เคล็ดกายานวดารา – ตอนที่ 256 : การตายของเหร่ยเชียนซัง

“ตูม”

 

เขี้ยวหมาป่าของอาหมานปะทะกับขวานยักษ์ของยอดฝีมือฝ่ายอธรรมอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาเป็นสาย

 

อาหมานรู้สึกได้ถึงพลังอันมหาศาลที่กระแทกเข้ามาจนต้องถอยหลังออกไปหลายสิบก้าว อีกทั้งในทุกๆ ก้าวที่เหยียบยั้งลงไปนั้นก็ถึงกับสั่นไหวอย่างรุนแรงจนพื้นดินแตกระแหงออกเป็นทางยาว

 

หลงเฉินทอสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงมองไปทางอาหมานและยอดฝีมือผู้ถือขวาน คนผู้นั้นช่างแข็งแกร่งจนน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับใช้เพียงพลังกายควบคุมอาหมานเอาไว้ได้

 

“ลองรับกระบวนท่าของข้าบ้าง”

 

อาหมานผุดลุกขึ้นมาจากหลุมทางอันยาวไกลแล้วตะโกนเสียงดังขึ้นมาด้วยอาการลิงโลดประดุจอัสนีบาตสะท้านไปทั้งผืนฟ้า พลันบนร่างก็มีร่องรอยสีแดงโลหิตอันแสนประหลาดปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ

 

หลงเฉินเบิกดวงตาโพลงโตมองไปยังอาหมานด้วยความหวาดหวั่น เขาเคยเห็นพลังสภาวะเช่นนี้มาก่อนแล้วในครั้งที่ยังอยู่ที่จักรวรรดิเฟิงหมิง ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่หลงเฉินถูกหว่างซานซัดจนกระเด็นออกไป อาหมานเองก็ยังไม่ได้ฝึกยุทธ์อันใดทว่ากลับมี่ร่องรอยประหลาดสีแดงฉานปรากฏขึ้นมา อีกทั้งยังรับการโจมตีของหว่างซานเอาไว้ได้

 

อาหมานกระทืบเท้าลงบนพื้นอย่างหนักหน่วงประดุจเป็นยักษ์ที่กำลังเกรี้ยวกราดตนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น พลันก็วิ่งตะบึงออกไปอย่างรวดเร็ว หลงเหลือไว้เพียงพื้นดินที่แตกระแหงจนทำให้ผู้คนมากมายรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

 

“รับเขี้ยวหมาป่าไปซะ”

 

อาหมานแผดเสียงคำรามขึ้นมา กล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างขยายใหญ่ขึ้นจนเห็นเส้นโลหิตปูนโปนขึ้นมาได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังสามารถมองเห็นหยาดโลหิตที่กำลังไหลเวียนอยู่ใต้ผิวหนังอย่างบ้าคลั่ง เขี้ยวหมาป่าขนาดมหึมาแทงออกไปยังเบื้องหน้าอย่างไร้ปราณีจนฟ้าดินเกิดการสั่นสะเทือนเลือนลั่นอย่างรุนแรงราวกับจะทล่มทลายลงมาอย่างไรอย่างนั้น

 

ยอดฝีมือผู้ถือขวานทอสีหน้าแตกตื่นขึ้นมาเมื่อพบว่าเบื้องหน้าสายตาของเขาในตอนนี้คล้ายกับเป็นสัตว์ประหลาดดุร้ายโบราณที่น่าหวาดกลัว ทั้งยังมีบรรยากาศราวกับเป็นเทพมารที่หมายจะเอาชีวิตของผู้คนอย่างไม่แยแสอีกด้วย

 

การจู่โจมของอาหมานทำให้ยอดฝีมือผู้ถือขวานถูกหยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้อย่างไม่ทันตั้งตัว ภายในจิตใจของเขาจึงเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวและหวาดหวั่นอย่างไม่อาจขัดขืนได้เลย

 

ศิษย์ฝ่ายอธรรมที่ถูกเรียกขานว่าเป็นการคงอยู่ที่เหี้ยมโหดก็ยังสติเตลิดเมื่ออยู่ต่อหน้าอาหมานจนถึงกับต้องกัดลิ้นของตัวเองเพื่อให้ความเจ็บปวดไปกระตุ้นสติและลดทอนความหวาดกลัวภายในจิตใจ

 

“เบิก”

 

ยอดฝีมือผู้ถือขวานตะโกนขึ้นมาพร้อมกับไหลเวียนพลังทั้งหมดไปที่ขวานยักษ์แล้วฟาดใส่เขี้ยวหมาป่าของอาหมานอย่างหนักหน่วงในทันที

 

“ตูม”

 

เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วทั้งขุนเขาสะท้อนไปยังหุบเขาต่างๆ จนฝูงนกน้อยใหญ่เกิดอาการแตกตื่นจนบินหนีหันพัลวัน พื้นดินที่แข็งแรงกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ส่งผลให้ฝุ่นละอองฟุ้งไปทั่วทั้งผืนฟ้า

 

ยอดฝีมือผู้ถือขวานรู้สึกได้ว่าแขนข้างนั้นของเขาชาซ่านขึ้นมาพร้อมกับร่างที่ลอยกระเด็นออกไป เมื่อลอยคว้างอยู่กลางอากาศได้ครู่หนึ่งก็ดิ่งลงมากระแทกกับพื้นดินอย่างรุนแรง พลันก็รีบยันตัวลุกขึ้นมาเพื่อเตรียมรับการโจมตีต่อไปอย่างกระเสือกกระสน ทว่าจู่จู่ก็เห็นว่ามือทั้งสองข้างถูกอาบด้วยโลหิตสีแดง ร่องนิ้วมือถึงกับฉีกขาดออกจากกันไปแล้วอย่างนั้นหรือ!
 

“ยังไม่ตายอีกหรือ? เช่นนั้นก็เข้ามา” อาหมานกล่าวพร้อมกับกวาดเขี้ยวหมาป่าออกไปอีกครั้งหนึ่ง

 

ยอดฝีมือผู้ถือขวานทอสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ภายในจิตใจเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งจนแทบจะหลุดออกมากจากอก คิดไม่ถึงเลยว่าเคล็ดวิชาลับของตัวเองได้พ่ายแพ้ให้กับพละกำลังของอาหมานอย่างหมดจด

 

ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าพลังของตัวเองนั้นแตกต่างจากอาหมานเป็นอย่างมาก หากปะทะกันอย่างซึ่งหน้าก็คงจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย จากเดิมที่เคยคิดว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือที่มีพลังอันมหาศาลเป็นจุดเด่น อีกทั้งยังไม่หวาดหวั่นต่อกระบวนท่าที่พิสดารของผู้ใดจึงทำให้เขาไม่มีคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมกันอย่างแท้จริงมาก่อน

 

ซึ่งอาหมานผู้นี้กลับเป็นคนแรกที่สามารถกดดันผู้อยู่เหนือขอบเขตอย่างเขาได้อย่างไม่น่าให้อภัย ด้วยการร่ายรำเขี้ยวหมาป่าขนาดมหึมาเล่มนั้นที่ทั้งรุนแรงและบ้าคลั่ง มีหรือที่เขาจะสามารถต้านทานเอาไว้ได้

 

เหล่าผู้อาวุโสฝ่ายอธรรมจ้องมองไปยังการต่อสู้ของอาหมานและศิษย์ของตัวเองด้วยสายตาโง่งมกันไปทั้งหมด ผู้อยู่เหนือขอบเขตฝ่ายอธรรมผู้นั้นกำลังจะพ่ายแพ้ให้กับศิษย์ฝ่ายธรรมะอย่างนั้นหรือ? อีกทั้งยังผ่านไปเพียงสองกระบวนท่าเท่านั้น

 

“ถู่ฟาง ตาแก่เจ้าเล่ห์ กล้าซ่อนพยัคฆ์เอาไว้ในคราบลูกแกะอย่างนั้นหรือ? เจ้ารอข้าก่อนเถิด” เฒ่าประหลาดเนตรมารขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วด่าทอด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

 

ศิษย์ฝ่ายอธรรมจำนวนสองหมื่นเจ็ดพันคนเรียกได้ว่ามากกว่าศิษย์ฝ่ายธรรมะถึงห้าเท่า อีกทั้งยังมีผู้อยู่เหนือขอบเขตปรากฏตัวขึ้นมาถึงห้าคน และหยินหลอก็เป็นถึงผู้มีพรสวรรค์ประหลาดในหมู่ผู้อยู่เหนือขอบเขตทั้งปวงเสียด้วยซ้ำไป

 

ภายในจิตใจของเฒ่าประหลาดเนตรมารจึงคิดเอาไว้แล้วว่าศึกในครั้งนี้ก็ไม่ต่างไปจากการละเล่นปิดตาสังหารผู้คน ทว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้กลับตาลปัตรไปจนหมดสิ้นจนยากที่จะทานรับเอาไว้ได้
 

“พวกเจ้าเป็นตัวโง่งมกันทั้งหมดหรืออย่างไรกัน รีบสังหารพวกมันให้หมด แล้วรีบเด็ดหัวเจ้าหนูผู้นั้นมาให้ข้าโดยเร็วที่สุด!” เฒ่าประหลาดเนตรมารระเบิดโทสะขึ้นมายกใหญ่

 

หากปล่อยให้เกิดผลลัพธ์อันเลวร้ายกับฝ่ายอธรรม เหล่าศิษย์ทั้งหมดจึงทราบอยู่แก่ใจว่าเมื่อกลับไปคงจะต้องถูกด่าทอจนกลายเป็นสุนัขจนตรอกไปเลยก็ว่าได้ ทันทีที่ได้ยินเสียงของเฒ่าประหลาดเนตรมารดังอยู่ในโสตประสาทจึงรีบดึงสติคืนกลับมาจากสภาวะแตกตื่นในทันที อีกทั้งยังกระเสือกอาวุธออกไปอย่างไปคิดชีวิต

จากนั้นก็มีเงาร่างสองสายของผู้อยู่เหนือขอบเขตพุ่งเข้าหาหลงเฉินอย่างรวดเร็ว ทว่ากายในจิตใจของพวกเขากลับไม่อาจยอมรับที่จะต่อสู้กับชนชั้นปลายแถวของฝ่ายธรรมะอย่างหลงเฉินได้ หากเป็นเช่นนี้คงจะเป็นที่น่าเหยียดหยามของผู้คนอย่างถึงที่สุด ทว่าเฒ่าประหลาดเนตรมารกลับออกคำสั่งให้จัดการหลงเฉินให้กับเขาโดยเร็ว ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าขัดคำสั่ง

 

“วายุตัดความเดี่ยวดาย”

 

ในขณะที่ผู้อยู่เหนือขอบเขตของฝ่ายอธรรมกำลังจู่โจมเข้ามาอยู่นั้น จู่จู่ก็คมวายุสายหนึ่งตัดผ่านเงาร่างทั้งสองอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นการลงมือของถังหว่านเอ๋ออย่างไม่ต้องสงสัย

 

หลังจากที่ถังหว่านเอ๋อได้เลื่อนระดับพลังเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นระดับที่สี่แล้ว พลังสภาวะทั่วทั้งร่างของนางก็ยิ่งทวีความแข็งแกร่งมากขึ้น คมวายุมากมายมหาศาลประดุจห่าฝนก็ได้ปกคลุมไปทั้งฟากฟ้า อีกทั้งยังมีอักขระประหลาดปรากฏขึ้นมาเป็นสาย

 

ผู้อยู่เหนือขอบเขตของฝ่ายอธรรมผู้หนึ่งส่งเสียงดังชิขึ้นมาอย่างเย็นชาพร้อมกับพุ่งกำปั้นกระแทกไปที่คมวายุนับพันของถังหว่านเอ๋ออย่างหนักหน่วง ทว่าพลังทำลายของเขากลับไม่อาจสั่นคลอนสภาวะของคมวายุสายนั้นได้เลยแม้แต่น้อย

 

เป็นเพราะว่าคมวายุของถังหว่านเอ๋อถูกสร้างด้วยพลังลมปราณ ถึงแม้ว่าจะมีพลังการโจมตีที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่ง ทว่าก็ไม่ได้เป็นอาวุธที่แท้จริงแต่อย่างใดจึงมีความยืดหยุ่นและยากที่จะทำลายลงไปได้

 

“หาที่ตาย”

 

ผู้อยู่เหนือขอบเขตของฝ่ายอธรรมผู้นั้นจึงด่าทอขึ้นมาอย่างเหลืออด พลันก็ชักศาสตราวุธที่มีรูปร่างประหลาดขึ้นมา ดูโดยรวมแล้วคล้ายกับเป็นกระบี่สั้นรวมกับฉมวกอย่างไรอย่างนั้น อาวุธชิ้นนี้มีนามว่าหอกแบ่งวารี ซึ่งเป็นหอกที่ไร้ด้ามจับทว่ากลับมีปลอกสำหรับสวมใส่เอาไว้ที่มือแทน

 

คมหอกมีความยาวกว่าสี่เซียะ เมื่อถูกสวมใส่ไว้ที่มือแล้วช่างให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายอย่างไรอย่างนั้น อีกทั้งยังสามารถกวัดแกว่งได้อย่างคล่องแคล่วจนไม่รู้สึกว่าเป็นภาระแต่อย่างใดเลย

 

นอกจากนี้ที่ปลายคมหอกยังมีกระบี่ติดอยู่อีกสามเล่ม คมกระบี่เหล่านั้นเต็มไปด้วยร่องรอยสึกกร่อนคล้ายกับเป็นคมเขี้ยวของสัตว์มายาอันเยือกเย็น

 

หอกแบ่งวารีของผู้อยู่เหนือขอบเขตของฝ่ายอธรรมแทงออกไปที่ถังหว่านเอ๋ออย่างรวดเร็ว ทว่าดวงตาคู่งามของหญิงสาวกลับไม่มองที่การโจมตีของเขาเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ยกมืออันขาวผ่องผสานเข้าด้วยกันจนบริเวณแผ่นหลังมีคมศรขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา

 

“ตายไปซะ”

 

เมื่อพบว่าถังหว่านเอ๋อไม่ได้สนใจการโจมตีของตัวเองเลยจึงอดไม่ได้ที่จะออกแรงสะบัดหอกแบ่งวารีออกไปที่คอของหญิงสาวอย่างเยือกเย็น

 

“โล่วารีพร่างพราว”

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นมาพร้อมกับมีโล่วารีอันบริสุทธิ์ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของถังหว่านเอ๋อ สภาวะโปร่งแสงของโล่นั้นมีผลึกของน้ำแข็งล่องลอยอยู่นับไม่ถ้วน ทว่าเมื่อมองลงไปดูอย่างละเอียดแล้วกลับพบว่าเป็นพลังอักขระ

 

“ตูม”

 

หอกแบ่งวารีกระแทกลงไปที่โล่วารีพร่างพราวอย่างรุนแรง ทว่าที่น่าตกใจอย่างถึงที่สุดก็คือโล่ที่ดูแสนจะบอบบางกลับสามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้อย่างหมดจด

 

“โครม”

 

ทว่าทันใดนั้นเสียงแตกระเบิดของโล่วารีก็ดังขึ้นมาเป็นสาย พลันก็มีคมศรขนาดใหญ่สายหนึ่งพุ่งแหวกม่านเกล็ดน้ำแข็งออกมายังเบื้องหน้าของเขาในทันที

 

“ศรวายุทลายเมฆา”

 

ทักษะยุทธ์นี้เป็นทักษะยุทธ์ประจำตระกูลของถังหว่านเอ๋อที่สืบทอดต่อกันมาเพื่อยอดฝีมือสายวายุเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ในช่วงเวลาที่ผู้อยู่เหนือขอบเขตของฝ่ายอธรรมได้โจมตีเข้ามา นางจึงทำเหมือนมองไม่เห็นการโจมตีของคนผู้นี้ เพราะเชื่อมั่นว่าเยี่ยจื่อชิวจะต้องเข้ามาช่วยต้านรับเอาไว้ก่อน

 

เนื่องจากช่วงเวลาที่พวกนางได้ฝึกประสบการณ์ความเป็นตายเมื่อครั้งก่อนหน้านี้ก็ได้บอกกล่าวเอาไว้แล้วว่าทักษะยุทธ์นี้จะต้องใช้เวลาในการควบคุมพลังลมปราณอันมหาศาลชั่วครู่หนึ่ง ฉะนั้นถังหว่านเอ๋อจึงเรียนรู้การต่อสู้ร่วมกับเยี่ยจื่อชิวมาก่อนแล้ว

 

ยอดฝีมือฝ่ายอธรรมทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมา คิดไม่ถึงเลยว่าจะมียอดฝีมือผสานการรุกรับกันได้แม่นยำในเวลาเช่นนี้ได้ ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังลูกศรขนาดใหญ่ที่กำลังพุ่งเข้ามาที่ลำตัว

 

“ตัดทลายวายุ”

 

ถึงแม้ว่าการโจมตีจะอยู่ใกล้เพียงแค่เสี้ยวลมหายใจ ทว่าคนผู้นี้กลับยังคงสงบนิ่งแล้วกวาดหอกแบ่งวารีในมือขึ้นมาฟาดคมศรสายนั้นอย่างรวดเร็ว

 

“เพล้ง”

 

ลูกศรขนาดใหญ่ของถังหวานเอ๋อถึงกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไปในทันที ทว่าด้วยขุมพลังอันมหาศาลของวายุกลับซัดสาดเงาร่างของผู้อยู่เหนือขอบเขตของฝ่ายอธรรมอย่างรุนแรงจนสภาวะโลหิตไหลย้อนกลับ จากนั้นร่างกายของเขาก็ลอยกระเด็นออกไป

 

“หมัดหกตะวัน”

 

“ตูม”

 

และในขณะที่ผู้อยู่เหนือขอบเขตของฝ่ายอธรรมผู้นั้นกำลังลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ทางด้านหลังของเขากลับมีเงาร่างกำยำของคนผู้หนึ่งรอคอยอยู่มาสักพักใหญ่แล้ว กู่หยางยกกำปั้นขึ้นหมายที่จะกระแทกแผ่นหลังของผู้อยู่เหนือขอบเขตของฝ่ายอธรรมอย่างหนักหน่วงสักหมัดหนึ่ง

 

“พรวด”

 

ผู้อยู่เหนือขอบเขตของฝ่ายอธรรมกระอักโลหิตออกมา ร่างกายสรวลเซแล้วลอยกระเด็นออกไปอีกทางหนึ่งในทันที

 

อาวุธอัสนีของเหร่ยเชียนซังฟาดฟันผ่านบรรยากาศกระแทกเข้าไปที่ร่างของคนผู้นั้นอย่างรวดเร็ว

 

“ตูม”

 

เสียงระเบิดดังขึ้นมาไม่หยุด พื้นดินเบื้องล่างปะทุลงไปจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดว่าการโจมตีของเหร่ยเชียนซังนั้นรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง

 

“ระวัง!”

 

จู่จู่หลงเฉินก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมากะทันหัน พร้อมๆ กับที่เหร่ยเชียนซังรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาสั่นเทาไปทั่ว พลันก็รีบถอยพลังออกไปไปทันที ทว่าการหลบเลี่ยงของเขาสายเกินไปแล้ว ประกายอันเย็นเยียบเสียบทะลุผ่านหน้าอกของเขาอย่างไม่ทันรู้ตัว เมื่อก้มมองลงไปก็พบว่าเป็นหอกแบ่งวารีของผู้อยู่เหนือขอบเขตฝ่ายอธรรมผู้นั้นนั่นเอง

 

“ตายไปซะเจ้าแมงเม่าที่น่ารังเกียจ”

 

“พรวด”

 

ผู้อยู่เหนือขอบเขตผู้นั้นแผดเสียงร้องขึ้นมาด้วยความเกรี้ยวกราดพร้อมกับแทงหอกแบ่งวารีของตัวเองลงบนกลางทรวงอกของเหร่ยเชียนซังจนร่างกายของเขาถูกผ่าออกเป็นสองส่วนในทันที

เคล็ดกายานวดารา

เคล็ดกายานวดารา

เป็นจักพรรดิโอสถกลับเกิดใหม่งั้นหรือ ? เป็นการผสานจิตวิญญาณกันหรือ ? หลงเฉิน เด็กหนุ่มที่ถูกช่วงชิงรากปราณ โลหิตปราณ กระดูกปราณทั้งสามสิ่งไป ได้หยิบยืมวิชาการหลอมโอสถระดับเทวะภายใต้ความทรงจำ ฝึกปรือวิชาเคล็ดกายานวดาราอันลี้ลับ แหวกม่านหมอกที่หนาทึบออก ปลดปล่อยโชคชะตาครอบครองพลังวงแหวนเทวะแห่งฟ้าดิน เหยียบย่างชั้นดาราตะวันจันทรา พบพานสาวงามต่างๆ กำราบมารร้ายเทพแห่งความชั่วจนกลายเป็นที่เลื่องลือก้องแดนเจียงหนาน หลงเฉินมาถึง สวรรค์คำรนพสุธาคำราม หลงเฉินไปจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพร่ำไรจนเป็นที่ตำนานแห่งยุทธ์ภพ หลงเฉินปรากฎ ฟ้าดินสั่นสะเทือน หลงเฉินเดินจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพยดาร้ำไห้ ระดับพลัง 1.ขอบเขตก่อรวม 2.ขอบเขตก่อโลหิต 3.ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น 4.ขอบเขตปรือกระดูก 5.ขอบเขตเชื่อมชีพจร 6.ขอบเขตแห่งการก่อฟ้า ระดับโอสถ 1.โอสถสามัญ 2.โอสถปัญญา 3.เชี่ยวชาญโอสถ 4.ราชาโอสถ 5.ราชันโอสถ 6.จ้าวโอสถ 7.เซียนโอสถ 8.ปราชญ์โอสถ 9.จักรพรรดิ์โอสถ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset