เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล – ตอนที่ 148 เสริมสร้างรากฐาน

Sign in Buddha’s palm 148 เสริมสร้างรากฐาน

 

[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จ ได้รับ “โอสถไทหยวน” ]

 

เสียงจักรกลเย็นยะเยียบดังขึ้นข้างหูของซูฉิน

 

“โอสถไทหยวน?”

 

ซูฉินขมวดคิ้ว

 

เขาได้ลงชื่อเข้าใช้ที่แท่นบูชาเทพธรณีฯ มาแล้วก็หลายครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับโอสถชนิดนี้มา

 

“นี่มันคล้ายคลึงกับโอสถอายุวัฒนะเคลือบทองคําและโอสถหมุนวนเก้าโคจรของวัดเส้าหลินหรือเปล่า?”

 

ซูฉินคาดเดาอยู่ภายในใจ

 

ช่วงเวลาต่อมา

 

จิตใจของซูฉินก็ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ โอสถไทหยวน

 

จากนั้นไม่นาน

 

ร่องรอยแห่งความตกใจก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของซูฉิน และใช้จิตเข้าไปดูในระบบอย่างรวดเร็ว มองไปที่ “โอสถไทหยวน” ที่ปรากฏอยู่ตรงมุมหนึ่ง

 

“ปรากฏว่าสิ่งนี้คือ “โอสถไทหยวน”

 

จิตใจของซูฉินที่สงบนิ่งมาตลอดเกิดผันผวนขึ้นเล็กน้อย 

 

ตามข้อมูลจากระบบ “โอสถไทหยวน” ไม่ได้ใช้เพื่อเสริมแกร่งร่างกาย แก่นแท้แห่งพลัง หรือจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์โดยตรง โอสถไทหยวน” ไม่ใช่โอสถที่ใช้ในการเพิ่มพลังการบ่มเพาะ

 

สรรพคุณของโอสถไทหยวนมีอยู่สองอย่าง อย่างแรกหากได้รับโอสถเข้าไปจะช่วยฟื้นคืนพลังชีวิตได้มากโข

 

ซึ่งการเติมเต็มพลังชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องกับการยืดอายุขัยแต่เป็นเพียงการเติมพลังชีวิตทดแทนส่วนที่หายไป

 

แม้ว่าผลของยาส่วนนี้จะสําคัญ แต่ในโลกนี้ก็ไม่ได้ขาดแคลนโอสถที่มีสรรพคุณคล้ายคลึงกัน

 

ซูฉินให้ความสําคัญกับ “โอสถไทหยวน” อย่างมากนั้นเนื่องมาจากเพราะสรรพคุณอย่างที่สองของตัวยา ซึ่งช่วยเสริมสร้างรากฐาน

 

รากฐานคือสิ่งใด?

 

รากฐานหาใช่พรสวรรค์หรือความถนัดไม่ แต่สําคัญยิ่งสําหรับผู้ฝึกยุทธ ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าสองอย่างแรกเลย

 

ผู้ฝึกยุทธที่มีรากฐานแข็งแกร่งมักจะสามารถจัดการคนในระดับเดียวกันได้ และถึงขนาดต่อสู้กับคนที่มีระดับสูงกว่าได้ นอกจากนี้ในช่วงทะลวงผ่านระดับขั้นก็ช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ลงเล็กน้อย แม้สุดท้ายจะล้มเหลวแต่ก็ยังมีโอกาสฟื้นตัวกลับมาได้

 

แม้ว่าซูฉินจะไม่รู้ว่ารากฐานของเขาแข็งแกร่งหรืออ่อนแอเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่มีคู่ต่อสู้คนไหนเลยที่สู้กับเขาตัวต่อตัวได้…

 

แต่รากฐานนั้นเหมือนกับพื้นฐานของการฝึกตน ยิ่งฐานแน่นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี มันย่อมไม่มีใครไม่ชอบสิ่งนี้

 

“ข้าใช้เวลาเพียงสามสิบกว่าปีเพื่อมาถึงขอบเขตอรหันต์ระดับนภาชั้นที่ห้า จอมยุทธทั่วไปกว่าจะมาถึงระดับนี้ก็คงใช้เวลาสี่ร้อยถึงห้าร้อยปี ข้าไม่รู้ว่ารากฐานของข้าแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ในตอนนี้การที่รากฐานแข็งแกร่งขึ้นได้ที่เป็นสิ่งจําเป็นอย่างมาก”

 

ดวงตาของซูฉินแสดงให้เห็นถึงความยินดี

 

“เมื่อกลับไปข้าจะลองใช้ โอสถไทหยวน ดู”

 

ซูฉินตัดสินใจแล้วหันหลังเดินจากไปทันที

 

ตําหนักขุนฝั่งขวา

 

ซูฉินกําลังนั่งลงขัดสมาธิ

 

ที่เบื้องหน้าของเขามีเม็ดโอสถเม็ดหนึ่งที่ราวกับมีภาพดวงไฟลุกโชนขึ้นมา ดูลึกลับอย่างยิ่ง

 

สิ่งนี้ก็คือโอสถไทหยวน

 

“ถ้าข้าไม่ทราบเรื่องสรรพคุณของโอสถไทหยวนมาก่อน ข้าก็คงไม่กล้ากินโอสถตัวนี้ตามอําเภอใจ…”

 

ซูฉินถอนหายใจ เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

 

ปรากฏการณ์ที่เกิดจากเม็ดโอสถไทหยวนมันดูยิ่งใหญ่กว่าโอสถอายุวัฒนะเคลือบทองคําเสียอีก ถ้าไม่ใช่เพราะที่ตําหนักขุนฝั่งขวาซูฉินได้จัดตั้งค่ายกลฟ้าดินเตรียมเอาไว้มากมายเพื่อปกปิดทุกพื้นที่ ผู้คนอาจจะเห็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากโอสถไทหยวนได้

 

“ข้าไม่แน่ใจว่าโอสถไทยหยวนนี้จะช่วยเสริมรากฐานของข้าได้มากแค่ไหน

 

ซูฉินมองดูเม็ดโอสถที่ลุกโชนด้วยดวงไฟมายา ความคิดของเขาปั่นป่วนไปหมด

 

เพียงไม่นานหลังจากนั้น

 

ซูฉินสูดลมหายใจเข้าแล้วกลืนเม็ดโอสถไทหยวนลงไป

 

ตึ่ง!

 

ทันทีที่กลืนเม็ดโอสถไทหยวน มันก็ละลายอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเหมือนกับเปลวเพลิงกระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกายซูฉิน

 

ในเวลาเพียงชั่วครู่เดียว แขนขา แขนงเส้นเลือดทั่วร่างของซูฉินก็เต็มไปด้วยเปลวเพลิงมายาอันนี้

 

“นี่?!”

 

ท่าทีของซูฉินเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย แม้ว่าร่างกายของเขาจะผ่านการแปรสภาพมาแล้วถึงสีครั้ง แต่ด้วยการแผดเผาของเปลวเพลิงมายานี้ เขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย

 

สิ่งนี้มันน่ากลัวขนาดไหนกัน?

 

รู้หรือไม่ว่าด้วยร่างกายในปัจจุบันของซูฉิน แม้ว่าเขาจะยืนอยู่เฉยๆ และปล่อยให้ตํานานยุทธทั่วๆ ไปมาโจมตี มันก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย

 

แต่ตอนนี้ เปลวเพลิงมายาที่ออกมาจากเม็ดโอสถไทหยวนสามารถทําให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดได้

 

“นี่คือวิธีเสริมความแข็งแกร่งของรากฐานงั้นหรือ?” 

 

ซูฉินครุ่นคิด

 

ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเขา หากต้องการจะป้องกันการกระจายตัวของเปลวเพลิงภายในร่างกายกลุ่มนี้ย่อมทําได้เพียงคิด แต่ซูฉินไม่ได้ทํา

 

เพราะตอนนี้เขาเข้าใจได้รางๆ เกี่ยวกับความสําคัญของการเสริมสร้างรากฐาน

 

รากฐานไม่ใช่กายเนื้อหรือแก่นแท้แห่งพลัง ทั้งยังไม่ใช่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์

 

การเสริมแกร่งร่างกาย ยกระดับแก่นแท้แห่งพลัง หรือการชําระล้างจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงแค่การเพิ่มพลังขึ้นไปจากพื้นฐานที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน

 

ตัวอย่างเช่น หากต้องการให้มันเพิ่มระดับสูงขึ้น ก็เพียงเพิ่มชั้นให้หนาขึ้นด้านบนสุด

แต่รากฐานนั้นต่างออกไป

 

มันเทียบเท่ากับรากฐานของตึกสูง หากอยากเสริมรากฐานให้แข็งแกร่งต้องเริ่มจากชั้นล่างสุด

 

หวือ!

 

ชี่!

 

ซูฉินนั่งขัดสมาธิ หน้าอกของเขาค่อยๆ กระเพื่อมขึ้นลงเปลวเพลิงมายาลุกโชนขึ้นตามร่างกายของเขา

 

เปลวเพลิงมายาพวกนี้ไม่ได้กําลังเผาเขาอยู่จริงๆ แต่มันคล้ายคลึงกับการขัดเกลาร่างกายอย่างต่อเนื่อง

 

เวลาผ่านเลยไปอย่างช้าๆ

 

หลายชั่วโมงผ่านไปในพริบตา

 

เปลวเพลิงมายาที่เผาไหม้ทั่วตัวของซูฉินในที่สุดก็ดับลง ค่อยๆ หายไป

 

เมื่อเปลวเพลิงมายาหายไป

 

กลิ่นอาย รูปแบบใหม่” ก็กระจายออกมาจากร่างของซูฉิน ราวกับมันเป็นเห็ดที่งอกขึ้นมาใหม่หลังฝนตก มันกระจายพลังออกมาราวกับความเวิ้งว้างกว้างใหญ่

 

ฟ่าว!

 

เลือดลมในร่างของซูฉินปั่นป่วนราวกับแม่น้ำใหญ่ไหลผ่านอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

กายเนื้อได้รับการเสริมแกร่งอีกครั้ง

 

หลังจากกลืนโอสถไทหยวนเข้าไป แม้ว่าร่างกายของซูฉินจะยังไม่ถึงขั้นที่แปรสภาพร่างกายครั้งที่ห้า แต่ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

 

นอกจากกายเนื้อแล้ว แก่นแท้แห่งพลังของซูฉินและแม้แต่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินก็เพิ่มขึ้นไปอีกระดับ

 

“มันจบแล้วหรือ?”

 

ซูฉินค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น เผยให้เห็นความปิติยินดี

 

หลังจากที่กลืนโอสถไทหยวนนี้เข้าไป ความแข็งแกร่งของซูฉินยังคงอยู่ในระดับที่ห้า ไม่มีการเพิ่มระดับขึ้นแต่ประการใด ทว่าร่างกาย แก่นแท้แห่งพลัง และจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นั้นเปลี่ยนแปลงไป โดยที่ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นมากที่สุดและแก่นแท้แห่งพลังเป็นอันดับสองรองลงมา

 

“ไม่เลว”

 

“ถือว่าไม่ผิดหวังที่ข้ายอมทนทุกข์ทรมาน”

 

ซูฉินดูพึงพอใจอย่างยิ่ง หากเขาบ่มเพาะไปตามปกติเขาคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีกว่าจะบรรลุถึงผลลัพธ์ในระดับนี้ แต่ตอนนี้มันกลับเสร็จสิ้นภายในไม่กี่ชั่วโมง จะไม่ให้เขาพอใจได้อย่างไร?

 

“เสริมความแข็งแกร่งให้กับรากฐานไปแล้ว มาลองดูหน่อยเถิดว่าความเร็วในการบ่มเพาะจะเพิ่มขึ้นบ้างไหม”

 

เมื่อคิดได้ซูฉินก็ใช้จิตสั่งการ ทันใดนั้นหยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ โลหิตรู้แจ้ง ผลไม้สีแดง และของที่ช่วยเหลือในการบ่มเพาะอื่นๆ ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

 

ในเวลาต่อมา

 

หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติสองสามหยดก็หยดลงในปากของซูฉิน จากนั้นก็ตามด้วยโลหิตรู้แจ้งที่ถูกกลืนลงไปแล้ว ตามด้วยผลไม้สีแดงเป็นอย่างถัดมา

 

หนึ่งคืนผ่านไป

 

ซูฉินลืมตาแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ปล่อยไอพลังที่หนาแน่นออกมา

 

พลังฉีฟ้าดินรอบตัวซูฉินเปรียบเสมือนคลื่นในมหาสมุทรที่สันไหวและทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

“เป็นที่แน่นอนแล้ว”

 

“ความเร็วในการฝึกฝนของข้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้ว่าจะไม่มาก แต่เมื่อสะสมไปเป็นเวลาหลายสิบหลายร้อยปีก็เพียงพอที่จะสร้างระยะห่างขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับผู้อื่น…”

 

ซูฉินถอนหายใจยาวออกมาด้วยความสบายใจ

 

จากการประมาณการครั้งก่อน หากได้รับหยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ โลหิตรู้แจ้ง ผลไม้สีแดง และสมบัติจิตวิญญาณอื่นๆ อย่างต่อเนื่องอาจจะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะบรรลุถึงนภาชั้นที่ห้าขั้นสมบูรณ์ แต่ตอนนี้เหลือเพียงปีสองปีเท่านั้น

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

บทนำ ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธครองพิภพ เป็นสถานที่ที่ราชครูแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาสูงชัน ทั้งยังมีเสียวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่นภากาศอันเวิ้งว้างว่างเปล่า เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก! ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล] ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ] ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ] สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินจึงไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่หากยังไม่ได้ลงชื่อรับของรางวัล และตัวเขาก็ลงชื่อเข้าใช้อยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง! จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน… แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset