เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗] – ตอนที่ 120

หลินเจี๋ยปลื้มใจกับความมีประสิทธิภาพที่หอการค้าแอชแสดงให้เห็นมาก แน่นอนว่าเรื่องส่วนใหญ่นี้เป็นผลงานของเชอร์รี่ มันเพิ่งผ่านไปไม่กี่วันนับตั้งแต่ที่เขาติดต่อเธอ แล้วเธอก็ส่งบัตเลอร์ของตัวเองมาหาเลย นี่แสดงให้เห็นว่าสาวน้อยระลึกถึงเขาแค่ไหน

อื้ม…เป็นเด็กดีจริง ๆ

“สวัสดีครับคุณบัตเลอร์เอ็ดมันด์” หลินเจี๋ยลุกขึ้น คว้ามูเอนแล้วตบบ่าเธอ “เด็กคนนี้ต้องการตัวตนใหม่ครับ ขอให้มีผลถูกต้องตามกฎหมายและใสสะอาดนะครับ”

“เรียกกระผมแค่เอ็ดมันด์ก็พอแล้วครับ” บัตเลอร์เอ่ยตอบ เขาโค้งให้มูเอนแล้วพูด “คำขอของคุณได้ถูกถ่ายทอดจากนายหญิงสู่เราแล้วครับ และเราจะทำตามคำขอของคุณ”

“เอาล่ะ เล่นพอแล้วนะ” หลินเจี๋ยให้มูเอนวางกล่องลงแล้วร่วมมือตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อรับตัวตนใหม่

“โอ้…” มูเอนวางกล่องทองเหลืองลงอย่างไม่เต็มใจนัก เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังศึกษามันอย่างติดลม

กล่องทองเหลืองใบเล็กเตะตาเอ็ดมันน์อยู่ชั่วขณะหนึ่ง มีอักขระชุดหนึ่งอันซับซ้อนที่นักเวทมนตร์ขาวสลักไว้เพื่อปิดผนึกกล่อง คงจะบรรจุอะไรที่อันตรายและหลุดโลกไว้แน่

เจ้าของร้านหนังสือมองมันเป็นของเล่น แม้กระทั่งปล่อยให้เด็กสาวคนนี้เล่นกับมันด้วย!

วินาทีต่อมา เขาก็ตระหนักว่าเขาปล่อยให้สายตาไขว้เขวเกินไป จึงรีบละสายตาทันที

อย่าเที่ยวมองไปเรื่อยหรือแตะต้องอะไรเด็ดขาด!

คำเตือนของนายหญิงของเขาก้องอยู่ในใจ จริงของเธอ ไม่มีสิ่งใดในร้านหนังสือนี้ที่ดูเรียบง่ายเหมือนที่เห็นภายนอกเลย!

แม้ว่าเอ็ดมันน์จะช็อก แต่เขาก็เป็นพ่อบ้านที่ดีจนไม่ปล่อยให้อารมณ์เหล่านี้ถูกแสดงออกมาได้ และเพราะเช่นนั้น เขาจึงปรับท่าทีของตัวเองกลับมาได้หลังจากชะงักไปเพียงเล็กน้อย…

เอ็ดมันด์ให้คนในกลุ่มของเขาสองคนเดินออกมา หนึ่งในนั้นถืออุปกรณ์ที่ดูเหมือนกล้องถ่ายรูป ในขณะที่อีกคนหนึ่งถือเครื่องบางอย่างที่ดูแปลกตาและซับซ้อน

การยืนยันตัวตนในอาซีร์นั้นก็อยู่ในรูปแบบบัตร แต่สิ่งที่คนทั่วไปไม่ทราบ นั่นคือมันมีการแนบตัวตนจริงของตัวตนเหนือธรรมชาติสู่เครือข่ายของสมาคมแห่งสัจธรรมด้วย ดังนั้นการยืนยันตัวตนจึงไม่ใช่อะไรที่คนส่วนใหญ่จะปลอมแปลงได้…

ทว่าหอการค้าแอชสามารถทำแบบนั้นได้ เพราะในตอนที่มีการคิดค้นการพิมพ์เครื่องยืนยันตัวตนขึ้น หน่วยกลการของสมาคมแห่งสัจธรรมนั้นยังแบเบาะอยู่ และเป็นพวกดรูอิดที่ติดต่อช่างเผ่าคนแคระที่สร้างเครื่องจักรของพวกเขาขึ้นมา

ไม่เหมือนการผูกขาดที่กินวงกว้างและทรงพลังของบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ สิ่งที่หอการค้าแอชโดดเด่นคือการลงทุนและเส้นสาย กระทั่งเหล่าอัศวินที่รังเกียจความชั่วร้ายในหอพิธีกรรมต้องห้ามยังได้รับทุนส่วนใหญ่จากหอการค้าแอชเพื่อหน่วยงานต่าง ๆ ของพวกเขาเลย…

แต่แม้ว่าพวกเขาจะมีความสามารถนี้ แต่หอการค้าแอชก็จะไม่สร้างการยืนยันตัวตนปลอมบ่อย ๆ อย่างชัดเจนนัก และมักจะทำเช่นนั้นอย่างลับ ๆ เท่านั้น

เว้นแต่คนระดับเชอร์รี่จะขอมา จากนั้นก็เป็นเรื่องของการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะและกระแสอีเธอร์ แล้วจากนั้นก็บิดข้อมูลโน่นนิดนี่หน่อยก่อนจะพิมพ์บัตรมันตรงนั้นเลย เมื่อหลินเจี๋ยมองพวกเขาทำงาน ก็อดไม่ได้ที่จะระลึกถึงตัวเขาในอดีตเมื่อสามปีก่อน

ทว่าเอ็ดมันด์ก็ขัดจังหวะการระลึกของเขา “นายหญิงในตอนนี้กำลังทำธุระของหอการค้าแอชและไม่สามารถมาหาคุณด้วยตนเองได้ เธอเลยเตรียมของขวัญพิเศษให้คุณเพื่อขอบคุณที่คุณได้ช่วยเหลือเธอเมื่อครั้งก่อน หวังว่าคุณจะชอบมันนะครับ”

แค่มาก็ดีพอแล้ว ทำไมต้องมีของขวัญมาด้วย…หลินเจี๋ยตอบด้วยรอยยิ้ม “ผมต้องชอบมันแน่ครับ ในเมื่อมันมาจากเชอร์รี่”

บัตเลอร์เฒ่ายิ้ม “ขอบคุณสำหรับความเมตตาครับ กระผมจะถ่ายทอดคำพูดของคุณ แล้วกระผมก็เชื่อว่านายหญิงต้องยินดีแน่ ๆ ครับ”

แล้วเขาก็ให้ผู้ติดตามอีกคนหนึ่งที่ถือกล่องสีดำเล็ก ๆ อย่างระมัดระวังให้เดินออกมา เอ็ดมันด์บรรจงหยิบมันมาวางไว้บนเคาน์เตอร์อย่างระมัดระวังเทียบเท่ากันแล้วค่อย ๆ เปิดมันออก

“นี่คือ…” สายตาของหลินเจี๋ยทอดมองลงที่กล่อง แล้วเขาก็เอื้อมไปเลื่อนมันเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อตรวจสอบใกล้ขึ้น “เหรียญโบราณนี่ครับ?”

เหรียญโบราณเหรียญหนึ่งที่มีขนาดประมาณสองเล็บนิ้วมือเห็นจะได้วางอยู่ด้านใน ด้านหน้าของมันคือรูปวงกลมสามวงที่มีจุดศูนย์กลางเดียวกันและแกนหมุนที่พาดผ่านมันตรงกลาง

เอ็ดมันด์พยักหน้าแล้วอธิบาย “นี่คือเหรียญโบราณตั้งแต่ยุคแรกครับ เราเรียกมันว่า ‘เหรียญแห่งเคราะห์’ ที่กล่าวกันว่าถูกสร้างขึ้นจากเนตรดวงหนึ่งของเทพธิดาแห่งโชคชะตา มันมีอำนาจวิเศษมากมายและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานครับ”

เหรียญนี้ราคาแพงลิ่ว ในฐานะอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ถูกนักเวทนับไม่ถ้วนปรารถนา มันควรจะถูกวางขายในการประมูลครั้งถัดไปของหอการค้าแอช

ทว่าด้วยสิทธิ์ของรองประธานหอการค้าแอช จึงเป็นเรื่องง่ายที่เชอร์รี่จะใช้มันเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของเธอ

ของชิ้นนี้ถูกดึงกลับด้วยเหตุผลว่า ‘อันตรายของมันยังไม่ถูกกำจัดไปหมด’ แล้วแทนที่ด้วยของชิ้นอื่น

เหรียญนี้ยังมีสองด้านด้วย มันถูกใช้เป็นสื่อร่ายเวทมนตร์ที่มีอำนาจรุนแรงได้ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็สามารถนำเคราะห์ใหญ่หลวงให้กับผู้ใช้ได้…

หากผู้ใช้อ่อนแอเกินไป มันก็จะสามารถกลืนกิน หรือกระทั่งฆ่าผู้ใช้ได้โดยตรง กระทั่งการแตะต้องเหรียญยังอาจนำเคราะห์ร้ายมาให้ได้ และเพราะเช่นนั้น เอ็ดมันด์และคนอื่น ๆ จึงรับมือมันอย่างระแวดระวังเต็มที่

เพราะถึงอย่างไร เมื่อเหรียญนี้ถูกพบ เจ้าของมันในตอนนั้น นักเวทดวงกุดผู้นั้นได้ปัดไปโดนน้ำยาสะกดนิ่งของตัวเองแล้วทำให้ร่างกายท่อนล่างแข็งเป็นฟอซซิล จังหวะที่เสียการทรงตัวล้มลงไปที่พื้น ก็หญ้าหนามเหล็กแถวนั้นเชือดคอ

ลูกศิษย์ตาดำ ๆ ของเขาก็ยังช็อกจนลื่นแล้วกลายเป็นฟอซซิลไปกับอาจารย์ของเขาด้วย

“มันฟังดูน่าสนใจมากและน่าศึกษาต่อจังนะครับ ช่วงนี้ผมเพิ่งจะมาสนใจประวัติศาสตร์ของอาซีร์ในระหว่างยุคแรกกับยุคที่สองอยู่ด้วย”

หลินเจี๋ยหยิบเหรียญขึ้นมาตรวจสอบด้วยความสนใจมาก และไม่ลืมที่จะบอกบัตเลอร์ชรา “ฝากขอบคุณเชอร์รี่ให้ผมด้วยนะครับ”

“โบราณวัตถุแบบนี้น่าจะราคาไม่เบา…แค่ก ๆ ราคาของมันไม่สำคัญ โดยหลักแล้ว เป็นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานและรุ่งเรืองต่างหาก”

สีหน้าของเอ็ดมันด์เปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นหลินเจี๋ยหยิบเหรียญขึ้นมาด้วยมือเปล่า ทว่า…หลังจากได้ยินเสียงไอของหลินเจี๋ยกลางประโยคแล้ว เขาก็ปรับท่าทีของเขากลับมาอย่างรวดเร็ว

เพราะถึงอย่างไร นี่ก็คือตัวตนที่แข็งแกร่งที่นายหญิงของเขาให้ความเคารพ และเขาก็ไม่ได้ดูเดือดร้อนอะไรกับเคราะห์ร้ายเล็กน้อยที่เหรียญนี้มีเลย เห็นไหม เขาไม่แม้แต่จะคิดถึงมันในฐานะสื่อเวทมนตร์ด้วยซ้ำ แต่เป็นแค่เครื่องมือที่ใช้ในการทำความเข้าใจในประวัติศาสตร์โบราณ

ทว่าตำนานว่าไว้ว่าเหรียญแห่งเคราะห์นี้ต้องนำไปรวมกับเหรียญแห่งโชค แล้วมันจึงจะกลายเป็นเหรียญแห่งชะตากรรมที่แท้จริงและสมบูรณ์ได้

“ตราบเท่าที่คุณชอบมันครับ” เอ็ดมันด์ว่า

“โอ้ จริงด้วย” หลินเจี๋ยพูด “ผมอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณอีกสักเรื่องครับ”

“แจ้งมาได้เลยครับ”

หลินเจี๋ยพูดถึงความคิดอยากรีโนเวตห้องนอนและชั้นสองทั้งชั้น

แน่นอนว่าเอ็ดมันด์ย่อมพูดว่านี่เป็นเรื่องเล็ก ๆ และจะช่วยเขาทันที เมื่อปลดปัญหาไปได้สองอย่าง หลินเจี๋ยก็อารมณ์ดี ในขณะที่เขาศึกษาเหรียญในมือนั้นเอง เขาพลันเงยหน้าขึ้นถาม “เทพธิดาแห่งโชคชะตามีสองตา ในเมื่อมี ‘เหรียญแห่งเคราะห์’ แล้ว งั้นก็คงมี ‘เหรียญแห่งโชค’ ด้วยใช่ไหม…”

โครม!

ประตูพลันถูกถีบออกในตอนนั้นเอง แล้วชายร่างท้วมที่ยกแขนทั้งสองขึ้นก็พรวดพราดเข้ามา

“ง่ะ?!” จังหวะจะโคนของคอลินชะงักลงเมื่อได้เห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ของหอการค้าแอชถลึงตาใส่เขา

เขากล้าพอจะเผชิญหน้ากับปีศาจ แต่ไม่ใช่กับหอการค้าแอชแน่ เขายังติดหนี้หอการค้าแอชอยู่หมื่นดอลล่าร์ เจ้าปีศาจนี่ร้ายจริง ๆ! ถึงกับควบคุมเจ้าหน้าที่จากหอการค้าแอชได้ด้วย! ได้ ครั้งนี้แกชนะ!

คอลินยิ้มแห้ง ๆ ซ่อนน้ำมนต์ไว้ข้างหลังแล้วโบกเหรียญในมือเขา ขยับไปใกล้แล้ววางเหรียญลงบนเคาเตอร์

หลังของเขาชุ่มเหงื่อในขณะที่เขาฝืนพูด “เอ่อ ผะ…ผมอยากจะขอบคุณที่ช่วยผมเรื่องเบรคเกอร์ไฟฟ้าเมื่อครั้งก่อน นะ…นี่เป็นสมบัติตกทอดของตระกูลผม ผมให้คุณแล้วกัน!”

พูดจบแล้ว คอลินก็เผ่นแน่บล้มลุกคลุกคลานออกไปทันที ทุกคนในร้านเหลือบมองกันแล้วเบนสายตาไปที่เคาน์เตอร์ แล้วดวงตาของเอ็ดมันด์ก็แทบกระดอนออกจากเบ้า เหรียญนี้เหมือนกับเหรียญแห่งเคราะห์ในมือของหลินเจี๋ยเป๊ะ! หรือนี่คือ ‘เหรียญแห่งโชค’ กันนะ?!

เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]

เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]

IRNDGL, I’m Really Not the Evil God's Lackey, 我真不是邪神走狗
Score 9
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]Lin Jie เป็นเจ้าของร้านหนังสือในอีกโลกหนึ่ง เขาเป็นคนใจดีและอบอุ่น มักจะแนะนำหนังสือการรักษาให้กับลูกค้าที่กำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในบางครั้งเขาแอบโปรโมตงานของเขาเองด้วย เมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้าเหล่านี้เริ่มให้ความเคารพเขาอย่างมาก บางคนถึงกับนำอาหารพิเศษประจำท้องถิ่นมาตอบแทนบุญคุณของเขาบ่อยๆ พวกเขามักจะขอความเห็นจากมืออาชีพเมื่อต้องเลือกหนังสือ และแบ่งปันประสบการณ์กับเจ้าของร้านหนังสือธรรมดาๆ คนนี้ให้คนรอบข้างฟัง พวกเขาเรียกเขาด้วยความเคารพและสนิทสนมโดยใช้ชื่อต่างๆ เช่น “ลูกสมุนของเทพปีศาจ”, “ผู้เผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งเนื้อและเลือด”, “'ผู้แต่งพิธีกรรมและศุลกากรแห่งนิกายกินศพ” และ “ผู้เลี้ยงแกะแห่งดวงดาว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset