เคล็ดกายานวดารา (Lc by Novel Kingdom) – ตอนที่ 334 บันทึกแผ่นทอง

 

แผ่นทองคำผืนนั้นมีขนาดเพียงหนึ่งฝ่ามือเท่านั้น ที่ด้านบนยังมีรอยสลักลายอยู่เต็มไปหมด ทันทีที่แผ่นทองคำนั้นปรากฏขึ้น ทันใดนั้นในบรรยากาศก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดขึ้นอย่างฉับพลัน ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องเก็บโลงศพ และในเวลาเดียวกันนั้นเอง พลังทำลายจากจิตวิญญาณขุมหนึ่ง ก็ได้ดีดตัวเพิ่มสูงขึ้น

 

ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันนั้น ทำให้ทุกผู้คนต่างก็ตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก ทว่าเพียงชั่วครู่ก็เกิดความโกลาหลปั่นป่วนขึ้น ศิษย์มากมายพุ่งทยานเข้าไป หมายจะคว้าจับแผ่นทองผืนนั้นกันอย่างบ้าคลั่ง

 

“ไสหัวไป นี่เป็นของข้า”

 

“พรวด”

 

เหล่าบรรดาศิษย์ทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรม ที่เดิมทีกำลังหนีตายจากการถล่มของห้องเก็บโลงศพ กลับกลายเป็นว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันวิ่งตะบึงเข้าไปหาแผ่นทองคำนั้น

 

ต่างคนต่างเข้ายื้อยุดแย่งชิง ฆ่าฟัน ผู้ที่ขัดขวางทาง จนโลหิตสาดกระจายไปทั่ว ทุกคนล้วนทอดวงตาแดงก่ำ ผู้ใดที่ขวางทางพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นธรรมะหรืออธรรม ก็มีแต่ต้องถูกฆ่าไปจนสิ้น

 

จ้าวหมิงซานและพวกรวมสามคนต่างก็อยู่ห่างออกไปจากโลงศพนั้น และหลงเฉินที่ได้รับแท่นหลอมสร้างไปแล้ว ทั้งยังต้องระวังการจู่โจมของผู้อื่น จึงต้องถอยร่นออกห่างไปไกลเช่นกัน แต่ทว่าบรรดาศิษย์ที่เข้าแย่งชิงแผ่นทองเหล่านั้น กลับอยู่ใกล้กับโลงศพมากที่สุด

 

“ฮาฮา”

 

“พรวด”

 

คนผู้หนึ่งชิงแผ่นทองผืนนั้นได้สำเร็จ เขาหัวเราะขึ้นมายกใหญ่ และในขณะที่คิดที่กำลังจะกล่าวอะไรบางอย่างต่อศิษย์ของหมู่ตึกพลิกสวรรค์ผู้หนึ่ง ก็ได้ถูกฟันเข้าไปที่มือจนขาดออกไป

 

แท้จริงแล้วคนผู้นั้นเป็นหนึ่งในคนของหมู่ตึกสาขาเดียวกับจ้าวหมิงซาน เขากำลังคิดที่จะร้องตะโกนเสียงดัง เพื่อเป็นการป่าวประกาศว่าสมบัติชิ้นนี้ ได้ตกเป็นของใต้ท้าวจ้าวหมิงซานแล้ว เมื่อทำเช่นนั้นแล้ว ก็จะทำให้ผู้อื่นไม่อาจที่จะช่วงชิงไปได้

 

ผลสุดท้ายเขากลับดูแคลนความโลภของผู้คนมากจนเกินไป ชายผู้ซึ่งมือถูกตัดจนขาด ก็ได้ส่งเสียงร้องออกมา ทว่าพึ่งจะเปล่งเสียงออกมาได้เพียงแค่ครึ่งคำ ก็ไม่สามารถเปล่งเสียงได้อีกต่อไปแล้ว

 

เพราะศรีษะของเขาถูกกระบี่เล่มหนึ่งตัดเฉือนจนขาดสะบั้นหลุดออกจากคอ กระบี่นั้นเป็นของศิษย์อีกคนหนึ่ง ซึ่งเห็นว่าชายมือขาดนั้นกำลังขวางเส้นทางโชคลาภของตนเอง จึงได้ลงมือวาดกระบี่เข้าสังหาร และคนที่สังหารเขาไปนั้น ก็เป็นศิษย์ผู้หนึ่งของหมู่ตึกพลิกสวรรค์นั้นเอง

 

ทว่าศิษย์ของหมู่ตึกพลิกสวรรค์ผู้นั้นถือได้ว่าฉลาดเป็นอย่างยิ่ง เขาทำการปลดเครื่องหมายที่อยู่บนตัวลงไปตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว บนใบหน้าพอกทาอะไรบางอย่างเอาไว้ จนทำให้ผู้คนไม่อาจที่จะจดจำเขาได้ เพื่อทำให้ไม่หลงเหลือหลักฐานใดๆเลยนั้นเอง

 

ช่วงเวลานั้น ทั่วทั้งห้องเก็บโลงศพก็ตกอยู่ภายในความชุลมุนวุ่นวายครั้งใหญ่ ทันใดนั้นห้องเก็บโลงศพก็ได้เกิดการสั่นไหวขึ้นมาไม่หยุด ทางด้านบนเพดาน มีเศษดินร่วงหล่นลงมามากมายไม่หยุด

 

ทว่าเศษดินเหล่านั้นกลับไม่ใช่ดินโดยทั่วไป มีความแข็งประดุจเหล็กกล้า ทั้งยังมีขนาดที่ใหญ่โตขนาดเท่ากับโต๊ะตัวหนึ่ง จึงทำให้ศิษย์สายตรง ต่างก็วิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด

 

กระนั้นก้อนดินเหล็กกล้า ก็ยังคงไม่อาจที่จะเปลี่ยนแปลงความร้อนแรงในการแย่งชิงของพวกเขาลงได้ โลงศพนี้ถือเป็นโลงศพเล็กที่อยู่ภายในใจกลางของโลงศพใหญ่ เมื่อดูจากขนาดของโลงศพนั้นก็ทราบได้ว่า โลงศพนี้เป็นโลงศพของเจ้าของห้องเก็บศพที่แท้จริง

 

สิ่งของที่ถูกฝังไปพร้อมกับโลงศพที่แท้จริงนั้น ย่อมต้องเป็นสมบัติในหมู่สมบัติ แม้แต่ศิษย์ของฝ่ายอธรรม ก็ยังไม่อาจที่จะสงบจิตสงบใจลงได้ ต่างก็ได้แยกย้ายกันเข้าสู่วังวนแห่งการแย่งชิง

 

ในขณะนี้แผ่นทองผืนเล็กนั้น ที่ดูไปแล้วสามารถใช้กำลังเพียงแค่ลมหายใจเดียวก็ทำให้ได้มาอยู่ในมืออย่างง่ายดาย กลับเป็นสาเหตุ ที่ทำให้คนมากมายถึงขั้นต้องฆ่าฟันกันเพื่อให้ได้มาครอบครอง ศิษย์หลายสิบคนตกต้องมาตายในสถานการณ์เช่นนี้

 

จ้าวหมิงซานและยอดฝีมืออีกสองคน จ้องมองไปที่ศิษย์เหล่านั้น พวกเขาเองก็หมายที่จะทำการช่วงชิง เพราะแผ่นทองผืนนี้ จะต้องเป็นสมบัติสูงสุดอย่างแน่นอน

 

แต่ว่า ในตอนนี้พวกเขาทั้งสาม ก็ยังไม่คิดที่จะลดละการเข่นฆ่าหลงเฉิน ดังนั้นถ้าหากเพื่อสมบัติแล้วต้องปล่อยให้หลงเฉินหนีไปได้ พวกเขาก็ไม่ยินยอมอยู่ดี

 

แต่หากว่าเพียงเพื่อหลงเฉิน จนถึงกับต้องทิ้งสมบัติไป เช่นนี้ พวกเขาก็ยิ่งไม่ยินยอมมากยิ่งกว่าเดิม ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทั้งสามคนต่างก็ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

ได้เพียงแต่มองดูศิษย์เหล่านั้นแย่งชิงกัน ทั้งยังต้องคอยหลบหลีกจากก้อนดินขนาดใหญ่ที่หล่นลงมาจากทางด้านบน

 

ในเวลานี้ทั่วทั้งห้องเก็บโลงศพ ก็ยังคงเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงไม่หยุด และสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้แม้แต่จะทรงตัวก็ยังเป็นไปได้ยากอย่างยิ่ง

 

“ตูม”

 

แล้วก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเสาหินต้นหนึ่งก็ล้มลงมา ทับกลุ่มของศิษย์ที่อยู่ด้านล่างไปในทันที เดิมทีที่มีอยู่หลายสิบคน ก็ได้ถูกเสาหินทับจนกลายเป็นเนื้อบดไปหลายคน

 

“ซูม”

 

ทันใดนั้นเงาร่างสายหนึ่งก็พุ่งทะยานออกไป ลอยเข้าไปท่ามกลางกลุ่มคนในทันที แล้วส่งกระแสกระบี่อันน่าหวาดกลัวสายหนึ่ง กวาดเข้าไปยังใจกลางกลุ่มผู้คน

 

“พรวดพรวดพรวด……”

 

ผู้คนจำนวนไม่น้อยถูกความน่าหวาดกลัวของกระแสกระบี่เข้าทำร้ายฆ่าฟัน หนึ่งในนั้นก็รวมถึงผู้อยู่เหนือขอบเขตที่แข็งแกร่งอีกผู้หนึ่ง

 

“แย่แล้ว เป็นสุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรม”

 

ศิษย์ฝ่ายธรรมะผู้หนึ่งร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ พวกเขาได้พบว่าบุคคลที่ลงมือ คือสุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น เขาพุ่งเข้าไปยังกลุ่มของผู้คน วิ่งเข้าสังหารผู้อยู่เหนือขอบเขตที่ครอบครองแผ่นทองผืนนั้น

 

แผ่นทองนั้นถือได้ว่าน่าพิศวงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อทำอย่างไรก็ไม่อาจเก็บใส่ภายในแหวนมิติได้ จึงทำได้แต่เพียงถือเอาไว้ในมือเท่านั้น

 

“ศิษย์พี่จ้าวช่วยข้าด้วย”

 

แผ่นทองนั้น ในขณะนี้ ก็ได้ตกไปอยู่ในมือของยอดฝีมือที่แข็งแกร่งผู้หนึ่งซึ่งเป็นลูกน้องของจ้าวหมิงซาน ซึ่งเมื่อเขาเห็นว่าสุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้นพุ่งสังหารวิ่งเข้ามา เขาก็พลันใบหน้าขาวซีดขึ้นมาในทันที พร้อมทั้งร้องขอความช่วยเหลือ

 

ขณะนี้เขาที่ได้เตรียมการป้องกันการโจมตีที่มาจากผู้อยู่เหนือขอบเขตทั้งหลาย ทั้งยังต้องมาระวังป้องกันคนที่จะมาลอบทำร้ายตนอีก ยากนักที่จะแบ่งจิตใจไปได้ ถ้าหากมีสุดยอดฝีมือให้ต้องรับมือเพิ่มขึ้นมาอีกคน เขาก็คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเป็นแน่

 

“ตัวบัดซบ เจ้าถึงกับไม่ทำตามที่สัญญาเอาไว้”

 

จ้าวหมิงซานมีโทสะขึ้นมายกใหญ่ แล้วก็สะบัดดาบยาวในมือออกมา พุ่งเข้าไปทางด้านของสุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น หมายสังหารให้จบสิ้น

 

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ที่พึ่งลงมือสังหารผู้คนผู้นั้น ทันใดนั้นเองก็เกิดพลังสภาวะที่น่าหวาดกลัวสายหนึ่งปิดกั้นเขาเอาไว้ ถ้าหากเขาสังหารผู้อยู่เหนือขอบเขตผู้นั้นไป ตัวเขาเองก็คงจะต้องรับการโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของจ้าวหมิงซานเอาไว้เองแล้ว เช่นนั้นหากไม่ตายก็คงจะบาดเจ็บสาหัส

 

“เคร้ง”

 

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ยกกระบี่เข้าต้านดาบของจ้าวหมิงซาน พร้อมทั้งหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วกล่าว:“ข้าเพียงแต่สัญญาว่าจะไม่สอดมือเข้าไปยุ่งกับสิ่งของที่อยู่ภายในโลงศพใหญ่ แต่ไม่ได้กล่าวว่าจะไม่สอดมือเข้าไปยุ่งกับวัตถุสมบัติภายในโลงศพเล็ก”

 

“เงาโลหิตกร่อนวิญญาณ”

 

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น พ่นโลหิตใส่กระบี่ยาวในมือ ทันใดนั้นพลังสภาวะอันน่าหวาดกลัวขุมหนึ่งก็ได้แผ่กระจายออกมา เป็นพลังที่เข้าโจมตีจิตวิญญาณ

 

“อา……”

 

ทันใดนั้นศิษย์ฝ่ายธรรมะทั้งหมด ก็ได้กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ภายในหัวสมองคล้ายกับว่ามีเข็มเงินเล่มหนึ่งทิ่มแทงเข้ามาซ้ำๆก็มิปาน แม้แต่ยอดฝีมือที่อยู่ในระดับผู้อยู่เหนือขอบเขต ก็ยังไม่อาจที่จะทนรับไหว ทุกคนล้วนกุมศีรษเจ็บปวดเหลือประมาณ

 

และยิ่งไปกว่านั้น เหล่าศิษย์สายตรง ก็เริ่มมีโลหิตไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด ภายใต้ความเจ็บปวดลึกลงไปถึงระดับของจิตวิญญาณ ราวกับพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับภูตผีร้ายนับไม่ถ้วนมากมาย ที่เหมือนดั่งกำลังกลืนกินจิตวิญญาณของพวกเขาเป็นอาหารกันอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ศิษย์เหล่านั้นตัวสั่นเทาไปทั่วทั้งร่าง จนมาสามารถกระตุ้นพลังเพื่อต่อสู้ขึ้นมาได้อีก

 

“ตายซะ”

 

ศิษย์ของฝ่ายอธรรมเอง ก็ได้รับผลกระทบจากพลังแห่งจิตวิญญาณนั้น จนแปรเปลี่ยนกลายเป็นดุร้ายขึ้นมายิ่งกว่าเดิม ทำการเข้าเข่นฆ่าศิษย์ฝ่ายธรรมะอย่างบ้าคลั่ง

 

จ้าวหมิงซานและสุดยอดฝีมืออีกคนหนึ่ง เมื่อเห็นดังนั้นก็ตกใจอย่างหนัก พวกเขาคาดไม่ถึงว่า สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้นจะมีพลังฝีมือที่พิศดารได้ถึงเพียงนี้

 

ถึงแม้พวกเขาจะยังสามารถที่จะฝืนต้านทานพลังอันมหาศาลขุมนั้นเอาไว้ได้ แต่ทว่าก็ยังมีรู้สึกราวกับมีเข็มนับหมื่นเล่มทิ่มแทงเข้ามาด้วยความเจ็บปวด จนทั้งแตกตื่นและเดือดดาลขึ้นในใจ

 

และในที่สุด ตอนนี้พวกเขาก็เข้าใจแล้ว สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ตลอดมานี้ได้เก็บซ่อนพลังฝีมือไว้ใช้เพื่อตลบหลังพวกเขาเอาไว้ คนผู้นี้เพียงคิดที่จะยืมมือพวกเขา แล้วเตรียมการในช่วงเวลาสุดท้ายเพื่อทำการกลืนกินพวกเขาไปเสียแทน

 

“พรวด”

 

“อา”

 

ในที่สุดผู้อยู่เหนือขอบเขตที่ถือครองแผ่นทองผืนนั้น ก็ฝืนทนต่อไปไม่ไหว จึงถูกยอดฝีมือฝ่ายอธรรมอีกคนหนึ่ง ฟันแขนที่ถือแผ่นทองนั้นไว้จนขาดกระเด็นออกไป

 

แขนที่ถือแผ่นทองนั้น ลอยคว้างขึ้นไปกลางอากาศ สุดยอดฝีมือทั้งสามคนต่างก็ได้แยกย้ายกันกระโดดพุ่งตัว มุ่งหน้าเข้าหาแขนข้างนั้นไปในทันที

 

ทว่าในยามที่ทั้งสามคนยื่นมือเข้าไป หมายจะคว้าจับแขนที่ถือแผ่นทองผืนนั้น ทันใดนั้นแผ่นทองก็ได้หลุดออกไปจากมือข้างนั้นไป ลอยห่างออกไปไกล ราวกับมีชีวิต

 

“อะไรกัน ? ”

 

ยอดฝีมือทั้งสาม ต่างตื่นตกใจขึ้นมายกใหญ่ เมื่อกวาดตามองก็ได้พบว่าหลงเฉินได้ยื่นมือออกมาในที่ห่างไกล แผ่นทองนั้นก็ได้ลอยเข้าไปตรงหน้าเขาแล้วนั่นเอง

 

“หาที่ตาย”

 

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธเกรี้ยว ร่างกายสั่นคลอนไปมาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลอยคว้างขันไปกลางอากาศ คล้ายกับกระสุนที่พวยพุ่งออกไป เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ได้เข้าไปขว้างหน้าแผ่นทองผืนนั้น แล้วก็ได้ยื่นมือเข้าไป หมายจะคว้าจับแผ่นทองนั้น

 

“เหอะเหอะ สมบัติชิ้นนี้ต้องเป็นของข้า……พรวด”

 

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้นกล่าวขึ้นมา พร้อมกับบนใบหน้าปรากฏแววความถือดีขึ้นมา แต่ทันใดนั้นก็ได้มีละอองโลหิตสาดฟุ้งกระจายไปทั่ว

 

แผ่นทองผืนนั้น ทันทีที่มาถึงมือของเขา ก็ถึงกับผ่ากลางฝ่ามือของเขาจนขาดแยกเป็นสองซีก

 

ชั่วระยะเวลานั้น ทุกผู้คนก็ตื่นละลึงกันขึ้นมายกใหญ่ แม้แต่หลงเฉินก็ยังตกใจยิ่งนัก ด้วยไม่คาดคิดว่าแผ่นทองผืนเล็กๆลักษณะคล้ายเศษผ้านี้ จะสามารถตัดผ่าฝ่ามือของสุดยอดฝีมือผู้หนึ่งไปได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ ?

 

การแย่งชิงของทุกคนก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความพิเศษจากแผ่นทองผืนนี้ก็ตาม แต่ก็รู้สึกได้ลึกๆว่าแผ่นทองนี้ อาจจะถูกสร้างขึ้นมาด้วยทองคำที่มีคุณสมบัติไม่ธรรมดา

 

ทว่าเหล่าผู้คนในที่แห่งนั้น เดิมทีต่างก็ไม่ได้เห็นถึงความสำคัญแต่เดิมของมัน เพียงแต่เมื่อมองดูไปที่รอยสลักลวดลายบนนั้น ซึ่งก็ย่อมจะต้องเป็นอักขระโบราณอย่างแน่นอน จึงคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการบันทึกวิชาทักษะแห่งยุคเอาไว้ และต้องเป็นทักษะยุทธ์ที่สะท้านไปทั้งฟ้าอย่างแน่นอน

 

และเมื่อครู่ในยามที่ได้เกิดการแย่งชิงขึ้นมา ทุกผู้คนต่างก็ไม่ได้พบเห็นส่วนที่เป็นความพิเศษของสิ่งนี้แต่อย่างใด มีแต่เพียงแค่หลงเฉินเท่านั้นที่พอจะสัมผัสได้ถึงความพิเศษที่ซ่อนอยู่ได้ ทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยพลังที่สามารถกระตุ้นจิตวิญญาณอยู่ชนิดหนึ่ง

 

ดังนั้นหลงเฉินที่ตลอดมานี้รอคอยโอกาสมาโดยตลอด ก็พบว่าโอกาสมาถึงแล้วเมื่อครู่นี้ ในที่สุดเขาก็มี ใช้พลังแห่งจิตวิญญาณชักนำแผ่นทองมาเข้าหา

 

ทว่าเมื่อหลงเฉินได้ใช้พลังแห่งจิตวิญญาณ ชักนำแผ่นทองมาเข้ามานั้น ก็ได้พบว่าแผ่นทองนั้น คล้ายกับมีพลังแห่งจิตวิญญาณอยู่ในตัว ให้ความรู้สึกเสมือนกับเป็นความคาดหวังอันยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง

 

ความคาดหวังนั้นสั่นคลอนพลังแห่งจิตวิญญาณของหลงเฉิน และแผ่นทองนั้นก็คล้ายกับได้กลายเป็นสุนัขตัวน้อยๆที่เชื่อฟังเป็นอย่างดีก็มิปาน บนแผ่นทองนั้นก็ได้ปรากฏประกายอันคมกล้าขึ้นมา พุ่งลอยเข้าไปหาหลงเฉินในทันที

 

เดิมทีที่ได้พบเห็นสุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น คว้าจับไปที่แผ่นทองนี้ หลงเฉินยังคิดว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้คงจะต้องล้มเหลวแล้ว จึงหมายจะขยับร่างกายหลบออกไป ทว่าผลสุดท้ายถึงกับสามารถที่จะผ่ามือของคนผู้มา โดยยังคงลอยเข้ามาหาเขาดุจเดิม

 

หลงเฉินทั้งแตกตื่นทั้งยินดี สมบัติล้ำค่า จะต้องเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน

 

“เป็นอุปกรณ์สูบวิญญาณงั้นหรือ ? ”

 

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ก็ปรากฏสีหน้าไม่อยากที่จะเชื่อขึ้นมา เขาไม่คาดคิดว่าจะสามารถพบเจอกับสิ่งของเช่นนี้ในสถานที่แห่งนี้ได้

 

“กลับมาหาข้าซะ”

 

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว จากนั้นเขาก็กระตุ้นพลังแห่งจิตวิญญาณทั้งหมดขึ้น พุ่งเข้าไปยังแผ่นทองผืนนั้นในทันที

 

เดิมทีหลงเฉินที่กำลังพุ่งตัวเข้าไปคว้าแผ่นทองนั้น ฉับพลันก็ต้องพลิกตัวกลับลำกลางอากาศ ทางหนึ่งที่ห่างจากหลงเฉินอีกเพียงเล็กน้อย ทางหนึ่งก็อยู่ห่างจากสุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้นอีกเพียงคืบหนึ่ง ประดุจดั่งอยู่ห่างออกจากันถึงหนึ่งคืบ

 

“คิดที่จะเทียบพลังแห่งจิตวิญญาณกับข้าอย่างงั้นหรือ ? ”

 

ถึงแม้จะไม่ทราบว่าแผ่นทองนั้นจะมีอะไรที่พิเศษ แต่ว่าหลงเฉินก็ทราบว่า แผ่นทองนี้กับพลังแห่งจิตวิญญาณ จะต้องมีความเกี่ยวข้องกันอย่างใหญ่หลวงแน่นอน

 

ทันทีได้บังเกิดความคิดเช่นนี้ พลังแห่งจิตวิญญาณขนาดใหญ่ขุมหนึ่งของหลงเฉินก็ถูกเขาขับให้พุ่งออกมา เดิมทีแผ่นสีทองนั้นยังคงลอยคว้างอยู่ ก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็พุ่งออกไปเห็นเป็นประกายแสงสีทองสายหนึ่งตรงเข้าไปหาหลงเฉินทันที

 

“เพียะ”

 

หลงเฉินคว้าจับไปที่แผ่นทองผืนนั้นเบาๆ ตัวเนื้อเป็นทองคำ จึงคล้ายกับปีกผีเสื้อที่กำลังกระพืออยู่ ถีงแม้ว่าจะมีขนาดใหญ่เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือ และทางด้านบนกลับยังคงถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยรอยสลักลวดลายมีสีสันอยู่เต็มไปหมด แต่เมื่อพิจารณาให้ถี่ถ้วนกลับไม่คล้ายกับตัวอักษร ทั้งยังไม่คล้ายกับเป็นรูปภาพ แต่กลับคล้ายเป็นอักขระบางชนิด

 

เมื่อแผ่นสีทองนั้นได้เข้ามาอยู่ในมือของหลงเฉินแล้ว ถ้าหากมิใช่เป็นเพราะสัมผัสได้ถึงการคงอยู่ของแผ่นทองผืนนี้ ที่เหมือนจะเป็นทองคำแต่ก็หาใช่ทองคำ เหมือนจะเป็นกระดาษแต่ก็หาใช่กระดาษ เรียกได้ว่าแปลกพิสดารเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว

 

“ส่งมอบแผ่นทองนั้นมาซะ”

 

ทันใดนั้นเงาร่างทั้งสามสายก็พุ่งทะยานตรงเข้ามาหาหลงเฉิน สามสุดยอดฝีมือนั้น ในเวลานี้ก็ๆไม่เก็บออมพลังฝีมือเอาไว้อีกแล้ว ต่างปลดปล่อยพลังอันมหาศาลทั้งหมดออกมา บริเวณหน้าผากก็ส่องสว่างขึ้นมา จนกลายป็นพลังสภาวะที่น่าหวาดกลัว และเดือดพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรง

 

อาวุธทั้งสามชิ้นจากทั้งสามคน ก็ได้โจมตีเข้าใส่หลงเฉินพร้อมกัน และนี่ก็คือพลังการโจมที่ที่มาจากพลังทั้งหมดของพวกเขา พวกเขาหมายมั่นว่าจะต้องฆ่าหลงเฉินให้ได้ก่อนที่ห้องเก็บโลงศพจะถูกทำลาย

 

“ตูม”

 

หลงเฉินส่งเสียงเย็นชาอกมาดังลั่น วาดทลายมารในมือจู่โจมออกไปด้วยพลังทั้งหมด เข้าขว้างกั้นบนอาวุธของทั้งสามคน

 

เสียงระเบิดก็ได้ดังขึ้นมาติดต่อกัน พลังอันมหาศาลอันน่าหวาดกลัวก็ได้ทำลายสุสานแห่งนี้ไปในทันที สุสานโบราณแห่งนี้มาจนถึงขีดจำกัด สุดท้ายเมื่อเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาต่อเนื่อง ส่วนเพดานของห้องเก็บโลงศพก็เริ่มที่จะถล่มลงมา

 

เพียงแต่ว่าเป็นเพราะยังมีส่วนที่ยังมีเสาค้ำยันอยู่ จึงมิได้ทลายลงมาจนหมดภายในพริบตา แต่ว่าเสาที่ค้ำอยู่ก็เริ่มที่จะทยอยล้มลงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อกระแทกพื้นก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆอย่างน่าหวาดกลัว เศษชิ้นส่วยกระจัดกระจายอย่างบ้าคลั่ง

 

เหล่าผู้คนในเวลานี้ ก็ไม่อาจมีกระจิตกระใจ สนใจแย่งชิงสมบัติอีกต่อไป ต่างก็แยกย้ายก็มุ่งหน้าหลบหนีออกไปอย่างบ้าคลั่ง

 

หลงเฉินนั้น เมื่อทลายการผสานพลังของทั้งสามคนได้ด้วยกระบวนท่าเดียวแล้ว ตัวเขาก็กระเด็นออกไปทางด้านหลัง จนอดไม่ได้ที่จะต้องทอสีหน้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง แต่โชคยังดีที่จุดที่เขากระเด็นไปนั้นประจวบเป็นเส้นทางหลบหนีพอดี

 

เท้าของหลงเฉินที่กำลังขยับออกจากพื้น ทันใดนั้นก็ได้มีเสาหินต้นหนึ่งล้มลงมาเหนือศรีษะเขาพอดี แม้คิดที่จะหลบเลี่ยง ก็ไม่ทันกาลแล้ว

 

“กายาศึกกักวายุ——เบิก”

 

ทันใดนั้นหลงเฉินก็ได้ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ภายในแววตาทั้งคู่ก็ได้ปรากฏเป็นภาพดวงดาราดวงหนึ่ง เขาระเบิดพลังสภาวะที่น่าหวาดกลัวขึ้นมา แล้วก็ใช้ดาบฟันเข้าไปที่เสาหินนั้นหนึ่งครั้งอย่างรุนแรง

 

 

เคล็ดกายานวดารา

เคล็ดกายานวดารา

เคล็ดกายานวดารา
Status: Ongoing
เป็นจักพรรดิโอสถกลับเกิดใหม่งั้นหรือ ? เป็นการผสานจิตวิญญาณกันหรือ ? หลงเฉิน เด็กหนุ่มที่ถูกช่วงชิงรากปราณ โลหิตปราณ กระดูกปราณทั้งสามสิ่งไป ได้หยิบยืมวิชาการหลอมโอสถระดับเทวะภายใต้ความทรงจำ ฝึกปรือวิชาเคล็ดกายานวดาราอันลี้ลับ แหวกม่านหมอกที่หนาทึบออก ปลดปล่อยโชคชะตาครอบครองพลังวงแหวนเทวะแห่งฟ้าดิน เหยียบย่างชั้นดาราตะวันจันทรา พบพานสาวงามต่างๆ กำราบมารร้ายเทพแห่งความชั่วจนกลายเป็นที่เลื่องลือก้องแดนเจียงหนาน หลงเฉินมาถึง สวรรค์คำรนพสุธาคำราม หลงเฉินไปจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพร่ำไรจนเป็นที่ตำนานแห่งยุทธ์ภพ หลงเฉินปรากฎ ฟ้าดินสั่นสะเทือน หลงเฉินเดินจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพยดาร้ำไห้ ระดับพลัง 1.ขอบเขตก่อรวม 2.ขอบเขตก่อโลหิต 3.ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น 4.ขอบเขตปรือกระดูก 5.ขอบเขตเชื่อมชีพจร 6.ขอบเขตแห่งการก่อฟ้า ระดับโอสถ 1.โอสถสามัญ 2.โอสถปัญญา 3.เชี่ยวชาญโอสถ 4.ราชาโอสถ 5.ราชันโอสถ 6.จ้าวโอสถ 7.เซียนโอสถ 8.ปราชญ์โอสถ 9.จักรพรรดิ์โอสถ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset