เคล็ดกายานวดารา – ตอนที่ 75.2 พลังต่อสู้ของยิงฮวา

​ยิงฮวาสะบัดแขนที่เกิดอาการชาอยู่หลายครั้งด้วยรอยยิ้มกว้าง แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “จะเอาสิ่งใดมาแลกกัน? ด้วยพลังฝีมืออันน้อยนิดของพวกเจ้า หรือด้วยพละกำลังที่ป่าเถื่อนกัน?

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพวกเจ้าก็มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ทว่าเมื่ออยู่เบื้องหน้าของยอดฝีมือพลังขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นอย่างข้าแล้ว พวกเจ้าไม่มีแม้แต่โอกาสเพียงน้อยนิดเชียวล่ะ”

หลงเฉินยกกระบี่หนักในมือชี้ไปยังทิศทางที่ศีรษะของยิงฮวาตั้งอยู่ “จะมีโอกาสหรือไม่นั้นก็คงจะต้องดูกันต่อแต่นี้ไป”

ยิงฮวากลับไม่รีบลงมือสังหารพวกเขา ทว่ากลับลากถูปลายกระบี่ยาวไปตามพื้นแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“ถึงแม้ว่าจะดูพลังฝึกยุทธ์ของพวกเจ้าไม่ออก ทว่าบนตัวของพวกเจ้ากลับไม่อาจสัมผัสได้ถึงพลังโลหิตเลยแม้แต่น้อย นี่ก็บอกได้แล้วว่าพวกเจ้ายังอยู่แค่ระดับขั้นก่อรวมเท่านั้น

การที่จะใช้เจ้าเป็นของขวัญให้แก่บิดาของเจ้าเอง ข้าย่อมต้องทำให้มันดูมีความหมายที่ลึกซึ้งขึ้นมาสักนิดหนึ่ง จะบอกกล่าวให้ชัดเจนอีกครั้งว่าระดับของข้ากับเจ้าช่างห่างไกลกันนัก

ขอบเขตขั้นก่อรวมก็ทำได้เพียงดูดซับพลังปราณฟ้าดินเข้าสู่ร่างกายแล้วกักเก็บพลังความสามารถของปราณฟ้าดินออกมาใช้ก็เท่านั้น ที่เจ้าฝึกฝนมาก็มีแต่เพียงพลังปราณ

ขอบเขตก่อโลหิตกลับเป็นการกระตุ้นพลังปราณฟ้าดินให้ผสานเข้ากับโลหิตบริสุทธิ์จนทำให้ร่างกายเกิดพลังที่เพิ่มมากขึ้น ในระดับนี้ที่ฝึกออกมาก็คือพลังกาย

เมื่อหนึ่งลมปราณผนวกเข้ากับหนึ่งพลังกายก็จะสามารถระเบิดพลังอันแข็งแกร่งขึ้นมาได้อีกขั้น ทว่าก็เพียงแค่เพิ่มพลังขึ้นมาก็เท่านั้น

และขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นนั้นลึกซึ้งยิ่งกว่า เป็นระดับที่ต้องเพาะเส้นเอ็นเพื่อสร้างสมาธิ พลังกาย และพลังปราณให้เข้าสู่สภาวะที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ทว่าพลังทำลายที่ถูกผนึกเข้าด้วยกันของพลังกายและพลังปราณในขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นนั้นกลับเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ กล่าวให้เข้าใจโดยง่ายก็คือพลังของขอบเขตขั้นก่อโลหิตที่มีพลังเพิ่มขึ้นมาแบบสิบบวกสิบ เช่นนั้นขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นก็คือสิบคูณสิบ”

หลงเฉินได้ยินเช่นนั้นก็เกิดอาการแตกตื่นภายในจิตใจอยู่ไม่น้อย เขาทราบดีว่ายิงฮวาคงไม่ได้มีจิตใจที่ดีจนกล่าวอธิบายถึงเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาให้เขาฟัง

ทว่ากลับเป็นการย้ำเตือนว่าพลังฝีมือของพวกเขานั้นแตกต่างกันมากจนเกินไป อีกทั้งยังพูดเพื่อให้ยอมแพ้ต่อการดิ้นรนอันไร้ซึ่งหนทางเช่นนี้เสียที

หลงเฉินตระหนักได้ว่าวาจาทั้งหมดของยิงฮวาเป็นเพียงการจงใจจะยุแยงเท่านั้น ทว่าภายในจิตใจกลับยากที่จะข่มอาการแตกตื่นเช่นนี้เอาไว้ได้ หากเป็นอย่างที่ชายฉกรรจ์ผู้นี้ได้กล่าวออกมาจริงๆ เขาคงจะไม่มีโอกาสชนะศึกครั้งนี้อย่างแน่นอน

อีกทั้งอย่าเพิ่งไปกล่าวถึงพลังอันมหาศาลที่ยังไม่ถูกใช้ออกมาเลย แค่เพียงวิชาพิสดารกับความเร็วปานสายฟ้าฟาดที่ยิงฮวาใช้ออกมาเมื่อครู่ก็ได้ทำให้เขาขวัญเสียขึ้นมาได้แล้ว

นี่คงเป็นสภาวะของความตายชนิดหนึ่งกระมัง ไม่แปลกใจเลยที่องค์ชายสี่ส่งยิงฮวาออกมา หากเขาสังหารเซี่ยฉางเฟิงลงได้ แล้วเขาเองก็ถูกยิงฮวาสังหารอีกที เรื่องราวทั้งหมดก็จะกลับคืนสู่สภาวะที่เป็นปกติในทันที ช่างเป็นการวางแผนได้ลึกล้ำเป็นอย่างยิ่ง

อาหมานที่ยืนอยู่ข้างกายกลับไม่ได้คิดมากอย่างที่หลงเฉินกำลังครุ่นคิดอยู่ เด็กน้อยผู้นี้เพียงแต่จ้องเขม็งอย่างเอาเป็นเอาตายไปที่ยิงฮวา แล้วเอ่ยถามออกมาว่า “พี่หลง เขากำลังพูดถึงอันใดกัน สิ่งใดคือการบวกการคูณหรือ? ก่อรวมก่อโลหิต? นั่นมันเป็นสิ่งของแบบใดกันแน่?”

“อย่าได้สนใจว่าเขจะกล่าวอะไร จำคำพูดของข้าเมื่อครู่นี้ก็พอ” หลงเฉินย้ำชัดด้วยเสียงทุ้มต่ำ พลันก็ปะทุพลังสภาวะทั่วทั้งร่างเพื่อนรับการจู่โจมของยิงฮวา

ยิงฮวามองมาที่หลงเฉินด้วยแววตามาดร้าย “เป็นเช่นไรไป? ยังคิดจะดิ้นรนอยู่อีกอย่างนั้นหรือ แท้ที่จริงแล้วเจ้าเกิดข้อข้องใจต่อคำอธิบายของขุนนางใหญ่เช่นข้าหรืออย่างไรกัน?”

“ซูม”

หลงเฉินขยับกระบี่หนักในมือจนเกิดเป็นเสียงสั่นผ่านกลุ่มอากาศชี้ไปยังใบหน้าของยิงฮวา ด้วยมุมปากเหยียดออกเล็กน้อย “ที่หน้าอกของเจ้ามีหยกส่องเงาอยู่ชิ้นหนึ่ง เจ้าคิดจะใช้มันเพื่อบันทึกภาพก่อนตายของข้า แล้วนำไปให้บิดาของข้าดูเพื่อเป็นการโจมตีเขาอีกทางหนึ่งอย่างนั้นสินะ”

ก่อนหน้านี้เขาได้เร่งรีบจนเกินไปที่จะสังเกตเห็นว่าที่หน้าอกของยิงฮวาได้แขวนแผ่นหยกประหลาดอยู่แผ่นหนึ่ง

ด้านบนของหยกแผ่นนั้นมีลวดลายคดเคี้ยวไปมามากมาย ถึงแม้ว่าหลงเฉินจะไม่สนใจในวิชาประเภทการจารึกมาก่อน ทว่าก็ยังเคยได้ยินชื่อเสียงของหยกส่องเงามาบ้าง เมื่อเปิดการใช้งานที่หยกส่องเงา อักขระด้านบนจะสามารถบันทึกทุกอย่างในช่วงเวลานั้นได้

“เหอะเหอะ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะจดจำขึ้นมาได้ ช่างน่าเบื่อจนเกินไปแล้ว” ยิงฮวาใช้มือข้างหนึ่งลูบไปที่หยกส่องเงาเบาๆ แล้วกล่าวต่อว่า

“ไม่เลว จะมอบของขวัญทั้งทีก็ต้องส่งมอบให้ครบชุดเสียหน่อย ก่อนหน้านี้ข้าคิดจะส่งไปแต่ศีรษะของเจ้า ทว่าภายหลังกลับคิดขึ้นมาได้ว่าช่วงเวลาที่ได้จัดการกับเจ้าก็คงจะพิเศษไม่น้อยเลย เช่นนี้คงจะคลายความอัดอั้นตันใจที่เก็บเอาไว้จนแน่นอกของข้ามานานหลายปีได้แล้ว”

หลงเฉินหัวเราะออกมายกใหญ่แล้วตอบกลับไปว่า “วิธีการอันแสนชั่วช้าอำมหิตเช่นนี้ช่างเหมาะกับคนต่ำทรามเช่นเจ้าเสียจริง อีกทั้งกลิ่นอายยังไม่ใช่ทั้งชายทั้งหญิงอีก

เจ้าก็คงจะเหมาะสมกับวิธีการลงมือที่โสมมเช่นนี้อยู่แล้วล่ะ ตอนนั้นบิดาของข้าสามารถตัดนิ้วของเจ้าได้ วันนี้ข้าก็จะตัดศีรษะของเจ้าลงด้วยเช่นกัน”

ทันใดนั้นเองหลงเฉินก็ก้าวเท้าออกไปข้างหนึ่ง พื้นดินที่ฝ่าเท้าเหยียบย่ำอยู่นั้นก็ได้เกิดการสั่นไหวขึ้นมาเป็นคลื่น พุ่งทะยานเงาร่างไปยังยิงฮวาในทันที

“ชิ เจ้าเด็กโง่งม วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้เห็นว่าพลังกายและพลังปราณที่ผนึกเข้าด้วยกันแล้วนั้นจะน่าหวาดกลัวถึงเพียงใด”

ยิงฮวาคำรามออกมาเสียงดัง ทั่วทั้งร่างเสมือนกับเคลื่อนไหวด้วยตัวของมันเอง ทันใดนั้นผิวกายชั้นนอกก็ปะทุเส้นเอ็นบางๆ ขึ้นมาประดุจมีหนอนพิษหลายตัวกำลังชอนไชอยู่ในร่างกาย

สิ่งที่กำลังปรากฏอยู่นี้เป็นสภาพพิเศษของผู้ที่มีพลังขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น เมื่อเบิกเส้นเอ็นขึ้นมาปกคลุมอยู่บนร่างกายแล้ว พลังอันมหาศาลที่น่าหวาดกลัวก็จะไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างประดุจเปลวเพลิงที่แผ่ขยายออกไปทั้งสี่ด้านจนสภาวะอากาศเกิดการบิดเบี้ยวจนผิดรูป

เมื่อหลงเฉินเห็นการปลดปล่อยพลังสภาวะของยิงฮวาก็ได้แต่กัดฟันแน่น ไม่ว่ายิงฮวาจะมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด ในตอนนี้ก็มีแต่จะต้องต่อสู้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้ว ไม่เช่นนั้นก็เตรียมเข้าสู่ความตายไปได้เลย

เขานั้นยังกลับตายอยู่ หากตายไปแล้วมารดาจะอยู่อย่างไร? ฉู่เหยาจะเป็นเช่นไรบ้าง? แล้วการนัดหมายของเขากับม่งฉีล่ะ?

เมื่อหลงเฉินจัดการกับห้วงแห่งความคิดอันว้าวุ่นและลืมเลือนความหวาดกลัวภายในจิตใจไปจนสิ้นแล้ว ความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับความตายก็ก่อพลังไหลเวียนขึ้นมาที่จุดดารากักวายุที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า

การไหลเวียนเกิดขึ้นไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้นราวกับยังมีพลังไม่เพียงพอ จากนั้นก็ค่อยๆ สงบลงไปอีกครั้ง

“ตายซะ”

หลงเฉินตะโกนออกมาเสียงดัง ปลายแหลมของกระบี่หนักชี้ขึ้นสู่ฟากฟ้าด้วยการจับกุมของสองมือ ตลอดทั่วทั้งร่างก็ได้บังเกิดพลังที่เพิ่มสูงขึ้นจนไม่อาจหยุดยั้งได้ พลันก็ฟาดกระบี่ออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว . .

เคล็ดกายานวดารา

เคล็ดกายานวดารา

เป็นจักพรรดิโอสถกลับเกิดใหม่งั้นหรือ ? เป็นการผสานจิตวิญญาณกันหรือ ? หลงเฉิน เด็กหนุ่มที่ถูกช่วงชิงรากปราณ โลหิตปราณ กระดูกปราณทั้งสามสิ่งไป ได้หยิบยืมวิชาการหลอมโอสถระดับเทวะภายใต้ความทรงจำ ฝึกปรือวิชาเคล็ดกายานวดาราอันลี้ลับ แหวกม่านหมอกที่หนาทึบออก ปลดปล่อยโชคชะตาครอบครองพลังวงแหวนเทวะแห่งฟ้าดิน เหยียบย่างชั้นดาราตะวันจันทรา พบพานสาวงามต่างๆ กำราบมารร้ายเทพแห่งความชั่วจนกลายเป็นที่เลื่องลือก้องแดนเจียงหนาน หลงเฉินมาถึง สวรรค์คำรนพสุธาคำราม หลงเฉินไปจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพร่ำไรจนเป็นที่ตำนานแห่งยุทธ์ภพ หลงเฉินปรากฎ ฟ้าดินสั่นสะเทือน หลงเฉินเดินจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพยดาร้ำไห้ ระดับพลัง 1.ขอบเขตก่อรวม 2.ขอบเขตก่อโลหิต 3.ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น 4.ขอบเขตปรือกระดูก 5.ขอบเขตเชื่อมชีพจร 6.ขอบเขตแห่งการก่อฟ้า ระดับโอสถ 1.โอสถสามัญ 2.โอสถปัญญา 3.เชี่ยวชาญโอสถ 4.ราชาโอสถ 5.ราชันโอสถ 6.จ้าวโอสถ 7.เซียนโอสถ 8.ปราชญ์โอสถ 9.จักรพรรดิ์โอสถ

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset