เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล – ตอนที่ 186 เข้าสู่ระบบ! ห้าหมัด สายฟ้าเทพเจ้า

Sign in Buddha’s palm 186 เข้าสู่ระบบ! ห้าหมัด สายฟ้าเทพเจ้า

 

ในความจริงแล้ว

 

ตั้งแต่เข้าสู่หนทางการฝึกยุทธมา ซูฉินเคยลงมือเต็มกําลัง เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

 

สมัยก่อนตอนที่ผ่านเชิงเขาหรู่หนาน เพื่อต้านทานหิมะถล่ม ซูฉินถึงกับดึงเศษเสี้ยวพลังออกมาจากส่วนลึกด้านในหว่างคิ้วซึ่งเป็นที่สถิตขององค์ยูไลทองคํา ตัวแทนแห่งฝ่ามือยูไล

 

ครั้งนั้นซูฉินไม่ได้เตรียมการใดๆมาก่อนเลย

 

เป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทําให้ซูฉินจับสัมผัสถึงพลังฟ้าดินได้ และในที่สุดก็เข้าสู่ขอบเขตอรหันต์ได้อย่างราบรื่น

 

อย่างไรก็ตาม

 

ในเวลานั้นซูฉินเป็นเพียงยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุด แต่ตอนนี้ซูฉินเป็นอรหันต์ในระดับนภาชั้นที่เจ็ดแล้ว ช่องว่างระหว่างทั้งคู่นั้นถ้าบอกว่าราวฟ้ากับดินก็คงไม่เกินจริงไปนัก

 

ดังนั้นซูฉินจึงไม่รู้ว่าตัวเขาแข็งแกร่งเพียงใด

 

สิ่งเดียวที่ชัดเจนคือ แม้แต่ตํานานยุทธอย่างราชครูแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนก็ไม่สามารถหยุดดัชนีที่กวาดไปส่งๆของเขาได้

 

เหล่าพี่น้องทั้งซูเยวหยุน ซูเฉิงฮ่าว และซูเฉิงยู่มองหน้ากัน ใบหน้าของพวกเขาต่างตกตะลึง

 

ถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ พวกเขาจะไม่เชื่ออย่างแน่นอน แต่นี่คือสิ่งที่ซูฉินพูด…

 

หลังจากทั้งสามคนพูดคุยกันอีกนิดหน่อย สองพี่น้องซูเฉิงฮ่าวและซูเฉิงยู่ก็แข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อความแข็งแกร่ง พากันวิ่งกลับไปที่พระราชวังตะวันออกเพื่อฝึกฝนต่อ ส่วนซูเยว่หยุนก็กลับไปที่พระราชวังคุนหนิง

 

“ร่างจําแลงในโลกถ้ําปิศาจยุ่งมากในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ ไม่มีจังหวะลงชื่อเข้าใช้เลย…”

 

ซูฉินแตะปลายคาง ดวงตาฉายแววครุ่นคิด

 

แรงกดดันของชั้นบรรยากาศภายในโลกถ้ําปิศาจเหนือกว่าที่โลกมาก แม้แต่ซูฉินที่อยู่ระดับนภาชั้นที่เจ็ดก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ในชั่วพริบตา

 

และในจุดหนึ่ง กระแสปราณบนโลกที่เริ่มฟื้นคืนกลับมา จะทวีความรุนแรงขึ้น และค่อยๆเป็นเหมือนโลกถ้ําปิศาจ

 

แน่นอนว่าทั้งหมดนั่นไม่มีผลกับซูฉิน

 

เพราะความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของเขามีอัตราเร็วที่สูงกว่ากระแสปราณฟื้นฟู

 

ซูฉินมาที่หอดูดาวโดยไม่ทันตั้งตัว

 

“วันนี้ลงชื่อเข้าใช้ที่นี่แล้วกัน”

ซูฉินคิด แล้วกล่าวคําในใจเงียบๆ “ระบบ ลงชื่อเข้าใช้”

 

[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จ ได้รับห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้า]

 

“ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้า?”

 

ท่าทีของซูฉินเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

 

“วิชาหมัดที่เกี่ยวข้องกับสายฟ้า?”

 

ความคิดของซูฉินผันผวน ข้อมูลกลุ่มหนึ่งแวบเข้ามาในจิตของเขา

 

ช่วงเวลาต่อมา

 

ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าก็ถูกรวมเข้ากับจิตใจของซูฉินอย่างสมบูรณ์

 

หลังจากนั้นไม่นาน

 

ซูฉินก็ค่อยๆลืมตาขึ้น และเหมือนจะมีประกายบางอย่างระเบิดขึ้นในดวงตาของเขา สายฟ้านับร้อยนับล้านสายกระจายออกมา

 

“ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้า ชักนําพลังแห่งสายฟ้า ปล่อยออกเป็นหมัด เคลื่อนไหวก้าวย่างราวกับเทพเจ้าสายฟ้าด้วยพลังอันไร้ขีดจํากัด…”

 

ซูฉินดูมีความสุข

 

ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้านี้ มันค่อนข้างเหนือกว่าวิทยายุทธทั่วๆไป ตามจริงเพียงแค่มันสามารถชักนําสายฟ้าได้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะติดหนึ่งในร้อยอันดับวิชาที่ซูฉันมี

 

ตามข้อมูลที่ได้รับมาจากระบบ ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้านี้ แบ่งออกเป็นห้าระดับจากต่ําไปสูง ได้แก่ “แรกเริ่ม, น้ํา, เมฆ, ปฐพี และนภา”

 

แม้ว่าสี่ระดับแรกจะน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นตกใจนัก สายฟ้าที่ระดับเหล่านี้ชักนําได้ก็เพียงฟ้าแลบฟ้าร้อง

 

แต่เมื่อขึ้นไปถึงระดับนภา มันสามารถชักนําสายฟ้าได้อย่างแท้จริงและน่าสะพรึงกลัว

 

แน่นอน

 

ที่ซูฉินเห็นคุณค่าของวิชาหมัดชุดนี้ ไม่ใช่เพราะพลังของมัน

 

ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้านั้นน่ากลัว แต่ในบรรดาวิชาอันหลากหลายที่ซูฉินเชี่ยวชาญ ก็มีหลายวิชาที่เท่าเทียมหรือมีแม้กระทั่งวิชาที่เหนือกว่า

 

สิ่งที่ทําให้ซูฉินรู้สึกสั่นไหวได้จริงๆ นั่นก็คือวิธีลับในระดับนภาของห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้า

 

เมื่อฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าไปถึงระดับนภา จะสามารถชักนําสายฟ้าฟาดออกมาเพื่อขัดเกลาร่างกายได้

 

ใช้สายฟ้าเพื่อขัดเกลาร่างกาย

 

“ขัดเกลาร่างกายด้วยสายฟ้า?”

 

ดวงตาของซูฉินเป็นประกาย

 

นับตั้งแต่เข้าสู่ระดับนภาชั้นที่เจ็ด ความก้าวหน้าในด้านร่างกายของเขาก็แทบจะหยุดลง ไม่ต้องกล่าวถึงการแปรสภาพกายเนื้อครั้งที่ห้า แม้จะเป็นการพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายเพียงเล็กน้อยก็เป็นเรื่องยากอย่างมาก

 

“บางทีข้าอาจจะสามารถใช้วิชาลับนี้ในการขัดเกลาร่างกายจนบรรลุการแปรสภาพกายเนื้อครั้งที่ห้าก็เป็นได้?”

 

ความสดใสซัดสาดไปทั่วจิตใจของซูฉิน

 

หากเป็นจอมยุทธโดยทั่วไป หรือแม้แต่ตํานานยุทธเอง ก็ต้องระมัดระวังตนเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสายฟ้า

 

ตํานานยุทธคงจะไม่กลัวสายฟ้าธรรมดาๆ แต่หากตํานานยุทธจําต้องทิ้งการป้องกันและปล่อยให้สายฟ้าพุ่งเข้าสู่ร่างกายตรงๆ ก็เกรงว่าตํานานยุทธเหล่านั้นคงจะหน้าเปลี่ยนสีเลยทีเดียว

 

เดิมที่สายฟ้านั้นเป็นตัวแทนของหายนะ หากปล่อยให้มันไหลเข้าสู่ร่างกาย แม้ว่าจะเป็นตํานานยุทธเอง กายเนื้อก็คงต้องพังทลาย

 

เหตุผลที่วิธีการลับในวิชาห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าสามารถช่วยผู้คนให้ใช้สายฟ้ามาขัดเกลาร่างกายได้นั้น เพราะสายฟ้าที่ฟาดเข้าใส่กายเนื้อนั้นจะค่อยๆอ่อนกําลังลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสามารถนํามาใช้ในการขัดเกลาร่างกาย

 

แต่ก็เท่านั้น

 

ถึงจะมีวิธีการนั้น วิชาห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าก็ได้เตือนผู้ที่นําไปฝึกฝนในภายหลังว่าหากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย ก็ไม่ควรใช้สายฟ้ามาขัดเกลาร่างกายเป็นดีที่สุด

 

แม้วิชาหมัดจะช่วยให้สายฟ้าอ่อนกําลัง แต่พลังของสายฟ้าฟาดนั้นน่ากลัวเพียงใด? ด้วยความประมาทเพียงเล็กน้อย หากไม่ตกตายก็คงจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกาย ทําให้ในอนาคตไม่สามารถพัฒนาได้อีกต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม

 

สําหรับซูฉินนั้น ความเสี่ยงนี้เรียกว่าแทบไม่มีอะไรต้องเสี่ยงเลย

 

ร่างกายของซูฉินแปรสภาพมาถึงสี่ครั้ง ซึ่งเหนือกว่าตํานานยุทธคนอื่นๆมาก ประกอบกับทิพยอํานาจกายเนื้อกําเนิดใหม่ ยกเว้นก็แต่ซูฉินเข้าไปฝึกฝนในทะเลแห่งสายฟ้าที่มีสายฟ้าฟาดลงมานับไม่ถ้วน อาจกล่าวได้ว่าจะต้องไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

“ถ้าต้องการจะขัดเกลาร่างกายด้วยสายฟ้า อย่างน้อยก็ต้องฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าไปถึงระดับนภาเสียก่อน”

 

ความคิดของซูฉินเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

ซูฉินได้ไปถึงระดับนภาของห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าแล้วตั้งแต่แรกเริ่มที่ระบบปลูกฝังข้อมูลมาให้

 

ข้อบกพร่องเดียวคือ แม้ว่าซูฉินจะอยู่ในระดับนภาของห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าแล้ว แต่ร่างกายของเขากลับไม่คุ้นเคยกับวิชาห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าชุดนี้

แต่เรื่องนี้แก้ไขได้โดยง่าย ซูฉินแค่ต้องใช้เวลาฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าสักหน่อยเท่านั้น

 

ส่วนเรื่องอื่น…

 

จะเป็นการดีกว่าถ้าจะอาศัยช่วงเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้มในการขัดเกลาร่างกายด้วยสายฟ้า

 

เฉพาะเวลาที่พลังของฟ้ากับดินมาบรรจบกัน ร่างกายจึงจะถูกกระตุ้นได้มากขึ้นและตระหนักได้ถึงผลของสายฟ้าที่ช่วยขัดเกลาร่างกาย

 

“เมฆดํามืดครื้ม?”

 

ซูฉินคิดอยู่ภายในใจ

 

โดยปกติอากาศแบบนั้นจะมาในทุกๆสิบวันหรือครึ่งเดือน และซูฉินก็จําจะต้องอดทนรออีกสองสามวัน

 

ต่อจากนี้ นอกเหนือจากการควบรวมอาณาเขตขนาดเล็กอย่างต่อเนื่องแล้ว ซูฉินก็ยังต้องทําความคุ้นเคยกับวิชา ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าอีกด้วย

 

วิชาห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้านั้นได้มาถึงขอบเขตตํานานแล้ว และเป็นขอบเขตตํานานระดับสูงอีกด้วย ไม่เช่นนั้นตํานานยุทธธรรมดาจะกล้ารับสายฟ้าฟาดได้เช่นไร

 

ดังนั้นเมื่อซูฉินคุ้นเคยกับห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้า ความรู้สึกต่างๆก็โผล่ขึ้นมาในหัวใจตลอดเวลา

 

ราวกับซูฉินกลายเป็นผู้คิดค้นวิชาที่กลับมาเกิดใหม่ เขาเหวี่ยงกําปั้นออกไปทีละขั้นตอน ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ จนทําให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน

 

ในที่สุด

 

สองสามวันก็ผ่านพ้นไป

 

เมืองฉางอันวันนี้มีเมฆมาก และลมก็แรงราวกับพายุฝนกําลังจะมา

 

“ตอนนี้แหละ”

 

ซูฉินยืนอยู่เหนือเมืองฉางอัน มองขึ้นไปบนเมฆฝนที่ตั้งเค้าเป็นแนวยาวออกไปจนสุดลูกหูลูกตา

ฉีกกระชาก!

 

สายฟ้าสว่างวาบ ระเบิดออกเป็นพลังทําลายล้างผ่านระยะทางหลายพัน

 

“เมื่อเทียบกับฟ้าดิน สุดท้ายแล้วความแข็งแกร่งของคนคนหนึ่งก็ไม่ควรค่าแก่การพูดถึงเลย…”

 

ซูฉินถอนหายใจเล็กน้อย สีหน้าเคร่งขรึม ค่อยๆ ยกมือข วาขึ้น กําแน่นแล้วกระแทกออกไปด้านหน้า

 

บูม!!!

 

เพียงครู่เดียวเท่านั้น!

 

ประกายสายฟ้าก็มารวมตัวกัน วนเวียนอยู่รอบกําปั้นของซูฉิน

 

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

บทนำ ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธครองพิภพ เป็นสถานที่ที่ราชครูแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาสูงชัน ทั้งยังมีเสียวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่นภากาศอันเวิ้งว้างว่างเปล่า เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก! ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล] ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ] ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ] สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินจึงไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่หากยังไม่ได้ลงชื่อรับของรางวัล และตัวเขาก็ลงชื่อเข้าใช้อยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง! จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน… แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset