เคลียร์นะเฮีย! เป็น’เมีย’ผมนะ – ตอนที่ 37

“ รออีกนี่อีกสักพักละกัน มันได้เวลาเข้าเรียนพอดี..ทนไหวมั้ย “ ปีขาลหันไปถามกุนด้วยความเป็นห่วง

ตอนนี้เขาได้พาร่างสูงของกุนและคนอื่นๆมาที่ห้องเรียนของเขา เพราะนี่คือคาบบ่ายแล้วซึ่งเขาจะต้องเรียนวิชานี้อีกหนึ่งวิชาก่อนที่จะได้กลับบ้านไปพัก เดิมทีที่นั่งของเขาจะอยู่ติดกับป้องซึ่งอยู่ข้างหน้าต่าง แต่ไอเพื่อนตัวดีของเขามันอยากจะเปิดทางให้รุ่นน้องอย่างกุนเสียเหลือเกิน โดยการที่เจ้าตัวย้ายตัวเองไปนั่งทางด้านหลังและให้กุนมานั่งข้างเขาแทน ถัดจากถัดก็จะเป็นพนาและพอสที่นั่งอยู่ ส่วนข้างหลังพอสก็จะเป็นนุ ฟิวและตามด้วยป้อง

“ กุนไม่เป็นไรครับ ขาลเรียนไปเถอะ “ กุนพูดเสียงหวาน

“ ตอแหล “ เสียงของพนาดังขึ้นด้วยความหมั่นไส้

“ อย่าไปยุ่งเรื่องของเขาหน่า “ พอสพูดกับอีกฝ่ายยิ้มๆแล้วลูบหัวเล็กด้วยความเอ็นดู ซึ่งพนาเองก็เอียงหัวไปทางพอสนิดๆอย่างอ้อนๆ

ป้องและคนอื่นๆที่นั่งอยู่ทางด้านหลังต่างก็หันมองหน้ากันด้วยความงงไม่น้อย ยกเว้นกุนและปีขาลที่พอจะมองอะไรออกบ้างอยู่แล้วจึงไม่ได้ตกใจอะไรเท่าไหร่แล้วยิ่งกุนที่เป็นเพื่อนสนิทของพนานั้นยิ่งไม่รู้สึกตกใจอะไรเลยสักนิดเพราะพอที่จะรู้เรื่องราวของคู่นี้มาบ้างแล้ว

“ เดี๋ยวนะ..นี่พวกมึงมีเชี้ยไรที่ยังไม่ได้บอกพวกกูรึเปล่าเนี้ย “ ป้องขมวดคิ้วแล้วถามด้วยความสงสัย พอสยักไหล่นิดๆแล้วหันไปมองพนาด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง พนาเองก็ได้แต่อมยิ้มโดยไม่ได้พูดอะไรกลับไปเช่นกัน

“ กูว่ามึงไม่ต้องถามพวกแม่งหรอก แค่นี้มึงก็น่าจะดูออกแล้วปะว่าพวกแม่งอ่ะ..คบกัน “ นุพูดพลางถอนหายใจออกมานิดๆ

“ เชี้ย!! “ ฟิวและป้องร้องออกมาด้วยความตกใจ

“ คนครับไม่ใช่เชี้ย “ พอสหันมายักคิ้วใส่เพื่อนอย่างกวนๆ

“ นะ..นี่จริงจังปะเนี้ยสัส พวกมึงไม่ได้ล้อกูเล่นใช่ปะ “ ฟิวถามอย่างอึ้งๆ

“ หน้ากูเหมือนคนล้อเล่นรึไง “ พอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถามอย่างกวนๆ

“ พวกพี่อย่าสงสัยมากเลยหน่า พวกผมคบกันก็ดีกว่าทะเลาะกันรึเปล่าละ “ พนาหันไปยักคิ้วใส่รุ่นพี่ทั้งสามคนอย่างกวนๆ ป้องทำท่าจะตบหัวของพนาด้วยความหมั่นไส้แต่พอสยื่นมือมาบังหัวเล็กของพนาเอาไว้ก่อน แล้วมองใส่ป้องอย่างดุดุ

“ กูยังไม่ทันได้ตบมันเลยเว้ยย ไม่ต้องมองเหมือนจะแดกหัวกูหรอกไอห่า “ ป้องค่อยๆเอามือลงอย่างเซ็งๆ

“ อย่าทำมัน “ พอสพูดสั้นๆแต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยคำสั่งและจริงจังไม่น้อย ทำให้เพื่อนๆทุกคนที่ได้ยินถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียงเพราะไม่คิดว่าพอสจะอาการหนักขนาดนี้

“ กูไม่รู้ว่าจะสงสารมึงหรือควรจะดีใจกับมึงดีไอพนา “ นุหันไปบอกพนาพร้อมกับส่ายหน้านิดๆ เพราะกิตติศัพท์ของพอสนั้นก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

“ เชี้ยนุเงียบปากไปเลยไอสัสนี่ “ พอสถลึงตาใส่นุอย่างดุดุ พนามองรุ่นพี่ทั้งสองสลับกันไปมาด้วยความสงสัย เพราะตัวของเขาก็พึ่งลองให้โอกาสรุ่นพี่ตรงหน้าโดยที่ไม่ได้รู้ประวัติความเป็นมาของอีกฝ่ายมากนัก

“ พี่มีอะไรที่ยังไม่บอกผมอีกรึเปล่า “ พนาจ้องหน้าพอสด้วยสายตาคาดคั้น

“ กูบอกมึงไปหมดแล้วไง จะให้บอกอะไรอีกละ..กูไม่มีอะไรปิดบังมึงหรอกนะ ไว้ใจกันด้วยครับ “ พอสหยิกแก้มขาวด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ แน่นะ “ พนาหรี่ตามองอีกฝ่าย

“ แน่ดิ ถ้าไม่แน่จะขอคบทำไมละ หื้ม? “ พอสพูดเสียงนุ่มพร้อมกับลูกหัวเล็กเบาๆ

“ ถ้านี่ไม่ใช่ห้องเรียนกูว่าได้ถอดเสื้อผ้าแสดงความรักต่อกันแน่ๆ กูมั่นใจ “ ป้องท้าวคางและมองเพื่อนสนิทกับรุ่นน้องสลับกันไปมา พนากับพอสหันขวับมาทางป้องทันที

“ พี่รู้ด้วยหรอว่าพวกผมจะทำแบบนั้นกันอ่ะ เฮ้ย! เก่งว่ะรู้ด้วย “ พนาแกล้งเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซึ่งทุกคนต่างก็มองออกว่าอีกฝ่ายกำลังกวนป้องอยู่

“ อาจาร์ยมาแล้วไอสัส “

ก่อนที่ป้องจะได้พูดสวนหรือด่าอะไรพนากลับไปเสียงของนุก็ดังขึ้นพร้อมกับแรงสะกิดไม่ให้ป้องพูดอะไรต่อ ป้องได้แต่มองขวางไอที่พนาอย่างหาเรื่อง

“ หึหึ “ พอสส่ายหน้ามองคนรักยิ้มๆ

“ นี่ “ ปีขาลกระซิบเรียกกุนที่อยู่ข้างๆ กุนหันหน้าไปทางปีขาลยิ้มๆแล้วมองด้วยความสงสัย

“ …ไม่มีอะไร “ ปีขาลตัดสินใจไม่ถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยออกไป

เมื่อเขาสบตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของคนตรงหน้ามันก็ทำให้คำถามที่เขาอยากจะถามถูกกลืนหายไปกับลมทันที ในใจของปีขาลนั้นอยากจะถามอีกฝ่ายเหลือเกินว่าคิดดีแล้วหรอที่ชอบคนอย่างเขา ทั้งๆที่ตัวเขานั้นผ่านอะไรมามากมาย สิ่งเลวร้ายต่างๆและเหตุการณ์ที่ยากจะลืมเลื่อน แต่เขาก็ต้องเลือกที่จะเก็บถ้อยคำนั้นไว้ เพราะตัวของปีขาลเองก็ยังไม่แน่ใจนักว่าเป็นเพราะเขาเริ่มชอบอีกฝ่ายเข้าแล้วหรือเพียงแค่รู้สึกดีในฐานะรุ่นน้องคนนึงเท่านั้น

“ ขาลเป็นอะไรรึเปล่า “ กุนถามอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง ปีขาลส่ายหน้าเล็กน้อย

“ เปล่า แล้วก็เลิกเรียกด้วยชื่อเล่นแบบนั้นสักทีเถอะ ผมเป็นรุ่นพี่คุณนะ “ ปีขาลแกล้งมองอีกฝ่ายดุดุแต่มีหรือที่ร่างสูงอย่างกุนจะสำนึก

“ แล้วไม่คิดจะเปลี่ยนสถานะเป็นอย่างอื่นบ้างหรอครับ “ กุนแกล้งยื่นหน้าเข้าไปหาปีขาลช้าๆ

“ นี่! นักศึกษาที่นั่งอยู่ตรงหน้าต่างตรงนั้นอ่ะ ทำอะไรกัน “ เสียงอาจาร์ย์หนุ่มพูดใส่ไมค์ ทำให้ทั้งกุนและปีขาลต่างแยกออกจากกันด้วยความตกใจ

ทั้งหมดหันไปมองทั้งสองคนเป็นตาเดียว

“ ผม..ผม “ ปีขาลอึกอัก ส่วนกุนนั้นก็มองอีกฝ่ายยิ้มๆ

“ ถ้าจะทำอะไรกันในห้องนี้…ให้ผมหยิบโทรศัพท์ถ่ายคลิปก่อนสิ “ อาจาร์ยหนุ่มพูดเสียงทะเล้นแล้วยิ้มกว้างใส่ลูกศิษย์ที่เบิกตากว้างมองเขาอยู่

“ ฮิ้วววววววว “

“ วี๊ดวิ๊ววว”

“ ฮ่าๆๆๆๆ “

เสียงหัวเราะและเสียงโหแซวของเพื่อนในห้องทำให้ปีขาลได้แต่กลั้นยิ้มด้วยความเขิน

“ อาจาร์ยแม่งขอจริงไอสัส ฮ่าๆๆๆ หนุ่มวายนี่หว่า “ ป้องพูดขำๆ

“ หนุ่มวาย? คืออะไรอ่ะพี่ “ พนาหันไปถามป้องด้วยความสงสัย

“ มันก็ย่อมาจากสาววายนั่นแหละ เพียงแค่เป็นผู้ชายเท่านั้น “ ป้องอธิบาย

“ อ๋อออ “ พนาพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“ เอาๆๆนักศึกษาตั้งใจเรียนกันหน่อย เดี๋ยวผมให้พวกคุณเอฟกันยกห้องขึ้นมาอย่ามาโวยวายนะ “ เขาแกล้งพูดขู่ ซึ่งก็นับว่าเป็นการขู่ที่ได้ผลพอสมควรเพรั้งห้องต่างก็พร้อมใจกันเงียบในทันที

“ โอเคงั้นเรามาเริ่มเรียนต่อกันที่บท… “

.

.

.

เลิกเรียน

ครืดดด ครืดดดด

แรงสั่นของโทรศัพท์ทำให้ปีขาลที่กำลังเก็บสมุดใส่กระเป๋านั้นหยุดชะงักและหยิบขึ้นมาดูทันที

กึก!

ปีขาลนิ่งค้างไปทันทีเมื่อรู้ว่าเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นเป็นเบอร์ของใคร

“ ขาล..เป็นอะไรรึเปล่าครับ “ กุนขมวดคิ้วถามปีขาลด้วยความเป็นห่วง

“ นั่นดิมึงไอเชี้ยขาล ใครโทรมาวะ “ ป้องที่สังเกตเห็นท่าทางของเพื่อนจึงถามขึ้น คนอื่นๆพอได้ยินก็มองปีขาลด้วยความสงสัย

ปีขาลเงยหน้ามองไปที่ทุกคนนิ่งๆ

“ กูขอตัวก่อนนะ “

พูดจบเขาก็เดินออกไปข้างนอกทันที ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้และเป็นห่วงของเพื่อนสนิทและกุน

“ มึงว่าใครโทรมาหามันวะ “ ฟิวหันไปถามคนอื่นๆเสียงเครียด

“ พวกมึงลองเดากันสิ “ พอสพูดขึ้น เพราะเขาเองก็พอที่จะเดาได้อยู่แล้วว่าใคร ทุกคนมองหน้าพอสและรู้ได้ทันทีว่าใคร

“ ไอ้เชี้ยระกา!!! “

กุนและพนาหันมองหน้ากันด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินชื่อของระกาเลยแม้แต่น้อย

“ ระกาคือใคร? “ กุนขมวดคิ้วถามเสียงนิ่ง

เป็นเมียผมนะ

เป็นเมียผมนะ

ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset