เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล – ตอนที่ 193 เข้าสู่ระบบ! คมมีดเทพเจ้าปีศาจ!

Sign in Buddha’s palm 193 เข้าสู่ระบบ! คมมีดเทพเจ้าปีศาจ!

 

“เจ้าเมือง?”

 

ซูฉินขมวดคิ้ว

 

“นายท่าน ”

 

ในตอนนั้นเอง โม่จีรีบเข้ามาอธิบายให้ซูฉินฟังอย่างรวด เร็ว

 

ไม่ใช่แค่เมืองเมฆาปีศาจเท่านั้น เป็นที่รู้กันดีทั่วทั้งโลกถ้ําปีศาจแม้แต่การสังหารเทพเจ้าปีศาจในส่วนลึกของโลกก็สามารถขึ้นเป็นเทพเจ้าปีศาจตนใหม่ได้

 

“เป็นเช่นนี้นี่เอง”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

 

อันที่จริงการเป็นเจ้าเมืองเมฆาปีศาจเรียกได้ว่าเป็นการบรรลุเป้าหมายของซูฉินโดยแท้จริง

 

ในฐานะเจ้าเมืองเมฆาปีศาจ เมืองเมฆาปีศาจทั้งหมดก็เหมือนกับเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของซูฉินเมื่อเป็นเช่นนี้ใครจะกล้ารบกวนซูฉินหากเขาอยากจะลงชื่อเข้าใช้เงียบๆ เล่า?

 

ต่อมา ซูฉินก็ได้มาถึงห้องโถงซึ่งเป็นสถานที่ของเจ้าเมืองเมฆาปีศาจ

 

ห้องโถงหลักแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเมฆาปีศาจเป็นแกนหลักของทั้งเมืองเมฆาปีศาจด้วยการอยู่ภายในโถงนี้ทําให้เจ้าเมืองเมฆาปีศาจคนก่อนๆ สามารถล่วงรู้ทุกสิ่ง ภายในเมืองได้เป็นอย่างดี

 

ซูฉินเพียงเหลือบมองก็ทราบความนัย ห้องโถงใหญ่อันนี้มีการเชื่อมโยงอยู่กับค่ายกลภายในเมืองเมฆาปีศาจทั้งหมด

 

“เรื่องทั้งหลาย ข้าจะทิ้งให้เจ้าจัดการ”

 

ซูฉินเหลือบมองโม่จีที่อยู่ด้านหลังก่อนจะออกคําสั่ง

 

แม้ว่าซูฉินจะไม่ปฏิเสธสถานะเจ้าเมืองเมฆาปีศาจแต่เขาขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ภายในเมืองนี้

 

โม่จีมีเศษเสี้ยวจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ซูฉินฝังเอาไว้ในร่าง กายของนาง

 

ความเป็นตายขึ้นอยู่เพียงความคิดเพียงแวบเดียวของซูฉินเท่านั้นนางจึงไม่กล้าที่จะทรยศซูฉินแม้แต่น้อย

 

และด้วยโม่จีเองนั้นเติบโตมาภายในเมืองเมฆาปีศาจแม้ว่านางจะถูกคุมขังอยู่ตลอดเวลา แต่ความเข้าใจที่มีต่อเมืองเมฆาปีศาจนั้นย่อมมากกว่าซูฉินอย่างเห็นได้ชัด

 

เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วสําหรับซูฉินในการที่ให้โม่จีจัดการเรื่องราวภายในเมืองเมฆาปีศาจ

 

“ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว”

 

“ถึงเวลาลงชื่อเข้าใช้”

 

ซูฉินเดินลึกเข้าไปในโถงใหญ่ที่มีไว้สําหรับเจ้าเมือง

 

หลังจากนั้นไม่นาน

 

จู่ๆ ก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้นต่อหน้าซูฉิน

 

เห็นเป็นต้นไม้โบราณสูงใหญ่หลายพันเมตรตั้งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ

 

ต้นไม้โบราณนั้นลู่ลมไปมา บดบังท้องฟ้าและดวงอาทิตย์พลังงานปราณปีศาจอันไร้ที่สิ้นสุดกระจุกแน่นรวมตัวกันเป็นคลื่นพลังที่ทําให้ผู้คนต้องใจสั่น

 

“นี่คือกิ่งก้านของต้นไม้ปีศาจโบราณที่อยู่ในส่วนลึกของโลกนี้ใช่ไหมนะ”

 

ยามที่ซูฉินพบต้นไม้โบราณนี้ เขาก็ดึงจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกมา คอยตรวจดูบริเวณโดยรอบอย่างต่อเนื่อง

 

สักพักใหญ่แล้ว ก่อนหน้าที่เขาจะมายังเมืองเมฆาปีศาจซูฉินเคยได้ยินว่ามีกิ่งก้านของต้นไม้ปีศาจโบราณที่อยู่ในส่วนลึกของโลกมาอยู่ที่นี่

 

ตามคํากล่าวของโม่จี ต้นไม้ปีศาจโบราณเป็นสิ่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลกปีศาจ ซึ่งคอยค้ําจุนโลกถ้ําปิศาจทั้งหมดเอาไว้แม้แต่พวกเทพเจ้าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ก็อาศัยอยู่บนต้นไม้ปีศาจ โบราณ

 

“แค่กิ่งก้านก็ใหญ่โตมากแล้ว หากเป็นต้นไม้ปีศาจโบราณจริงๆจะมโหฬารเพียงไหนกันนะ?”

 

ซูฉินเงยหน้าขึ้นมองไปที่ต้นไม้โบราณที่สูงกว่าพันเมตรเบื้องหน้า ความคิดของเขาก็ผันผวนไปมา

 

ในตอนแรกที่ซูฉินได้ยินโม่จีกล่าวว่าต้นไม้ปีศาจโบราณในส่วนลึกของโลกเป็นสิ่งที่คอยค้ําจุนโลกถ้ําปีศาจทั้งหมดไว้ตัวเขาก็ไม่ได้เชื่ออะไรมากนักและคิดว่าเป็นความเข้าใจผิดไปเอง

 

ท้ายที่สุดแม้แต่ในโลกมนุษย์ก็มีตํานานเรื่องเล่าขานมากมายที่ล้วนถูกเสริมเติมแต่งขึ้นมา

 

แต่ในตอนนี้ หลังจากที่ได้เห็นต้นไม้ปีศาจโบราณต้นนี้แล้วซูฉินก็ตระหนักได้ว่าต้นไม้ปีศาจโบราณที่อยู่ ในส่วนลึกของโลกถ้ําปิศาจอาจจะเป็นเรื่องจริง

 

“เพียงแค่กิ่งก้านสาขาก็สามารถรวบรวมปราณปีศาจได้ขนาดนี้ต้นไม้ปีศาจโบราณของจริงคงจะรวบรวมปราณปีศาจได้อย่างมหาศาลราวกับขุนเขาหรือท้องทะเลเป็นแน่”

 

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม้แต่เทพเจ้าปีศาจก็ยังเต็มใจที่จะอยู่บนต้นไม้ปีศาจโบราณ เพราะผลประโยชน์ที่ได้รับนั้นมากมายเหลือเกิน”

 

ซูฉินแตะคางของตน ดวงตาครุ่นคิด

 

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเทพเจ้าปีศาจนั้นมีพละกําลังในระดับใดแต่มันอยู่เหนือกว่าขอบเขตตํานานยุทธแน่นอน

 

“อย่างไรก็ตาม หากตํานานเป็นจริงที่ต้นไม้ปีศาจโบราณคอยค้ําจุนโลกถ้ําปีศาจเอาไว้ ข้าเกรงว่าการดํารงอยู่ของมันคงแทบจะเทียบเท่าโลกทั้งใบแล้ว”

 

“ด้วยการสะสมที่ยาวนานเช่นนี้ เต๋าสะสมจะมีมากเพียงใด…”

 

ดวงตาของซูฉินร้อนผ่าวขึ้นทันใด

 

“แล้วกันไป”

 

“ถ้ามีโอกาสในอนาคต ข้าจะลองไปดูแต่ตอนนี้”

 

ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อย ไม่ว่าซูฉินจะมั่นใจในตัวเองแค่ไหนแต่เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะเทียบได้กับเทพเจ้าปีศาจในตอนนี้

 

แม้จะอาศัยเพียงคํากล่าวของโม่จี ซูฉินก็รู้ได้ว่าต้นไม้ปีศาจโบราณเป็นของสงวนที่มีไว้สําหรับเทพเจ้าปีศาจ ปีศาจตนใดกล้าเข้าไปใกล้ต้นไม้ปีศาจโบราณจะต้องถูกสังหารอย่างไร้ความปรานี

 

“ถึงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะลงชื่อเข้าใช้เบื้องหน้าต้นไม้ปีศาจโบราณที่แท้จริงแต่กิ่งก้านของมันก็ไม่ควรเลวร้ายจนเกินไป”

 

ความคิดของซูฉินเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าตรวจสอบต้นไม้ปีศาจโบราณ จากนั้นจึงจ้องมองด้วยวิชาปราณฉีฟ้ากําหนดและดวงตาแห่งสัจจะอีกที่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอันตรายใดๆก่อนที่จะเข้าไปใกล้อย่างเชื่องช้า

 

“ระบบ ลงชื่อเข้าใช้!”

 

ซูฉินหยุดเดินแล้วจึงกล่าวขึ้นในใจ

 

[ขอแสดงความยินดีโฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จได้รับ ‘คมมีดเทพเจ้าปีศาจ” ]

 

“คมมีดเทพเจ้าปีศาจ?”

 

ใบหน้าของซูฉินดูมีความสุข

 

แม้ว่าเขาจะไม่ทราบถึงพลังของมีดเทพเจ้าปีศาจเล่มนี้แต่เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าปีศาจอยู่เล็กน้อยของเช่นนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

 

อย่างน้อยก็ต้องทรงพลังมากกว่าผลไม้แก่นปีศาจที่เขาลงชื่อเข้าใช้มานับพันผลตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูฉินก็รวมจิตเข้ากับคลังของระบบอย่างรวดเร็วพบมีดเทพเจ้าปีศาจวางอยู่ที่มุมหนึ่ง

 

มีดเทพเจ้าปีศาจไม่ใช่อาวุธธรรมดาสามัญแต่เป็นมีดยาวที่มีรูปร่างแปลกๆเหมือนกับเคียวโค้งยาวไปดั่งดวงจันทร์

 

ใบมีดของมีดเทพเจ้าปีศาจเป็นสีดําสนิท ราวกับหลุมดํา ที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่ง แม้แต่ซูฉินเองทันทีที่เห็นก็ยัง ทําให้เขาใจสั่นเล็กน้อย

 

หากไม่ใช่เพราะจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาที่ได้รับการฝึก จากเทพวิชาหลอมจิตวิญญาณจันทรามาอย่างช้านานก็คงจะเสียขวัญไปแล้วเล็กน้อยในตอนนี้

 

“นี่คือมีดวิเศษ!”

 

ความคิดของซูฉินสงบลง ราวกับถูกแช่ แข็งจนกลายเป็นน้ําแข็งแห่งนิรันดร์กาลไม่สา มารถเกิดคลื่นผันผวนได้อีก

 

หวิ่ง!

 

ซูฉินเพียงคิด มีดเทพเจ้าปีศาจก็ถูกดึงออกจากคลังของระบบมาอยู่ในมือของซูฉิน

 

เมื่อสูญเสียพลังปราบปรามของพื้นที่ระบบมีดเทพเจ้าปีศาจก็เริ่มแผลงฤทธิ์พลังอันน่าหวาดกลัวฟังเต็มอากาศ

 

“มีดเล่มนี้มีชีวิตจิตใจ?”

 

ซูฉินพึมพํากับตนเองขณะที่มือขวายังกําด้ามมีดเอาไว้อยู่

 

มีดเทพเจ้าปีศาจไม่เหมือนอาวุธชิ้นอื่นๆ มันเหมือนจะมีลมหายใจแผ่วเบาออกมา ก่อนที่พลังงานปราณปีศาจจะไหลเข้าสู่ใบมีดอย่างต่อเนื่อง

 

“ไม่เลว”

 

ซูฉินกระชับมือข้างขวาเบาๆ หน้าตาดูพึงพอใจ

 

จนถึงตอนนี้ ในบรรดาอาวุธมากมายที่ซูฉินได้รับมาเกรงว่าจะมีเพียงธนูเก้าประกายเท่านั้นที่พอจะเทียบเคียงกับคมมีดเทพเจ้าปีศาจนี้ได้

 

แต่ก็เท่านั้น ธนูเก้าประกายเป็นอาวุธจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์แต่มีดเทพเจ้าปีศาจนั้นมีชีวิตจริงๆ

 

แม้ว่าทั้งสองจะเป็นอาวุธเหมือนกัน แต่ทั้งคู่ก็เป็นอาวุธสองประเภทที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

 

“คราวนี้ข้าก็ไม่ต้องใช้เพียงมือเปล่าอีกต่อไปแล้ว”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย และเล่นกับมีดเทพเจ้าปีศาจในมือของตนพลางคิดไปด้วยในใจ

 

หากเป็นปีศาจตนอื่น แม้ว่าจะเป็นราชาปีศาจที่ทรงพลังอย่างเจ้าเมืองเมฆาปีศาจ เมื่ออยู่ต่อหน้ามีดเทพเจ้าปีศาจก็ต้องระมัดระวังและกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากมีดเทพเจ้าปีศาจหรือไม่

 

ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็คือมีดวิเศษที่สามารถลากวิญญาณไปสู่ขุมนรกได้แม้ว่าจะเป็นราชาปีศาจเองก็ตาม

 

แต่ในมุมของซูฉิน มันไม่ได้มีอะไรเลย ไม่ว่ามีดเทพเจ้าปีศาจจะแข็งแกร่งขนาดไหน มันก็ไม่ได้เทียบเท่ากับ พลังของระบบ

 

เมื่อตรวจสอบมีดเทพเจ้าปีศาจเล่มนี้แล้วมันก็จดจําซูฉินได้เรียบร้อยในฐานะเจ้านาย ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลอีก

 

“ขอลองพลังของมีดเทพเจ้าปีศาจเสียหน่อย”

 

หลังจากเล่นกับมีดเทพเจ้าปีศาจมาระยะหนึ่งหัวใจของซูฉินก็ขยับวูบมีดยาวในมือถูกตวัดออกไปเบาๆ

 

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

บทนำ ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธครองพิภพ เป็นสถานที่ที่ราชครูแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาสูงชัน ทั้งยังมีเสียวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่นภากาศอันเวิ้งว้างว่างเปล่า เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก! ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล] ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ] ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ] สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินจึงไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่หากยังไม่ได้ลงชื่อรับของรางวัล และตัวเขาก็ลงชื่อเข้าใช้อยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง! จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน… แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset