เคล็ดกายานวดารา – ตอนที่ 258 แมลงกัดกร่อนศพ

“ผัวะ”

มือข้างหนึ่งเปิดฝาโถออกอย่างรวดเร็วแล้วทันใดนั้นก็มีแมลงตัวจิ๋วบินออกมาจากความมืดมิดภายในโถจำนวนนับไม่ถ้วน ขนาดของมันเล็กกว่าแมลงวันเล็กน้อย ปีกโปร่งใสสั่นระริกอยู่กลางอากาศ ปากของมันมีลักษณะคล้ายกับคีบแหลมงอกออกมา

ถึงแม้ว่าแมลงตัวจิ๋วเหล่านั้นจะมีขนาดเล็กมาก ทว่าสายตาของผู้คนก็ยังสามารถมองเห็นว่าบนตัวของพวกมันมีรอยยันต์บางอย่างสลักอยู่ ส่วนปากคีบก็มีของเหลวสีเขียวเข้มฟูฟ่องขึ้นมาไม่หยุด อีกทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่วจนทำให้ผู้คนทั้งหมดต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูก

“แมลงกัดกร่อนศพ?”

ถู่ฟางทอสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงทันทีที่จดจำแมลงตัวจิ๋วเหล่านั้นได้ สิ่งมีชีวิตที่กำลังบินว่อนไปมาฝูงนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นแมลงที่มีความร้ายกาจอย่างที่สุดเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังชมชอบการกัดกินซากศพเพื่อทำให้ร่างกายเจริญเติบโตขึ้นมา อีกทั้งยังส่งผลให้พวกมันขยายพันธุ์ได้รวดเร็วขึ้น

การได้ลิ้มรสของซากศพจะทำให้ปากคีบของพวกมันสะสมพิษอันร้ายกาจจากซากศพเอาไว้ เมื่อมีพิษเหล่านี้ก็จะทำให้พวกมันสามารถกัดกร่อนโลหิตและเนื้อหนังของศพใหม่ให้เน่าเปื่อยได้อย่างรวดเร็ว ทว่าหากพวกมันเผลอไปกัดผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่แล้ว ต่อให้เป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นก็ยังไม่อาจทานรับเอาไว้ได้เพราะยังไม่เคยมีโอสถแก้พิษจากแมลงกัดกร่อนศพมาก่อน

ของเหลวสีเขียวที่เป็นน้ำพิษจะซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของผู้ที่ถูกกัดอย่างรวดเร็ว พิษเหล่านี้จะไม่ได้เข้าไปทำลายสติสัมปชัญญะเฉกเช่นพิษทั่วไป ทว่าจะทำการกัดกร่อนเนื้อเยื่อภายในร่างกายของคนผู้นั้น เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจก็จะกลายเป็นซากศพที่เน่าเปื่อยไปในทันที

และถึงแม้ว่าร่างกายของพวกมันจะไม่ได้แข็งมากเหมือนกับแมลงชนิดอื่น ทว่าปากคีบของพวกมันกลับแข็งเสียยิ่งกว่าเหล็กกล้าจึงสามารถเจาะผ่านผิวหนังของผู้คนไปได้อย่างง่ายดาย

ถู่ฟางไม่ได้ทอสีหน้าเปลี่ยนไปเพียงเพราะว่าเห็นแมลงกัดกร่อนศพทั่วไปเหล่านั้น เพราะศิษย์ของเขาเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นกันทั้งหมดแล้วก็ย่อมไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด ทว่าแมลงกัดกร่อนศพที่อยู่เบื้องหน้าสายตาของเขากลับมีรอยยันต์ผนึกเอาไว้ถึงสามรอย จึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าแมลงฝูงนี้จัดอยู่ในระดับสามทั้งหมดแล้ว

หากเป็นไปตามการเพาะเลี้ยงแมลงกัดกร่อนศพโดยทั่วไปแล้ว ผู้เลี้ยงจะใส่แมลงเอาไว้ในภาชนะเดียวกันแล้วปล่อยให้มันต่อสู้กันจนเหลือเพียงพันตัวจากหมื่น แล้วหลังจากนั้นก็มีเพียงตัวเดียวที่กลายเป็นราชาของฝูง ส่วนรอยยันต์เหล่านั้นเกิดจากการเข่นฆ่าที่มากจนทำให้พลังการต่อสู้ของมันแข็งแกร่งขึ้น เมื่อแมลงตัวนั้นสามารถอยู่รอดได้ก็จะปรากฏรอยยันต์เพิ่มขึ้นอีก

ด้วยเหตุนี้ถู่ฟางจึงตกใจขึ้นมาเมื่อพบว่าแมลงที่ผู้อยู่เหนือขอบเขตผู้นั้นครอบครองอยู่มีรอยยันต์ปรากฏขึ้นมาถึงสามรอย หรือเรียกได้ว่าเป็นราชาในหมู่ราชาทั้งหมดนั่นเอง ไม่เพียงแต่จะมีพลังในการป้องกันที่แข็งแกร่งแล้วยังมีพลังการโจมตีที่น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดอีกด้วย

“ฮาฮาฮา เจ้าหนู เจ้าบังอาจทำให้ข้าโกรธจนโลหิตขึ้นหน้าเองนะ ฉะนั้นจงลิ้มรสชาติความน่ากลัวของแมลงกัดกร่อนศพนับหมื่นตัวของข้าผู้นี้เถิด” ชายหนุ่มชุดแดงกล่าวแล้วหัวเราะฮาฮาอย่างบ้าคลั่ง ทว่าภายในจิตใจของเขากลับรู้สึกเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยที่จะต้องปล่อยแมลงที่เขาเลี้ยงดูมาทั้งชีวิตออกมา

ตระกูลของเขาได้เพาะเลี้ยงแมลงกัดกร่อนศพมานานหลายร้อยปีแล้วจึงมีราชาในหมู่ราชาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากมายถึงเพียงนี้ กล่าวได้ว่าแมลงทั้งหมดนี้เปรียบเสมือนพลังฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว และหากแมลงกัดกร่อนศพปลดปล่อยพิษออกไปก็จะต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะสร้างพิษขึ้นมาใหม่

ที่น่ากังวลที่สุดเห็นจะเป็นการชักนำแมงกัดกร่อนศพกลับเข้าโถนั่นเอง เพราะการชักนำจะต้องใช้พลังแห่งจิตวิญญาณอันมหาศาลทว่าเขากลับมีไม่เพียงพอ หากพวกมันไม่ได้กัดกินศพที่ขวางหน้าจนหมดก็จะไม่หยุดเคลื่อนไหว ฉะนั้นเขาจึงจะต้องปล่อยให้พวกมันกัดกินศพของผู้คนเหล่านี้ให้หมดสิ้นหรือไม่ก็ต่อยผู้คนจนพิษหมดตัวนั่นเอง

ในเมื่อไม่อาจยอมรับโชคชะตาอันเลวร้ายของศึกครั้งนี้ได้ก็หวังเพียงสังหารหลงเฉินให้ตายแล้วรับรางวัลจากเฒ่าประหลาดเนตรมารก็ถือว่าไม่ขาดทุนแล้ว

“จงตายไปซะ!”

ชายหนุ่มชุดแดงแผดเสียงร้องขึ้นมาด้วยความเกรี้ยวกราด แล้วปล่อยให้แมลงกัดกร่อนศพนับหมื่นตัวทะยานสู่ฟากฟ้าเข้าไปหาหลงเฉินในทันที

หลงเฉินรีบถอยหลังออกไปทว่าจู่จู่กลับรู้สึกว่าแขนทั้งสองข้างชาด้านขึ้นมา พลันก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้เบิกวงแหวนแห่งเทพออกมาจึงทำให้กายเนื้อรับภาระทั้งหมดอย่างหนักหน่วง เมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบเก็บดาบทลายมารเข้าไปในแหวนมิติอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้น้ำหนักอันมหาศาลของมันลอดทอนความเร็วในการหลบหนีของเขา

ทว่าทันใดนั้นบริเวณเบื้องหน้าสายตาก็มีแมลงกัดกร่อนศพกลุ่มหนึ่งบินเข้ามาใกล้ หลงเฉินจึงรีบถอยออกไปแล้วกวาดกำปั้นผ่ากลางแมลงกลุ่มนั้น

“ซูม”

สายลมหอบหนึ่งกระแทกไปที่แมลงกัดกร่อนศพนับหมื่นอย่างรุนแรง ทว่าก็ทำได้แค่เพียงพัดพาแมลงเหล่านั้นให้ปลิวว่อนออกไปไกล ทั้งยังไม่ได้ทำให้พวกมันตายตกไปเลยแม้แต่ตัวเดียว

หลงเฉินจึงทราบได้ทันทีว่าพลังหมัดของเขาไม่อาจคุกคามชีวิตของแมลงกัดกร่อนศพได้ราวกับใช้ปุยนุ่นกระแทกเข้าไปเท่านั้น

“ฮาฮาฮา ไม่มีประโยชน์ แมลงกัดกร่อนศพของข้าเป็นถึงราชาในหมู่แมลงทั้งปวง อีกทั้งยังถูกคัดเลือกมาจากหมู่แมลงกัดกร่อนศพนับหลายล้านล้านตัว เจ้าหยุดลงมือโดยเหล่าประโยชน์แล้วรอรับความตายแต่โดยดีเสียเถิด” ชายหนุ่มชุดแดงกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงพึงพอใจ

หลงเฉินราวกับไม่รับฟังคำพูดเหยียดหยามของคนผู้นั้น ดวงตาคู่คมเอาแต่จ้องมองไปที่แมลงกัดกร่อนศพเหล่านั้นด้วยอาการขนลุกชูชันไปทั้งตัว ด้วยความทรงจำของจักรพรรดิโอสถแล้วย่อมทำให้เขามีประสาทสัมผัสที่ฉับไวต่อสิ่งมีชีวิตรอบตัว เขาจึงทราบได้ในทันทีว่าพิษของแมลงกัดกร่อนศพจะต้องเป็นพิษกัดกินที่น่ากลัวอย่างถึงที่สุดแน่นอน อีกทั้งยังไม่มีโอสถหรือวิธีแก้พิษเลยเท่าที่เขาสามารถนึกคิดขึ้นมาได้

ฉะนั้นจึงมีเพียงหนทางเดียวเท่านั้นในตอนนี้ที่จะกระทำได้นั่นก็คือการปล่อยหมัดออกไปเพื่อชะลอการเคลื่อนไหวของแมลงกัดกร่อนศพเหล่านั้น ขอเพียงอย่าปล่อยให้มีตัวใดตัวหนึ่งหลุดรอดเข้ามาใกล้ก็เพียงพอแล้ว

“จะดิ้นรนให้เหนื่อยไปก็เท่านั้น เจ้าควรรับความตายอย่างสุขสำราญเสียยังจะดีกว่า ฮาฮาฮาฮา” ผู้ชายหนุ่มชุดแดงระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

เหล่าผู้อาวุโสของฝ่ายธรรมะต่างก็ทอสีหน้าหวาดหวั่นขึ้นมา ภายในจิตใจเต้นโครมครามจนยากที่จะสยบลงไปได้ หากหลงเฉินต้องมาตายตกไปในตอนนี้ก็คงส่งผลกระทบต่อฝ่ายธรรมะทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งยังเป็นการสูญเสียที่รุนแรงอย่างไร้ที่เปรียบ

“หลงเฉิน เจ้าคงจะไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” ถู่ฟางพึมพำขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถึงแม้ว่าอี้ซู่แห่งฟ้าดินจะไม่อาจตายด้วยเงื้อมมือของมนุษย์ด้วยกันเอง ทว่าตำนานก็เป็นเพียงตำนาน อีกทั้งยังไม่เคยมีผู้ใดเคยพบเห็นการเติบโตและการคงอยู่ของอี้ซู่เลยแม้แต่คนเดียว ไม่เช่นนั้นหลิงหวินจื่อก็คงจะไม่ต้องไปรับทัณฑ์เพื่อยืนยันว่าหลงเฉินเป็นอี้ซู่แห่งฟ้าดินที่แท้จริง

ขณะนี้หลงเฉินกำลังถูกแมลงกัดกร่อนศพไล่ตามอยู่ เห็นได้ชัดว่าพวกมันคงจะไล่ตามไปสุดหล้าฟ้าเขียว การจะถูกฆ่าก็คงจะขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว

ศิษย์คนอื่นๆต่างก็พยายามต่อสู้กันสุดชีวิต ไม่มีใครมองเห็นสถานการณ์ทางด้านหลงเฉิน แต่ต่อให้ทราบก็คงจะไม่อาจจะมีเวลาปลีกตัวไปช่วยได้

และหากหลงเฉินตายไปจริงๆ สถานการณ์ภายในสนามรบก็เรียกได้ว่าจบสิ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว และในทางกลับกันหากหลงเฉินสามารถจัดการกับแมลงกัดกร่อนศพแล้วสังหารศิษย์ฝ่ายอธรรมผู้นั้นได้ สภาพการณ์ในสนามรบก็จะกลับตาลปัตรไปในทันที แน่นอนว่าฝ่ายธรรมะจะขึ้นมาอยู่เหนือฝ่ายอธรรมได้เลยก็ว่าได้

ต่อให้เป็นศิษย์ฝ่ายอธรรมในเวลานี้พวกก็คงต้องร้อนรนไม่ต่างกัน ทันใดนั้นหลงเฉินก็ได้ส่ายหน้าไปมา นึกขึ้นมาว่าเหตุไฉนตนเองถึงได้กลายเป็นโง่งมเช่นนี้ไปได้

“ที่เจ้าส่ายหน้าไปมาเช่นนั้นหมายความว่าอย่างไรกัน? ยอมรับในชะตากรรมของตัวเองแล้วอย่างนั้นหรือ? ปรารถนาที่จะตายอย่างไม่ต้องดิ้นรนแล้วใช่หรือไม่?” ชายหนุ่มชุดแดงกล่าวเย้ยหยันด้วยน้ำเสียงอันเย็นเยียบ

“เจ้าหนูหมวกเขียว เจ้าไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะกล่าววาจาเช่นนั้นออกมา จงถ่างดวงตาของเจ้าแล้วดูว่าข้าจะจัดการกับแมลงโง่เง่าของเจ้าอย่างไร!” หลงเฉินกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

หึ่ง!

เพลิงกาฬสีฟ้าครามอันร้อนแรงปะทุขึ้นมากะทันพัน เพียงพริบตาเดียวก็ได้ปกคลุมไปทั่วบริเวณกว่าร้อยจั่ง บรรยากาศรอบด้านร้อนระอุขึ้นมาต่อเนื่องจนพื้นดินเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง เหล่าแมลงตัวจิ๋วส่งเสียงร้องระงมขึ้นมาเป็นสาย

“กี้ กี้ กี้ กี้ กี้ กี้………”

แมลงกัดกร่อนศพนับหมื่นตัวที่บินว่อนอยู่กลางอากาศร่วงลงพื้นกันระนาว ด้วยพลังเพลิงกาฬของกิ้งก่าเพลิงที่เป็นสัตว์มายาชนิดเพลิงอันดับที่เก้าสิบเจ็ดได้แผดเผาฝูงสีดำทมิฬจนหายวับไปในพริบตาเดียว

“อา……แมลงกัดกร่อนศพของข้า” ชายหนุ่มชุดแดงร้องเสียงสูงขึ้นมาดังลั่น แมลงตัวจิ๋วเหล่านี้เปรียบเสมือนสมบัติอันล้ำค่าของเขาและตระกูล การที่เห็นพวกมันหายลับไปต่อหน้าต่อตาช่างทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง แววตาสั่นไหวเหม่อมองไปยังฝูงแมลงกัดกร่อนศพที่เลือนลับหายไป

ใบหน้าของถู่ฟางปรากฏความปิติยินดีขึ้นมาเป็นสาย มุมปากเหยียดออกด้วยความโล่งใจ นี่ข้าเอาแต่ห่วงเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน? ในเมื่อกล่าวขึ้นมาอยู่หลายครั้งแล้วว่าหลงเฉินเป็นอี้ซู่ แล้วข้ายังจะต้องเป็นห่วงเขาด้วยเหตุอันใดกัน?

“ข้าจะขอตายไปพร้อมกับเจ้าเอง”

ชายหนุ่มชุดแดงทอดวงตาแดงก่ำพร้อมกับกระชับกระบี่ยาวที่มีคมสึกหลอจนแน่น จากนั้นก็กวาดคมกระบี่ไปทางหลงเฉินอย่างบ้าคลั่ง

นั่นก็เป็นเพราะหลงเฉินได้ทำลายแมลงกัดกร่อนศพที่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณของเขา ซึ่งความสัมพันธ์ของสัตว์เลี้ยงและผู้เป็นนายย่อมเชื่อมโยงถึงกัน ทันทีที่แมลงกัดกร่อนศพเหล่านั้นตายตกลงไปทั้งหมดก็ทำให้สติสัมปชัญญะของเขาเข้าสู่สภาวะแตกตื่นอย่างถึงที่สุด

หลงเฉินส่งเสียงดังชิขึ้นมาอย่างเย็นชา ถึงแม้ว่าเพลิงกาฬที่หลอมขึ้นมาจากสัตว์เพลิงของกิ้งก่าเพลิงจะสามารถผลาญแมลงตัวจิ๋วเหล่านั้นลงไปได้อย่างง่ายดาย ทว่าก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้ต่อกรกับผู้อยู่เหนือขอบเขต อีกทั้งยังทำให้สิ้นเปลืองพลังไปโดยเปล่าประโยชน์

หึ่ง!

วงแหวนแห่งเทพปรากฏขึ้นบนแผ่นหลังของหลงเฉิน ภายในจุดดารากักวายุก็ไหลเวียนพลังลมปราณขึ้นมาไม่หยุดราวกับเป็นคลื่นมหาสมุทรซัดสาดเข้าสู่ชายฝั่งอย่างรุนแรง ทั่วทั้งร่างมีพลังสภาวะอันน่าหวาดกลัวปะทุขั้นมาจนบรรยากาศโดยรอบเกิดการสั่นไหว

“ระวัง!”

เฒ่าประหลาดเนตรมารสัมผัสได้ในทันทีว่ามีบางอย่างเริ่มไม่ถูกต้องขึ้นมาจึงรีบตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เสียดแก้วหูของผู้คน

หลงเฉินชูดาบทลายมารขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบน ดวงตาคู่คมทอประกายเจิดจ้าขึ้นมาเป็นสาย เส้นผมสีดำขลับพลิ้วไหวประดุจเทพสวรรค์ลงมาจุติ ความน่าหวาดกลัวของหลงเฉินในตอนนี้ทำให้ชายหนุ่มชุดแดงทอสีหน้าหวาดหวั่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ฝีเท้าทั้งสองเริ่มก้าวถอยหลังออกไปทีละนิดด้วยความหวาดกลัว ทว่าน่าเสียดายที่หลงเฉินไม่ปล่อยให้เขาได้หันหลังกลับออกไปเลยแม้แต่น้อย แล้วดาบทลายมารที่แฝงรังสีสังหารอันหนาแน่นก็ได้ฟาดลงมาที่เขาอย่างรวดเร็ว

.

เคล็ดกายานวดารา

เคล็ดกายานวดารา

เป็นจักพรรดิโอสถกลับเกิดใหม่งั้นหรือ ? เป็นการผสานจิตวิญญาณกันหรือ ? หลงเฉิน เด็กหนุ่มที่ถูกช่วงชิงรากปราณ โลหิตปราณ กระดูกปราณทั้งสามสิ่งไป ได้หยิบยืมวิชาการหลอมโอสถระดับเทวะภายใต้ความทรงจำ ฝึกปรือวิชาเคล็ดกายานวดาราอันลี้ลับ แหวกม่านหมอกที่หนาทึบออก ปลดปล่อยโชคชะตาครอบครองพลังวงแหวนเทวะแห่งฟ้าดิน เหยียบย่างชั้นดาราตะวันจันทรา พบพานสาวงามต่างๆ กำราบมารร้ายเทพแห่งความชั่วจนกลายเป็นที่เลื่องลือก้องแดนเจียงหนาน หลงเฉินมาถึง สวรรค์คำรนพสุธาคำราม หลงเฉินไปจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพร่ำไรจนเป็นที่ตำนานแห่งยุทธ์ภพ หลงเฉินปรากฎ ฟ้าดินสั่นสะเทือน หลงเฉินเดินจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพยดาร้ำไห้ ระดับพลัง 1.ขอบเขตก่อรวม 2.ขอบเขตก่อโลหิต 3.ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น 4.ขอบเขตปรือกระดูก 5.ขอบเขตเชื่อมชีพจร 6.ขอบเขตแห่งการก่อฟ้า ระดับโอสถ 1.โอสถสามัญ 2.โอสถปัญญา 3.เชี่ยวชาญโอสถ 4.ราชาโอสถ 5.ราชันโอสถ 6.จ้าวโอสถ 7.เซียนโอสถ 8.ปราชญ์โอสถ 9.จักรพรรดิ์โอสถ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset