เคลียร์นะเฮีย! เป็น’เมีย’ผมนะ – ตอนที่ 48

กุนเดินตามแรงดึงของปีขาลจนกระทั่งมาหยุดอยู่ในห้องประชุมของร่างบางที่โดมใกล้ตึกคณะ

“ ไอบ้านั่นมันเป็นใคร “ ปีขาลขมวดคิ้วถามกุนด้วยความโมโห กุนจับมือปีขาลพร้อมกับลูบเบาๆเพื่อปลอบประโลม

“ เป็นเพื่อนในห้องครับ “ กุนบอกพร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้กับใบหน้างอง่ำ

“ แล้วทำไมมันถึงพูดแบบนั้น “ ปีขาลถามกุนเสียงแข็ง

“ พูดว่าอะไรครับ “ กุนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“ ก็พูดว่ามันชอบกุนไง! “ ปีขาลใส่อารมณ์ด้วยความไม่พอใจ

“ กุนเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ “ กุนบอกตามที่ตัวเองรู้สึกเพราะเขาเองก็ไม่รู้จริงๆว่าเขาไปทำอะไรให้อีกฝ่ายนึงชอบ ทั้งๆที่เขาก็อยู่เฉยๆไม่ได้ยุ่งกับใครเลยตั้งแต่ที่เข้ามหาลัยมา

“ ไม่รู้ๆๆอะไรๆก็บอกไม่รู้! “ ปีขาลถอนหายใจอย่างแรงด้วยความโมโหพร้อมกับหันหลังใส่ร่างสูงทันที เพราถ้าขืนเขามองหน้าอีกฝ่ายนานกว่านี้มีหวังเขาต้องทุบไปที่อกแกร่งของกุนเพื่อระบายอารมณ์โมโหที่มีแน่ๆ

กุนมองแผ่นหลังเล็กที่อยู่ตรงหน้ายิ้มๆ ทั้งๆที่เขากำลังโดนอีกคนโกรธอยู่แท้ๆแต่ทำไมกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก กุนค่อยๆเดินเข้าไปใกล้แล้วกอดร่างเล็กจากทางด้านหลังเอาไว้แน่น ตอนแรกปีขาลเองก็ขืนตัวเล็กน้อยแต่สักพักก็ยอมให้เขาได้กอด

“ เสน่ห์แรงจังนะ มีแต่คนหลงเต็มไปหมด “ เสียงประชดของร่างบางทำให้กุนยิ่งยิ้มกว้างมากกว่าเดิม

“ แล้วคนนี้..หลงมั้ยครับ “ กุนเอียงหน้าน้อยๆแล้วถามใบหน้าหวานด้วยความอยากรู้ ปีขาลปลายหางตามองกุนนิดๆ

“ อยากทุบมากกว่า “ เขาบอกอีกฝ่ายอย่างเคืองๆ กุนได้แต่หัวเราะในลำคออย่างขำๆกับคำพูดน่ารักของคนในอ้อมกอด

“ ขอโทษนะครับ “ กุนพูดเสียงนุ่ม ปีขาลชะงักไปนิดแล้วหันไปถามด้วยความสงสัย

“ ขอโทษทำไม “

“ ขอโทษที่ทำให้โกรธครับ “

ปีขาลขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาพูดขอโทษเขาแบบนี้

“ ปีไม่ได้โกรธกุนหรอกนะ ก็แค่.. “ ปีขาลกัดปากตัวเองเล็กน้อยเพราะรู้สึกเขินที่ต้องพูดอะไรแบบนี้ออกไป

“ ปีหึงกุนใช่มั้ย “ กุนถามยิ้มๆ ปีขาลหายใจออกมาเล็กน้อยเพราะเขาเองก็ยอมรับว่าตัวเองหึงอีกฝ่ายจริงๆ

“ มันดูงี่เง่ามากใช่รึเปล่า “ ปีขาลถามเสียงอ่อย กุนส่ายหน้าน้อยๆ

“ มันน่ารักมากๆเลยตางหากครับ “

“ สิ่งที่ปีทำมันไม่ได้ดูงี่เง่าเลยสักนิด กุนรู้สึกดีนะที่ปีหึง เพราะมันก็แปลว่า..ปีรู้สึกเหมือนกุน “ กุนพุดเสียงนุ่ม พร้อมกับหอมไปที่แก้มขาวเต็มฟอด

“ อะแฮ่ม! นี่มันห้องประชุมนะครับเพื่อนนน “ พนาเอ่ยแซวยิ้มๆเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เห็นว่าเพื่อนหอมแก้มของปีขาลพอดี

ปีขาลและกุนต่างก็หันหน้าไปทางพนาด้วยความตกใจ

“ มารยาท “ กุนมองขวางเพื่อนสนิท ที่เข้ามาขัดอารมณ์เขา

“ แหมมมทำมาเป็นว่ากู เหมือนตัวเองมีมารยาทมากอ่ะ “ พนาแบะปากใส่กุนด้วยความหมั่นไส้

“ ดีกันก็ดีแล้ว แต่มึงรู้ใช่มั้ยไอกุนว่าเรื่องมันอาจจะไม่จบเพียงแค่นี้ “ พอสพูดเตือน

“ ทำผมผมไม่เป็นไร แต่อย่ามายุ่งกับคนของผมแล้วกัน “ เสียงเรียบของกุนเอ่ยขึ้นนิ่งๆ แม้แต่ปีขาลเองที่ได้ฟังก็ยังมีความรู้สึกขนลุกไม่น้อย

“ ใครจะกล้ายุ่งกับคนของมึงละแหมม มีเจ้าของดุเยี่ยงหมาแบบนี้ “ พนาลอยหน้าลอยตาใส่กุน

“ ..ไอแมลงทับ “ กุนพูดใส่พนานิ่งๆ ซึ่งคำว่าแมลงทับก็มาจากช่วยมอต้นที่พนานั้นได้แต่งชุดของงานโรงเรียน โดยทางโรงเรียนมีกิจกรรมให้พวกเขาได้ทำและพนานั้นก็ได้แสดงโชว์บนเวทีด้วย โดยแสดงเป็นแมลงทับที่เกาะบนต้นไม้ ส่วนกุนนั้นก็เป็นคนทำเบื้องหลังในเรื่องการถ่ายภาพและวีดีโอ ซึ่งงานโรงเรียนที่ได้จัดขึ้นนั้นก็คืองานประกวดชุดแฟนตาซีของระดับชั้นมอต้น ตั้งแต่มอหนึ่งถึงมอสาม

“ อะ..ไอ!ไอเชี้ยกุน!!! “ พนาถลึงตาใส่กุนอย่างดุดุ เมื่อกุนพูดถึงปมของเขาตั้งแต่เด็กซึ่งพนานั้นอยากจะลืมมันออกไปจากความทรงจำ

“ หื้ม? แมลงทับอะไรวะ “ พอสหันมองพนาและกุนสลับกันด้วยความสงสัย ปีขาลเองก็มองด้วยความสงสัยเช่นกัน

“ ก็.. “ กุนทำท่าจะพูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแต่พนานั้นรีบวิ่งเข้าไปตะคลุบปากของกุนเอาไว้ก่อน

“ เงียบเลยนะมึงไอห่านิ่ง “

“ อ้าไอ้เอียบอะอำไอ(ถ้าไม่เงียบจะทำไม) “ กุนยักคิ้วใส่เพื่อนสนิทอย่างกวนๆ

“ สัส “ พนากัดฟันด่ากุนด้วยความโมโห เพราะมันคือปมที่เขาไม่อยากจะคิดถึงมันเท่าไหร่นัก

“ มานี่เลยอ้วน “ พอสเข้าไปดึงคอเสื้อของพนาให้ออกห่างจากกุนทันที

“ โอ๊ยยไอพี่พอสสสเจ็บนะเว้ยยย “ พนาจับแขนของพอสที่ลากเขาอยู่แล้วโวยวายทันที

“ อยู่นิ่งๆเลยอ้วน เดี๋ยวเรามาคุยกันเลยนะ แมลงทับคืออะไร ห๊ะ! “ พอสพูดจบก็ลากคอคนรักที่สูงของตัวเองอออกไปนอกห้องทันที เหลือเพียงแค่ปีขาลและกุนที่อยู่ในห้องเพียงสองคนเท่านั้น ปีขาลหันไปมองหน้ากุนอย่างงงๆ

“ มันเป็นอะไรกัน “ เขาถามคนรักด้วยความสงสัย กุนเพียงยิ้มให้ปีขาลโดยไม่ได้พูดอะไรกับไป

———30%———

เมื่อพอสลากคนรักของตัวเองเข้ามานั่งที่รถได้แล้ว ก็ขับรถไปยังคอนโดของตัวเองทันทีเพราะคาบบ่ายทั้งเขาและพนาไม่ได้มีเรียนทั้งคู่ เพราะยังมีกิจกรรมอยู่

“ แมลงทับคืออะไร “ พอสถามพนาระหว่างทางที่เลี้ยวเข้าไปในคอนโด

“ พี่ถามผมมาตั้งแต่ขึ้นรถละนะ จะถามทำไมนักหนาเนี้ย “ พนาได้แต่กรอกตามองบนอย่างเซ็งๆ

“ ก็มึงไม่ตอบกูสักที กูก็ต้องถามมั้ยละ “ พอสขมวดคิ้วหันมองคนรักที่ท้าวคางพิงประตูรถอยู่

“ ก็ไม่อยากบอกไงวะพี่ ฟังไม่รู้เรื่องรึไง “ พนามองขวางพอสนิดๆ เพราะเขารู้สึกอายที่ต้องเล่าเรื่องอดีตของตัวเองให้คนรักได้ฟัง

“ กูก็อยากรู้ไงครับแฟน แค่มึงบอกกูมาว่าไอแมลงทับที่ผัวไปขาลมันพูดหมายถึงอะไรก็จบแล้วป้ะ แค่นี้กูก็ไม่ถามมึงต่อละ มึงจะปิดบังกูเพื่อ? “ พอสขมวดคิ้วแล้วพูดกับพนาด้วยความไม่เข้าใจ พนาลงจากรถทันทีที่รถจอดลง โดยไม่อยู่รอพอส

“ พี่จะมาเซ้าซี้ทำไมเนี้ยยย ถ้าผมจะบอกเดี๋ยวบอกเองแหละ มันไม่ใช่เรื่องน่าพูด แค่นี้ไม่เข้าใจรึไง “ พนาหันมาเถียงกับพอสเสร็จก็เดินตรงไปข้างหน้าต่ออย่างเร็ว

“ มึงนี่นะ บอกกูแค่นี้มันจะตายรึไงวะ แล้วนี่จะรีบเดินทำห่าอะไร กูเดินตามไม่ทัน! “ พอสตะคอกใส่พนาเสียงดังลั่น เพราะอีกฝ่ายเอาแต่ก้าวเท้าเดินตรงไปอย่างเร็วโดยไม่รอเขาเลยสักนิดซึ่งขาของเขาก็ไมได้ยาวเท่าอีกคนเท่าไหร่นัก พนากรอกตามองบนแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ

“ ก็พี่ขาสั้นเองมั้ยละวะ แม่ง! มีผัวหรือลูกวะกู “ ประโยคหลังพนาบ่นกับตัวเอง พร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อยและกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังห้องของพอสทันที

“ กูได้ยินนะไออ้วน! “ พอสมองหน้าพนาอย่างดุดุ เพราะเรื่องส่วนสูงมันก็เป็นปมของพอสเหมือนกัน

“ กูไม่ได้อ้วนเว้ยยไอห่าพี่พอส กูแค่อวบครับผัว ไม่ได้อ้วน “ พนาตะคอกใส่พอสเสียงดังลั่น เมื่อลิฟท์เปิดออกทั้งคู่ก็เข้าไปทันที

“ ตกลงมึงจะบอกกูหรือจะให้กูไปถามผัวไอขาลเอาเอง แต่กูบอกไว้ก่อนนะเว้ยว่าถ้าให้กูถามมันเอง กูจะเอามึงจนลุกไม่ได้เลยคอยดู “ พอสชี้หน้าพนานิดๆพร้อมกับยักคิ้วใส่อย่างกวนๆ

“ อะ..ไอผัวหื่น! “ พนากัดปากตัวเองแน่น

“ ถ้าถึงห้องแล้วยังไม่บอกกู กูจะโทรไปหาไอกุนแล้วบังคับให้มันบอกกู..มึงโดนกูเอาแน่ไออ้วน “ พอสยิ้มมุมปากอย่างร้ายๆ

“ แม่ง! “ พนาสบถอย่างหัวเสียที่มีแฟนเจ้าเล่ห์แบบนี้

เมื่อลิฟท์เปิดออก พนาก็เดินจ้ำไปยังห้องของตัวเองทันที โดยมีพอสเดินตามไปยิ้มๆ พนาแตะคีย์การ์ดห้องแล้วเปิดมันออกพร้อมกับเดินเอากระเป๋าไปเหวี่ยงบนที่นอนด้วยความโมโห

“ ตกลงยังไงเมีย จะบอกกูหรือไม่บอกครับ “ พอสกอดอกพิงประตูแล้วถามพนาที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ที่เตียง

“ มึงเป็นโรคจิตรึไงวะพี่ ถึงได้ชอบขู่กูนักเนี้ย “ พนามองขวางพอสด้วยความโมโห เมื่อเขาโมโหขึ้นมาเมื่อไหร่เขาจะขึ้นมึงกูเสมอซึ่งเรื่องนี้พอสเองก็รู้ดีและเขาก็ไม่เคยต่อว่าที่อีกคนเรียกเขาแบบนี้ด้วย

“ กูไม่ได้หาเรื่องขู่มึงนะเมีย แต่กูกำลังหาเรื่องเอามึงอยู่ นี่มึงไม่รู้เรื่องเลยรึไง “ พอสส่ายหน้ายิ้มๆ พนาอ้าปากค้างด้วยความตกใจเพราะเขาไม่ได้คิดแบบนี้เลยสักนิด

“ นะ..นี่พี่คิดจะเอาผมหรอ!! “ พนาถามด้วยน้ำเสียงตื่นตะหนก พอสถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆที่เมียของเขาบทจะซื่อก็ซื่อจนเขากลัวว่าจะโดนใครหลอก แต่บทจะร้ายก็ร้ายซะจนตามไม่ทัน

“ ตกลงกูจะได้รู้มั้ย “ พอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม และเดินเข้าไปนั่งข้างๆพนา

“ ถ้าพี่รู้แล้ว..อย่าขำนะ “ พนาพูดดัก พอสพยักหน้าให้สัญญา

“ คือผม.. “ หลังจากนั้นพนาก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้กับพอสได้รู้

เมื่อพอสฟังจบก็ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู เพราะคนที่เล่าจบดันก้มหน้างุดด้วยความเขินอายอยู่

“ จะเขินทำไม กูว่าน่ารักดีออก เมียกูทำอะไรก็น่ารัก จะแต่งอะไรก็น่ารักมากๆอยู่ดี “ พอสยิ้มหวานพร้อมกับลูบหัวเล็กเบาๆด้วยความอ่อนโยน

“ ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหนเลย ตลกจะตาย “ พนาแบะปากใส่พอสที่ยิ้มอยู่

“ ถ้าไม่น่ารัก กูจะเอามึงเป็นเมียกูมั้ย หื้ม? “ พอสขยี้หัวของพนาด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ ชิ! “ พนาย่นจมูกใส่พอสอย่างน่ารัก มันก็ยิ่งทำให้พอสรู้สึกเอ็นดูอีกฝ่ายมากกว่าเดิม

“ ต่อไปนี้มีอะไรอย่าปิดบังกันอีก มันไม่มีใครชอบหรอกนะที่แฟนตัวเองมีความลับกับเราตลอดเวลา “ พอสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ในน้ำเสียงนั้นก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่มีให้อีกฝ่าย

“ อื้อ ผมขอโทษนะที่ปิดบัง “ พนาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก

“ ไม่เป็นไร แต่คราวหลังก็อย่าทำอีก “ พอสดึงอีกคนเข้ามากอด พนาเองก็กอดตอบทันที

.

.

.

ทางด้านเมฆา

เขาได้เดินทางมาที่มหาลัยนี้อีกครั้ง เพราะต้องคอยเข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับกุน ซึ่งเขาได้สั่งให้ลูกน้องของเขาได้อยู่ดูแลบริเวณนี้ด้วย

“ อ้าวๆๆเจอกันอีกแล้วนะไอหนู “ ธนาเอ่ยทักคนที่อยู่ตรงหน้าตึกคณะของเขา ซึ่งธนาเองก็เดินมาพร้อมกับปิติและออย

เมฆากรอกตามองบนนิดๆและหันไปทางด้านหลังตัวเองอย่างช้าๆ

“ พี่มีอะไรกับผมรึเปล่าครับ “ เมฆาถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงติดรำคาญไม่น้อย

“ แล้วถ้าบอกว่ามีละ “ ธนาเดินเข้ามาหาเมฆานิ่งๆ โดยมีปิติและออยมองมายิ้มๆ

“ พี่มีอะไรกับผม “ เมฆาขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย

“ ไม่รู้สิ ยังคิดไม่ออก “ เสียงกวนๆของธนาพูดขึ้น เมฆาหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังประทุอยู่ข้างใน

“ ถ้างั้นผมขอตัว “ เมฆาพูดจบก็หันหลังเดินไปทันทีโดยที่ธนาเองก็ไม่ได้รั้งอะไรอีกคนไว้

ปิติและออยเดินเข้ามายืนอยู่ข้างธนา

“ น้องมันชื่อไรวะ น่ารักดี “ ออยถามด้วยความอยากรู้

“ กูไม่รู้ “ ธนาตอบสั้นๆ

“ เอ้า!! “ ปิติและออยร้องออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ

“ นี่มึงไม่รู้จักน้องมันหรอวะ “ ออยถาม

“ อืม “ ธนาพยักหน้าน้อยๆ

“ เอ้า!แล้วมึงไปกวนส้นตีนน้องมันทำไมเนี้ย “ ปิติขมวดคิ้วถามเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจ

“ กูเจอมันเมื่อวาน มันนั่งอยู่คนเดียวตรงม้าหินคณะเรา แถมไม่ได้อยู่มหาลัยนี้อีก กูเลยเข้าไปทัก พอคุยไปคุยมากูก็เห็นว่าแม่งน่ารักดี กูก็เลย..แกล้งมันนิดหน่อย “ ธนาพูดยิ้มๆพร้อมกับมองไปยังทางที่เมฆาพึ่งเดินจากไป

ออยและปิติสบตากันนิ่งและส่งยิ้มให้กันโดยไม่ได้นัดหมาย

“ มึงชอบน้องมัน!! “ ทั้งสองคนประสานเสียงพูดขึ้นพร้อมกัน ธนาขมวดคิ้วมองเพื่อนที่อยู่ทั้งซ้ายและขวา

“ กูเปล่า กูแค่เห็นว่าแม่งชอบอยู่คนเดียวบ่อยๆกูเลยแค่อยากเข้าไปแกล้งมันเล่นๆเฉยๆ ใจกูมีแต่ปีขาลเท่านั้นเว้ย! “ ธนารีบบอกเพื่อนสนิททั้งสองเสียงดังลั่น

“ มึงจะแหกปากให้ทัง้คณะรู้เลยรึไงไอห่า “ ปิติส่ายหน้าน้อยๆ

“ แต่ถ้ามึงไม่คิดไรกับไอเด็กนั่น..มึงจะเข้าไปหาเรื่องมันทำไม ทั้งๆปกติ..มึงไม่ยุ่งกับคนที่ไม่รู้จักไม่ใช่หรอวะ “ ออยหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด ธนาอึกอักเล็กน้อย

“ กะ..ก็ ก็ไอเด็กนั่นมันกวนตีนดีนี่หว่า กูแค่แกล้งสนุกๆเฉยๆ “ ธนาตอบ แต่แววตาเลิ่อลั่กเล็กน้อย

“ แค่แกล้งสนุกๆ? “

“ แค่น้องมันกวนตีน? “

ปิติและออยเลิกคิ้วใส่ธนาเป็นเชิงถาม

“ เออดิ นี่พวกมึงจะมาจับผิดกูทำเหี้ยไรเนี้ย ใจกูมีแค่ขาลมันคนเดียวเท่านั้น ไม่มีคนอื่นแทรกกลางอยู่แน่นอน! “

เป็นเมียผมนะ

เป็นเมียผมนะ

ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset