เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล – ตอนที่ 157 ถ้ําปีศาจใต้เมืองฉางอัน

Sign in Buddha’s palm 157 ถ้ําปีศาจใต้เมืองฉางอัน

 

“เมืองฉางอัน?”

 

“มีความลับอยู่งั้นหรือ?”

 

ความคิดของซูฉินเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่เลว”

 

จักรพรรดิถังพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกล่าวว่า “แต่ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นแค่ข่าวโคมลอย แม้ว่าเมืองฉางอันจะใหญ่โต แต่จะเก็บซ่อนความลับมาได้กว่าห้าร้อยปีเลยหรือ?”

 

จักรพรรดิถังตีความไปตามนั้น

 

กว่าห้าร้อยปี ด้านนอกเมืองฉางอันถูกต่อเติมบูรณะใหม่มานับครั้งไม่ถ้วน ถ้ามีความลับซ่อนอยู่จริงๆ คงจะถูกเปิดเผยไปนานแล้ว

 

ส่วนเมืองชั้นในหรือภายในวังหลวง แม้จะคงไว้อย่างดี ไม่มีบุบสลายเพราะเป็นที่อาศัยของเชื้อพระวงศ์ แต่ก็ต้องมีการลาดตระเวนอยู่ตลอดเวลาโดยกองทัพ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่ได้มีความลับใด

 

“อย่างนั้นสินะ”

 

หลังจากนั้นไม่นาน จักรพรรดิถังก็กลับไปยังโถงชีวิตนิรันดร์

 

หลังจากที่จักรพรรดิถังจากไป ซูฉินก็ค่อยๆลุกขึ้น ก้าวขา และหายตัวไปจากจุดเดิมที่เคยอยู่

 

ในขณะเดียวกัน

 

บนอากาศสูงกว่าพันจั้ง(1) ซูฉินยืนอยู่บนนั้น ก้มลงมองดูทั่วทั้งฉางอัน

 

ไม่ว่าจะเป็นอรหันต์หรือตํานานยุทธ แม้จะอยู่ในระดับนภาชั้นที่หนึ่ง ก็ล้วนสามารถควบคุมอากาศ ขี่ลมเหาะเหินได้อย่างอิสระ

 

และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือซูฉินอยู่ในขั้นสมบูรณ์ของนภาชั้นที่ห้า

 

“ความลับของเมืองฉางอัน?”

 

“ข้าอยากจะตรวจสอบดูสักหน่อย ว่าความลับของเมืองฉางอันมันคืออะไรกันแน่?”

 

จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินเคลื่อนกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นทั่วทั้งเมืองฉางอันก็ถูกครอบคลุมไว้ทั้งหมด

 

ในขณะนี้พฤติกรรมของผู้คนนับล้านภายในฉางอันตกอยู่ ในสายตาของซูฉินทั้งหมดเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนาทีต่อนาที

 

ซูฉินอาศัยอยู่ในวังหลวงมาหลายปี ตัวเขาเองก็สํารวจเมืองฉางอันด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งคราว

 

แต่ที่ตรวจละเอียดขนาดนี้นับเป็นครั้งแรก

 

หวิ่ง!!!

 

ราวกับสายน้ําหลาก จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงแผ่ขยายออกไปทุกซอกทุกมุมของเมืองฉางอันอย่างรวดเร็ว

 

“หืม?”

 

“ไม่มี?”

 

ซูฉินขมวดคิ้ว

 

ช่วงเวลาต่อมา

 

จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็ควบรวมกลับมาอีกครั้ง และเริ่มแผ่ขยายลงไปใต้ดินอย่างช้าๆ

 

ร้อยเมตร

 

สองร้อยเมตร

 

สามร้อยเมตร

 

ห้าร้อยเมตร

 

หนึ่งพันเมตร

 

ในที่สุดลึกลงไปใต้ผืนดินเมืองฉางอันกว่าสองพันห้าร้อยเมตร จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่แปลกประหลาด

 

“นี่คือ?”

 

“ปราณปีศาจ?”

 

ซูฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย

 

ลักษณะปราณรูปแบบนี้ซูฉินเคยพบมาก่อนในหลายๆแห่ง เช่น หอคอยสะกดมารของวัดเส้าหลิน และจอมมารที่ตั้งใจจะมาจัดการวัดเส้าหลิน

 

อย่างไรก็ตามซูฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้พบปราณปีศาจเช่นนี้ด้านใต้ของเมืองหลวงโบราณที่มีมานานกว่าสิบราชวงศ์อย่างเมืองฉางอัน

 

ยิ่งกว่านั้น เมื่อเทียบกับหอคอยสะกดมารและจอมมาร ปราณปีศาจใต้ผืนดินนั้นละเอียดอ่อนกว่า พูดให้ถูกต้องคือแม้ว่าทั้งสองจะเป็นพลังมารเหมือนกัน แต่แตกต่างกันเหลือเกิน

 

มันเทียบได้กับความแตกต่างของแก่นแท้แห่งพลังของอรหันต์และกําลังภายในของขอบเขตวิทยายุทธเก้าระดับชั้น

 

“น่าสนใจ”

 

ชูฉันยังคงสํารวจใต้ดินด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ต่อไป

 

ในที่สุดหลังจากตรวจสอบลึกลงไปถึงสามกิโลเมตร ซูฉินก็พบพระราชวังอันยิ่งใหญ่ผ่านทางจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์

 

พระราชวังอันสวยงามหลังนี้กินพื้นที่หลายลี้ โอ่อ่ากว้างขวาง และมีหลุมสีดําอยู่ตรงกลาง

 

และปราณปีศาจแผ่ก็ออกมาจากหลุมสีดําหลุมนี้

 

เมื่อเห็นดังนั้น ซูฉินก็หายตัวไปอีกครั้ง

 

หลังจากนั้นไม่นาน

 

เบื้องหน้าพระราชวังสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ใต้ผืนดินลึกสามกิโลเมตร ร่างของซูฉินก็มาปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆ

 

“ใต้ดินที่ลึกเช่นนี้ เกรงว่าคงจะเป็นเรื่องยากที่ยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดจะเข้ามาภายในได้” ซูฉินเหลือบมองไปยังพระราชวังที่สูงตระหง่านตรงหน้า แอบคิดอยู่ภายในใจ

 

“บ่อน้ําสีดํานั่น…”

 

ซูฉินใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินไปที่ใจกลางของพระราชวังโดยไม่รีบร้อน

 

เขาได้กวาดผ่านทั้งด้านนอกและด้านในของพระราชวังด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ยกเว้นหลุมสีดําที่อยู่ตรงกลางทุกอย่างก็ดูเป็นปกติดี

 

ซูฉินก็ได้มาถึง

 

แผ่นหินแกะสลักสูงสิบเมตร

 

มีอักขระมากมายถูกจารึกไว้บนแผ่นหินนี้ซึ่งเขียนด้วยอักษรโบราณอายุนับพันปี ค่อนข้างคลุมเครือและเข้าใจได้ยาก แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาสําหรับซูฉิน ตั้งแต่อยู่ที่วัดเส้าหลินเขาได้ศึกษาคัมภีร์มาหมดทั้งศาลาพระคัมภีร์แล้ว และแน่นอนว่ารวมถึงเรื่องพัฒนาการของตัวอักษรด้วย

 

“บ่อน้ําปิศาจได้ถือกําเนิดเกิดขึ้น มันได้เชื่อมต่อกับโลกและถ้ําปิศาจใต้ดิน ปีศาจจํานวนนับไม่ถ้วนได้หลั่งไหลพากันเข้ามาภายในโลก…”

 

“โลกตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย โชคยังดีที่บ่อน้ําปิศาจสามารถรองรับปีศาจที่อยู่ในขอบเขตต่ํากว่าตํานานยุทธได้เท่านั้น หลังจากการต่อสู้นองเลือดของบรรพบุรุษจํานวนนับไม่ถ้วน ในที่สุดราชวงศ์หลงก็ได้ปิดผนึกบ่อน้ําปิศาจเอาไว้ ด้วยพลังแห่งโชคชะตาขวางกั้นโลกและมิติถ้ําปิศาจใต้เดินออกจากกัน…”

 

อ่านผ่านถ้อยคําโบราณไปที่ละตัวอักษร ทําให้ซูฉินได้รู้เรื่องราวเหตุและผลที่เกิดขึ้น

 

ตามแผ่นหินจารึก น่าจะเป็นเมื่อหลายพันปีก่อนไม่ก็หลายหมื่นปี ที่จู่ๆปีศาจจํานวนมหาศาลก็ปรากฏตัวขึ้น นําหายนะมาสู่โลก

 

และปีศาจเหล่านี้ก็มาจากบ่อน้ําสีดํานี่เอง

 

อีกด้านของบ่อน้ําปิศาจคือโลกของถ้ําปีศาจใต้ดิน ซึ่งเป็นโลกของปีศาจที่แท้จริง

 

“ดูเหมือนว่าโลกของถ้ําปิศาจใต้ดินแห่งนี้จะมีระดับที่สูงมาก อย่างน้อยกว่าสูงกว่าทวีปนี้มาก”

 

ซูฉินแตะปลายคาง ดวงตาครุ่นคิด

 

ตามที่บันทึกบนแผ่นหิน เมื่อหลายพันหลายหมื่นปีที่แล้ว ยุคนั้นควรจะเป็นยุคที่ศิลปะยุทธมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก และมีตํานานยุทธมากกว่าสิบคนที่ยังมีชีวิตอยู่

 

แต่ผลที่ตามมาจากเหตุการณ์บ่อน้ําปีศาจยังคงรุนแรงอย่างมาก

 

รู้หรือไม่ว่าบ่อน้ําปีศาจสามารถรองรับพลังของปีศาจที่อยู่ขอบเขตต่ํากว่าตํานานยุทธเท่านั้น กล่าวคือ เผ่าพันธุ์มนุษย์ในยามนั้นเผชิญหน้ากับกลุ่มปีศาจที่มีความแข็งแกร่งที่สุดอยู่ที่ระดับชั้นที่หนึ่งเท่านั้น

 

และนี่ยังอยู่ในกรณีที่ฝั่งมนุษย์มีตํานานยุทธอย่างน้อยสิบคนคอยคุ้มครอง แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ยังต้องถอยร่นออกไปเรื่อยๆ ด้วยสิ่งนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงพอจะจินตนาการโลก ภายในถ้ําปิศาจที่อยู่หลังบ่อน้ําได้ว่ามันโหดร้ายเพียงใด

 

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมืองหลวงฉางอันเป็นเมืองหลวงโบราณมีมานานกว่าสิบราชวงศ์ มันกลับกลายเป็นเมืองศูนย์กลางที่เหล่ายอดยุทธแห่งราชวงศ์หลงร่วมมือกันอย่างเต็มที่เพื่อผนึกบ่อน้ําปีศาจเอาไว้”

 

ซูฉินคิดอย่างเงียบๆ

 

ในตอนนี้ เขาก็ได้เข้าใจแล้วว่าเหตุใดปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถังจึงต้องการก่อตั้งอาณาจักร มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความกังวลว่าจะสูญเสียพลังโชคชะตาของราชวงศ์หลงที่ใช้ผนึกไป และทําให้ผนึกคลายออกจนปีศาจเรือนหมื่นหลั่งไหลเข้ามาภายในโลกอีกครั้ง

 

“อ่านต่ออีกหน่อยแล้วกัน”

 

ซูฉินกวาดตาอย่างช้าๆไปตามแผ่นหิน

 

นอกเหนือจากเรื่องที่พูดถึงความน่ากลัวของบ่อน้ําปีศาจ แล้วบันทึกบนแผ่นหินยังพูดถึงโลกของถ้ําปีศาจด้านหลังบ่อน้ําปิศาจ

 

เนื่องจากปีศาจในโลกถ้ําปิศาจสามารถขึ้นมาจากบ่อน้ําปีศาจได้ ผู้คนบนโลกก็ย่อมผ่านบ่อน้ําปีศาจเพื่อเข้าสู่โลกของถ้ําปิศาจได้เป็นธรรมดา

 

ในช่วงเวลาที่ต่อต้านการรุกรานของเหล่าปีศาจ ตํานานยุทธจํานวนมากแอบเข้าไปในถ้ําปิศาจใต้ดิน และพวกเขาก็พบว่าโลกเบื้องหลังบ่อน้ําปีศาจนั้นช่างห่างไกลเกินเอื้อมในแง่ของขอบเขตพลังในการต่อสู้

 

และในโลกถ้ําปิศาจก็มีอารยธรรมที่คล้ายคลึงกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล มีอาณาจักรอันเรืองอํานาจตั้งอยู่

 

ตํานานยุทธทั้งหมดที่เข้าสู่โลกถ้ําปิศาจใต้ดินได้ตั้งข้อสรุปว่า การดํารงอยู่ของโลกถ้ําปิศาจแห่งนี้คงมีมาเป็นแสนปีแล้ว หรืออาจจะนานยิ่งกว่านั้น

 

หลังจากที่ค้นพบเรื่องพวกนี้ ตํานานยุทธในอดีตที่แอบเข้าไปต่างหวาดกลัวและหนีกลับออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงใช้โชคชะตาแห่งราชวงศ์หลงปิดผนึกมันไว้ ซึ่งเป็นการตัดการเชื่อมต่อกับโลกถ้ําปิศาจใต้ดินลงอย่างสิ้นเชิง

 

ซูฉินพอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น การบุกรุกของพวกปีศาจทําให้จอมยุทธทวีปนี้ต่างบาดเจ็บล้มตาย แม้แต่ตํานานยุทธยังตกตายไปตามกัน และตํานานยุทธที่เหลืออยู่ไม่กี่คนก็หลบหนีออกจากทวีปและหายตัวไป

 

“ระยะเวลา?”

 

“อย่างน้อยก็หนึ่งแสนปี?”

 

ดวงตาของซูฉินเป็นประกายเมื่ออ่านเจอข้อความนี้

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

Status: Ongoing
บทนำ ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธครองพิภพ เป็นสถานที่ที่ราชครูแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาสูงชัน ทั้งยังมีเสียวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่นภากาศอันเวิ้งว้างว่างเปล่า เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก! ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล] ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ] ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ] สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินจึงไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่หากยังไม่ได้ลงชื่อรับของรางวัล และตัวเขาก็ลงชื่อเข้าใช้อยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง! จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน… แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset