เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 – ตอนที่ 282 คาดการณ์ผิดไป

ตอนที่ 282 คาดการณ์ผิดไป

ตอนที่ 282 คาดการณ์ผิดไป

ทันทีที่สิ้นคำสั่ง เหล่าองครักษ์ก็วิ่งกรูดกันเข้ามา แต่ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาขวางพวกเขาเอาไว้

 ฮองเฮาและคุณหนูจ้าวพูดถูกแล้ว  ฉีเฉิงเฟิงจับมือก็จับซูหวานหว่านเอาไว้ ชายหนุ่มยกมือขึ้นชี้ไปที่พระสนม  พระสนม ท่านอยากจะส่องกระจกดูหรือไม่? 

 ข้าเป็นแม่ของเจ้านะ กล้าดียังไงมาพูดจากับข้าเช่นนี้!  ร่างกายของสือซีเอ๋อร์สั่นสะท้านด้วยบันดาลโทสะ  ฉีเฉิงเฟิง เจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ! 

 ท่านก็เช่นกัน  ฉีเฉิงเฟิงกล่าวพร้อมทั้งเคลื่อนย้ายร่างของฮองเฮามาอยู่ด้านหลังของตนเอง ร่างกายสูงโปร่งของฉีเฉิงเฟิงราวกับเป็นกำแพงกีดกั้นการจ้องมองของสือซีเอ๋อร์

ฉีเฉิงเฟิงชำเลืองมององค์จักรพรรดิ  เสด็จพ่อ พระสนมเอกมีชื่อเลืองลือในวังหลวง และเป็นที่รู้จักว่างดงามราวกับเทพธิดา เต็มไปด้วยเสน่ห์ นั่นเป็นเรื่องที่ท่านเข้าใจผิดมานานแล้ว ที่จริงแล้ว… 

แต่ฉีเฉิงเฟิงก็ถูกสือซีเอ๋อร์เอ่ยขัดจังหวะขึ้นมาก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค  ฝ่าบาท! เด็กเนรคุณคนนี้คิดกำลังจะยึดบัลลังก์! ท่านจะต้องรีบลงโทษเขาเดี๋ยวนี้ 

แม่แบบนี้ก็มีด้วยหรือ?

ฮองเฮาที่ฟังอยู่นานไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จึงเอ่ยออกมาว่า  สือซีเอ๋อร์เจ้าคงเกลียดองค์ชายสามมากสินะ ถึงไม่อยากให้เขามีชีวิตได้เห็นเดือนได้เห็นตะวัน! ความคิดของเจ้าเหมือนคนเป็นแม่ที่ไหนกัน! 

 แน่นอนว่านางไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเขา!  สือซีเอ๋อร์มองไปที่จ้าวจื่อเหยียนอย่างเย็นชา แล้วพูดออกมาว่า  จ้าวจื่อเหยียน ข้าทำเพื่อฝ่าบาท แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าคิดถึงแต่ตัวเองไม่ใช่หรือไง! เรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ยังนำมากวนใจฝ่าบาท เจ้ารู้ไหมว่าพระองค์ทรงทำงานหนักมากขนาดไหน?! 

 หยุดทะเลาะกันได้แล้ว!  ในที่สุดฉีเฉิงก็เอ่ยปากห้ามทุกคน จากนั้นก็มองไปที่พวกซูหวานหว่านอย่างเย็นชา  เรื่องที่พวกเจ้าทั้งสามคนบุกเข้ามาที่นี่ในวันนี้ถือซะว่าข้าไม่เคยเห็น รีบกลับไปซะ! อย่าให้ข้าได้เห็นหน้าพวกเจ้าอีก! 

 … 

ฮ่องเต้หลงใหลนางมาก!

ซูหวานหว่านพลันเงียบลง และนางก็รู้สึกเศร้าใจมากเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าตระกูลจ้าวได้ถวายเงินให้ฮ่องเต้ เพื่อนำไปช่วยประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคลังหลวงที่ว่างเปล่า แน่นอนว่ามันตกไปอยู่กับตำหนักฉางเล่อทั้งหมด ดูเหมือนว่าฮ่องเต้จะทุ่มเงินทั้งหมดไปกับสือซีเอ๋อร์!

เมื่อเห็นสีหน้าของซูหวานหว่านและคนอื่น ๆ สือซีเอ๋อร์ก็รู้สึกมีความสุขมาก นางก็ยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล และรูปลักษณ์ที่สวยงามเพราะภาพลวงตาก็ดูเหมือนจะทำให้ผู้คนต่างหลงใหลได้ทันที ฉีเฉิงเองพยายามระงับความโกรธของตัวเองเอาไว้ พร้อมกับโอบเอวของสือซีเอ๋อร์พระสนมเองของตัวเองและเดินจากไปทันที

เมื่อมองไปที่แผ่นหลัง เอวคอดของสือซีเอ๋อร์ที่ถูกโอบเอาไว้อย่างแน่นหนา ผิวขาวของสือซีเอ๋อร์ ราวกับหยกขาวบริสุทธิ์ ตัดกับชุดสีแดงที่สือซีเอ๋อร์สวมใส่ มันช่างงดงามมาก พร้อมกับมีสายลมพัดอ่อน ๆ ทำให้เส้นผมของนางพริ้วสวยไหวไปมา หากมองดูจากแผ่นหลังของทั้งสองคนทั้งคู่ ช่างเหมือนกิ่งทองใบหยก

 เฮอะ  จ้าวจื่อเหยียนก็ถอนหายใจเยาะเย้ยออกมา และเดินหันหลังกลับไป

ซูหวานหว่านจำภารกิจของมิติฟาร์มได้เป็นอย่างดี นางจะต้องเปิดเผยความลับของสือซีเอ๋อร์ต่อหน้าสาธารณชน แต่ว่า…นางจะต้องขอความช่วยเหลือจากจ้าวจื่อเหยียนให้เข้ามาช่วยในเรื่องนี้!

ซูหวานหว่านก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมาว่า  ฮองเฮาเพคะ โปรดรอหม่อมฉันด้วยเพคะ 

 หือ?  จ้าวจื่อเหยียนชะลอฝีเท้า และนึกเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ นางก็พูดด้วยออกมารอยยิ้มเล็กน้อย  เรื่องวันนี้ข้าจะต้องขอบคุณหนูจ้าวด้วย 

 ฝ่าบาทขอบคุณหม่อมฉันด้วยเหตุใดเพคะ ในเมื่อมันคือเรื่องจริงต่างหาก?  หลังจากนั้นซูหวานหว่านก็กล่าวออกมาว่า  ฮองเฮาต้องการทวงสิทธิ์ของตัวเองคืนมาหรือไม่? หม่อนฉันมีวิธีที่ดี ๆ หม่อนฉันหวังว่าฮองเฮาจะให้ความร่วมมือกับหม่อมฉัน 

 วิธีอะไร?  จ้าวจื่อเหยียนถามออกมาด้วยความสงสัย พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตาของซูหวานหว่าน ทั้งสองสบตากันและกัน จื่อเหยียนรู้สึกประทับใจในแววตาอันใสบริสุทธิ์ของซูหวานหว่าน ทำให้นางเชื่อในคำพูดของหญิงสาว  เจ้าต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไร? 

 ฝ่าบาททรงปรีชาสามารถมาก  ซูหวานหว่านพยักหน้า นางเข้าใจถึงความรู้สึกของจ้าวจื่อเหยียนดี สตรีที่เก่งกาจมากและรู้เรื่องกฏระเบียบดีขนาดนี้คนหนึ่ง ก็คงเป็นเพราะว่านางมีประสบการณ์มากมาย

ซูหวานหว่านมองท้องฟ้าที่นิ่งสงบราวกับสายน้ำ เมื่อครู่สังเกตจากความคิดในการตัดสินของฉีเฉิงแล้ว ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของฉีเฉิงและสือซีเอ๋อร์คงเพิ่งเริ่มได้ไม่นาน นางจึงกล่าวออกมาว่า  ฝ่าบาทจะต้องนำผู้มีอิทธิพลเข้ามาในวังอย่างเงียบ ๆ ภายในเวลาหนึ่งเค่อ! หรือจะรออยู่หน้าประตูนอกวังก็ได้ 

ภายในเวลาหนึ่งเค่อดูเหมือนมันจะเป็นงานยากสำหรับนาง! จ้าวจื่อเหยียนครุ่นคิดไปอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบตกลง และฟังคำสั่งที่ซูหวานหว่านสั่งให้ยืนรออยู่ที่นอกประตูตำหนักของฉางเล่อ

การหาห้องลับภายในตำหนักเล่อฉาง ซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงเปลี่ยนเป็นชุดสีดำพลางตัว และเดินออกไปจากห้องลับหลังคาทันที ซูหวานหว่านคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการทำลายภาพลวงตานั้นคือลูกปัดจิตวิญญาณ แต่เมื่อนางกำลังนำมันออกมา นางก็พบว่าลูกปัดจิตวิญญาณของนางได้หายไป!

ถ้าจะพูดให้ถูก ดูเหมือนว่าลูกปัดจิตวิญญาณจะไม่ได้อยู่ในตัวของนาง!

ดังนั้นมันจึงไม่ยอมออกมาสักที!

นางจะทำอย่างไรดี! นางได้มาอยู่บนหลังคาห้องนอนของสือซีเอ๋อร์แล้ว! ตอนนี้นางจะต้องเร่งมือแล้ว มิฉะนั้นคนดูแลอาจจะมาเห็นนางได้!

ซูหวานหว่านเกิดอาการวิตกกังวลขึ้นมาทันที ลูกปัดจิตวิญญาณยังไม่ออกมาปรากฏตัวเลย และทันใดก็ได้ยินเสียงมิติฟาร์มพูดออกมาว่า  เจ้าบ้าน เจ้ายังคงไม่รู้ตัวว่าลูกปัดจิตวิญญาณนั้นจะปรากฏออกมาเฉพาะเมื่อเจ้าตกอยู่ในอันตราย! เจ้าจะท่องคาถากลับไปกลับมาเรียกมันออกมาทำไม? 

 … 

ดูเหมือนว่านางจะรีบร้อนจนลืมเรื่องนี้ไป ซูหวานหว่านอยากจะตบไปที่สมองของตัวเอง หลังจากนั้นนางฟื้นสติคืนกลับมาได้

ฉีเฉิงเฟิงก็มองไปที่ซูหวานหว่านด้วยความสงสัย และกล่าวว่า  เป็นอะไรไป? 

 ไม่ได้เป็นอะไร  ซูหวานหว่านเอ่ยออกมาแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกเสียใจเล็กน้อย

ทันใดนั้นก็มีคนเข้ามาจุดตะเกียงไฟในห้องด้านล่างนี้ ภายในห้องพลันมีแสงสว่างขึ้น ในขณะนั้นเองซูหวานหว่านก็นำตัวของฉีเฉิงเฟิงเข้าไปในมิติฟาร์มทันที!

จากนางก็ได้ยินทหารองครักษ์ยิ้มอย่างมีความสุขว่า  เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องแล้ว! มีผู้ลอบสังหารแอบเข้ามาในตำหนัก! 

ซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงก็มองหน้ากัน และวางแผนจะถอยตัวไปก่อน แต่องค์รักษ์คนนั้นดูเหมือนจะเร็วกว่าพวกนางหนึ่งก้าว องครักษ์ได้ให้คนของตัวเองได้ล้อมภายในตำหนัก และในห้องเอาไว้หมดแล้ว!

นางไม่สามารถหนีได้!

ซูหวานหว่านขมวดคิ้ว และทันใดก็เห็นเงาของคนสองคนที่พวกนางรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดีเดินออกมา พวกเขาคือสือซีเอ๋อร์และฉีเฉิง!

 คุณหนูจ้าว เจ้ายังไม่ออกไปอีกหรือ?   สือซีเอ๋อร์ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเจือหัวเราะและเอ่ยประชดประชันกับกับฉีเฉิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตัวเอง  ฝ่าบาทที่คุณหนูจ้าวปรากฏตัวบนหลังคาห้องนี้เพราะว่านางคงอยากจะมาดูดาว นางคงไม่ใช่นักฆ่าจะเป็นไปได้อย่างไร? ฝ่าบาททรงคิดว่า… 

 เหล่าองครักษ์! ลากตัวนางลงมาแล้วนำไปตัดหัว  ฉีเฉิงพูดออกมาพร้อมกับจับมือของสือซีเอ๋อร์ด้วยสีหน้าที่กังวลใจ จากนั้นก็เอ่ยปลอบโยนนางว่า  เจ้าอย่าตกใจไปเลยสือซีเอ๋อร์ 

 โชคดีที่วันนี้ฝ่าบาทได้อยู่ที่นี่กับข้า! มิฉะนั้นข้าคงจะ…ฮึก  สือซีเอ๋อร์ส่งเสียงสะอื้นออกมา พร้อมกับซบไปที่อกของฉีเฉิง

 … 

นางก็ไม่รู้ว่าทำไมสือซีเอ๋อร์ถึงได้จำนางได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ เพราะนางได้ปิดหน้าพรางตัวเอาไว้! ซูหวานหว่านมองไปที่ทั้งสองคน ความรู้สึกรังเกียจพลันเกิดขึ้นในใจอย่างห้ามไม่ได้ และนางรู้สึกว่าสือซีเอ๋อร์จะกำจัดคนที่มาขวางทางตัวเองมากกว่าจะลงมือทำอะไรฮ่องเต้!

เมื่อคิดแบบนี้ได้ เหล่าองค์รักษ์ก็เดินเข้ามาหวังจะจับตัวของนาง

ซูหวานหว่านคิดถึงสิ่งของมิติฟาร์มได้พูดเอาไว้ พอคิดได้แบบนี้นางก็กระโดดลงไปด้านล่าง และวิ่งตรงไปหาสือซีเอ๋อร์ทันที!

นางทำแบบนี้เพื่อที่จะทำให้ลูกปัดจิตวิญญาณนั้นปรากฏออกมา!

หากสือซีเอ๋อร์ตอบโต้นางกลับมา แน่นอนว่าลูกปัดจิตวิญญาณจะต้องปรากฏออกมาแน่!

ทันใดนั้นซูหวานหว่านก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิด เพราะว่าสือซีเอ๋อร์ไม่ได้ตอบโต้นางกลับมา และไม่มีท่าทีที่ขัดขืนอะไรแล้วก็ยอมให้นางเข้าล็อกคอของตัวเองแบบง่าย ๆ อีก!

ซูหวานหว่านรู้สึกตกใจ สือซีเอ๋อร์คิดจะทำอะไรกันแน่!

 

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田ครั้นวสันตพิรุณเพิ่งผ่านพ้น ท้องฟ้าก็กลับมาแจ่มใสดังเดิม เมฆหมอกขาวบางเบาลอยล่องเหนือแนวบรรพต ก่อเกิดเป็นภาพทิวทัศน์อันตระการตา ในภาพนั้นมีทั้งต้นไม้ ใบหญ้า และผู้คน ‘ซูหวานหว่าน’ ก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพทิวทัศน์นั้น นางเพิ่งขุดผักป่าขึ้นมาเต็มตะกร้าและกำลังจะตรงกลับบ้าน “พี่หญิง!” ทันใดนั้นเอง เด็กชายวัยกระเตาะผู้หนึ่งก็รีบวิ่งมาหา พร้อมทั้งตะโกนเรียกนางไปด้วย “ช้า ๆ ก็ได้” ซูหวานหว่านมองไปที่น้องชายตัวแสบของตนพร้อมกับระบายยิ้มให้ ซูจิ่นหมิงกลับไม่มีทีท่าว่าจะวิ่งช้าลงแต่อย่างใด เขายังคงวิ่งตรงเข้ามาหาซูหวานหว่านอย่างรีบร้อน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset