เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 46

เธอกลายเป็นดาวเด่นของบริษัทไปแล้ว

 
คำว่า ‘ที่รัก’ ทำเอาชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ แต่เมื่อหันมาเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความละโมบของหลินเช่อแล้ว เขาก็กลับเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว 
 
 
ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเงินสินะ ผู้หญิงคนนี้ เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวไร้เกียรติแบบนี้เสียทีนะ 
 
 
“ฉันพูดจริงนะคะ ฉันจะไม่ปริปากบอกใครทั้งนั้นต่อให้คุณจะไปลอบวางเพลิงหรือฆาตกรรมใครก็ตาม ถึงยังไงเราก็ลงเรือลำเดียวกันนี่นา จริงมั้ยคะ” หลินเช่อเนื้อเต้นทีเดียว 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองเธอ “ตอนนี้ฉันรู้สึกอยากจะบีบคอใครบางคนให้ตายมาก แต่เพราะกฎหมายและศีลธรรม ฉันก็เลยทำไม่ได้” 
 
 
“หือ คุณจะใช้ความรุนแรงแบบนี้ไม่ได้นะคะ แล้วใครกันที่ทำให้คุณอยากทำแบบนั้นล่ะเนี่ย” 
 
 
เขากวาดตามองไปทั่วร่างเธอ 
 
 
ไม่ว่าหลินเช่อจะซื่อบื้อแค่ไหนก็สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว 
 
 
เป็นเธอนั่นเอง… 
 
 
เธอรู้ดีว่าการมีตัวตนอยู่ของเธอทำให้เขาและโม่ฮุ่ยหลิงไม่อาจที่จะได้อยู่ร่วมกัน แต่ก็ไม่เห็นจะต้องคิดร้ายถึงขนาดจะฆ่าแกงเธออย่างนี้เลยนี่นา 
 
 
“กู้จิ้งเจ๋อ ทำไมคุณถึงอยากจะรีบฆ่าฉันทั้งๆ ที่มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยแบบนี้คะ ลองคิดดูนะ ถ้าคุณฆ่าฉันตอนนี้ ทุกอย่างก็จะไม่สามารถหวนคืนมาได้อีก คุณจะกลายเป็นฆาตกร แต่ถ้าเรายอมอยู่ร่วมกันอย่างสันติตอนนี้ อีกหน่อยฉันก็จะไปตามทางของฉัน ส่วนคุณก็จะได้ไปตามทางของคุณในอีกไม่กี่ปีเท่านั้น แล้วคุณกับคุณหนูโม่ก็จะได้ครองรักกันอย่างมีความสุข แบบนั้นไม่เข้าท่ากว่าเหรอคะ ไม่เห็นต้องทำให้เรื่องมันยากเลยนี่นา จริงมั้ยคะ” 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วหันไปมองด้านหน้า เป็นการบอกคนขับให้เร่งความเร็วยิ่งขึ้นอีก 
 
 
ถ้าขืนยังทนคุยกับหลินเช่อในรถแคบๆ นี่ต่อไปอีกละ ความงี่เง่าของเธออาจจะทำให้เขาสติแตกได้ 
 
 
เมื่อถึงบ้าน กู้จิ้งเจ๋อก็รีบลงจากรถ เขาหันไปมองหลินเช่อที่พยายามตะเกียกตะกายเพื่อออกจากตัวรถ ในขณะที่คนขับกุลีกุจอช่วยขนวีลแชร์ของเธอลงมา ชายหนุ่มส่ายหน้าก่อนที่จะบังคับตัวเองให้สงบใจลง และเดินกลับมาช่วยเธอ 
 
 
ในคืนนั้น หลินเช่อนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องและอ่านรายงานข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวกับงานเลี้ยงฉลองหมั้นของหลินลี่ 
 
 
จากข่าวที่เห็น มันเป็นงานเลี้ยงที่น่าทึ่งและชวนให้ริษยามากทีเดียว 
 
 
หลินเช่ออ่านคอมเมนต์ด้านล่างที่พากันชื่นชมว่าหลินลี่นั้นสวยแค่ไหน และสามีของเธอหล่อเหลาเพียงใด 
 
 
หญิงสาวทอดถอนใจแล้วกดปิดคอมเมนต์ ทิ้งตัวลงนอนและเข้าไปเช็กเวยป๋อของตัวเอง 
 
 
ในเวยป๋อมักเต็มไปด้วยเรื่องพูดคุยถกเถียงกันเต็มไปหมดเป็นปกติอยู่แล้ว หลินเช่อกดปิดหัวข้อ จนกระทั่งไปเห็นโพสต์ล่าสุดที่ยาวและแอ็กทีฟอยู่จนดูผิดสังเกตเป็นพิเศษเข้า 
 
 
เธอกดเปิดมันขึ้นมาอ่าน… 
 
 
โพสต์นั้นเป็นข้อความที่ระบุว่า [ถึงแม้ฉันจะไม่คิดว่าเธอคู่ควรกับกู้จิ้งอวี่ แต่ในเมื่อเขาชอบเธอ เพราะฉะนั้นพวกเราในฐานะขนนกของหยู พวกเราขออวยพรให้ก็แล้วกัน] 
 
 
ไม่ว่าใครก็รู้ดีว่าบรรดาแฟนคลับของกู้จิ้งอวี่จะเรียกตัวเองว่าขนนกของอวี่ 
 
 
หลินเช่อนึกสงสัย หมายความว่ายังไงที่บอกว่าเขาชอบเธอน่ะ… 
 
 
อีกคอมเมนต์หนึ่งที่ตามมาเขียนว่า [นี่พวกเขาคบกันจริงๆ เหรอ ยินดีด้วยนะ] 
 
 
[ได้โปรดดีกับจิ้งอวี่ของเราด้วยนะ เขาเป็นคนดีแล้วก็ทำงานหนัก อย่าทำให้เขาเสียใจล่ะ] 
 
 
ขณะที่หลินเช่อไล่อ่านไปเรื่อยๆ นั้น เธอก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง จนกระทั่งอวี๋หมินหมิ่นโทรเข้ามานั่นแหละ 
 
 
ทันทีที่หลินเช่อรับสาย เธอก็ได้ยินเสียงอวี๋หมินหมิ่นยิงคำถามเข้าใส่ทันที [หลินเช่อ เกิดอะไรขึ้นน่ะ เธอคบกับกู้จิ้งอวี่เหรอ] 
 
 
“ใครคบกับใครนะคะ” หลินเจิ๋อจับต้นชนปลายไม่ถูกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ 
 
 
[กู้จิ้งอวี่โพสต์ลงในเวยป๋อ เธอไม่เห็นหรือไง] 
 
 
แน่ละว่าเธอไม่เห็น 
 
 
[ทุกคนกำลังคลั่งกันใหญ่แล้ว ดูที่เขาพิมพ์สิ มันเหมือนกับเขากำลังประกาศความสัมพันธ์กับเธอแล้วก็บอกทุกคนให้เลิกยุ่งกับเธอซะที ฉันว่า…] 
 
 
หลินเช่อรีบบอก “ขอฉันดูก่อนนะคะ…” 
 
 
เธอรีบวางสาย แล้วเปิดดูเวยป๋อของกู้จิ้งอวี่ทันที 
 
 
นั่นไงล่ะ เธอเห็นข้อความยาวเหยียดที่เพิ่งโพสต์ไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ 
 
 
เขาเขียนว่า [ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ผมเป็นคนที่ทำงานหนักและทุ่มเทอย่างสุดตัวเสมอ ผมกลัวที่จะทำให้แฟนๆ ของผม บริษัทของผม เพื่อนและครอบครัวทุกคนที่คอยสนับสนุนผมต้องผิดหวัง ผมไม่เคยเลยที่จะใช้ชีวิตเพื่อตัวผมเอง แต่ตอนนี้ผมปรารถนาที่จะได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง และด้วยเหตุนี้ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะช่วยเป็นกำลังใจให้เรา…] 
 
 
หลินเช่อเลื่อนลงมาอ่านคอมเมนต์ด้านล่างของโพสต์ต่อในทันที 
 
 
บางคนที่เข้ามาอ่านก็พิมพ์ว่า [กู้จิ้งอวี่ผู้น่าสงสาร เรามาช่วยเป็นกำลังใจให้เขากันเถอะนะ] 
 
 
[การได้เห็นจิ้งอวี่ต้องทรมานใจแบบนี้ทำให้ฉันหัวใจสลายมาก ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไง ฉันก็จะเชื่อใจและสนับสนุนคุณเสมอค่ะ] 
 
 
[ดาราก็เป็นคนเหมือนเรานะ พวกเขาก็ต้องการความเป็นส่วนตัวเหมือนกัน เราจะติดตามผลงานของคุณต่อไปตราบใดที่คุณยังทำได้ดี ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะอยู่กับใคร เราก็จะสนับสนุนคุณเสมอค่ะ] 
 
 
หลินเช่อรู้สึกเหมือนจะคลั่งให้ได้ 
 
 
ทั้งเว็บไซต์ข่าวซุบซิบและเวยป๋อต่างก็ตีพิมพ์ข่าวที่ว่านี้และบอกว่า [ข้อความของกู้จิ้งอวี่กำลังบอกใบ้ถึงการประกาศความสัมพันธ์ระหว่างเขาและนักแสดงสาวหลินเช่อ] 
 
 
งานหมั้นของหลินลี่ที่เมื่อครู่ยังได้รับการพูดถึงเต็มไปหมดถูกข่าวใหญ่นี้ผลักจนลงไปอยู่เกือบตอนท้ายของหน้าเว็บแล้ว 
 
 
หน้าผากของหลินเช่อย่นเป็นรอยอย่างท้อแท้ เธอรู้สึกสิ้นหวังจริงๆ 
 
 
หลินเช่อเลิกอ่านคอมเมนต์ในเวยป๋อเมื่อได้เห็นข้อความแสดงความเกลียดชัง แม้ว่าแฟนๆ ส่วนใหญ่จะพูดถึงเธออย่างสุภาพเพราะกู้จิ้งอวี่ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ตั้งตารอให้เขาทิ้งเธอซะ 
 
 
นี่เธอไม่ได้คบกับเขาด้วยซ้ำ เธอจะถูกเขาทิ้งได้ยังไงกันยะ 
 
 
วันต่อมา หลินเช่อรีบพุ่งเข้าไปที่บริษัท 
 
 
อวี๋หมินหมิ่นมองดูเธอแล้วพูดว่า “ตอนนี้เธอไม่ต้องทำอะไรแล้วละ ทางบริษัทเราจัดการทุกอย่างแล้ว ตอนนี้เธอควรจะอยู่เฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไรเลยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เรื่องยุ่งหนักกว่าเก่า” 
 
 
หลินเช่อตอบเบาๆ “ฉันเองก็ไม่มีอะไรจะพูดหรอกค่ะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะพูดอะไรได้ มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ นี่กู้จิ้งอวี่เขาพยายามจะกำจัดฉันหรือยังไงคะเนี่ย” 
 
 
อวี๋หมินหมิ่นนึกกังวลว่าอีกฝ่ายจะยอมรับว่าเป็นฝ่ายสร้างเรื่องนี้ขึ้นเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ ซึ่งนั่นจะทำให้เรื่องยิ่งแย่ลงไปอีก 
 
 
ดาราหน้าใหม่ที่เริ่มจะมีชื่อเสียงทั้งหลายมักเจอกับปัญหานี้ด้วยกันทั้งนั้น พวกเขาอยากจะโด่งดังแบบชั่วข้ามคืน และทันทีที่มีโอกาสจะได้เป็นข่าว พวกเขาก็จะยอมทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียง ไม่จะด้วยวิธีการที่ฉ้อฉลหรือแยบยลยังไงก็ตาม 
 
 
แต่ดูเหมือนว่าหลินเช่อจะไม่ได้มีความตั้งใจเช่นนั้น เธอดูไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยจริงๆ อวี๋หมินหมิ่นเชื่อว่าหญิงสาวไม่ได้มีส่วนรู้เห็นใดในเรื่องนี้ 
 
 
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงไม่มีอะไรให้ต้องกังวล อวี๋หมินหมิ่นยิ้มให้หลินเช่ออย่างสบายใจ “มันเป็นเรื่องดีออกนี่ เห็นมั้ย ทุกคนต่างก็สนับสนุนเธอกับกู้จิ้งอวี่กันทั้งนั้น” 
 
 
“ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือระหว่างเรามันไม่มีอะไรทั้งนั้นค่ะ แล้วนี่พวกเขาจะมาสนับสนุนเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรกัน” 
 
 
อวี๋หมินหมิ่นคิดว่าหญิงสาวตรงหน้าช่างใสซื่อเสียนี่กระไร เจ้าหล่อนไม่มีเจตนาแอบซ่อนใดๆ ทั้งสิ้น 
 
 
อวี๋หมินหมิ่นนึกชื่นชมหลินเช่อมากขึ้นไปอีก เธอลูบไหล่หญิงสาวแล้วปลอบว่า “กู้จิ้งอวี่อาจจะช่วยเธออยู่ก็ได้นะ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับกู้จิ้งอวี่ล้วนรับรองได้ว่าจะต้องกลายเป็นข่าวดังระเบิดทั้งนั้น ลองดูสิ่งที่เกิดขึ้นในงานหมั้นของหลินลี่สิ มันกลายเป็นข่าวพาดหัวก็จริง แต่สุดท้ายก็ตกกระป๋องไปทันที เงินทองที่ทุ่มเทจัดงานลงไปจมหายไปหมดเลย ฉันว่าตอนนี้หลินลี่น่าจะแทบอยากกระอักเลือดแล้ว” 
 
 
หลินเช่อถอนใจ เธอไม่มีประสบการณ์ในการรับมือกับข่าวอื้อฉาวแบบนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นเธอควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบริษัทจะดีกว่า 
 
 
นักแสดงโนเนมสองสามคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างพากันมองดูอวี๋หมินหมิ่นที่เดินพาหลินเช่อออกไปส่งยังหน้าประตูด้วยสายตาแสดงความชิงชัง 
 
 
“ใครจะไปคิดล่ะว่าหล่อนจะดังได้อย่างนี้” 
 
 
“ช่าย ดูเหมือนตอนนี้หล่อนจะกลายเป็นคนสำคัญของบริษัทไปซะแล้ว” 
 
 
“นี่กู้จิ้งอวี่เขามองเห็นอะไรในตัวหล่อนกันนะ” 
 
 
“บางทีมันก็ต้องดิ้นรนกันเพื่อให้อยู่รอดแหละเนอะ” ทุกคนต่างพากันซุบซิบนินทาด้วยเจตนาอันร้ายกาจ 

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset