เคล็ดกายานวดารา – ตอนที่ 73.2 สังหารเซี่ยฉางเฟิง

​เซี่ยฉางเฟิงคำรามออกมาเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยว พลันเยื้องย่างฝีเท้าออกไปเบื้องหน้าทิ้งรอยแตกร้าวเอาไว้ตามผืนแผ่นดินที่เขาเดินผ่านมา จ้องเขม็งไปที่หลงเฉินอย่างเอาเป็นเอาตาย

ความดุดันจากสภาวะพลังกลุ่มหนึ่งก็ได้ปิดกั้นหลงเฉินเอาไว้อย่างหนาแน่น บ่งบอกว่าเซี่ยฉางเฟิงเป็นยอดฝีมือผู้หนึ่งที่เคยผ่านพ้นประสบการณ์ความเป็นความตายที่แท้จริงมาแล้ว

เมื่อได้มองไปยังร่างเงาของเซี่ยฉางเฟิงที่กำลังมุ่งหน้ามา พร้อมกับฝ่ามือที่กำแน่นอยู่ข้างลำตัว แต่ละย่างก้าวได้หอบเอาสายลมโดยรอบพัดกรรโชกอย่างรุนแรงจนเส้นผมสีดำเริงระบำขึ้นมา ดวงตาทั้งคู่ทอประกายเจิดจ้าคล้ายกับมีอาวุธมีคมอยู่สองเล่ม พลังหนุนภายในร่างกายถูกไหลเวียนขึ้นอย่างรวดเร็วและมหาศาล จากนั้นเซี่ยฉางเฟิงก็พุ่งมัดข้างหนึ่งออกไปยังทิศทางที่หลงเฉินอยู่

“ปึง”

หมัดของทั้งสองคนประสานเข้าด้วยกันอย่างเต็มแรง เกิดเป็นเสียงระเบิดดังสนั่นจนแผ่นดินและผืนฟ้าสั่นไหวอย่างไม่อาจทานรับพลังเอาไว้ได้ เซี่ยฉางเซถอยหลังไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าหลงเฉินในตอนนี้ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าช่วงเวลาที่ได้ต่อสู้กับหว่างซ่านเสียอีก

“ซูม”

ในขณะที่เซี่ยฉางเฟิงกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดอยู่นั้น เท้าข้างหนึ่งของหลงเฉินก็ได้เตะเข้าไปที่ท้องน้อยของเขาด้วยพลังหลายสิบส่วน

เซี่ยฉางเฟิงสบถเสียงดังชิอย่างเย็นชา แล้วข่มอารมณ์ตกใจเอาไว้ พลันก็ได้พลิกมือขวาฟาดลงไปที่ท่อนขาของหลงเฉินในทันที ร่างทั้งสองต่างก็ร่นถอยออกไปคนละสองก้าวด้วยแรงของฝ่ายตรงข้าม

เซี่ยฉางเฟิงเกิดความบ้าคลั่งขึ้นมาภายในจิตใจอีกครั้ง หลงเฉินผู้นี้เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดในคราบมนุษย์ได้อย่างแท้จริง ในช่วงเวลาที่ได้พบพานกันที่เหลาสุรา เขาคงจะใช้เพียงแค่นิ้วมือเดียวจัดการหลงเฉินจนตายไป

หลังจากที่พบกันในครั้งต่อๆ มา การฝึกยุทธ์ของหลงเฉินกลับก้าวกระโดดขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนในตอนนี้ถึงกับสามารถต่อกรกับยอดฝีมือที่อยู่บนจุดสูงสุดของพลังขั้นก่อโลหิตได้อย่างหมดจดเช่นนี้

เพลิงโทสะที่แฝงเอาไว้ด้วยความหวาดกลัวขุมหนึ่งปรากฏขึ้นภายในจิตใจของเซี่ยฉางเฟิง หากการต่อสู้ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปหลงเฉินคงจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่อาจหยุดยั้งได้แน่นอน

ทันใดนั้นบรรยากาศของพลังโลหิตที่ปกคลุมอยู่รอบกายของเซี่ยฉางเฟิงก็ได้จางหายไป พร้อมกับมือข้างหนึ่งที่ฟาดมา ทว่ากลับเป็นฝ่ามือสีแดงโลหิตที่ผนึกพลังโลหิตทั่วทั้งร่างเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยมจนกลิ่นคาวโลหิตตลบอบอวนไปทั่ว

“ฝ่ามือโลหิตมรณะ”

ฝ่ามือของเซี่ยฉางเฟิงฟาดออกมาอย่างรุนแรง หลงเฉินรู้สึกได้ถึงขนทั่วร่างที่ลุกชันขึ้นมา เป็นขุมพลังที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง ฝ่ามือข้างนั้นแฝงเอาด้วยแรงกดดันอันมหาศาลที่หมายจะเอาชีวิตของผู้คนให้แหลกคามือไปในครั้งเดียว

หลงเฉินไม่คิดว่าเซี่ยฉางเฟิงจะใช้กระบวนท่าออกมาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ พลันก็รีบไหลเวียนพลังจากจุดดารากักวายุที่ใต้ฝ่าเท้าขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ลมปราณสายหนึ่งเข้าชักนำที่จุดดารากักวายุแล้วไหลเวียนไปหนุนที่จุดตันเถียน

ก่อเกิดเป็นพลังหนุนทั้งสิบสองสายภายในจุดตันเถียน ทันใดนั้นลมปราณฟ้าดินที่อยู่ในรัศมีร้อยช่วงตัวก็ได้ถูกหลงเฉินดูดซับเข้าไป พลังที่มาจากการเข้าสู่พลังขั้นก่อรวมระดับที่สิบสองของหลงเฉินเป็นกระบวนท่าแรกที่จะตั้งรับศึกครั้งนี้

“ฝ่ามือเมฆาเพลิง”

หลงเฉินตะโกนเสียงดังกังวาน กวาดฝ่ามือที่มีเปลวเพลิงห่อหุ้มอยู่ออกไปประสานเข้ากับฝ่ามือของเซี่ยฉางเฟิงในทันที

“ตูม”

ผืนแผ่นดินระเบิดออกอย่างรุนแรง เศษหินเศษธุลีดินพลิ้วคละคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณนั้น จนกลบร่างของชายหนุ่มทั้งสอง หลงเฉินสัมผัสได้ถึงอาการเจ็บแปลบที่หน้าอก ก่อนจะกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง พร้อมกับร่างกายก็กำลังลอยกระเด็นออกไปทางด้านหลัง

ในเวลาเดียวกันความแผดร้อนของเพลิงสายหนึ่งก็เกิดขึ้นที่ฝ่ามือของเขา เมื่อหรี่ตามองไปก็พบว่าทั้งฝ่ามือมีสีแดงก่ำขึ้นมา และกำลังลามไปทั่วทั้งแขน

หลงเฉินทอสีหน้าแตกตื่นขึ้นมา ใช้มืออีกข้างนำโอสถพิษเม็ดหนึ่งออกมาจากแหวนมิติ จากนั้นก็กลืนลงคอไปอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือข้างนั้นของเซี่ยฉางเฟิงได้รวมโลหิตพิษจนเต็มเปี่ยมนั่นเอง

ช่างโชคดีเหลือเกินที่เมื่อครู่นี้เขาได้ไหลเวียนพลังออกไปด้วยเค็ลดวิชาฝ่ามือเมฆาเพลิง ทำให้ต้านทานการไหลเวียนสภาวะของโลหิตพิษส่วนหนึ่งที่จะเข้าสู่ร่างกายเอาไว้ได้ ถ้าหากใช้กระบวนท่าอื่นคงจะเพิ่มพูนพลังทำลายที่มากขึ้นจนไม่อาจมีพลังขยับเขยื้อนได้อีกแล้ว

เมื่อขจัดโลหิตพิษไปได้หลายส่วนแล้ว ตลอดทั้งแขนก็ยังมีโลหิตพิษชอนไชอยู่บ้างจนเกิดอาการชาด้านขึ้นมา ต่อให้คำนวณอีกนับพันหมื่นครั้ง เขาก็ไม่คิดว่าจะต้องมาปะทะกับกระบวนท่านี้ได้

แม้ว่าหลงเฉินจะแตกตื่นกลับพลังของเซี่ยฉางเฟิงอยู่ไม่น้อย ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้อยู่ในอาการที่ดีกว่ากันเลย ฝ่ามือของหลงเฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่น่าหวาดกลัวจนถึงขีดสุดคิด ถึงกับทำลายแขนข้างหนึ่งของเขาจนแหลกละเอียดเป็นผุยผง

ยิ่งไปกว่านั้นด้วยพลังเปลวเพลิงบนฝ่ามือของหลงเฉินนั้นได้สลายสภาวะของโลหิตพิษที่เขาก่อรวมด้วยพลังทั้งหมดเอาไว้อย่างง่ายดาย

“ซูม”

ประกายเย็นเยียบสายหนึ่งเสียดทานเข้ามายังใจกลางมือข้างซ้ายของหลงเฉิน แล้วก็มีดาบยาวเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นมา เขาขยับฝีเท้าทั้งสองข้างทันทีที่กุมดาบ หอบสายลมกรระโชกแรงขุมหนึ่งพุ่งออกมาหมายจะปลิดชีพของเซี่ยฉางเฟิง

เซี่ยฉางเฟิงเบิกตากว้างอย่างแตกตื่น หลงเฉินที่ได้รับผลกระทบจากโลหิตพิษไป ทว่ากลับยังสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วถึงเพียงนี้อยู่อีก คิดที่จะล้วงเอายุทโธปกรณ์ออกมาจากแหวนมิติก็คงจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว

ดาบยาวอันคมกริบมุ่งตรงมายังทิศทางที่ศีรษะของเซี่ยฉางเฟิงตั้งอยู่ ความเยือกเย็นถูกแผ่ออกมาจากตัวดาบจนทำให้ขนลุกไปทั้งร่าง

เซี่ยฉางเฟิงที่เพิ่งจะได้หายใจจากการรอดพ้นจากกระทวนท่าเมื่อสักครู่ไป กลับยังต้องมาเห็นดาบในมือของหลงเฉินที่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้คอหอยของเขาในเวลานี้อีก ต่อให้เขาถดถอยไปได้ก็ยังไร้ซึ่งหนทางที่จะรอดพ้นจากเงื้อมมือของยมบาลตนนี้ได้ จึงลองใช้เท้าข้างหนึ่งมุ่งเป้าไปที่จุดตันเถียนของหลงเฉิน

จุดตันเถียนถือเป็นจุดรวมของพลังทั้งหมดในร่างกายของมนุษย์ หากได้รับความเสียหายก็อาจทำให้กลายเป็นคนพิการไปได้เลย เซี่ยฉางเฟิงจึงคิดที่จะจัดการกับหลงเฉินด้วยวิธีเช่นนี้ ด้วยว่าตอนนี้ช่างอยู่ในยามคับขันถึงที่สุดแล้ว

ทว่าหลงเฉินกลับไม่ได้มองไปที่เท้าข้างนั้นของเขาแม้แต่น้อย ยังคงจดจ่อไปที่คมดาบ แล้วฟันลงไปที่ร่างเซี่ยฉางเฟิงอย่างรวดเร็ว

“ไม่……”

ความบ้าคลั่งของหลงเฉินได้ทำให้เซี่ยฉางเฟิงแตกตื่นขึ้นมาจนหลงลืมไปจะต้องทำให้เขากลายเป็นคนพิการ หลงเฉินทอประกายแววตาที่แสนเยือกเย็นออกมาเป็นสาย ไร้ซึ่งความรู้สึกเห็นใจราวกับเป็นเทพสงครามผู้เลือดเย็นอย่างแท้จริง ดาบยาวได้ฟันลงไปอย่างไร้ซึ่งไมตรีจิตใดใดทั้งสิ้น

“ฉับ”

“ตุบ”

เสียงทั้งสองแทบจะดังขึ้นมาในเวลาเดียวกัน สายโลหิตกระฉุดขึ้นไปทาทับทั่วท้องนภา พร้อมทั้งศีรษะหนึ่งกำลังกลิ้งเกลือกไปตามผืนแผ่นดิน  . . . .

เคล็ดกายานวดารา

เคล็ดกายานวดารา

เป็นจักพรรดิโอสถกลับเกิดใหม่งั้นหรือ ? เป็นการผสานจิตวิญญาณกันหรือ ? หลงเฉิน เด็กหนุ่มที่ถูกช่วงชิงรากปราณ โลหิตปราณ กระดูกปราณทั้งสามสิ่งไป ได้หยิบยืมวิชาการหลอมโอสถระดับเทวะภายใต้ความทรงจำ ฝึกปรือวิชาเคล็ดกายานวดาราอันลี้ลับ แหวกม่านหมอกที่หนาทึบออก ปลดปล่อยโชคชะตาครอบครองพลังวงแหวนเทวะแห่งฟ้าดิน เหยียบย่างชั้นดาราตะวันจันทรา พบพานสาวงามต่างๆ กำราบมารร้ายเทพแห่งความชั่วจนกลายเป็นที่เลื่องลือก้องแดนเจียงหนาน หลงเฉินมาถึง สวรรค์คำรนพสุธาคำราม หลงเฉินไปจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพร่ำไรจนเป็นที่ตำนานแห่งยุทธ์ภพ หลงเฉินปรากฎ ฟ้าดินสั่นสะเทือน หลงเฉินเดินจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพยดาร้ำไห้ ระดับพลัง 1.ขอบเขตก่อรวม 2.ขอบเขตก่อโลหิต 3.ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น 4.ขอบเขตปรือกระดูก 5.ขอบเขตเชื่อมชีพจร 6.ขอบเขตแห่งการก่อฟ้า ระดับโอสถ 1.โอสถสามัญ 2.โอสถปัญญา 3.เชี่ยวชาญโอสถ 4.ราชาโอสถ 5.ราชันโอสถ 6.จ้าวโอสถ 7.เซียนโอสถ 8.ปราชญ์โอสถ 9.จักรพรรดิ์โอสถ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset