เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ตอนที่ 266(II)เข้าสู่ระบบ!คาถาดำดิน!

SigninBuddha’spalm266(II)เข้าสู่ระบบ!คาถาดำดิน!
“ผู้เป็นใหญ่ในโลกจะกลับแล้วหรือ?”
บรรพชนหกประหลาดใจเล็กน้อย
ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับผู้เป็นใหญ่ในโลกได้บรรลุผลสำเร็จในสิ่งที่วิหารหมื่นพุทธทำไม่ได้มาเป็นเวลานับหมื่นปีพวกเขาจะเต็มใจยอมให้ซูเฉินจากไปอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?
“ผู้เป็นใหญ่ในโลกมันมีความลับที่ยิ่งใหญ่อยู่ที่
บรรพชนหกเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออกและพูดออกมาอย่างรวดเร็ว
“ความลับยิ่งใหญ่?”
ซูฉันมองไปยังบรรพชนหกเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับกล่าวถามออกไป
แม้อยู่ต่อหน้าฝ่ามือยูไลของซูฉินบรรพชนหกจะไม่สามารถขัดขืนแม้แต่น้อยแต่แท้ที่จริงแล้วความแข็งแกร่งของบรรพชนหกนั้นทรงพลังอย่างยิ่งแม้ว่าเลือดเนื้อพลังชีวิตจะแทบไม่เหลือแล้วแต่เคล็ดวิชาต่างๆนั้นดียิ่งกว่าตำนานยุทธขั้นสูงสุดอย่างบรรพบุรุษชีหยวน
หากไม่มีฝ่ามือยูไลซูฉินก็ต้องใช้กลอุบายเล็กน้อยเพื่อปราบบรรพชนหกส่วนเรื่องการปราบปรามและสังหารนั้น……
ถ้าบรรพชนหกตั้งใจจะหนีเอาชีวิตรอดและซูฉันต้องการจะสังหารคู่ต่อสู้เกรงว่าเขาคงต้องใช้เล่ห์กลบางอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ใดการเอาชนะและสังหารเป็นสองแนวคิดที่แตกต่างกันอย่างสมบูรณ์
ตราบใดที่ความแข็งแกร่งนั้นห่างกันเล็กน้อยก็สามารถเอาชนะได้แต่ถ้าต้องการสังหารให้สิ้นมันจะต้องบดขยี้ด้วยพลังที่มากกว่าอย่างสมบูรณ์
ด้วยระดับพลังและวิสัยทัศน์ของบรรพชนหกคงจะมีไม่กี่สิ่งบนโลกนี้ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นความลับยิ่งใหญ่
“บอกมาสิ”
ซูฉินให้ความสนใจ
“เหตุผลที่เราเลือกสร้างวิหารหมื่นพุทธที่นี่ก็เพราะการค้นพบแหล่งกำเนิดธาตุดินแห่งหนึ่ง!”
บรรพชนหกพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“แหล่งกำเนิดธาตุดิน?”
ใบหน้าของซูฉินดูขรึมขึ้นเล็กน้อยจิตใจฟ้าดินนั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตแต่โดยทั่วไปแล้วมันจะถูกแบ่งออกเป็นคุณลักษณะต่างๆเช่นทองไม้น้ำไฟดินหยินหยางและสายฟ้า
แน่นอนสำหรับจอมยุทธจะว่าไปก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจจิตใจแห่งฟ้าดินเลยแม้แต่ตำนานยุทธขั้นสูงสุดก็ไม่ได้ต้องใส่ใจคุณลักษณะธาตุของจิตใจฟ้าดินมากนัก
แต่เมื่อไปถึงขอบเขตเซียนเทพปฐพี่หรือขอบเขตยอดอรหันต์แล้วจะต้องใช้คุณลักษณะธาตุบางอย่างเพื่อสร้างรากฐาน
ในหนังสือโบราณบันทึกไว้ว่าเมื่อตำนานยุทธขั้นสูงสุดทะลวงผ่านโซ่ตรวนและเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีจะตกอยู่ในสภาวะลึกลับจิตใจจะรวมเข้ากับทะเลแห่งแก่นแท้ปราณเพื่อเลือกคุณลักษณะธาตุที่เหมาะสมผสานเข้ากับตนเอง
เหตุผลที่เซียนเทพปฐพี่แข็งแกร่งมากนอกเหนือจากอาณาเขตขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยล้ำได้ในความคิดเดียวแล้วนั่นคือเขาได้รวมเข้ากับพลังฟ้าดินที่มีคุณลักษณะธาตุบางอย่างได้อย่างสมบูรณ์
ตัวอย่างเช่นจ้าวทะเลบูรพาบนเกาะหยิงโจวเป็นเซียนเทพปฐพีที่มีพลังไฟ
และแหล่งกำเนิดธาตุดินก็เป็นที่ที่พลังธาตุดินเดินทางมาบรรจบกันจนถึงขีดสุดสำหรับตำนานยุทธขั้นสูงสุดที่ต้องการจะเดินไปในเส้นทางของธาตุดินแหล่งกำเนิดธาตุดินนี้จะต้องเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอนเพียงพอที่จะส่งตนเองให้หลุดพ้นจากพันธนาการของระดับชั้นได้ง่ายขึ้นสัมผัสถึงทะเลปราณได้ง่ายขึ้น
แม้แต่ในยุคเฟื่องฟูของกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดแหล่งกำเนิดธาตุดินก็ยังหาได้ยากมากแทบไม่มีโอกาสพบเจอและระดับความหายากของมันก็อยู่เหนือกว่าน้ำพุจิตวิญญาณ”บนเกาะหยิงโจวเสียอีก
“พาข้าไปดูที่”
ซูฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวออกไป
ในหยกจดบันทึกที่จ้าวทะเลบูรพาทิ้งไว้แหล่งกำเนิดของธาตุทั้งห้านั้นมีค่าสูงส่งและเขายังคิดอีกว่าหากหาแหล่งกำเนิดธาตุไฟเจอบางที่การทะลวงขั้นอาจจะลดภาระไปได้กว่าครึ่งหนึ่ง
“ตามความประสงค์ของผู้เป็นใหญ่ในโลก”
บรรพชนหกโค้งคารวะ
ต่อจากนั้นบรรพชนหกบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าก็ให้ศิษย์สาวกจำนวนมากออกจากโถงวิหารและนำซูฉินไปด้านหลังของวิหารหมื่นพุทธ
ด้านหลังวิหารหมื่นพุทธเป็นชั้นเนินทรายอันกว้างใหญ่และเงียบเหงาข้างเนินทรายมีหุบเขาเล็กๆที่ไม่ได้โดดเด่นเท่าไรนัก
หุบเขาเล็กๆนี้ดูธรรมดามากทั้งหมดประกอบด้วยทรายสีเหลืองทองแม้แต่ซูฉินก็ไม่ได้สังเกตเห็นลักษณะพิเศษของหุบเขานี้ในแวบแรก
“หือ?”
รูม่านตาของซูฉินเหมือนจะมีคลื่นน้ำหมุนวนอยู่ในส่วนลึกเมื่อมองไปยังหุบเขาเล็กๆนี้ร่องรอยความประหลาดใจก็พลันปรากฏบนใบหน้าของเขา
“ผู้เป็นใหญ่ในโลกหุบเขาเล็กๆนี้คือแหล่งกำเนิดธาตุดิน”
เมื่อบรรพชนหกเห็นดวงตาของซูฉินจับจ้องที่หุบเขาเล็กๆนี้ท่าทีของเขาก็ยิ่งเคารพมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นแหล่งกำเนิดธาตุดินหรือแหล่งกำเนิดธาตุทั้งห้าไอพลังนั้นจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดราวกับมันรวมเข้ากับอากาศโดยรอบอย่างสมบูรณ์เว้นแต่จะเข้าไปในหุบเขานั้นจริงๆไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถพบสิ่งผิดปกติได้เลย
เหตุที่วิหารหมื่นพุทธค้นพบแหล่งกำเนิดธาตุดินแห่งนี้ล้วนเป็นเรื่องบังเอิญหลังจากที่บรรพชนเก้ามาถึงแผ่นดินแห่งพลังยุทธอันยิ่งใหญ่เขาก็ลงมาหยุดอยู่ที่จุดนี้และเข้าสู่หุบเขาเพื่อพักผ่อนชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะค้นพบความพิเศษของหุบเขาเล็กๆแห่งนี้
แต่ถึงกระนั้นบรรพชนเก้าก็ดำเนินการอย่างระมัดระวังในที่สุดก็ยืนยันได้ว่าหุบเขาเล็กๆแห่งนี้เป็นแหล่งกำเนิดธาตุดินตามที่เคยได้ยินมา
เหตุนี้เองบรรพชนเก้าจึงได้ให้บรรพชนหกและบรรพชนเจ็ดเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเองและยังได้นำสมบัติพุทธคุณจำนวนหนึ่งของวิหารหมื่นพุทธมาด้วย
ไม่เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้เลยที่หลังจากกระแสปราณฉีเพิ่งฟื้นคืนไม่นานเช่นนี้วิหารหมื่นพุทธจะต้องส่งบรรพชนถึงสามคนมายังแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯ
“ข้าทราบแล้ว”
ดวงตาแห่งสัจจะของซูฉินกำลังทำงานอย่างเต็มที่พร้อมกับใช้วิชาปราณฉีฟ้ากำหนดควบคู่ไปด้วยมองตรงไปยังหุบเขาเล็กๆเบื้องหน้า
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
หุบเขาเล็กๆที่มีขนาดไม่ถึงหนึ่งก็มีพลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับเป็นดวงอาทิตย์ที่ประกอบขึ้นมาจากพลังธาตุดินทั้งหลายแหล่ที่มาบรรจบกันมันส่องสว่างไปทั่วทะเลทรายตะวันตก
หลังจากนั้นไม่นาน
ซูฉินก็ค่อยๆปิดตาลงและเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งหุบเขาเล็กๆตรงหน้านี้ก็กลับคืนสู่สภาพเดิมๆ
ฉากที่ซูฉินเห็นไม่ได้เกิดขึ้นจริงแต่เขามองเห็นแก่นสำคัญบางอย่างภายในหุบเขาเล็กๆนี้
“แหล่งกำเนิดธาตุดินแห่งนี้เกรงว่ามันคงจะกำเนิดขึ้นมานานนับพันปีแล้วใช่ไหม?”
ซูฉันมองไปที่หุบเขาและครุ่นคิดพลางเอ่ยปากถาม
“ผู้เป็นใหญ่ในโลกต้องใช้เวลานานมากในการก่อตัวของแหล่งกำเนิดธาตุทั้งห้าแต่ละแห่งตั้งแต่หลายพันปีไปจนถึงหลายหมื่นปีหล่อเลี้ยงจนกว่ามันจะสำเร็จเสร็จสมบูรณ์
“แหล่งกำเนิดธาตุดินแห่งนี้ข้าคิดว่ามันจะต้องก่อตัวมาอย่างน้อยก็หลายพันปีแล้ว…..”
บรรพชนหกกล่าวอย่างระมัดระวัง
“หลายพันปี….”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน
หลังจากเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ก็ควรจะสั่งสม’เต่าสะสม”ไว้มากมาย…..
ดวงตาของซูฉินเป็นประกาย
สำหรับสถานที่ธรรมดาๆแม้ว่าจะอยู่มาเป็นหมื่นปีแต่ก็ไม่ได้มี”เต๋สะสมอยู่มากนักเพราะสถานที่เหล่านั้นไม่สามารถรักษา’เต๋สะสมเอาไว้ได้
แต่แหล่งกำเนิดธาตุทั้งห้าอย่างแหล่งกำเนิดธาตุดินนั้นไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แม้แต่เมืองหลวงโบราณที่ข้ามผ่านมาสิบราชวงศ์อย่างเมืองฉางอันก็สามารถช่วยให้ซูฉินลงชื่อเข้าใช้ได้เป็นเวลานานแหล่งกำเนิดธาตุดินแห่งนี้จะมีเหตุผลอะไรที่ไม่สามารถกักเก็บเต่าสะสม’ไว้ได้
“และวันนี้โอกาสในการลงชื่อเข้าใช้ก็ยังไม่ได้ถูกใช้ไป…”
ซูฉินเหลือบมองบรรพชนหกบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าจากนั้นจึงค่อยๆเดินไปหน้าหุบเขาเล็กๆนี้
“นี่คือแหล่งกำเนิดธาตุดิน……”
ซูฉันมองไปที่หุบเขาเล็กๆนั้นในสายตาของคนทั่วไปหุบเขานี้ก็เป็นเพียงหุบเขาเล็กๆธรรมดาแต่ซูฉินกลับรู้สึกกดดันอย่างหนักราวกับกองดินก้อนใหญ่เข้ามากดทับ
ซูฉินเพิกเฉยต่อแรงกดดันแล้วกล่าวในใจเงียบๆว่า“ระบบข้าขอลงชื่อเข้าใช้!”
[ขอแสดงความยินดีโฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จได้รับทิพยอำนาจคาถาดำดิน’]

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

Status: Ongoing
บทนำ ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธครองพิภพ เป็นสถานที่ที่ราชครูแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาสูงชัน ทั้งยังมีเสียวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่นภากาศอันเวิ้งว้างว่างเปล่า เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก! ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล] ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ] ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ] สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินจึงไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่หากยังไม่ได้ลงชื่อรับของรางวัล และตัวเขาก็ลงชื่อเข้าใช้อยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง! จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน… แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset