เคลียร์นะเฮีย! เป็น’เมีย’ผมนะ – ตอนที่ 28

“ โอ๊ยยยนี่พี่จะรีบลากผมลงมาไมเนี้ยย ผมยังฟังเขาคุยกันไม่จบเลย “ พนาพยายามดึงข้อมือที่ถูกอีกคนจับอยู่

“ คุณจะยุ่งเรื่องของเขาทำไมละ เขาจะคุยอะไรกันมันก็เป็นเรื่องของเขาเราไม่เกี่ยว เข้าใจ๊! “ พอสหันมามองทางพนานิดๆและจับข้อมืออีกคนให้เดินต่อทันที

“ โอ๊ยยพี่ปล่อยมือผมก่อนได้มั้ยเล่า! ผมเจ็บนะเว้ย “ พนาขมวดคิ้วนิดๆเพราะรู้สึกเจ็บข้อมือที่อีกคนจับอยู่จริงๆ

“ ถ้าผมปล่อยแล้วคุณห้ามไปกวนเพื่อนคุณนะ โอเคมั้ย “ พอสหยุดเดินและหันมาบอกอีกคนอย่างดุดุ

“ รู้แล้วหน่า ผมรู้ว่าผมต้องให้เวลาเพื่อนผมได้ยืนจู๋จี๋กับคนที่มันชอบ.. “ พนาเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเผลอหลุดพูดความลับของเพื่อนออกไป

“ มะ..ไม่ใช่นะพี่ มันไม่ได้ชอบพี่ปีขาลเลยนะ ไม่ใช่เลยสักนิด! ผะ…ผม ผมคือ..ผมหมายถึงมันชอบแบบบรรยากาศของวิวไรงี้ไง ผมก็ต้องปล่อยให้เพื่อนได้เสพบรรยากาศของวิวเยอะๆบ้าง พี่..เข้าใจใช่ปะ “ พนากลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก ลิ้นเล็กที่แถจนแทบจะพันกันทำให้พนาได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่าขอให้สิ่งที่เขาพูดทำให้อีกฝ่ายเชื่อด้วยเถอะ

“ หรอ… “ พอสกอดอกมองใบหน้าหวานของเด็กหนุ่มที่มีเหงื่อไหลตามใบหน้าเพราะกำลังโกหกเขาอยู่

“ ชะ..ใช่พี่ใช่ มันไม่ได้ชอบใครและก็ไม่มีอะไรทั้งนั้นเลยนะพี่ พี่…เชื่อผมเนอะ “ พนายิ้มแหยๆใส่พอส พอสถอนหายใจแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีที่ลนลานของคนตรงหน้า

“ เอาเป็นว่า..ผมจะถือว่าผมไม่ได้ยินอะไรแล้วกันนะ เพราะผมรู้ว่าคุณอ่ะ..เหนื่อยมาเยอะแล้ว “ พอสพูดจบก็หันหลังเดินต่อ เพราะเขารู้ว่าต่อให้เขาจะไม่รู้เรื่องระหว่างกุนกับปีขาลเลยแต่เขาก็สามารถที่จะรู้ได้จากปากของคนคนนี้อย่างแน่นอนและถ้าเขายิ่งจับพิรุจอีกคนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจะทำให้อีกคนลนลานจนเผยทุกอย่างออกมาทั้งหมดแน่

พนาถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่อีกฝ่ายไม่ถามอะไรต่อและเชื่อในสิ่งที่เขาพูด

“ ดีนะที่การโกหกของเรามันเนียนมากขนาดนี้ ไม่งั้นนะ..แย่แน่ๆ “ พนาปาดเหงื่อตัวเองนิดๆและกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามอีกฝ่ายไปทันที

“ แล้วนี่พี่จะไปไหนอ่ะ “ พนาถามคนที่เดินนำอยู่ด้วยความอยากรู้

“ ไปหาเบียร์กินและนั่งชิวๆรอพวกมันสองคนคุยกันเสร็จ “ พอสหันมาตอบอีกคนสั้นๆและเดินต่อ

“ ผมกินด้วยดิ “ พนาพูดขอ พอสหยุดชะงักและหันมาขมวดคิ้วมองหน้าอีกคนทันที

“ เป็นเด็กเป็นเล็กริอาจกินเหล้ากินเบียร์แล้วรึไงคุณ “

“ ผมไม่เด็กแล้วเหอะ โตแล้วปะพี่ “ พนาเชิดหน้าขึ้น

“ หึ ถ้าเมาขึ้นมาผมปล่อยคุณจมทะเลเลยนะ ไม่แบกนะบอกก่อน “ พอสยักคิ้วใส่รุ่นน้องหน้าหวาน

“ โธ่พี่ ระดับผมแล้วนะเว้ย ไม่เมาง่ายๆหรอกครับขอบอก “ พนายักคิ้วกลับไปเช่นกัน พอสหัวเราะในลำคอและส่ายหัวเล็กน้อย

เมื่อมาถึงร้านพอสก็หันมามองหน้าพนาที่กำลังมองไปที่ร้านตรงหน้าอยู่

“ คุณอยู่นี่แหละ เดี๋ยวผมออกมา “ พอสบอก

“ ไม่เอาอ่ะ ผมอยากเลือกด้วยเดี๋ยวพี่เลือกไม่ถูกใจผม “ พนาพูดจบก็เดินเข้าไปที่ร้านโดยไม่อยู่รอพอสเลยสักนิด

“ ไอเด็กดื้อเอ้ย “ พอสส่ายหน้าและเดินตามเข้าไปยิ้มๆ

ภายในร้านสะดวกซื้อ

“ เลือกได้รึยังคุณ ว่าอยากกินอะไร “ พอสหันไปถามพนาเมื่อยู่หน้าตู้แช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

“ พี่ชอบกินอะไรอ่ะ “ พนาหันมาถามรุ่นพี่ตัวเล็ก

“ อะไรก็ได้ ผมกินได้หมด เอาที่คุณชอบนั่นแหละและก็หยิบมาเผื่อผมด้วย “ พอสบอกอย่างตามใจ ร่างสูงของพนาหันมามองรุ่นพี่ที่ตัวเล็กกว่าที่ยืนอยู่ด้านหลังนิดๆ

“ เอากี่ขวด “ พนาก้มหน้าถาม พอสขมวดคิ้วนิดๆ

“ คุณอยากกินกี่ขวดละ “

“ พี่อยากกินเท่าไหร่ละ “ พนาถามขึ้นอีก พอสถอนหายใจออกมานิดๆเมื่อเริ่มรู้สึกถึงความกวนบ้างอย่างในน้ำเสียงของอีกฝ่าย พอสมองหน้าคนตรงหน้านิ่งและพูดเสียงนุ่มกลับไป

“ อยากกินเท่าคุณ ได้มั้ยละ “

พนาชะงักเมื่อได้ยิน ใบหน้าของเขาค่อยๆเห่อร้อนขึ้นและเขาเองก็รู้ได้ทันทีว่ามันอาจจะแดงแล้วเป็นที่เรียบร้อย

“ งั้นก็..กินคนละสองขวดแล้วกันเนอะ “ พนาหันหน้าหนีทันทีและเอื้อมไปหยิบขวดเบียร์ของแบนด์ๆนึงมาสี่ขวด

“ จะกินอะไรอีกมั้ย “ พอสถามพร้อมกับยื่นมือมาดึงขวดจากมือของพนาทั้งสี่ขวดมาถือไว้ พนาหันมองหน้าพอสทันทีด้วยความงง

“ เลี้ยง? “ พนาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม พอสพยักหน้านิดๆ

“ อืม กินมั้ยละ “

“ เลี้ยงแน่นะพี่ “ พนาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ จะกินไม่กิน “ พอสถอนหายใจนิดๆแล้วถามกลับไปอีกครั้ง

“ กิน! “ พนายิ้มกว้างด้วยความดีใจและรีบเดินไปแถวโซนขนมทันที

“ เด็กน้อยชะมัด “ พอสพูดตามหลังพร้อมกับส่ายหน้ายิ้มๆและเดินไปหยิบตะกร้าที่วางเรียงอยู่ด้านข้างขึ้นมาและเดินไป หาเด็กน้อยของเขาทันที

“ เลือกได้รึยังว่าอยากจะกินอะไร “ พอสถามคนที่ยืนเลือกของอยู่ด้านหน้า

“ อืม…พี่อยากกินไรอ่ะ “ พนาหันมาขมวดคิ้วใส่พอสเป็นเชิงถาม

“ แล้วแต่คุณสิ คุณอยากกินอะไรคุณก็หยิบเลย เท่าไหร่ก็ได้ผมไม่ว่าอยู่แล้ว “ พอสบอกอย่างใจปล้ำ

ถึงแม้ว่าอีกคนจะตัวสูงกว่าเขามากแค่ไหนแต่ทำไมเขาถึงมองว่าอีกคนดูน่าเอ็นดูไปหมดเสียอย่างนั้น ไม่ได้สมกับส่วนสูงที่ได้รับเลยสักนิด

“ ทำไมพี่ใจดีจัง นี่ยังไม่หมดรับน้องนะพี่ลืมไปรึเปล่า “ พนาหันมาขมวดคิ้วใส่รุ่นพี่ที่ยืนเงยหน้ามองเขาอยู่

“ แล้วมันจำเป็นด้วยหรอที่ผมต้องเก๊กหน้าทำเป็นดุตลอดเวลาที่อยู่กับคุณอ่ะ “ พอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“ ก็..ปกติพี่เป็นแบบนั้นไม่ใช่หรอ ที่ผ่านมาอ่ะ “ พนาลอบมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังนิดๆ

“ นี่มันตอนกลางคืนแล้วนะคุณ มันหมดเวลารับน้องแล้ว และอีกอย่างผมก็ไม่เห็นว่าผมจะต้องมานั่งดุหรือนั่งเก๊กหน้าอะไรเวลาที่อยู่กับคุณนี่ หรือคุณชอบให้ผมดุ “ พอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม พนาเลิ่กลั่กเล็กน้อยเมื่อเจอคำถามที่อีกคนถามมา

“ ก็..ไม่ได้ชอบหรอกครับ แต่เวลาผมเจอหน้าพี่ทีไรพี่ก็ชอบทำหน้าแบบนั้นตลอดนี่หน่า “

“ แต่ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ทำแล้วไง นิสัยของผมปกติเลยเนี้ย “ เสียงนุ่มของพอสพูดขึ้น มือหนาลูบผมนุ่มเบาๆ

“ เลือกขนมได้แล้วคุณจะได้ไปนั่งกินกัน “

“ อื้อ “ พนาพยักหน้าด้วยความประหม่าไม่น้อย เพราะไม่เคยเจอมุมที่อ่อนโยนแบบนี้จากรุ่นพี่ที่ตัวเล็กกว่าเขาเท่าไหร่นัก

เมื่อทั้งสองออกมาจากร้านสะดวกซื้อแล้วก็เดินกลับไปยังทางเดิมที่มา ซึ่งตัวของพอสนั้นไม่ยอมให้พนาถืออะไรเลยสักนิด ถึงแม้ว่าพนาจะขอถือมากแค่ไหนก็ตามแต่พอสก็ยังยืนยันที่จะถือเองอยู่ดี ตัวของพนาเองก็รู้สึกจนใจที่จะพูดต่อจึงได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายถือไป

“ เราจะนั่งที่ไหนกันละ “ พนาหันมาถามพอสด้วยความสงสัย

“ เดี๋ยวเราไปนั่งห้องไอป้องก่อนได้ มันไปหาเพื่อนที่ห้องอื่น ห้องนั้นเลยว่าง “ พอสบอกพร้อมกับเดินเข้าไปในด้านในทันที พนาเองก็เดินตามไปติดๆ

ห้องของป้อง

“ ห้องพี่เขามืดจัง แล้วนี่เราไม่ต้องขออนุญาตพี่เขาก่อนหรอพี่ เดี๋ยวพี่เขาก็ว่าเอาหรอกที่เราเข้ามาใช้ห้องเขาแบบนี้อ่ะ “ พนาหันไปถามพอสอย่างเกร็งๆ

“ เดี๋ยวค่อยโทรบอกมัน คุณเองก็ไปหยิบจานมาใส่ขนมสิจะได้กินกัน “ พอสบอกพร้อมกับนั่งลงที่พื้นข้างๆปลายเตียง

ห้องของป้องจะเป็นเตียงเดี่ยวซึ่งขนาดใหญ่พอสมควร ถ้าเกิดเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างตัวใหญ่ก็อาจจะนอนได้แค่2คนเท่านั้น แต่ถ้าผู้ชายคนไหนตัวเล็กหน่อยก็อาจจะนอนได้ถึง3คน

“ เอากี่ใบอ่ะพี่ “ พนาตะโกนถาม เพราะตอนนี้เขาอยู่ที่นอกห้องนอนของป้อง

“ แล้วแต่คุณเลย “ พอสบอกนิ่งๆพร้อมกับกดโทรศัพท์เพื่อโทรหาเพื่อนสนิทอย่างป้อง

“ ฮัลโหล “

“ ( ว่าไงมึงไอพอส ) “ ป้องกรอกเสียงไปทางปลายสาย

“ กูยืมห้องนะ “ พอสบอกเพื่อนเสียงนิ่ง ป้องขมวดคิ้วนิดๆด้วยความสงสัย

“ ( เออได้ ว่าแต่..มึงจะไปห้องกูทำไมวะ มีไรปะเนี้ย ) “

“ กูพาน้องมันมากินเหล้าที่ห้องมึง ห้องนั้นให้มันสองคนปรับความเข้าใจกันไป “ พอสบอก

“ ( อ๋อออมึงก็เลยจะพาน้องจุด จุด จุด มาปรับอะไรต่อมิอะไรที่ห้องมึงอ่ะดิ ) “ ปลายสายของป้องเอ่ยแซวเสียงดังลั่น

“ ไอป้อง..ไอสัส แค่นี้แหละ “ พอสพูดจบก็กดตัดสายไปทันทีโดยไม่อยู่รอฟังเสียหัวเราะของเพื่อนที่ดังมาตามปลายสาย หลังจากวางสายไปพนาก็เดินเข้ามาในห้องพอดีพร้อมกับถือจานมาสองใบ

“ ผมเอามาสองใบนะพี่ “

พอสพยักหน้านิดๆพร้อมกับรับจานที่พนายื่นมาให้และนำขนมทุกอย่างเทรวมไป

“ พี่โทรหาพี่ป้องรึยังอ่ะ “ พนาถามขึ้นอย่างนึกได้

“ โทรแล้ว “ พอสตอบสั้นๆ

“ แล้วพี่เขาว่าอะไรมั้ยพี่ “

“ เปล่า มันบอกตามสบาย “ พอสตอบพร้อมกับเปิดกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม พนาเองก็เปิดและยกขึ้นดื่มเช่นกัน

“ ถ้าเมานี่..ผมนอนนี่ได้ปะเนี้ยพี่ “ พนาถมขึ้นในขณะยกเบียร์ขึ้นดื่ม

“ ตามสบาย “

“ แล้วถ้าพรุ่งนี้มีรับน้องแล้วผมไปสายจะทำไงอ่ะ พี่จะทำโทษผมป้ะเนี้ย “ พนายู่หน้านิด ๆ

“ ทำ “ พอสตอบเสียงนิ่งๆ พนาอ้าปากค้างนิดๆอย่างอึ้งๆ

“ อ้าว แต่พี่ก็กินกับผมอ่ะ ยังจะทำโทษผมอีกหรอ “

“ แต่ผมมีวิธีทำโทษของผม คุณไม่ต้องห่วง “ พอสมองไปที่ดวงตาสวยนิ่งๆแล้วกระตุกยิ้มมุมปากอย่างมีเลสนัย

เป็นเมียผมนะ

เป็นเมียผมนะ

ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset