เคล็ดกายานวดารา – ตอนที่ 80.2 การปะทะครั้งสุดท้าย

หลงเฉินยื่นมือข้างหนึ่งลูบไปบนแหวนมิติ จากนั้นก็หยิบโอสถขึ้นมาสองเม็ด โยนเข้าไปในปากเม็ดหนึ่งแล้วกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว

อีกเม็ดหนึ่งใช้ทาบนตัวกระบี่หนักแล้วใช้พลังแห่งจิตวิญญาณช่วยเบิกฤทธิ์โอสถ ในช่วงที่กำลังกลืนโอสถลงไปจนถึงท้องนั้น ยิงฮวาก็เห็นชัดเจนเต็มสองแววตาว่าหลงเฉินกำลังรักษาอาการบาดเจ็บด้วยโอสถรักษา

ทว่าเม็ดที่สองกลับปกปิดเอาไว้ก่อนที่จะถูกซึมซับเข้าไปยังคมของกระบี่หนักอย่างไร้ซุ่มเสียง ยิงฮวาจึงแทบจะไม่พบเห็นความเคลื่อนไหวในครั้งที่สองของหลงเฉิน

สายตาของหลงเฉินสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลที่สามารถตัดผ่าภูเขาไปได้ทั้งลูกของยิงฮวา เขาจึงระเบิดเสียงคำรามออกมาจนกึกก้องกังวานพร้อมทั้งยื่นกระบี่หนักในมือออกไปสุดแขน

กระบี่ยาวทอประกายสว่างวาบขึ้นมาราวกับยิงฮวาสามารถสะบัดร่างของหลงเฉินให้กระเด็นออกไปไกลนับสิบเส้นทางได้ กระนั้นกระบี่หนักในมือของหลงเฉินที่มีความยาวถึงเจ็ดเซียะก็ประจวบเหมาะที่จะแทงสวนกลับออกไป ยิงฮวาจึงตื่นตะลึงไปชั่วครู่หนึ่ง ไม่ทราบว่าจะใช้กระบวนท่าที่มีอยู่นับไม่ถ้วนอันใดออกมาดี

“ตูม”

อาวุธมีคมทั้งสองปะทะกันจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ไอพลังสีแดงเข้มกลุ่มหนึ่งฟุ้งกระจายไปทั่วทุกสารทิศในทันที เข้าปกคลุมทั่วบริเวณโดยรอบนับสิบช่วงตัวจนดูดกลืนร่างทั้งสองไปอย่างไม่อาจพบเจอได้

“อา”

ยิงฮวาถูกไอพลังสีแดงเข้มซึมซาบเข้าสู่ร่างกายจนร้องเสียงหลงออกมาในทันที เขาสังเกตเห็นว่าที่ผิวหนังเกิดความเจ็บปวดขึ้นมาราวกับถูกแนบด้วยเหล็กกล้าที่กำลังร้อนอยู่

ไม่เพียงแต่เท่านั้นไอพลังสีแดงเข้มนั้นยังแทรกผ่านเข้าไปยังระบบไหลเวียนของเส้นโลหิตภายในร่างกาย ต่อให้เขากลั้นหายใจเอาไว้ก่อนก็ไม่มีประโยชน์อันใด

ไอพลังสีแดงเข้มนี้มีคุณสมบัติเน่าเปื่อยที่น่ากลัวอย่างถึงที่สุด บัดนี้ผิวหนังบนตัวของเขาเริ่มพุพองขึ้นมาหลายส่วนแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะลุกลามได้รวดเร็วจนเริ่มเน่าเปื่อยและส่งกลิ่นเหม็นสาบโชยออกมาแล้ว

“เจ้าใช้พิษ?” ยิงฮวาสบถออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?”

หลงเฉินเอ่ยวาจาออกไปอย่างเย็นชา ทว่าร่างกายของเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก โอสถพิษเม็ดนั้นเกิดจากการหลอมหญ้าหัวใจเน่าเปื่อยไปด้วย พลังทำลายจึงแข็งแกร่งอย่างยิ่งซึ่งแม้แต่ตัวของเขาเองก็ใช่ว่าจะต้านทานเอาไว้ได้

ถึงแม้ว่าจะมีได้กินโอสถขจัดพิษไปก่อนหน้าแล้ว ทว่าก็ไม่อาจขจัดพิษที่เข้มข้นเช่นนี้ไปได้จนหมดสิ้น คงจะส่งผลกระทบต่อร่างกายอยู่บ้าง ขณะนี้ตลอดทั่วร่างของหลงเฉินก็มีสีแดงก่ำขึ้นมาคล้ายกับกุ้งที่ถูกต้มจนสุกอย่างไรอย่างนั้น

ทว่ายังดีกว่ายิงฮวาอยู่ขั้นหนึ่งก็คือเมื่อใช้โอสถขจัดพิษไปแล้วไม่จำเป็นจะต้องพะวงว่าพิษนั้นจะลุกลามเข้าไปถึงหัวใจ อันเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดของโอสถพิษหัวใจเน่าเปื่อยเม็ดนั้น

นี่เป็นโอสถพิษเม็ดแรกที่เขาได้หลอมขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นการลงมือที่โหดเ**้ยมที่สุดที่เขาเคยกระทำมา เพื่อที่จะรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้จึงไม่อาจปฏิเสธที่ใช้วิธีการอันเ**้ยมหาญเช่นนี้ได้เพราะยิงฮวานั้นแข็งแกร่งจนเกินไป

“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้าหาที่ตาย”

ยิงฮวาปะทุเพลิงโทสะออกมาเสียยกใหญ่ ขณะที่กำลังจะใช้พลังทั้งหมดเข้าสังหารหลงเฉิน ทันใดนั้นใบหน้าเหยเกก็ได้เปลี่ยนสภาพไปอย่างรวดเร็ว เมื่อยิงฮวาได้ไหลเวียนพลังลมปราณที่เป็นพิษจนเพิ่มระดับความเร็วในการไหลเวียนและมุ่งหน้าเข้าสู่หัวใจในที่สุด

ยิงฮวาตกใจจนวิญญาณแทบจะหลุดลอดออกจากร่าง ถ้าหากพิษที่เข้มข้นอย่างร้ายกาจเช่นนี้ลุกลามเข้าสู่หัวใจไปได้ ต่อให้เขาเป็นถึงยอดฝีมือพลังขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นก็อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งลมหายใจเข้าออก เมื่อคิดขึ้นมาได้เช่นนั้นเขาก็ได้ลูบไปที่แหวนมิติแล้วนำโอสถเม็ดหนึ่งออกมาแล้วรีบกลืนลงไปในทันที

เมื่อหลงเฉินเห็นโอสถเม็ดนั้น ภายในจิตใจก็เกิดความรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาขุมหนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่ายิงฮวาจะมีโอสถเช่นนี้อยู่อีกเม็ดหนึ่ง

แสงประกายที่สาดออกมา พร้อมกับกลิ่นหอมยั่วยวน หลงเฉินก็ทราบได้ทันทีว่าโอสถเม็ดนั้นคือ——โอสถคางคกหิมะ

คางคกหิมะเป็นสัตว์มายาชนิดหนึ่งที่มีความลี้ลับเป็นอย่างยิ่ง มันต่างจากสัตว์มายาตัวอื่นๆ ตรงที่มีแกนผลึกที่บรรจุโอสถอยู่ภายในอันเป็นแหล่งพลังทั้งหมดที่มันมีอยู่นั่นเอง

คางคกหิมะเป็นสัตว์พิษชนิดหนึ่ง หากอยู่ในช่วงโตเต็มวัยอันเป็นสัตว์มายาระดับสอง มันจะสามารถพ่นหมอกพิษออกมาเข้าปกคลุมไปทั่วระยะหนึ่งร้อยคืบได้ภายในพริบตา

หลังจากถูกหมอกพิษเข้าปกคลุม เหล่าสัตว์มายาที่ได้ต้องพิษจวบจนพฤกษาชาติก็ยังต้องตายและโรยราไม่อย่างน่าอเนจอนาถ เพราะว่าพิษของมันนั้นรุนแรงอย่างถึงที่สุด แม้แต่ตัวมันเองก็ยากที่จะทนทานพิษของตัวเองได้ จนต้องใช้โอสถภายในตัวคอยช่วยขจัดพิษให้แทน

คางคกหิมะสามารถเป็นทั้งพิษและขจัดพิษได้ด้วยตัวของมันเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พบได้ส่วนน้อยในเหล่าสัตว์มายา หากใช้โอสถภายในตัวของมันหลอมจนกลายเป็นโอสถคางคกหิมะ ผลลัพธ์ก็คือการขจัดฤทธิ์จากพิษได้นับร้อยชนิด

ด้วยเหตุนี้โอสถคางคกหิมะจึงเป็นโอสถหายากและล้ำค่าเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีสรรพคุณขจัดพิษได้นับร้อย แต่ก็สามารถขจัดได้เพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่การมีชีวิตรอดมาได้นั่นก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

“หลงเฉิน เจ้าทำให้ข้าต้องสูญเสียโอสถล้ำค่าที่เก็บไว้มากว่าครึ่งค่อนชีวิต เอาชีวิตของเจ้ามาแลกกับมันเสียเถิด”

ยิงฮวาตะโกนออกมาด้วยใบหน้าเหยเกและบูดเบี้ยว เขาได้เก็บซ่อนโอสถเม็ดนั้นตั้งแต่ช่วงที่ยังเยาว์วัยอยู่ทว่ากลับต้องมาถูกใช้กับหลงเฉินที่มีพลังเพียงแค่ขั้นก่อรวมเท่านั้น ยิ่งทำให้เขาเกิดโลหิตสูบฉีดขึ้นหน้าอย่างไม่อาจอดกลั้นเอาไว้ได้อีกแล้ว

โอสถคางคกหิมะสามารถระงับการแล่นของพิษเข้าสู่หัวใจได้ชั่วคราว หลงเฉินจึงเกิดอาการตกใจขึ้นมาอย่างมาก สายตามองไปเห็นร่างของยิงฮวาที่กำลังปะทุพลังมหาศาลออกมา พลันก็ได้ไหลเวียนพลังหนุนทั้งสิบสองอย่างบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน จากนั้นกระบี่หนักก็ได้ลอยระบำท่ามกลางอากาศสู่เบื้องหน้าของยิงฮวาอย่างรวดเร็ว

“ตูม”

“ตูม”

“ตูม”

การปะทะเกิดขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง เสียงระเบิดจากพลังช่างหนักหนาประดุจคลื่นมหาสมุทรในคืนที่มีฝนฟ้าคะนอง บริเวณโดยรอบแหลกลานกลายเป็นจุล ผุยผงลอยฟุ้งคละคลุ้งไปทั่วบรรยากาศ

การโจมตีเข้ามาอย่างเต็มแรงของยิงฮวาทำให้หลงเฉินเกิดอาการชาด้านไปทั้งแขน มุมปากมีโลหิตหลั่งไหลออกมาเป็นสาย อวัยวะภายในได้รับความเสียหายจากการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง

หลงเฉินกัดฟันกรอดอย่างอดทนอดกลั้น เขารอคอยให้โอสถคางคกหิมะไม่อาจกดฤทธิ์ของพิษเอาไว้ได้ แล้วยิงฮวาก็จะหลับใหลไปตลอดกาล

“ปัง”

พวกเขาปะทะเข้าหากันอีกครั้งหนึ่ง หลงเฉินถูกซัดจนลอยกระเด็นออกไป โลหิตกลบปากจนอรกอักกระอ่วนไปหมด บนใบหน้าของยิงฮวาไม่ได้ยังเกิดความยินดีแต่อย่างใด ในทางกลับกันกลับแฝงเอาไว้ด้วยความหวาดกลัวอยู่ขุมหนึ่ง

“เหอะเหอะ ในที่สุดก็เจอแล้ว? ข้าหลอมโอสถพิษขึ้นมาเอง คนอย่างเจ้าจะสามารถขจัดมันออกไปได้อย่างง่ายดายเลยหรืออย่างไรกัน?” หลงเฉินปาดโลหิตที่มุมปากออกแล้วส่งยิ้มให้ยิงฮวา ในที่สุดช่วงเวลาที่เขารอคอยก็มาถึงเสียที

โอสถคางคกหิมะสามารถขจัดพิษได้นับร้อยนั้นไม่มีผิดเพี้ยน ผลลัพธ์ของมันนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่าง ยิ่งนั้นก็ไม่มีผิดเพี้ยน ทว่ามีไว้เพื่อจัดการกับพิษจากเหล่าสิ่งมีชีวิตเท่านั้น โอสถพิษของหลงเฉินนั้นหลอมขึ้นมาจากหญ้าหัวใจเน่าเปื่อยที่มีผลทำให้ฤทธิ์ของโอสถคางคกหิมะถูกลดทอนไปเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน

ยิงฮวาสะท้อนรังสังหารผ่านดวงตาคู่คมอย่างรุนแรง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกเฮือกหนึ่ง พลันยกกระบี่ยาวชี้ขึ้นฟ้าจนเกิดบรรยากาศคลุ้มคลั่งสายหนึ่งหมุนวนไปตามความยาวของกระบี่จนกลายเป็นพลังอันหนาวเหน็บแตกระแหงไปทั่วทั้งแปดด้าน

“ต่อให้เป็นเช่นนี้ เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี”

คมกระบี่ได้ตัดผ่านอากาศมาครั้งหนึ่งจนเกิดเป็นพลังผ่าแฝกอันน่ากลัว เสียงแตกร้าวรานดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน รังสีสังหารอันมากมายนับไม่ถ้วนถูกฟาดฟันมาที่หลงเฉินอย่างรวดเร็ว

“ท่าฟันทลายความหักเห” . .

เคล็ดกายานวดารา

เคล็ดกายานวดารา

เป็นจักพรรดิโอสถกลับเกิดใหม่งั้นหรือ ? เป็นการผสานจิตวิญญาณกันหรือ ? หลงเฉิน เด็กหนุ่มที่ถูกช่วงชิงรากปราณ โลหิตปราณ กระดูกปราณทั้งสามสิ่งไป ได้หยิบยืมวิชาการหลอมโอสถระดับเทวะภายใต้ความทรงจำ ฝึกปรือวิชาเคล็ดกายานวดาราอันลี้ลับ แหวกม่านหมอกที่หนาทึบออก ปลดปล่อยโชคชะตาครอบครองพลังวงแหวนเทวะแห่งฟ้าดิน เหยียบย่างชั้นดาราตะวันจันทรา พบพานสาวงามต่างๆ กำราบมารร้ายเทพแห่งความชั่วจนกลายเป็นที่เลื่องลือก้องแดนเจียงหนาน หลงเฉินมาถึง สวรรค์คำรนพสุธาคำราม หลงเฉินไปจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพร่ำไรจนเป็นที่ตำนานแห่งยุทธ์ภพ หลงเฉินปรากฎ ฟ้าดินสั่นสะเทือน หลงเฉินเดินจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพยดาร้ำไห้ ระดับพลัง 1.ขอบเขตก่อรวม 2.ขอบเขตก่อโลหิต 3.ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น 4.ขอบเขตปรือกระดูก 5.ขอบเขตเชื่อมชีพจร 6.ขอบเขตแห่งการก่อฟ้า ระดับโอสถ 1.โอสถสามัญ 2.โอสถปัญญา 3.เชี่ยวชาญโอสถ 4.ราชาโอสถ 5.ราชันโอสถ 6.จ้าวโอสถ 7.เซียนโอสถ 8.ปราชญ์โอสถ 9.จักรพรรดิ์โอสถ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset