เคลียร์นะเฮีย! เป็น’เมีย’ผมนะ – ตอนที่ 55

หลังจากที่กุนออกไป ปีขาลเองก็เริ่มมีลางสังหรณ์แปลกๆเกี่ยวกับร่างสูง ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอลางสังหรณ์ที่ว่านั่นมันคืออะไร..

“ ทำไมถึงรู้สึกไม่ดีแบบนี้วะ “ ปีขาลขมวดคิ้วพูดกับตัวเองเสียงเครียด

ครืดดดดด ครืดดดดด

ปีขาลกดรับทันทีที่รู้ว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนสนิทอย่างป้อง

“ ว่าไงมึง “

“ ( วันนี้มึงไปไหนป้ะ ) “ ป้องถามขึ้นเสียงใส ปีขาลขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจแต่ก็พอจะเดาได้ถึงน้ำเสียงที่ร่าเริงของเพื่อนว่าคงไม่ใช่เรื่องดีดีแน่ๆที่โทรมาหาเขาแบบนี้

“ ไม่ ถามทำไมว้ะ นี่มึงจะชวนกูไปไหน “ ปีขาลถามปลายสายกลับไป

“ ( แหมมรู้ดีนักนะมึง หึหึ กูว่าจะชวนไป…ปาร์ตี้!! ) “ เสียงของป้องพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี ปีขาลได้แต่กรอกตามองบนเพราะไม่ต่างจากที่เขาคิดมากเท่าไหร่

“ พวกมึงเอาอีกแล้วนะ “ เขาบ่นออกมาเล็กน้อย

“ แล้วนี่จัดกันที่ไหนอีก “

“ ( จัดที่บ้านพี่นัทเว้ย ) “ ป้องบอก

นัทเป็นพี่รหัสของนุซึ่งบ้านของนัทนั้นห่างจากมหาลัยไม่มากเท่าไหร่นัก บ้านของนัทไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็พอที่จะจัดงานปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงอื่นๆได้ มันเลยทำให้หลายๆครั้งบ้านของรุ่นพี่คนนี้กลายเป็นที่จัดงานปาร์ตี้กันไปโดยปริยาย..

ปีขาลเมื่อได้ฟังก็ชั่งใจคิดไปสักพัก จู่ๆความรู้สึกน้อยใจร่างสูงก็แล่นขึ้นมาในความคิด..ในเมื่ออีกคนไม่ได้สนใจเขามากเหมือนที่สนใจเพื่อนในวัยเด็กอย่างเมฆา เขาก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่รอเพื่อรับฟังคำอธิบายหรือคำแก้ตัวอะไรของร่างสูงเมื่ออีกฝ่ายกลับมาจากที่นั่น เขายอมรับว่านี่อาจจะเป็นวิธีการที่งี่เง่าและเอาแต่ใจมากไป แต่ความน้อยใจของเขามันสะสมมาตั้งแต่วันที่เขาเห็นหน้าเมฆาในครั้งแรกแล้ว และยิ่งอีกฝ่ายทำท่าทางสนิทสนมกับเมฆามากขนาดนั้น มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจเป็นอย่างมาก นั่นมันจึงทำให้เขาทำการตอบตกลงป้องไปในทันที

“ กูไป “

.

.

บ้านของนัท

“ มาเว้ยไอขาล มาๆๆๆ “ นัทเดินไปกอดคอของรุ่นน้องในคณะให้เดินมานั่งกับเขา เมื่อเห็นว่าปีขาลเดินมาพร้อมกับป้อง

“ มึงไปรับมันหรอวะไอป้อง “ ฟิวหันไปถามป้องที่เดินมานั่งข้างๆเขา

“ เออดิ แม่งไม่ยอมขับรถมาเอง ทั้งๆที่ไอกุนมันก็ทิ้งรถไว้ให้มันใช้ “ ป้องบ่นออกมาเล็กน้อยพร้อมกับหยิบแก้วเปล่าที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาริน

“ แล้วมึงเป็นห่าไรไม่ใช้รถวะ “ ฟิวหันไปถามด้วยความสงสัย ปีขาลถอนหายใจออกมานิดๆ

“ ท่าทางแบบนี้..งอนผัวมึงชัว! “ นุตบเข่าแล้วพูดด้วยความมั่นใจ

“ จริงดิมึง “ ป้องหันไปถาม เพราะเขาเองก็ยังไม่รู้เหตุผลของเพื่อนสนิทเช่นกัน

ปีขาลมองหน้าเพื่อนและรุ่นพี่ของตัวเองแต่ละคนนิ่ง

“ มันก็ไม่ได้เรียกว่างอนหรอก กูแค่..คิดมากนิดหน่อยว่ะ “ ปีขาลยอมรับด้วยท่าทีนิ่งๆ เพราะแต่ละคนที่อยู่ที่นี่ก็ล้วนแต่เป็นคนสนิทของเขาทั้งนั้น มันจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องมานั่งปิดบังความรู้สึกของตัวเองอีกต่อไป

“ มึงคิดมากเรื่องไรวะ บอกพวกกูได้ป้ะ “ ฟางพี่รหัสที่นั่งอยู่ตรงข้ามปีขาลพูดขึ้น

ปีขาลมองหน้าพี่รหัสตัวเองนิดๆ

“ ให้กูลองเดามั้ย “ พอสพูดขึ้นยิ้มๆ ปีขาลหันไปมองพอสที่นั่งอยู่ใกล้ๆนุ

“ มึงคงคิดมากเรื่องไอเด็กกุนกับไอหน้าอ่อนนั่น “

สิ้นสุดคำพูดของพอส ทำให้ทุกคนหันไปมองทางปีขาลเป็นตาเดียว

“ จริงหรอวะมึง “ นุขมวดคิ้วถามเพื่อความแน่ใจ ปีขาลพยักหน้าน้อยๆ

“ วันนี้กุนมันไปหาไอเด็กนั่นอีกแล้ว เป็นชั่วโมงเลยด้วยจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับ “

“ กูไม่รู้ว่ามันไปทำอะไรกัน เพราะมันไม่ได้บอกอะไรกับกูเลย กูเองก็ไม่อยากถามเพราะไม่อยากดูงี่เง่าในสายตามัน “ ปีขาลก้มหน้าน้อยๆเพราะเขารู้สึกแย่พอสมควร

“ อย่าคิดมากดิวะมึง กุนมันอาจจะมีธุระอะไรที่บอกมึงไม่ได้ก็ได้ “ ฟิวตบบ่าเพื่อนสนิทเพื่อปลอบโยน

“ คบกันแต่มีเรื่องปิดบังกัน มึงว่ากูควรคบมันต่อไปมั้ยละ “ ปีขาลเงยหน้าถามเพื่อนเสียงเครียด

“ กูเข้าใจไอขาลนะ “ พอสพูดขึ้น

“ เพราะสำหรับกู กูคิดว่าถ้าคบกันแล้ว เรื่องของกูก็คือเรื่องของเขา เรื่องของเขาก็คือเรื่องของกู คนเราแม่งไม่ควรมีเรื่องอะไรปิดบังกัน ต่อให้มันจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม “

ใบหน้าของปีขาลยิ่งเครียดลงกว่าเดิมเมื่อได้ยิน

“ มึงจะพูดให้แม่งคิดมากทำไมเนี้ยย “ ป้องหันไปพูดกับพอสอย่างหัวเสีย

“ กูพูดความจริง “ พอสตอบหน้าตาย

เขาไม่อยากที่จะต้องมาปั้นคำพุดสวยหรูอะไรเพื่อปลอบใจเพื่อน เพราะครั้งนี้สำหรับเขา..เขาคิดว่ากุนผิด ผิดที่ไม่ยอมบอกอะไรกับปีขาลตรงๆ ผิดที่มีอะไรไม่ปรึกษากัน

“ พอสมันพูดถูก “ ปีขาลพูดขึ้น พร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม

“ แล้วมึงได้บอกมันมั้ยว่ามึงมาอยู่กับพวกกู “ นุถามเพื่อนเสียงเครียด ปีขาลส่ายหน้าน้อยๆ

“ ฉิบหายแน่งานนี้ มันต้องออกตามหามึงแน่นอน ถ้ามันกลับไปไม่เจอมึงอ่ะ “ ป้องส่ายหน้าน้อยๆอย่างเครียดๆ

“ เรื่องของมันสิ “ ปีขาลบอกออกมาด้วยความน้อยใจและขุ่นเคืองเล็กน้อย

“ ถ้าแค่นี้..มันยังบอกกูไม่ได้..หลังจากนี้กูคงต้องคิดใหม่ ว่ากูควรคบกับมันต่อไปดีมั้ย “ ปีขาลพูดเสียงเรียบ ทั้งหมดได้แต่มองหน้ากันนิดๆเพราะพวกเขาเองก็รู้ดีว่าสิ่งที่ปีขาลพูดออกมานั้นปีขาลไม่ได้พูดเล่นเลยแม้แต่น้อย

“ มึงคิดว่ามันจะปล่อยมึง? “ พอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เพราะเขาค่อนข้างมั่นใจเลยว่าคนอย่างกุนไม่มีทางปล่อยปีขาลเพราะเรื่องแค่นี้อย่างแน่นอน

“ พวกมึงเองก็รู้นิสัยกูดีนี่ ถ้ากูไม่เอา..รักแค่ไหนกูก็ไม่เอา “ ปีขาลมองหน้าเพื่อนแต่ละคนนิ่ง

“ จะทำเหี้ยไรก็อย่าวู่วาม มึงควรถามมันด้วยว่ามันจะโอเคกับสิ่งที่มึงทำรึเปล่า กูพูดตรงๆนะว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย แค่มึงคุยกับมันดีดี กูว่าพวกมึงก็น่าจะเข้าใจกันไม่ยากหรอกว่ะ “ ป้องพูดขึ้น ซึ่งทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับความคิดของป้องไม่น้อย

“ กูก็ไม่ได้บอกว่ากูจะเลิกกับมันนี่ กูแค่บอกเฉยๆว่าอนาคตถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปกูเองก็คงคบกับมันต่อไปไม่ได้ “

“ กูว่าเลิกดราม่ากันดีมะ มาบ้านกูนี่มันต้องเฮฮาดิว้ะ “ นัทรีบพูดเปลี่ยนเรื่องเพื่อทำลายบรรยากาศที่เริ่มไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ ผมก็คิดแบบนั้นแหละพี่นัท “ นุหันไปบอกกับพี่รหัสตัวเองอย่าเห็นด้วย

“ เอ้าๆๆชนๆๆ “ นัทยกแก้วขึ้น คนอื่นๆก็หยิบแก้วเพื่อขึ้นมาชนกับนัท

“ เดี๋ยวกูไปเอากับแกล้มมาให้ “ นัทพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน

“ ผมไปด้วยพี่ “ ฟิวพูดขึ้น นัทพยักหน้าและเดินนำฟิวออกไป

เวลาผ่านไปสักพัก

“ กลับมั้ยไปขาล กูว่าตอนนี้มึงเมามากแล้วเนี้ย “ ฟิวส่ายหัวเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนสนิทที่เมาจนหน้าแดงกล่ำ

“ กูหวายยย “ ปีขาลตอบกลับเสียงอ้อแอ้ ทุกคนได้แต่ขมวดคิ้วมองปีขาลด้วยความเป็นห่วง

“ โทรตามผัวมันให้มารับดิ๊ “ ป้องหันไปพูดกับนุ

“ กูมีเบอร์ผัวมันที่ไหนละ “ นุพูดขึ้น

“ มึงก็เอาโทรศัพท์มันโทรสิว้ะ “ ป้องกรอกตามองบนอย่างเซ็งๆ

“ เออๆๆ “ นุพูดจบก็ล้วงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของปีขาลแล้วกดโทรหากุนทันที

ทางด้านกุนที่กำลังจะกลับไปที่ห้องก็ต้องรู้สึกถึงแรงสั่นของโทรศัพท์ทำให้กุนที่กังแตะคีย์การ์ดเข้าห้องอยู่นั้นต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อพบว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ของปีขาลกุนก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เพราะเขาจำได้ว่าเขาเป็นคนบอกให้ร่างบางรอเขาอยู่ที่ห้องแล้วอีกอย่างปีขาลเองก็ไม่ได้บอกเขาว่าจะออกไปไหน

“ หรือว่าจะโทรมาถามว่าเราอยู่ไหน “

เมื่อคิดได้ดังนั้นกุนก็กดรับสายทันที ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่หน้าห้องแล้วก็ตาม

“ ครับปี “

“ ( ไอกุน ) “ เสียงเข้มของปลายสายทำให้กุนขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะจำได้ว่าคนที่รับสายนั้นไม่ใช่คนรักของเขา

“ ใคร “ กุนถามเสียงนิ่งกลับไป

“ ( กูนุ เพื่อนไอขาลมัน ) “ นุรีบพูด เพราะกลัวว่าเด็กรุ่นน้องจะเข้าใจผิด

เมื่อได้ยินว่าเป็นเพื่อนของปีขาลทำให้กุนรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องทันที และก็พบเพียงแต่ความมืดที่อยู่ตรงหน้า นั่นทำให้กุนรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ปีขาลน่าจะออกไปข้างนอก และการที่นุกดโทรมาหาเขาในโทรศัพท์ของร่างบางแบบนรี้นั่นก็แสดงว่า ตอนนี้ปีขาลต้องลืมโทรศัพท์เอาไว้หรือไม่ก็ต้องเมาแล้วไม่รู้ตัวแน่ๆ

“ ตอนนี้ปีอยู่ไหน “ กุนถามเสียงเข้ม และหันหลังออกนอกห้องไปทันทีเพื่อขับรถไปหาคนรัก

“ ( ไอขาลมันอยู่ที่บ้านพี่นัท ) “ นุบอก นั่นยิ่งทำให้กุนขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจกว่าเดิม เมื่อรู้ว่าคนรักของตัวเองไปอยู่บ้านรุ่นพี่ที่เป็นผู้ชาย

“ นัทไหน แล้วทำไมต้องไป “ กุนยิ่งคำถามใส่นุทันที

“ ( มึงใจเย็นก่อนไอกุน พี่นัทเนี้ยเป็นพี่รหัสกูเอง สนิทกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว และพี่มันก็ไม่ได้สนใจไอขาลในทางนั้นด้วยมึงอย่าคิดเกินเลยไป ) “ นุพูดขึ้น เพราะรู้ว่าน้ำเสียงที่ยกุนพูดออกมานั้นมันบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังหึง และดูท่าว่าจะหึงแรงเสียด้วย

“ บ้านเขาอยู่ที่ไหน “ กุนถามเสียงนิ่ง

“ ( อยู่ที่… ) “

หลังจากกุนรู้ที่อยู่บ้านของนัทแล้ว เขาก็กดวางสายและขับรถตรงไปยังที่นั่นทันที

เป็นเมียผมนะ

เป็นเมียผมนะ

ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset