เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 35 ฉันชินแลัว

บทที่ 35 ฉันชินแลัว

“ลักพาตัวหลินชินเสว่?!”

ได้ยินที่ถังเฉาพูดแบบนี้ เย่เทียนหลงไม่ทำอะไรไม่ถูก

เย่เทียนหลงรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิของห้องลดลงอย่างรวดเร็ว และเขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะถูกฆ่า

เย่เทียนหลงได้นึกคดีลักพาตัวที่โด่งดังของเมืองหมิงจูขึ้นมา

เย่เทียนหลงไม่กล้าที่จะปิดบังความจริงและบอกว่า:” จริงๆ แล้ว ตระกูลซ่งเคยให้ผมจัดการเรื่องนี้ แต่ผมปฏิเสธไปและผมกับตระกูลซ่งก็เลยมีปัญหากันเพราะเรื่องนี้

เย่เทียนหลงพูดด้วยสีหน้าที่แน่วแน่ว่า:” คนอย่างผมถึงจะเป็นคนอันธพาลการศึกษาไม่ได้สูงมาก แต่ก็รู้ว่างานแบบไหนที่ควรจะรับ แบบไหนที่ไม่ควรรับ ผมกับคุณหลินไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ผิดใจกัน ผมจะไปทำแบบนั้นเพื่อนอะไร?”

“ใช่หรือ?” ถังเฉาก้มหน้าแล้วเงียบ

เย่เทียนหลงเป็นคนที่โกหกไม่เป็น และถึงเขาจะโกหกถังเฉาก็จับได้ตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว

เห็นถังเฉาไม่ได้พูดอะไรต่อ เย่เทียนหลงก็เลยลองถามไปว่า:” ท่าน คุณหลินเป็นอะไรกับท่านหรือ?”

ถังเฉาใช้สายตาที่ดุดันจ้องไปที่เย่เทียนหลง:” อะไรที่ควรถามก็ถาม อะไรที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม”

เย่เทียนหลงก็เลยหยุดถาม:” ได้ครับ ได้ครับ ผมถามมากมากไปแล้วครับ”

ลูกน้องของเย่เทียนหลงเห็นเจ้านายของตัวเองดูเคารพถังเฉาขนาดนี้ พวกเขาเลยแอบมองถังเฉา ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครมาจากไหนกัน ขนาดแค่เริ่มต้นพี่เทียนหลงยังสู้เขาไม่ได้เลย

ทั้งสองคนได้เข้าสู่โหมดเงียบ ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร เย่เทียนหลงไม่กล้าพูดอะไรเหมือนกัน

อิทธิพลมืดในหมิงจูไม่ใช่มีเพียงแก๊งค์เทียนหลง แน่เลย ถึงเฉาถามไปด้วยความคาดหวังจะได้คำตอบที่หวังเองไว้

“ตำราวิชาของหมัดฟ้าแลบนายได้มาจากไหน?” ถังเฉาได้ถามแบบนี้

เย่เทียนหลงเงียบไปสักพัก และตอบอย่างกระตือรือร้นว่า:” ท่านครับ เมื่อหนึ่งปีก่อนผมซื้อตำราหมัดฟ้าแลบที่ตลาดมืดสักแห่ง”

“ตลาดมืดหรือ…..?”

ได้ยินแบบนี้ ถังเฉารู้ว่าบ้าบู๊ไม่มีทางที่จะเอาตำราสำคัญแบบนั้นขายไปยังตลาดมืดอย่างแน่นอน แต่มีความเป็นไปได้อย่างหนึ่งว่าอาจจะเป็นลูกศิษย์ของเขานำไปขาย

แต่ลูกศิษย์พวกนั้นคงไม่โง่จนขายตำราวิชาสำคัญแบบนั้นออกไปแน่นอน ตำราที่ขายออกไปอาจจะถูกตกแต่งไปแล้ว และหลอกให้ผู้ซื้อมาซื้อ

ถังเฉาก็ไม่ได้พูดความจริงออกมาพูดเพียงว่า:” ต่อไปถ้าไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับหมัดฟ้าแลบ มาหาฉันได้”

เขารู้สึกกว่าเย่เทียนหลงคนนี้ก็ไม่เลว เลยให้คำแนะนำไปหน่อย

“จริงหรือ?!”

เย่เทียนหลงดีใจมาก เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน:” ท่านครับ มีอะไรที่ไม่เข้าใจถามท่านได้ใช่หรือ?”

“ใช่”

“แต่คนแบบไหนควรร่วมงานด้วย คนแบบไหนไม่ควรร่วมงานด้วย นายควรแยกแยะนะและนายอยู่มาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าเลิกทำงานสายนี้ได้ก็จะดีมาก” ถังเฉาพูดด้วยน้ำเสียงทั่วไป

“ได้ครับ” ผมจะหยุดการร่วมมือกับตระกูลหวางและตระกูลซ่ง

เย่เทียนหลงจะไม่เชื่อฟังถังเฉาได้อย่างไรเพราะถังเฉากำลังสอนเขาอยู่ เขาร้อนรนและรีบตอบรับ

“อือ นายไปได้แล้ว”

ถังเฉาได้ส่งเย่เทียนหลงกลับไป และตะโกนไปทางกระดานลื่น” เสี่ยวลี้ ได้เวลากลับแล้ว เราไปหาคุณแม่กัน”

“มาแล้ว!”

ซิ่ว ถังเสี่ยวลี้ไหลลงมาจากกระดานลื่นและวิ่งมาทางถังเฉาและดึงมือเขาไว้:” คุณพ่อ หมูอยากขี่ม้า”

ถังเฉาถามว่า:” ใครคือม้า”

ถังเสี่ยวลี้ชี้ไปที่หัวของถังเฉา

และหัวเราะ:” คุณพ่อเป็นม้า ได้ขี่ม้าแล้ว”

ถังเฉาอุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้นมาขี่บนคอ และสองพ่อลูกได้เดินจากไป

ภาพนี้ทำให้เย่เทียนหลงและลูกน้องอึ้ง ไปตามๆ กัน ไม่น่าเชื่อเลยว่า คนนี้ที่เรียนรู้วิชาหมัดฟ้าแลบได้อย่างสมบูรณ์แบบคนนี้จะเป็นคนที่กลัวลูกแบบนี้

ไม่รู้เพราะอะไร เย่รู้สึกอิจฉาชีวิตของถังเฉา ทนไม่ไหวได้ตะโกนไปว่า:” ท่านครับ”

ถังเฉาหยุดลง แล้วหันไปมองเย่เทียนหลง

ผมยังไม่รู้จักชื่อของท่านเลย?”

“ฉันชื่อถังเฉา” ถังเฉาตอบด้วยรอยยิ้ม

“ถังเฉา? ทำไมชื่อนี้คุ้นหูจัง?” เย่เทียนหลง” ขมวดคิ้ว” และพูดคนเดียว

ทันใดนั้นลูกน้องของเย่เทียนหลงพูดขึ้นมาว่า:” ผมจำได้แล้ว! เมื่อห้าปีก่อนคนที่จะแต่งงานกับคุณหนูซ่ง ลูกเขยที่หายตัวไปในตอนแต่งงาน เหมือนเป็นคนคนเดียวกัน”

สีหน้าของเย่เทียนหลงแย่ลง

ถังเฉาพาถังเสี่ยวลี้มาถึงที่อาคารกั๋วจี้ประมาณ6โมงเย็น

ชีวิตยามราตรีของหมิงจูได้เริ่มต้นขึ้น

“คุณถัง”

พึ่งเข้ามาถึงภายในอาคาร ก็มีเสียงผู้หญิงดังมาจากข้างหลัง

เมื่อหันไปมอง เป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดยูนิฟอร์มทำงาน ใบหน้าที่มีรอยยิ้ม เธอเป็นผู้ช่วยของหลินชิงเสว่ หลี่ถาว

“คุณหลี่ สวัสดีครับ”

“ประธานหลินอยู่ไหนหรือ?” ถังเฉาถามหลี่ถาว

“ประธานหลินกำลังประชุมผู้บริหารชั้นสูงอยู่ค่ะ” หลี่ถาวตอบ

ถังเฉารู้สึกแปลกใจถามไปอีกว่า:” นานขนาดนี้เลยหรือ?”

พูดถึงประโยคนี้สีหน้าของหลี่ถาวเปลี่ยนไป:” ต้องขอโทษด้วยนะคุณถัง นี่เป็นความลับของบริษัท ดิฉันไม่สามารถเปิดเผยได้”

ถังเฉาพยักหน้าและเข้าใจ

ตอนนี้หลี่ถาวกำลังจะเลิกงานแล้ว เขาก็ไม่อยากที่จะถามอะไรมาก จับมือพาถังเสี่ยวลี้ขึ้นไปที่ห้องประชุมของบริษัท

อาคารกั๋วจี้ขั้น68ถึง88เป็นของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป ห้องประชุมอยู่ระหว่างขั้น68ถึงชั้น88 ก็คือชั้นที่78

เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกได้ยินเสียงของหลินชิงเสว่ที่กำลังโมโหอยู่

“คนเป็นหนี้ก็ต้องใช้คืน นี้เป็นเรื่องธรรมดา หนี้นี้ผลัดมาจะสองเดือนแล้วนะ”

“ถ้าหนึ่งเดือนฉันจะไม่ว่าอะไรเลย นี่มันผ่านมาสองเดือนแล้ว ความคืบหน้าไม่มีเลย ถ้าการทำงานของพวกเธอยังเป็นแบบนี้ ฉันคิดว่าพวกเธอคงไม่มีความสามารถแล้ว”

“อาทิตย์นี้เป็นเส้นตาย ถ้ายังทวงหนี้กลับมาไม่ได้ คนที่ดูแลโครงการนี้ ฉันจะไล่ออกให้หมด!”

เสียงพูดที่โมโหร้าย เหมือนถ้าใครไปสะกิดโดนตัวของหลินชิงเสว่เมื่อไหร่ อารมณ์เธอก็จะระเบิดอย่างนั้น

ถังเฉาไม่เท่าไหร่ แต่ถังเสี่ยวลี้ตกใจกับสิ่งที่เห็น กอดขากางเกงของถังเฉาไว้แน่

ไม่นาน ประตูของห้องประชุมได้เปิดออก ผู้บริหารขั้นสูงจำนวนหลายคนออกมาพร้อมสีหน้าที่เครียดและเดินสวนทางกับถังเฉาไป

ถังเฉาไม่ได้สังเกตเห็น ในนั้นมีผู้บริการหญิงที่หน้าตาดี หุ่นดี ได้หยุดเดินและหันไปมองถังเฉา

แววตาที่ร้อนรนอยากที่จะค้นหาเงาร่างนั้น แต่มีคนจำนวนมาก ถังเฉาได้หายไปในหมู่คน

“มีอะไรหรือเปล่า? ประธานฟาง”

ผู้ช่วยที่เดินตามได้บอกว่า:” ลิฟต์ได้ปิดแล้ว”

ประธานฟางได้ยืนนิ่งอยู่กับที่สักพัก ถึงได้สติ และส่ายหัว:” ไม่มีอะไร ฉันแค่นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา”

ผู้ช่วยของเธอรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของท่านประธาน

ถังเฉาจับมือถังเสี่ยวลี้เข้าไปที่ห้องประชุม เห็นหลินชิงเสว่กำลังยืนอยู่

เธอหันหลังให้ถังเฉา ห้องประชุมที่กว้างใหญ่ เหลือเพียงเธออยู่คนเดียว

ไฟได้ถูกปิด ไฟตรงช่องทางเดินมีเพียงไฟดวงเล็กๆ แสงที่ส่องไปที่เธอทำให้เงาของเธอดูเรียวยาว

เธอดูเหมือนเหนื่อยมาก ส่องมือของเธอกุมขมับอยู่ ไม่รู้กำลังคิดอะไร

“คุณแม่”

ถังเสี่ยวลี้รู้ว่าหลินชิงเสว่อารมณ์ไม่ดีอยู่ เธอก็เลยกะโกนผ่านหลังของถังเฉาไป

หลินชิงเสว่ที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ของประธานเมื่อได้ยินเสียง ได้หันไป เห็นถังเฉาจับมือของถังเสี่ยวลี้อยู่ และมองมาที่เธอ

“เสี่ยวลี้”

หลินชิงเสว่ได้ลุกขึ้นมาทันทีและจะไปกอดถังเสี่ยวลี้

ถังเสี่ยวลีได้วิ่งตรงเข้าไปกอดหลินชิงเสว่

หลินชิงเสว่อุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้นมา ถังเฉาได้เดินมาหาเธอ และลองถามไปว่า:” มีอะไรหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้น?”

ไม่ว่าดูแข็งกร้าวแค่ไหน แต่สำหรับหลินชิงเสว่ เขาอ่อนโยนเสมอ

หลินชิงเสว่แค่ส่ายหัว แต่ไม่ได้ตอบ และมองถังเฉาด้วยสายตาที่แปลกใจ:” ทำไมนายกลับมาสายจัง”

“ที่โรงเรียนอนุบาลมีเรื่องนิดหน่อย เลยมาสาย”

“เธอควรจะสนใจเรื่องของเสี่ยวลี้ที่โรงเรียนบ้าง ไม่ใช่สนใจแต่เรื่องงาน” ถังเฉาพูดไปยิ้มไป

“ฉันจะวางแผนเวลาใหม่” หลินชิงเสว่ตอบ

“ฉันรู้ว่าเธอให้ความสำคัญกับงานมาก แต่ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว”

“ดูแลครอบครัวและเลี้ยงครอบครัว เป็นหน้าที่ของฉัน” ถังเฉาพูดอย่างจริงใจ

หลินชิงเสว่ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบ:เรากลับบ้านกันเถอะ”

พูดจบก็ได้อุ้มถังเสี่ยวลี้ออกจากห้องประชุม

“ชิงเสว่” ถังเฉาตะโกน

“มีอะไรอีกหรือ?” หลินชิงเสว่หันกลับไป

“ฉันรู้ว่าเมื่อก่อนที่ฉันไม่อยู่ เธอคงแค้นฉันมากแน่ๆ แต่ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว ให้ฉันได้ช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง”

ถังเฉามองหลินชิงเสว่ด้วยความจริงใจ:” ฉันไม่อยากให้เธอต้องแบกรับทุกอย่าง แบบนั้นฉันเหมือนเป็นส่วนเกินไปเลย

ใบหน้าที่สวยของหลินชิงเสว่ปรากฏสีหน้าที่ไม่ธรรมชาติ เธอได้หลบตา ไม่อยากที่จะสบตากับถังเฉา:” ฉันชินแล้ว อย่างไงนายก็ช่วยฉันไม่ได้อยู่แล้ว”

ประโยคนี้ไปกระตุ้นถังเฉา:” เธอไม่ได้บอกอะไรฉันเลย รู้ได้อย่างไงว่าฉันช่วยเธอไม่ได้?”

“……”

หลินชิงเสว่เงียบไม่พูดอะไร เห็นถังเฉายืนยันที่จะช่วย เธอเลยยอมให้ถังเฉาช่วยเธอ

“งั้นก็ได้ ฉันจะบอกนาย”

ห้านาทีต่อมา หลินชิงเสว่เงยหน้าขึ้น และมองไปที่ถังเฉาและพูดว่า

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

Options

not work with dark mode
Reset