เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗] – ตอนที่ 116

“มันก็จะดึกแล้ว คุณควรกลับบ้านก่อนถ้าไม่มีเรื่องอื่นเพิ่มเติมนะครับ มันยังค่อนข้างอันตรายที่คุณจะอยู่คนเดียวดึก ๆ ดื่น ๆ ด้วย”

ในตอนนี้ที่ทุกอย่างลงตัว หลินเจี๋ยก็พร้อมจะส่งลูกค้าคนนี้ออกไป

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่คำสั่งให้เธอไป ถ้ายังเป็นกลางวันอยู่ หลินเจี๋ยก็คงยินดีที่จะคุยกับคุณหนูจี้ต่อ เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นลูกค้ารายใหญ่สุด ๆ

แม้ว่าเธอจะไม่ได้มาซื้อมันเอง แต่เธอก็สามารถแนะนำเพื่อนสักกลุ่มมาได้ด้วย เช่น คุณโดริส เป็นต้น

ปัญหาก็คือ กว่าวินเซนต์จะมาที่นี่ก็สามทุ่มเข้าไปแล้ว การสนทนาของพวกเขาจบตอนเกือบสี่ทุ่มในตอนที่จี้จือซู่มา และตอนนี้ก็ใกล้ห้าทุ่ม

ปกติแล้ว เวลาห้าทุ่มคือตอนที่หลินเจี๋ยจะปิดร้านแล้วไปนอน

เขาวางถ้วยของตัวเองลงแล้วมองฟ้าข้างนอก รู้สึกราวกับเขาเพิ่งจะโกหกหน้าตายไปหนึ่งคำรบ นี่เรียกว่าจะดึกได้ยังไงกัน? มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว!

คุณหนูจี้นี่นับว่ากล้าหาญจริง ๆ เธอกล้าออกมาเดินในชานเมืองเปลี่ยว ๆ ยามวิกาลได้ แม้ว่าตัวเธอจะเป็นคุณหนูผู้ออกจะสะสวย

การรักษาความปลอดภัยแถวนี้ไม่ได้ดีเด่นักมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว…

“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะกลับไปก่อนแล้วรอการมาถึงของคุณแอกเกอร์แมนนะคะ” จี้จือซู่พูดพลางพยักหน้า

แม้ว่าเธอจะเป็นนักล่าคนหนึ่งที่ใกล้เคียงกับระดับภัยพิบัติและถือว่าเป็น ‘ขุมอำนาจ’ ได้แล้วก็ตาม แต่คนที่เข้าออกร้านหนังสือนั้นต่างเป็นขุมอำนาจที่โชกโชนประสบการณ์ที่มีความคิดทุกแขนงทั้งสิ้น

พวกเขาก็ยังเป็นอันตรายต่อเธอได้นิดหน่อยจริง ๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะความสำคัญของสูตรดั้งเดิมล่ะก็ เธอคงพาลูกน้องมากับเธอด้วยแล้ว

จี้จือซู่ยืนขึ้นเก็บข้าวของ ปิดกล่องแล้วเตรียมจากไป

ในตอนนี้เอง หลินเจี๋ยก็สัมผัสได้ว่าชายเสื้อถูกดึง เขาหันไปแล้วเห็นดวงตากระจ่างใสของมูเอนที่มองมาทางเขา แล้วสายตาของเธอก็เลื่อนไปที่กล่องบนเคาน์เตอร์

จ้องเขม็งไปที่นั่น…

หลินเจี๋ยเข้าใจทันที เด็กคนนี้ชอบกล่องนี่เข้าแล้ว

มันสวยและเปล่งประกาย แล้วมูเอนก็อดไม่ได้ที่จะเล่นแล้วเปิดมันออก เธอคงชอบมันมากเลย

เจ้าของร้านหลินรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย แม้ว่าร่องรอยของเดนมนุษย์ที่หักหลังกันแบบนี้คงจะถูกนำไปทำลายแล้วฝังก็ตาม แต่ตัวกล่องนี้ดูจะแพงสักหน่อย…

เขาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจลองเสี่ยงโชคดู

“เดี๋ยวนะครับ ผู้ช่วยของผมดูจะชอบกล่องนั่น จะเป็นไปได้ไหม…?”

ก่อนจะทันพูดจบประโยค จี้จือซู่ก็วางกล่องลงหลังจากลังเลอยู่ครู่สั้น ๆ เธอหยิบของภายในของมันออกแล้วเลื่อนกล่องมาให้เขา

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

หลินเจี๋ยไม่รู้จะต้องคิดอะไรและทำได้เพียงยิ้ม “อ่า ผมไม่มีอะไรที่มีค่าพอจะแลกมันได้จริง ๆ มีอะไรก็ตามในร้านหนังสือนี้ที่คุณอยากได้หรือเปล่าครับ?”

ทีแรกจี้จือซู่ตะลึงไป แล้วก็ตามมาด้วยความรู้สึกยินดีและเบิกบานในขณะที่ดวงตาของเธอกวาดมองไปทั่วร้านหนังสือ

เมื่อไม่มีผนึกที่อยู่บนกล่องทองเหลือง กลิ่นของสูตรดั้งเดิมก็จะรั่วไหลออกมาซึ่งจะดึงดูดพวกที่อยากจะแย่งมันไปมาหาแน่ สกายวูลฟ์เป็นสัตว์มายาระดับภัยพิบัติและสามารถผลิตเลือดอสูรคุณภาพเยี่ยม

บางทีกระทั่งยอดฝีมือระดับภัยพิบัติยังอาจไขว้เขวมาสนใจมันได้

จี้จือซู่คิดว่าเจ้าของร้านหนังสือได้มอบภารกิจทดสอบฝีมือของเธออีกภารกิจหนึ่งแล้ว

ดังนั้นแม้จะมีอันตราย เธอก็ยังเลือกจะส่งกล่องให้เขา

ทว่า ดูเหมือนความเด็ดเดี่ยวของเธอจะได้รับความชื่นชอบจากเจ้าของร้านหนังสือ และเธอได้รับโอกาสที่จะลดความยากของความท้าทายที่กำลังจะมาถึงได้

จี้จือซู่ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดี!

ยิ่งกว่านั้น คุณหลินยังพูดว่า ‘อะไรก็ตาม’ ในร้านหนังสือนี้ นั่นหมายความว่ามันไม่ได้จำกัดแค่เพียงหนังสือ แต่ของชิ้นอื่นก็นับด้วย

หนังสือทุกเล่มในร้านหนังสือนี้มีความลับและพลังอันไร้จำกัดอยู่ แต่พวกมันคงไม่เสริมความแข็งแกร่งของคนได้ในเวลาเพียงสั้น ๆ แน่ ตอนนี้จี้จือซู่ไม่มีทางตัดสินได้เลยว่าต้องใช้หนังสือกี่เล่มเพื่อช่วยเธอในสถานการณ์ตอนนี้

แน่นอนว่าจี้จือซู่คิดถึงการ์กอยล์หินก่อน แต่ระดับพลังของมันอยู่แค่ในระดับสัตว์ประหลาดเท่านั้น มันหมายความว่าเธอแค่ได้ผู้ช่วยในระดับเดียวกันและช่วยเหลือเธอได้เพียงจำกัด

เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วสายตาของเธอก็สบเข้ากับดอกกุหลาบแดงที่ทั้งดึงดูดใจและทำให้เธอกลัว

ดอกกุหลาบบนเคาน์เตอร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนที่เธอมาเยือนครั้งล่าสุด มันคงเป็นสิ่งที่เพิ่มมาใหม่ในช่วงนี้

กุหลาบงามที่อยู่ในรูปดอกตูมมาตลอดดูจะสังเกตเห็นสายตาของเธอ กลีบดอกของมันสั่นไหวเล็กน้อย เผยให้เห็นลูกตาในขณะที่ความมุ่งร้ายอันโหยกระหายกวาดไปทั่วห้อง

จี้จื้อซู่ผุดเหงื่อเย็น สัมผัสได้ลาง ๆ ถึงภัยคุกคามร้ายแรงถึงวิญญาณของเธอ

แต่เมื่อภัยคุกคามนั้นบังเกิดขึ้นมา หนวดมากมายที่มองไม่เห็นของ ‘เจตจำนงแห่งเหล็กกล้า’ อันเป็นสิ่งที่วิญญาณของเธอสร้างขึ้นมาแล้วอยู่นิ่ง ๆ ข้างหลังเธอมาตลอดนั้น พลันมีชีวิตชีวาขึ้นมาแล้วหยุดความรู้สึกนั้นไว้ทันที

ดอกไม้นี่…น่าสะพรึงกลัว!

ความแข็งแกร่งปัจจุบันของเธอไม่สามารถต้านกับความรู้สึกที่น่าหวาดหวั่นนี้ได้ และเธอจำต้องพึ่งพา ‘เจตจำนงแห่งเหล็กกล้า’ อย่างสุดกำลังเพื่อแค่หยุดมันไว้

จี้จือซู่สัมผัสได้ว่าดอกไม้ดอกนี้ไม่ได้มีเจตนาจริง ๆ ที่จะลงมือ และแค่อยากทำให้เธอกลัวเล่นอย่างซุกซน

แต่ว่าตอนนี้ เธอคิดว่าไม่ใช่สิ่งนี้หรือที่เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด?

“เฮ้อ…”

จี้จือซู่ยกนิ้วขึ้นชี้ที่กุหลาบ “กุหลาบนี่ ฉันขอได้ไหมคะ?”

หลินเจี๋ยชะงักไปครู่หนึ่ง

กุหลาบ…

ในห้องที่เต็มไปด้วยหนังสือและการ์กอยล์หินที่สลักอย่างประณีตบรรจง การที่เธออยากได้กุหลาบนี่หมายความว่ายังไงเนี่ย?

หลินเจี๋ยไม่คิดถึงมันนานนัก ในทุกกรณี กุหลาบนี้ก็คงเป็นของที่มีมูลค่าต่ำที่สุดในร้านหนังสือนี้แล้ว ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นโลกหรือที่อาซีร์ ความหมายของกุหลาบก็คงไม่ได้เปลี่ยนจากในสมัยโบราณจนปัจจุบัน

แต่เรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่ความเห็นของตัวหลินเจี๋ยเอง จี้จือซู่ตัดสินใจแล้วว่าเธออยากได้กุหลาบแล้วหลินเจี๋ยก็ตอบรับอย่างพร้อมใจ ส่งดอกกุหลาบให้ทั้งกระถาง

ในขณะที่เขามองลูกค้าจากไปด้วยรอยยิ้มยินดีบนใบหน้าของเธอ หลินเจี๋ยก็วางคางลงบนฝ่ามือของเขาแล้วเหม่อมองพื้นที่ว่าง ๆ บนเคาน์เตอร์อย่างครุ่นคิด

เครื่องลูปที่เขตกลาง

แอนดรูว์ยืนอยู่หน้าโรงงาน 01 ที่ตอนนี้กำลังสร้างใหม่กันอยู่

หลังจากเกิดเหตุกระจกมนตรา เขาได้ใช้ประโยชน์จากกฎฉุกเฉินเพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ได้ชั่วคราว แต่ว่านั่นก็แลกมากับการที่เขาต้องถูกจับตามอง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังถูกส่งมาที่นี่เพื่อควบคุมและหาเบาะแสเกี่ยวกับผู้โจมตีแทนที่จะเข้าไปเอี่ยวกับการตัดสินใจเรื่องอื่น ๆ

ในระหว่างการโจมตีนี้ โรงงานทั้งสิ้นสามแห่ง 01, 07 และ 13 เสียหายอย่างหนัก 01 คือที่ที่การทดลองยาเกี่ยวกับสายเลือดต่าง ๆ ดำเนินอยู่ 07 คือสถานที่เก็บ ‘โปรเจกต์เทวรูปดิน’ และ 13 เป็นคลังเก็บของ

สิ่งที่ทั้งสามโรงงานมีเหมือนกันคือการระเบิดนั้นมาจากการระเบิดของศิลานักปราชญ์จากภายใน สามโรงงานนี้เป็นสามที่เท่านั้นที่ต้องการศิลานักปราชญ์ในช่วงนี้ ทำให้มันยิ่งสะดวกสำหรับไส้ศึก

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไส้ศึกนั้นยังมีบทบาทอยู่ แต่พวกเขาก็ยังลดสิทธิ์ของเราอย่างมากอยู่ดี…บ้าบอสิ้นดี!

ไม่สิ บางทีไส้ศึกอาจจะเป็นใครสักคนในระดับสูง…

เขาเดินไปมา ถลึงตามองเหล่านักวิชาการระดับต่ำกว่าที่กำลังทำงานก่อสร้างใหม่อย่างเย็นชา…

อุปกรณ์สื่อสารทางไกลในหูของเขาส่งเสียง ทำให้เขาต้องชะงักกับที่

“ท่านรองหัวหน้า พวก ‘ผู้แสวงหาความจริง’ พวกนั้นรู้แล้วครับ เจ้าพวกสติเฟื่องหิวความรู้พวกนั้นสนใจในร้านหนังสือมากเลยล่ะครับ…”

สีหน้าของแอนดรูว์มืดลงทันที เขายกเลิกคำสั่งนี้ไปนานแล้วนะ!

มีใครบางคนเปลี่ยนคำสั่งเลิกตรวจสอบของเขา!

เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]

เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]

IRNDGL, I’m Really Not the Evil God's Lackey, 我真不是邪神走狗
Score 9
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]Lin Jie เป็นเจ้าของร้านหนังสือในอีกโลกหนึ่ง เขาเป็นคนใจดีและอบอุ่น มักจะแนะนำหนังสือการรักษาให้กับลูกค้าที่กำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในบางครั้งเขาแอบโปรโมตงานของเขาเองด้วย เมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้าเหล่านี้เริ่มให้ความเคารพเขาอย่างมาก บางคนถึงกับนำอาหารพิเศษประจำท้องถิ่นมาตอบแทนบุญคุณของเขาบ่อยๆ พวกเขามักจะขอความเห็นจากมืออาชีพเมื่อต้องเลือกหนังสือ และแบ่งปันประสบการณ์กับเจ้าของร้านหนังสือธรรมดาๆ คนนี้ให้คนรอบข้างฟัง พวกเขาเรียกเขาด้วยความเคารพและสนิทสนมโดยใช้ชื่อต่างๆ เช่น “ลูกสมุนของเทพปีศาจ”, “ผู้เผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งเนื้อและเลือด”, “'ผู้แต่งพิธีกรรมและศุลกากรแห่งนิกายกินศพ” และ “ผู้เลี้ยงแกะแห่งดวงดาว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset