เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 54

มานี่แล้วนวดให้ฉันหน่อยสิ

 
หลินเช่อมองหน้ากู้จิ้งอวี่ “ท่านประธานาธิบดีเป็นคนยังไงคะ ดีหรือร้าย” 
 
 
ในเมื่อกู้จิ้งหมิงเป็นพี่ชายเขา หลินเช่อก็คิดว่าเขาน่าจะรู้สิ 
 
 
กู้จิ้งอวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มแล้วตอบว่า “อืม เธอลองคิดดูสิ ถ้าเขาสามารถพาตัวเองขึ้นมาเป็นถึงประธานาธิบดีได้ละก็ เขาจะเป็นคนธรรมดาได้ยังไงล่ะ จริงมั้ย หัวใจของหมอนี่เย็นชาพอๆ กับหน้าตานั่นแหละ เขาเป็นหมาป่าจอมชั่วร้ายที่ทำทุกอย่างได้เพื่ออำนาจ!” 
 
 
“หา” หลินเช่อรู้สึกช็อกสนิท ก็ท่านประธานาธิบดีที่เธอเห็นในทีวีดูออกจะใจดี 
 
 
กู้จิ้งอวี่มองหน้าอีกฝ่ายแล้วหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น บางทีหลินเช่อก็ซื่อบื้อเอามากๆ 
 
 
“โอเค ฉันแกล้งหยอกเธอเล่นน่ะ อันที่จริงเขาก็เป็นคนปกติธรรมดานี่แหละ แต่ออกจะรักสันโดษมากหน่อย อืม เแล้วก็ยังเป็นคนแปลกๆ อยู่สักนิด ออกจะรับมือยากอยู่สักหน่อย เข้ากับคนก็ยาก แถมยัง…” 
 
 
“ฉันเห็นคนตระกูลกู้ก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหมด…” นี่เขาไม่เหมือนกู้จิ้งเจ๋อหรอกเหรอ 
 
 
“เฮ้ เธอหมายความว่ายังไงที่บอกว่าพวกเราทุกคนน่ะ อย่างฉันนี่เข้ากับคนยากตรงไหนกัน” 
 
 
“อ้อ เปล่าค่ะ เปล่า…” หลินเช่อพูดผิดพูดถูกพลางหัวเราะแห้งๆ กลบเกลื่อน 
 
 
หลินเช่อพยายามโทรหาอวี๋หมินหมิ่นแต่ก็ไม่มีคนรับสาย เมื่อเธอลองโทรดูอีกครั้ง โทรศัพท์นั้นก็ปิดเครื่องไปเสียแล้ว 
 
 
หลินเช่อเริ่มนั่งไม่ติดที่ เธอไม่มีทางเลือกอื่น หญิงสาวลุกขึ้นและเดินไปดูก่อนจะได้รู้ว่าประตูทางเข้าถูกล็อกเรียบร้อยแล้ว หลินเช่อครุ่นคิดขณะเดินกลับมานั่งที่เดิมว่า อวี๋หมินหมิ่นเองก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หล่อนคงไม่หลงทางหรอกน่า 
 
 
เมื่อกลับถึงบ้าน เธอรีบกวาดสายตามองหากู้จิ้งเจ๋อ ถึงแม้ว่าระยะนี้เธอพยายามเลี่ยงที่จะไม่เจอหน้าเขา แต่ครั้งนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่ม 
 
 
“กู้จิ้งเจ๋อ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับท่านประธานาธิบดีเป็นยังไงคะ” หลินเช่อรีบถามทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อหันไปมอง “เราเป็นพี่น้องกัน เธอคิดว่ายังไงล่ะ” 
 
 
หลินเช่อรีบเล่าด้วยความร้อนใจ “ผู้จัดการของฉันหายตัวไปตั้งแต่มื้อกลางวัน หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ฉันอยากขอให้คุณช่วยตามหาให้หน่อยได้มั้ยคะ อาจจะลองถามท่านประธานาธิบดีดูว่าเธอเข้าไปที่นั่นบ้างหรือเปล่า เพราะการรักษาความปลอดภัยแน่นหนามากจนฉันหาทางเข้าไปในนั้นไม่ได้เลยค่ะ ฉันเกรงว่าเธออาจจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนร้ายจนอาจจะถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไปน่ะค่ะ” 
 
 
ปัญหาคือเรื่องนี้นี่เอง 
 
 
พักนี้เขามัวแต่ยุ่งกับงาน แต่การได้เห็นหน้าหลินเช่อก็ทำให้เขานึกขึ้นได้ว่า เขาไม่ได้เจอหน้าเธอมาสองสามวันแล้ว 
 
 
ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เขากลับถึงบ้าน เธอก็จะต้องยังไม่กลับหรือไม่ก็นอนค้างที่กองถ่าย พอวันต่อมาเธอก็จะรีบออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ พอมาคิดดูดีๆ แล้ว ดูเหมือนเธอจะงานยุ่งกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อถาม “ช่วงนี้เธอดูยุ่งจังเลยนะ” 
 
 
หลินเช่อชะงัก หันไปมองสีหน้าเรียบเฉยและสายตาที่มองมาเหมือนจะรู้ดีของอีกฝ่าย เหมือนเขาจะจับพิรุธได้อย่างนั้นแหละ เธอไม่กล้าบอกหรอกว่าเธอจงใจหลบหน้าเขาน่ะ 
 
 
หลินเช่อทำทีเป็นถูซอกหู “อ้อ ใช่ค่ะ ช่วงนี้ฉันยุ่งๆ กับการถ่ายทำแล้วก็เตรียมงานโปรโมตน่ะ ทำไมเหรอคะ” 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อวางมือลงบนโต๊ะแล้วยันตัวลุกขึ้น จ้องหน้าหญิงสาวตรงๆ “นี่เธอกำลังขอความช่วยเหลือฉันอยู่ใช่มั้ย” 
 
 
หลินเช่อพยักหน้า “ใช่ค่ะ” 
 
 
“ถ้าฉันช่วยเธอ แล้วเธอจะตอบแทนฉันยังไงล่ะ” 
 
 
หลินเช่อพ่นลมพรืดแล้วตอบว่า “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงละคะ คุณจะซื้ออะไรก็ได้ทุกอย่างที่คุณต้องการอยู่แล้วนี่ ฉันไม่มีปัญญาหาอะไรให้คุณได้หรอกค่ะ” 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มแล้วพยักพเยิดเรียกเธอให้เข้ามาใกล้ๆ 
 
 
หลินเช่อก้มหน้ารับแล้วเดินก้าวเข้าไปหา 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อถาม “เธอนวดเป็นมั้ย” 
 
 
“หือ ไม่เป็นค่ะ” 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว “นี่เธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เป็นภรรยาภาษาอะไรกันเนี่ย” 
 
 
“ใครจะไปรู้ล่ะว่าการเป็นภรรยา ฉันจะต้องทำได้หลายอย่างขนาดนี้น่ะ…” หลินเช่อบ่นอุบอิบ 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “แน่ละสิ ไม่งั้นจะมีภรรยาทำไมกันล่ะ” 
 
 
“ก็เอาไว้ช่วยคุณใช้เงินไงล่ะ คุณน่ะหาเงินได้มากเกินไปรู้มั้ย ถ้าคุณไม่ใช้เงินเลยแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ถึงจะใช้หมดล่ะ” คนเป็นภรรยาตอบอย่างภาคภูมิ 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าภรรยา “ฉันรู้ว่าเธอจะต้องตอบอะไรไร้สาระแบบนี้แน่ มานี่สิ มานวดไหล่ให้ฉันหน่อย แล้วลองขอร้องฉันดีๆ บางทีฉันอาจจะยอมช่วยเธอก็ได้” 
 
 
หลินเช่อหันไปมองสีหน้ายโสของชายหนุ่มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชิงชังหนัก “คุณนี่มันนายทุนหน้าเลือดชัดๆ มาขูดรีดกดขี่เอากับคนจนๆ อย่างฉัน” 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อว่า “แน่ละสิ! นี่ถือว่ายุติธรรมแล้วนะ เพราะฉันต้องโทรหากู้จิ้งหมิงที่เป็นถึงประธานาธิบดี เธอคิดว่าคนทั่วไปสามารถทำอะไรแบบนี้ได้งั้นเหรอ” 
 
 
เขาทำเสียงราวกับเป็นเรื่องใหญ่โตทีเดียว นี่พวกเขาเป็นพี่น้องกันไม่ใช่หรือไงนะ 
 
 
หลินเช่อทำเสียงพ่นลมพรืดใหญ่ แต่เมื่อได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อทำเอียงคอรอท่าที่จะรับบริการจากเธอ หญิงสาวก็ทำได้เพียงแค่บังคับตัวเองให้เดินอ้อมไปด้านหลังของเขา 
 
 
เธอวางมือลงบนไหล่เขา 
 
 
ช่วงไหล่ของกู้จิ้งเจ๋อนั้นทั้งกว้างทั้งใหญ่ เมื่อเลื่อนมือไปบนเนื้อผ้า เธอก็สัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อข้างใต้นั้นและใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกดเฟ้นลงไป 
 
 
โดยไม่ทันระวังตัว กู้จิ้งเจ๋อกลับถอดเสื้อเชิ้ตออกเสียอย่างนั้น เผยให้เห็นร่างกายที่ได้สัดส่วนอันสมบูรณ์ ช่วงลำตัวที่เป็นรูปสามเหลี่ยมกลับหัวนั่นทำเอาคนมองเลือดกำเดาแทบไหลได้เลยทีเดียว 
 
 
หัวใจของหลินเช่อเริ่มเต้นผะผ่าว แม้ตาจะจับจ้องอยู่ที่ด้านหลังของศีรษะ แต่ว่าความคิดเธอกลับเลื่อนลอยไปไกล 
 
 
เธอนึกสงสัยว่าเขาใช้แชมพูอะไร เส้นผมถึงทั้งดำทั้งหนา สะอาดและกลิ่นหอมขนาดนี้ 
 
 
พูดตามตรงเถอะ ผู้ชายคนนี้ดูดีไม่ว่าจะมองจากมุมไหนจริงๆ 
 
 
แม้แต่หลังศีรษะแบบนี้ยังดูดีเลย 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อพูดขึ้น “เอ้านวดต่อสิ หยุดทำไมล่ะ” 
 
 
หลินเช่อหลุดจากภวังค์ นี่แค่เห็นด้านหลังของหัวเขาก็ทำเอาเธอเป็นไปได้ขนาดนี้เชียวเหรอ 
 
 
หญิงสาวรีบนวดต่อและพูดว่า “ไหล่คุณตึงจัง ช่วงนี้งานเยอะเหรอคะ” 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ก็ใช่น่ะสิ ในฐานะสามี ฉันต้องแบกรับภาระของทุกคนในครอบครัวเอาไว้นะ จะไม่ให้หลังขดหลังแข็งขนาดนี้ได้ยังไงล่ะ” 
 
 
หลินเช่อหัวเราะออกมาเสียงดัง 
 
 
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อได้ยินเธอหัวเราะ เขาก็พลอยหัวเราะตามไปด้วย 
 
 
มือเล็กๆ ของเธอแทบไม่มีเรี่ยวแรงใดๆ เมื่อเจ้าตัวพยายามกดลงไป เขาก็รู้สึกได้แหละว่าเธอพยายามอย่างสุดแรงแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยให้เขาได้ผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้เขายิ่งรู้สึกแข็งตึงยิ่งกว่าเดิม 
 
 
เพราะมือเล็กๆ ไร้เรี่ยวแรงนั่นแหละ ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ 
 
 
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่อยากให้เธอหยุด แรงบีบเฟ้นเบาๆ แบบนี้ทำให้คนถูกนวดยิ้มออกมาและบอกว่า “เอาละ ในเมื่อเธอมีความจริงใจ ไหนส่งโทรศัพท์ฉันมาซิ” 
 
 
เมื่อเห็นกู้จิ้งเจ๋อยอมแล้ว หลินเช่อก็รีบส่งโทรศัพท์ให้โดยเร็ว 
 
 
เขาต่อสายแต่ไม่ติด 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อบ่นพึมพำ “คงจะยุ่งอยู่” 
 
 
หน้าเล็กๆ ของหลินเช่อมีแววสลด 
 
 
เมื่อได้เห็นสีหน้าเป็นกังวลของเธอ เขาก็ไม่อยากทำให้เธอไม่สบายใจ “เดี๋ยวฉันลองโทรหาเลขาเขาก็แล้วกัน” 
 
 
“อา จริงเหรอคะ คุณใจดีจังค่ะ กู้จิ้งเจ๋อ” คนได้ยินหน้าบานขึ้นมาทันควัน 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อยิ้ม เขาหยิบโทรศัพท์แล้วลองต่อสายใหม่อีกครั้ง 
 
 
คราวนี้ติดแล้ว 
 
 
“ฉันโทรหาท่านประธานาธิบดีไม่ติดน่ะ เขายุ่งอยู่เหรอ” 
 
 
ใครบางคนจากปลายสายตอบกลับมาเบาๆ ว่า “คุณชายรอง ท่านประธานาธิบดีเข้านอนแล้วครับ” 
 
 
“นอนแล้วเหรอ” 
 
 
“ใช่ครับ” 
 
 
“อ้อ โอเค งั้นช่วยเช็กให้หน่อยสิว่าวันนี้พวกนายมีใครจับตัวผู้หญิงเมาได้บ้างมั้ย” 
 
 
“ไม่มีนะครับ คุณชายรอง” 
 
 
“งั้นก็ดี ฝากความคิดถึงให้ท่านประธานาธิบดีด้วยนะ” 
 
 
“ครับคุณชายรอง ผมจะรีบแจ้งให้ท่านทราบเป็นเรื่องแรกพรุ่งนี้เลย มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ยครับท่าน” 
 
 
“แค่นี้แหละ” 
 
 
เขาวางโทรศัพท์และหันมาหาหลินเช่อผู้ซึ่งกำลังจดจ่อรอฟัง และบอกว่า “พวกเขาไม่ได้จับตัวใครไว้เลยนะวันนี้ สบายใจเถอะ ผู้จัดการของเธอคงจะกลับบ้านไปแล้วละ” 
 
 
หลินเช่อถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ฉันละกลัวแทบแย่แน่ะค่ะ คิดว่าฉันคงจบเห่แน่ถ้าเธอไปทำอะไรที่เป็นการล่วงเกินท่านประธานาธิบดีเข้าน่ะ” 
 
 
กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะ “นี่เธอกลายเป็นยัยขี้กลัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทีกับฉันเห็นกล้าไปหมด แต่กลับมากลัวประธานาธิบดีเนี่ยนะ” 

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset