เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 186 จะอิจฉาแม่ของตัวเองไปทำไม

หลินลี่เงยหน้าขึ้นและได้เห็นฉินชิง หญิงสาวจึงใช้น้ำเสียงชวนให้สงสารว่า “ฉินชิงคะ หลินเช่อน่ะทำเกินไปมากเลยนะคะ พอคบหากับกู้จิ้งเจ๋อ หล่อนก็เริ่มมาหาเรื่องฉัน นี่วันนี้ฉันโดนเธอทำให้ต้องถูกไล่ออกจากห้างสรรพสินค้า มันน่าอายมาก หล่อนกล้าทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง ฉันเป็นพี่สาวนะ”  
 
 
ฉินชิงขมวดคิ้วพลางมองหน้าหลินลี่ “ไม่หรอก หลินเช่อไม่ใช่คนแบบนั้นซักหน่อย จะต้องมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันแน่ๆ”  
 
 
หลินลี่ผงกหัวขึ้นอย่างขัดใจ “ไม่เข้าใจผิดแน่นอนค่ะ ฉันไปกับพวกเพื่อนๆ แล้วเราทุกคนก็ถูกไล่ตะเพิดออกมา เพื่อนฉันเป็นพยานได้นะคะ”  
 
 
“พวกเพื่อนๆ เธอก็ไม่ใช่คนดีกันนักหรอก เธอไปคบหากับพวกนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”  
 
 
“อะไรนะคะ” หลินลี่มองหน้าฉินชิง “นี่เดี๋ยวนี้คุณแก้ตัวแทนนังหลินเช่อแล้วเหรอ”  
 
 
“ฉันไม่ได้แก้ตัวแทนใคร ฉันแค่รู้จักหลินเช่อดีและเขาไม่ใช่คนแบบนั้น”  
 
 
“แปลว่าคุณกำลังจะบอกว่าฉันเป็นคนแบบนั้นอย่างงั้นเหรอคะ” หลินลี่ไม่ยอมลดราวาศอก  
 
 
ฉินชิงมองหน้าหญิงสาวคนรักและหันหลังเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไร  
 
 
หลินลี่วิ่งไล่ตามไปด้วยความโมโห “ฉินชิง พูดออกมาให้ชัดๆ สิคะ ตกลงคุณหมายความว่ายังไง หมายความว่ายังไงกันแน่คะ คุณ…”  
 
 
“หลินลี่” ทันใดนั้นฉินชิงก็หันกลับมา ริมฝีปากของเขาขยับช้าๆ เมื่อเอ่ยคำพูดที่เจ้าตัวเองก็อยากจะพูดออกมานานแล้วว่า “หลินลี่ ยกเลิกการแต่งงานของเราเถอะ ฉันคิดว่าฉันคงแต่งงานกับเธอไม่ได้อีกแล้วละ”  
 
 
หลินลี่หน้าเสียทันควัน  
 
 
“คุณ…คุณว่าอะไรนะคะ”  
 
 
เพียงเท่านั้น ฉินชิงก็เดินออกจากบ้านตระกูลหลิน หลินลี่ไล่ตามอย่างไม่ยอมแพ้ “ฉินชิง ฉันไม่ยอมให้ยกเลิกงานแต่งหรอกนะ ไม่ยอม”  
 
 
“พอทีเถอะหลินลี่ ฉันตัดสินใจแล้ว ไม่มีอะไรต้องพูดอีก”  
 
 
“คุณ…นี่คุณแบบนี้เพราะหลินเช่อเหรอ” หลินลี่มองเขาอย่างเคียดแค้น  
 
 
ฉินชิงชะงักฝีเท้า เมื่อนึกถึงหลินเช่อ ใบหน้าของเขาก็ระบายไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอันไม่อาจอธิบายได้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินต่อไปโดยไม่ยอมพูดอะไรอีก  
 
 
หลินลี่ยืนเกรี้ยวกราดอยู่ตรงนั้น นังสารเลวหลินเช่อ ทำไมผู้ชายทุกคนถึงได้สนใจนังลูกนอกคอกนั่นกันนักนะ เธอไม่เชื่อเลยซักนิดว่าคนอย่างหลินเช่อจะมีเสน่ห์อะไรมัดใจชายได้ หลินเช่อ…ฉันจะต้องทำให้แกตายคามือให้จงได้…  
 
 
อีกด้านหนึ่ง  
 
 
หลินเช่อและมู่หว่านฉิงที่ช้อปปิ้งเสร็จก็ออกเดินทางกลับบ้าน  
 
 
หลินเช่อไม่คาดคิดมาก่อนว่ามู่หว่านฉิงจะต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ หญิงสาวจึงรู้สึกผิดต่อเธอเป็นอย่างมาก  
 
 
แต่มู่หว่านฉิงกลับดูร่าเริงเป็นปกติ เธอกวาดสายตามองดูข้าวของที่ซื้อมาและพูดว่า “ดูเหมือนว่าฉันควรจะหัดออกมาข้างนอกให้บ่อยขึ้นนะจ๊ะ ช้อปปิ้งนี่มันสนุกจริงๆ เช่อน้อย ถ้าว่างเมื่อไหร่อย่าลืมพาฉันออกมาช้อปปิ้งอีกนะจ๊ะ”  
 
 
“ได้เลยค่ะ ถ้าว่างเมื่อไหร่หนูจะมาเป็นเพื่อนเอง…แต่ว่าวันนี้โชคร้ายไปหน่อย ก็เลยทำให้คุณแม่ต้องมาเจอคนพูดจาไม่ดีใส่แบบนี้ หนู…” หลินเช่อก้มหน้าเมื่อพูดกับแม่สามี  
 
 
มู่หว่านฉิงรีบบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ มันจะเป็นความผิดของเธอไปได้ยังไงกันล่ะจ๊ะ เธอเองต่างหากที่เป็นคนโดนกระทำน่ะ พี่สาวเธอทำกับเธอแบบนี้ กู้จิ้งเจ๋อน่าจะได้เจอเธอเร็วกว่านี้หน่อย เธอจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอยู่กับพวกเขานานนัก”  
 
 
หลินเช่อมองหน้าหญิงชราอย่างซาบซึ้งใจ มู่หว่านฉิงช่างดีกับเธอเสียเหลือเกิน  
 
 
ความคิดนี้ทำให้หลินเช่อรู้สึกว่าเธอกำลังจะต้องทำให้มู่หว่านฉิงต้องผิดหวัง  
 
 
ถ้าหากว่าเธอและกู้จิ้งเจ๋อต้องหย่าขาดจากกันขึ้นมาในวันหนึ่ง ทั้งเธอและมู่หว่านฉิงคงจะต้องเสียใจไม่น้อยแน่  
 
 
หลินเช่อดึงแขนหญิงสูงวัยกว่าและเอนตัวลงซบไหล่เธอ “คุณแม่ขา คุณแม่ดีกับหนูเหลือเกิน ดีเสียจนหนูคงทนไม่ได้ถ้าต้องไปจากคุณแม่เข้าซักวัน”  
 
 
มู่หว่านฉิงปล่อยให้หญิงสาวอิงซบตามสบายและหัวเราะเสียงดัง พลางลูบไหล่อย่างปลอบโยนว่า “เด็กโง่ เธอแต่งงานเข้าตระกูลเรามาแล้ว ก็เท่ากับว่าเธอเป็นลูกสาวของบ้านเรา เธอจะจากเราไปไหนได้อีกล่ะจ๊ะ”  
 
 
นับแต่วัยเด็กมา หลินเช่อไม่เคยได้สัมผัสกับความอบอุ่นของครอบครัวมาก่อน และเธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะได้รับสิ่งนั้นเป็นครั้งแรกจากครอบครัวนี้ นั่นทำให้หญิงสาวทำใจไม่ได้จริงๆ หากจะต้องจากไป  
 
 
เธอหันหน้าไปหัวเราะและไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป เพียงแต่บอกกับมู่หว่านฉิงว่า “คุณแม่คะ วันนี้คุณแม่ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ หนูไม่ได้รู้สึกดีขนาดนี้มาตั้งนานแล้ว ได้เห็นหลินลี่ถูกไล่ออกไปแบบนั้น มันสะใจที่สุดเลยละค่ะ”  
 
 
มู่หว่านฉิงได้ยินก็พยักหน้ารับ “ใช่ ใช่ ฉันไม่ได้รับมือคนแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะสนุกขนาดนี้”  
 
 
ผู้หญิงทั้งสองยังคงพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่พวกเธอจัดการหลินลี่กับเพื่อนอย่างออกรส ยิ่งได้เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายก็ยิ่งรู้สึกสนุก จึงพากันเดินคุยและหัวเราะไม่ขาดปากจนกระทั่งกลับมาถึงบ้านตระกูลกู้  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อที่กำลังพักผ่อนอยู่ได้ยินเสียงพูดคุยดังมาแต่ไกลจนชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้  
 
 
เขาเดินออกมาและได้เห็นสตรีทั้งสองที่หัวเราะต่อกระซิกกันราวกับคู่แม่ลูกทั่วไป หนำซ้ำยังตัวติดกันจนแทบจะกลายเป็นร่างเดียวอีกต่างหาก  
 
 
หลินเช่อคนนี้นี่…  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อไม่อยากเชื่อเลยว่ายัยผู้หญิงเอะอะมะเทิ่งพูดจากเสียงดังสนั่นคนนี้จะเข้ากันได้ดีเหลือเกินกับคนในครอบครัวของเขา  
 
 
ตอนที่เธอแต่งงานเข้ามาใหม่ๆ เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะมีคนในครอบครัวของเขาที่จำเธอได้ เธอน่าจะเป็นเพียงผู้หญิงที่ทุกคนมองดูอย่างผ่านๆ ไม่ใส่ใจ และปฏิบัติต่อเธอเป็นเหมือนเพียงผู้หญิงที่ถูกขอร้องให้มาแต่งงานกับเขาเท่านั้น  
 
 
แต่เมื่อกู้จิ้งเจ๋อได้เห็นหลินเช่อและมารดาของตัวเองสนิทสนมกลมเกลียวกันเช่นนี้ ก็ทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธได้ ว่าหลินเช่อได้เอาชนะในคนในบ้านตระกูลกู้ได้ทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเด็กหรือแก่  
 
 
ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายัยผู้หญิงบื้อคนนี้มีดีอะไรกันแน่  
 
 
หรือบางทีคนซื่อบื้ออย่างหล่อนอาจจะมีโชคอย่างโง่ๆ ในเรื่องนี้  
 
 
กู้จิ้งเจ่อสาวเท้ายาวๆ เดินออกมา “แม่ครับ นี่ไปไหนกันมาน่ะ”  
 
 
มู่หว่านฉิงเงนหน้าขึ้นมองและยิ้มจนตาหยีเมื่อตอบว่า “เราไปช้อปปิ้งเสื้อผ้ากันมาน่ะจ้ะ โอ๊ย ห้างสรรพสินค้าเดี๋ยวนี้เขาทันสมัยดีจัง มีสารพัดอย่างแม้กระทั่งอาหาร สนุกมากทีเดียวจ้ะ”  
 
 
“ใช่ค่ะ คุณแม่คะ แล้วที่กินไอศกรีมไปเป็นยังไงบ้างคะเนี่ย หนูกลัวว่ามันจะไม่สะอาดเท่าไหร่”  
 
 
“ไม่เป็นไรเลยจ้ะ ฉันไม่เป็นอะไรซักนิด นานๆ ได้กินของอร่อยทีก็ไม่เสียหายหรอกน่ะ”  
 
 
“เฮ้ หนูซื้อมาใส่ตู้เย็นเพิ่มเอาไว้ด้วยนะคะ พอกินไปได้อีกสองสามวันเลยละค่ะ”  
 
 
“จ้ะ เธอจะแบ่งเอากลับบ้านไปบ้างก็ได้นะจ๊ะ”  
 
 
“ได้ค่ะ หนูจะแบ่งไปด้วยตอนกลับไป”  
 
 
“เอ๊ แล้วนี่ทำไมไม่อยู่ต่ออีกซักสองสามวันล่ะ”  
 
 
“คุณแม่ขา เราอยู่ใกล้แค่นี้เอง เดี๋ยวอีกสองสามวันหนูก็มาเยี่ยมอีกนะคะ”  
 
 
“นั่นสินะ ถ้าว่างก็มานะจ๊ะ”  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อมองผู้หญิงสองคนพูดคุยกันด้วยสีหน้าบูดบึ้งก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณแม่ครับ นี่คุณแม่ไปหลงผิดกับยัยบื้อนี่เข้าแล้วหรือไงครับนี่”  
 
 
มู่หว่านฉิงถาม “หลงผิดอะไรกันจ๊ะ ก็ลูกน่ะยุ่งกับงานของตัวเองอยู่ตลอดเวลา หลินเช่อก็เลยไปซื้อของเป็นเพื่อนแม่เท่านั้นเอง ดีออกจะตายที่ลูกสาวไว้คอยไปไหนมาไหนด้วยน่ะ พี่สาวของลูกก็ไม่ค่อยจะกลับมาจากต่างประเทศแล้วนี่นา”  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อมองคนทั้งสองแล้วก็อดรู้สึกอิจฉาขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้  
 
 
ทีกับคนอื่นแล้ว หลินเช่อจะทั้งใจดี อบอุ่นและโอนอ่อนผ่อนตาม  
 
 
แต่ทีกับเขา เธอกลับบ่ายเบี่ยง เลี่ยงโน่นเลี่ยงนี่ หรือบางทีก็ทำเฉยใส่เขาไปเลยดื้อๆ ก็มี  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อตำหนิขึ้นว่า “หลินเช่อ ทีเวลาอยู่กับฉันไม่เห็นเธอจะทำหน้าระรื่นแบบนี้เลย”  
 
 
หลินเช่อหันขวับไปมองคนพูด “ก็ดูตัวคุณสิคะว่าน่าเบื่อแค่ไหน ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวอะไร ไม่เคยเล่นสนุกอะไรกับใครเขาเลย แล้วจะให้ฉันหน้าระรื่นเวลาอยู่กับคุณได้ยังไง”  
 
 
“…” กู้จิ้งเจ๋อยิ่งหน้าบูดหนักขึ้นไปอีก  
 
 
มู่หว่านฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงกระแซะขึ้นว่า “นี่ก็จะหวงเมียตัวเองไปถึงไหน หลินเช่อแค่ออกไปกับแม่แค่นี้ก็จะมาอิจฉาซะอีกแน่ะ เอาน่า ยังไงลูกสองคนก็ยังใกล้ชิดกันที่สุดอยู่ดีนั่นแหละ แม่แค่สนุกที่ได้อยู่กับหลินเช่อแค่นั้นเอง”  
 
 
อิจฉาเหรอ เขาเนี่ยนะอิจฉา  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อหน้าตูมขึ้นมาอีกรอบ  
 
 
นี่เขาโกรธรึนี่ เขาอิจฉากระทั่งแม่ของตัวเองนี่นะ  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกว่าสิ่งที่เคยเป็นของเขา บัดนี้มีคนอื่นมาแบ่งปันไป และสำหรับหลินเช่อแล้ว เขามีความรู้สึกพิเศษบางอย่างที่ทำให้เขาไม่อยากจะแบ่งปันเธอกับใครหน้าไหนทั้งสิ้น  

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset