินเฉียว ซูหวานหว่านก็เห็นร่างสูงประมาณห้าหรือหกฉือปรากฏขึ้นบนหน้าต่าง เห็นเงาของมีดปักอยู่บนคอของใครในห้อง

ซูหวานหว่านรีบผลักประตูเข้าไปทันทีแต่ทันใดนั้นลมหนาวก็พัดผ่าน ตะเกียงภายในห้องก็ดับลง กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้ง! จู่ ๆ หน้าต่างก็ถูกเตะออกไป ร่างสีดำก็กระโดดหนีไป!

ซูหวานหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อนางหันไปมองอีกครั้งก็พบว่ามีศพนอนอยู่บนเต็มไปหมด!

และคนที่ลอบเข้ามาฆ่าได้หายตัวไปแล้ว!

หัวใจของซูหวานหว่านเต้นระรัวยิ่งกว่าเดิม นางกำลังมองหาร่างของฮูหยินเฉียวแต่นางก็ไม่พบฮูหยินเฉียว!

ดูเหมือนว่าฮูหยินเฉียวจะไม่ได้ถูกฆ่า แต่…ฮูหยินเฉียวหายไปไหน?

เป็นไปได้หรือไม่ว่านางได้รับการช่วยเหลือจากชายชุดดำคนนั้น?

ซูหวานหว่านรู้สึกว่าโลกแห่งนี้ยังมีความโชคดีเล็กน้อย ภายในหัวใจของนางขณะนี้ นางต้องการออกไปจากที่นี่ เพื่อให้นกไปติดตามสืบข่าวเรื่องนี้! ทว่าในตอนนี้ที่กำลังจะออกไป นางกลับเจอเข้ากับเฉียวหน่วนอวี้และพ่อของนางเข้า พร้อมกับกลุ่มคนใช้!

พวกเขาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว!

ก่อนที่ซูหวานหว่านจะเอ่ยปากพูดอะไร เฉียวหน่วนอวี้ก็ชี้ไปที่ซูหวานหว่านและตะโกนออกมาว่า “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”

หลังจากพูดออกมาแบบนั้น เฉียวหน่วนอวี้ก็ขมวดคิ้วแน่น วิ่งเข้าไปในห้องเพื่อสำรวจดู แต่ก็ต้องก้มหน้าอาเจียนออกมาทันที “ซูหวานหว่าน! นี่เจ้าฆ่าคนพวกนี้อย่างงั้นเหรอ! พวกเจ้าจับนางเอาไว้!”

เฉียวหน่วนอวี้ถือว่าเป็นสตรีที่สวยงามคนหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าสมองของนางจะยังไม่พัฒนาสักเท่าไร! ซูหวานหว่านพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “เจ้าควรจะใส่ใจเกี่ยวกับหลักฐานมากกว่าคำพูด ถ้าเจ้าคิดพูดจาใส่ร้ายข้า เจ้าควรจะรู้อยู่แก่ใจตนเองดี”

เมื่อพูดจบก็เดินเข้าไปหาเฉียวหน่วนอวี้และบีบคางของนางเอาไว้ หญิงสาวมองสบตาอีกฝ่ายพร้อมกับพูดว่า “คุณหนูรองตระกูลเฉียว เจ้าอย่าพูดจาซี้ซั้วไปหากเจ้ายังไม่อยากปากเน่า!”

เมื่อได้ยินแบบนี้ใบหน้าของเฉียวหน่วนอวี้พลันเปลี่ยนไป “ใครบอกว่าข้าคือคุณหนูรอง ข้าคือคุณหนูใหญ่!”

ซูหวานหว่านรู้สึกว่าการคาดเดาของนางนั้นไม่ผิดอย่างแน่นอน จึงพูดออกมาว่า “ทำไมเจ้าจะต้องตื่นตระหนกไป ข้าพูดถูกใช่ไหม ข่าวลือที่ว่านายท่านเฉียวได้เลี้ยงสตรีคนหนึ่งที่มีรูปโฉมงามดั่งนางฟ้าเอาไว้ แต่เขาไม่ได้ปล่อยให้นางและฮูหยินเฉียวได้พบกัน และที่ละเลยภรรยาคนที่สองของตัวเองไปบ้าง ก็เพราะภายในใจลึก ๆ เขายังคงรักฮูหยินเฉียวอย่างสุดหัวใจ! …ส่วนที่เฉียวหน่วนอวี้มีหน้าตาไม่คล้ายกับฮูหยินเฉียวหรือนายท่านเฉียว แสดงว่าถ้าไม่ได้เกิดมาจากภรรยาคนที่สอง นางจะเกิดมาจากหินหรืออย่างไร?”

“เจ้า!” เฉียวหน่วนอวี้ก็ยกมือขึ้นพยายามแกะมือของซูหวานหว่าน แต่หญิงสาวก็จับคางของตนเอาไว้อย่างแน่นหนา!

“ปล่อยนาง! อย่าทำร้ายนาง! นางเป็นน้องสาวของเจ้า!” นายท่านเฉียวพูดออกมาอย่างโกรธเคือง

“อย่านับญาติกับข้า ข้าไม่มีน้องสาวแบบนี้!” ซูหวานหว่านหัวเราะออกมา “นอกจากนี้ พ่อของข้าก็ไม่ใช่เจ้าอีกด้วย!”

“เฮอะ! เจ้ารู้! ใช่แล้ว พ่อของเจ้าไม่ใช่ข้าอย่างแน่นอน!” นายท่านเฉียวหัวเราะออกมา และเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่นางพูดออกมา ทำเอาเขาอยากจะฉีกปากของซูหวานหว่านจริง ๆ!

“ข้าไม่รู้ ข้าแค่คาดเดาเท่านั้น!” ซูหวานหว่านพูดเยาะเย้ยออกมา และเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้ว บางทีนายท่านเฉียวอาจจะไม่พอใจเพราะเรื่องนี้และเขาก็เอาลูกของภรรยาคนที่สองของเขามาแทนที่นาง! แล้วจับนางโยนทิ้งไว้ในป่า!

นอกจากนี้ แท้ที่จริงแล้วนายท่านเฉียวกลับเป็นเพียงคนไร้ความสามารถไม่มีหน้ามีตามากนักในสังคม! เขาคงเป็นเพียงคนขี้ขลาดคนหนึ่งเท่านั้น!

ซูหวานหว่านมองไปที่นายท่านเฉียวอย่างเย็นชา พร้อมกับแสยะออกมา รอยยิ้มของนางทำให้นายท่านเฉียวถึงกับเหงื่อออก คิดในใจว่าจะให้ซูหวานหว่านพูดเรื่องนี้ออกไปไม่ได้เด็ดขาด เขาเลยพูดออกมาอย่างเคร่งขรึมว่า “จับตัวนางไว้ให้ข้า! แล้วส่งตัวนางไปขายซะ!”

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田ครั้นวสันตพิรุณเพิ่งผ่านพ้น ท้องฟ้าก็กลับมาแจ่มใสดังเดิม เมฆหมอกขาวบางเบาลอยล่องเหนือแนวบรรพต ก่อเกิดเป็นภาพทิวทัศน์อันตระการตา ในภาพนั้นมีทั้งต้นไม้ ใบหญ้า และผู้คน ‘ซูหวานหว่าน’ ก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพทิวทัศน์นั้น นางเพิ่งขุดผักป่าขึ้นมาเต็มตะกร้าและกำลังจะตรงกลับบ้าน “พี่หญิง!” ทันใดนั้นเอง เด็กชายวัยกระเตาะผู้หนึ่งก็รีบวิ่งมาหา พร้อมทั้งตะโกนเรียกนางไปด้วย “ช้า ๆ ก็ได้” ซูหวานหว่านมองไปที่น้องชายตัวแสบของตนพร้อมกับระบายยิ้มให้ ซูจิ่นหมิงกลับไม่มีทีท่าว่าจะวิ่งช้าลงแต่อย่างใด เขายังคงวิ่งตรงเข้ามาหาซูหวานหว่านอย่างรีบร้อน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset