เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) – ตอนที่ 177 เหอเหวินเจี้ยนที่มีประสงค์ร้าย

เหอเหวินเจี้ยนมีอายุ 40 กว่าปีแต่ก็ไม่ได้หัวล้านหรือลงพุง เขาสวมแว่นตา ท่าทางสุภาพเรียบร้อย

ฉินหงเหยียนเดินเข้าไปในห้องทำงาน ระบายยิ้มแล้วเป็นฝ่ายยื่นมือหาอีกฝ่าย “คุณเหอไม่เจอกันนานเลยนะคะ”

“ไม่ได้เจอกันนานเลย”

เหอเหวินเจี้ยนรีบร้อนยื่นมือไปกุมมืออีกฝ่าย

เมื่อสัมผัสได้ถึงมือขวาที่นุ่มเนียนน่าสัมผัสของหญิงสาว เหอหวินเจี้ยนก็จับมืออีกฝ่ายอยู่นานไม่ยอมปล่อย ขณะที่ดวงตาก็จ้องฉินหงเหยียนเขม็ง

“หงเหยียนคุณสวยขึ้นกว่าเดิมอีกนะครับเนี่ย”

ก่อนนี้ทั้งสองคนเคยเจอหน้ากันที่ประชุมในโตรอนโต้ ตอนนั้นอาการโรคปอดของเหอเหวินเจี้ยนกำเริบพอดี แล้วตัวเขาก็ไม่ได้มียา

ฉินหงเหยียนที่เป็นคนแปลกหน้าเห็นเขาก็รีบชงกาแฟร้อนๆ ให้เขา ช่วยชีวิตเขาเอาไว้

ตั้งแต่ตอนนั้นเหอเหวินเจี้ยนก็แอบชอบฉินหงเหยียน

สำหรับฉินหงเหยียนนั้นนี่เป็นแค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้น อีกทั้งหล่อนก็ดีกับผู้ชายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเหล่าผู้บริหารทั้งหลาย

ส่วนที่หญิงสาวมาที่เทียนไห่แล้วมาหาเขาเป็นคนสุดท้ายนั้น เพราะหล่อนรู้ว่า ชายตรงหน้าปรารถนาในตัวตนเองตนเอง อีกทั้งยังรุนแรงเสียด้วย

ถ้าหากไม่ถูกหลิ่วอวี่เจ๋อบีบบังคับจนสิ้นหนทาง หญิงสาวก็ไม่อยากจะเจอคนผู้นี้เท่าไหร่นัก อย่างไรเสียตอนนี้ตนเองก็มีแฟนแล้ว

“ขอบคุณนะคะที่ชม ดูแล้วคุณเหอสุขภาพแข็งแรงขึ้นมากเลยนะคะ”

ฉินหงเหยียนสางผม

เหอเหวินเจี้ยนที่ยังไม่ยอมปล่อยมือฉินหงเหยียนจนตอนนี้ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังใช้มืออีกข้างกุมมือทั้งสองข้างของฉินหงเหยียนแล้วกล่าว

“คิดถึงเมื่อสามปีก่อนที่พวกเราไปเล่นสกีที่แคนดาด้วยกัน คุณจำได้ไหมครับ? ตอนนั้นคุณยังเล่นสกีไม่เป็น เป็นผมนี่แหละที่ประคองคุณจากด้านหลัง สอนคุณเหมือนสอนเด็กหัดเดินทีละก้าวๆ เลย”

สีหน้าฉินหงเหยียนเก้อเขิน ภาพงดงามตอนไปเล่นสีที่ Lake Louise Ski Resort ก็ปรากฏวาบขึ้นมาในหัว

หิมะที่ขาวโพลนปกคลุมทะเลสาบ ป่าไม้ต่างๆ

ตั้งแต่คราวนั้นที่เหอเหวินเจี้นสอนตนเองจนเล่นสกีเป็นแล้วนั้น ฉินหงเหยียนก็ชอบกีฬาประเภทนี้อย่างมาก ในหน้าหนาวของทุกปีเจ้าหล่อนต้องไปเล่นสกีเสมอ

คราวนี้ที่ฉินหงเหยียนมาอ้อนวอนเขาจึงไม่กล้าจะชักมือกลับ จึงงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ทักษะในการเล่นสกีของคุณเหอเป็นถึงระดับของนักกีฬาอาชีพ ฉันจะลืมได้ยังไงคะ?” ตอนนี้ฉันมาที่เทียนไห่ หน้าหนาวพวกเราสามารถไปเล่นสกีกันที่เป๋ยไห่ได้นะคะ”

เหอเหวินเจี้ยนกล่าวอย่างดีอกดีใจ “ดี! ไว้พวกเราไปเล่นสกีด้วยกันที่เป๋ยไห่นะ”

“อื้ม…เอ่อ คุณไม่คิดจะเชิญให้ฉันนั่งเหรอคะ?” ฉินหงเหยียนกล่าวอย่างเก้อเขิน

“อ้อ ผมผิดเอง รีบนั่งลงเร็ว” เหอเหวินเจี้ยนกล่าว

พอรู้ว่าฉินหงเหยียนจะมา เหอเหวินเจี้ยนรีบชงชาเอาไว้นานแล้ว แถมยังสั่งให้ลูกน้องซื้อโซฟาสีแดงให้ฉินหงเหยียนโดยเฉพาะ

อีกทั้งยังมีเบาะพิงหลังที่สบายอย่างยิ่ง รวมไปถึงดอกไม้สดที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักอีกด้วย

เมื่อหญิงสาวทรุดตัวนั่งลงแล้ว เหอเหวินเจี้ยนก็เอ่ยปากถาม“ คุณมาที่เทียนไห่ได้กี่วันแล้ว?”

ฉินหงเหียนกล่าวตอบ “เพิ่งถึงได้ไม่กี่วัน”

“ได้ยินมาว่าคุณไปสมัครงานมาหลายบริษัทแล้ว ทำไมไม่มาสมัครกับผมก่อนล่ะ?” เหอเหวินเจี้ยนกล่าวถาม

ฉินหงเหยียนรู้ว่าเหอเหวินเจี้ยนมีเจตนาไม่บริสุทธิ์กับตนเอง เขาต่างไปกับผู้ชายคนอื่น

ผู้บริหารคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะคิดอะไรกับฉินหงเหยียนแต่พวกเขาส่วนมากนั้นต่างก็เก็บความชอบนั้นเอาไว้ในใจ

แต่เหอเหวินเจี้ยนนั้นไม่เหมือนคนอื่น เขาแสดงความชื่นชอบที่มีต่อตนเองเอาไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าใครก็ดูออก

นี่ทำให้ฉินหงเหยียรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

“ฉันก็มาแล้วนี่ไงคะ?” ฉินหงเหยียนกล่าวพลางระบายยิ้ม

เหอเหวินเจี้ยนกล่าว “คุณเซี้ยะไม่อยู่ที่เทียนไห่ เขาเลยมาพบคุณไม่ได้ ผมคงจะแต่งตั้งคุณเป็นรองผู้บริหารบริษัทไป๋ลี่ไม่ได้ ผมคงต้องบอกคุณเรื่องนี้เอาไว้ก่อน ”

บริษัทไป๋ลี่เอ็กซ์เพรสเองก็เป็นบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้าน ตำแหน่งรองผู้บริหารนี้ไม่สามารถจะแต่งตั้งใครได้ตามอำเภอใจ

ฉินหงเหยียนกล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณเหอ ฉันไม่เคยคิดจะเป็นรองผู้บริหารเลยค่ะ ฉันแค่อยากสมัครเป็นผู้จัดการของสักแผนกเท่านั้นเอง ฉันไม่เคยทำงานสายอาชีพนี้มาก่อนฉันต้องเรียนรู้อีกมาก ฝึกทำงานในตำแหน่งต่างๆ”

“ผู้จัดการแผนกเหรอ?” กลายเป็นเหอเหวินเจี้ยนที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “คุณที่เป็นถึงประธานกรรมการบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป แล้วพอคุณมาสมัครงานกับผมจะให้คุณเป็นแค่ผู้จัดการแผนกได้ยังไง นั่นมันเท่ากับสิ้นเปลืองทรัพยากรเปล่าๆ ไม่ใช่หรือไง?”

ฉินหงเหยียนกล่าวพลางระบายยิ้ม “งั้นฉันถือว่าคุณตอบตกลงแล้วนะคะ”

ตอนนี้สีหน้าเหอเหวินเจี้ยนกลับมีตึงเครียดขึ้นมา!

ฉินหงเหยียนสังเกตเห็นสีหน้าของเหอเหวินเจี้ยนผิดปกติไป รู้ว่าตนเองต่อให้จะเป็นแค่ผู้จัดการตัวเล็กๆ ก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น

ฉินหงเหยียนพูดตรงๆ “คุณรู้เรื่องของฉันกับตระกูลหลิ่วแล้วใช่ไหมคะ?”

เหอเหวินเจี้ยนพยักหน้ารับ “ตระกูลหลิ่วแจ้งผมเอาไว้ก่อนนี้นานแล้ว บอกว่าถ้าคุณมาที่นี่ห้ามพวกเรารับคุณเข้าทำงาน ถึงแม้ว่าบริษัทไป๋ลี่ของเราเป็นศัตรูคู่แค้นของชุนเฟิง แต่ว่าส่วนตัวนั้นผู้บริหารระดับสูงอย่างพวกเราก็มีสัมพันธ์อันดีต่อกัน อีกทั้งด้วยอิทธิพลของตระกูลหลิ่วในเทียนไห่นั้น คุณเซี้ยะของเรายังห่างไกลกับเขานัก”

ฉินหงเหยียนก้มหน้าอย่างผิดหวังพลางกล่าว “พอเถอะค่ะ ไม่ต้องพูดค่ะ ฉันเข้าใจ”

พูดจบฉินหงเหยียนก็ผุดลุกขึ้นแล้วกล่าว “ฉันรบกวนคุณแล้ว คุณเหอคุณทำงานเถอะค่ะ ฉันขอตัวก่อน”

อากัปกิริยาที่จะชันตัวลุกขึ้นและคำพูดนี้ ในตลอดเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หล่อนทำมาเป็นหลายสิบครั้งแล้ว

ท่าทางคุ้นเคยนั้นชวนให้เจ็บปวดใจ

แต่ตอนที่ฉินหงเหยียนกำลังจะเดินออกไปนั้น เหอเหวินเจี้ยนก็คว้ามือข้างหนึ่งของเจ้าหล่อนเอาไว้ “หงเหยียนคุณอย่าเพิ่งไป ผมยังไม่ได้พูดสักหน่อยว่าจะไม่จ้างคุณ”

“ผมไม่กลัวจะไปล่วงเกินคนตระกูลหลิ่วหรอก! ผมจะให้คุณทำงานในตำแหน่งผู้จัดการของบริษัทไป๋ลี่ แล้วให้คุณทำงานแทนเฉินอัน แล้วในอนาคตให้คุณมารับตำแหน่งรองผู้บริหารและเลขาคณะกรรมการบริษัทไป๋ลี่!”

ฉินหงเหยียนตื้นตันใจและประหลาดใจอย่างยิ่ง “จริงเหรอ?”

อันที่จริงฉินหงเหยียนเองก็พอเข้าใจว่าเหอเหวินเจี้ยนมีเส้นสายและมีเบื้องหลังที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง คงจะไม่กลัวโดนตระกูลหลิ่วล้างแค้น

เหอเหวินเจี้ยนพยักหน้ารับแต่กลับกล่าว “แต่ว่าผมมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินหงเหยียนค้างแข็งบนใบหน้า

เพราะหล่อนพอจะเดาออกว่าเงื่อนไขชองอีกฝ่ายคืออะไร

เหอเหวินเจี้ยนกล่าว “หงเหยียนคุณเองก็รู้ ตั้งแต่ที่เราเจอกันที่โตรอนโต้เมื่อสามปีก่อน ผมก็ชอบคุณ ที่ผ่านมาพวกเราไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกัน แต่ตอนนี้คุณมาที่เทียนไห่แล้ว ต่อไปพวกเราทำงานในบริษัทเดียวกัน เราจะมีโอกาสอยู่ด้วยกันทุกวัน ดังนั้นผมหวังว่าต่อไปจะมีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์กับคุณ ขอแค่คุณยอมเป็นผู้หญิงของผม ผมจะช่วยคุณ ว่ายังไง?”

ฉินหงเหยีนคิดไม่ถึงว่าเหอเหวินเจี้ยนจะใช้เรื่องนี้มาบีบบังคับให้หล่อนยอมคบหากับเขา!

ฉินหงเหยียนปฏิเสธเขาทันที “คุณเหอคะ คุณเป็นคนที่มีภรรยาแล้ว ฉันเองก็มีแฟนแล้ว พวกเราจะทำแบบนี้ไม่ได้”

เหอเหวินเจี้ยนกล่าวอย่างตื่นเต้น “ขอแค่พวกเราไม่มีใครพูด เก็บความลับให้ดี ใครจะไปรู้? ผมคือรองผู้บริหาร อนาคตคุณก็ด้วย พวกเราต่างก็มีออฟฟิศเป็นของตัวเองไม่มีใครเข้าๆ ออกได้ตามอำเภอใจ พวกเราอยากจะทำอะไรกันในออฟฟิศก็ได้ ตอนไปทำงานต่างจังหวัดก็เหมือนกัน แฟนคุณก็ไม่ได้ตามไปด้วยสักหน่อย ผมเองก็สามารถอ้างฐานะเพื่อนร่วมงานติดตามคุณไปด้วย พวกเราทำอะไรเปิดเผย ไม่ว่าแฟนคุณหรือภรรยาผมต่อให้ตามสืบ พวกเขาก็จับอะไรไม่ได้!”

เหอเหวินเจี้ยนวางแผนอนาคตเอาไว้แล้ว เขาตั้งใจวางแผนเป็นอย่างดี เตรียมตัวจะคบหากับฉินหงเหยียนแบบลับๆ ไม่ให้ใครรู้!

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
Score 6.8
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) หลังจากถูกครอบครัวของภรรยาโขกสับมาตลอดสามปีของการแต่งงาน ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เขาจะเอาคืน! เย่เฉินชายหนุ่มที่เป็นลูกหลานตระกูลมหาเศรษฐีที่ลึกลับระดับโลก คุณปู่ของเขามักจะส่งเขาไปทำภารกิจต่างๆ โดยครั้งนี้ก็เช่นกัน ปู่ส่งเขาไปแต่งงานกับหวังเจียเหยา สาวสวยเบอร์หนึ่งของเมืองอวิ๋นโจว โดยปิดบังฐานะที่แท้จริงของเขาเอาไว้ไม่ให้สาวเจ้าได้รู้ เขาจึงต้องตกอยู่ในสภาพของเขยที่แต่งเข้า โดนคนในบ้านผู้หญิงดูถูก มิหนำซ้ำในวันที่เขากำลังจะไปสารภาพความจริง ก็ดันไปเห็นภรรยาที่รักกับชายชู้ แถมยังชักชวนคนมากมายให้ตัดทางทำมาหากินของเขา ด้วยเหตุนั้น เย่เฉินจึงเริ่มลงมือล้างแค้นพวกเขาทุกคน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset