เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 251 ฉันต้องออกแรงอยู่คนเดียวทุกครั้งเลย

ถ้าเป็นแบบนี้ คงจะมีสาวๆ อีกเพียบแน่ที่อยากจะโดนเขาตรวจร่างกาย
 
 
หลินเช่อรู้สึกได้ว่าริมฝีปากเขากำลังบดคลึงลงมา ทิ้งไว้แต่ความหนึบชาและพร่าพรายในหัวเธอ
 
 
ภายใต้ความยั่วเย้าของเขา หญิงสาวลืมทุกอย่างไปจนหมดสิ้น จำได้แต่เพียงการถูกโอบรัดไว้ในอ้อมแขนของเขา เธอหลับตาลงและสัมผัสถึงความดุดันระคนนุ่มนวลที่กำลังได้รับ
 
 
มันช่างน่าตื่นเต้นเสียจริง
 
 
เธอเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง นี่เธอมาพบอสูรตนนี้และติดอยู่ในกับดักของเขาได้ยังไงกันนะ เธอไม่อาจถอยหนีไปจากเขาได้เลย
 
 
จนผ่านไปเป็นครู่นั่นแหละ เขาจึงยอมปล่อยเธอ เขาก้มลงมองเนื้อผ้าของหลินเช่อและจับคอเสื้อเธอให้เข้าท่า ใช้ปลายนิ้วของตัวเองปาดเช็ดความฉ่ำเยิ้มที่ติดอยู่กับริมฝีปากเธอให้
 
 
หลินเช่อยังคงไม่ได้สติและกำลังหอบหายใจ เธอเงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
 
 
ชายหนุ่มยิ้มร้ายแล้วสั่งว่า “เอาละได้ ลุกขึ้น เรามีเรื่องต้องไปทำนะ” เขาชะโงกเข้ามาใกล้หูเธอและพูดหน้าตาเฉยว่า “ฉันรู้ว่าเธอยังไม่หนำใจ เอาไว้เราค่อยเป็นค่อยไปกันตอนกลับถึงบ้านคืนนี้ก็แล้วกันนะ”
 
 
หลินเช่อกะพริบตา กว่าจะมีสติเข้าใจได้ในที่สุดว่าอีกฝ่ายเพิ่งพูดอะไรออกมา หญิงสาวก็สะดุ้งโหยง
 
 
“อีตาบ้ากู้จิ้งเจ๋อ ใครต้องการคืนนี้กันไม่ทราบ…”
 
 
เธอลืมแผลที่ขาไปสนิท จึงร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด
 
 
กู้จิ้งเจ๋อนิ่วหน้าและรีบเข้ามาช่วยพยุง “ยัยซุ่มซ่ามเอ๊ย โง่จริงเชียว”
 
 
“ความผิดคุณนั่นแหละ”
 
 
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอก็คงไม่ต้องวิ่งหนีแล้วตาเธอก็จะต้องมองดูถนน
 
 
“ทำไมกลายเป็นความผิดฉันไปได้ล่ะเนี่ย นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันเคยเห็นคนเดินอยู่เฉยๆ ก็ล้มโครมลงไปเองได้น่ะ”
 
 
เขาช่วยพยุงเธอกลับมาที่รถ อดคิดไม่ได้ว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ซื่อบื้อถึงขนาดนี้ ถ้าเกิดเขาไม่คอยดูเธอให้ดี เธออาจจะเดินหลงทางหายไปได้ในซักวัน
 
 
ด้านนอกรถ บรรดาบอดี้การ์ดมองเห็นแล้วว่าสองหนุ่มสาวจัดการญาติดีกันเป็นที่เรียบร้อย ด้วยความเป็นมืออาชีพ ทำให้พวกเขาทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและกลับเข้าประจำตำแหน่งโดยเร็ว ผู้โดยสารกลับเข้าที่ และคนขับก็ออกรถ
 
 
ขบวนรถที่มุ่งหน้าต่อไปยังโรงพยาบาลเอกชนนั้นทำให้หลายคนมองดูด้วยความอิจฉาปนทึ่งจัด
 
 
ไม่ช้าทั้งหลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อก็มาถึงโรงพยาบาล
 
 
นายแพทย์เตรียมการอย่างดีที่สุดรออยู่แล้วในวอร์ดด้านบน แม้ว่ายายของหลินเช่อจะผ่านการตรวจร่างกายจากที่อื่นมาแล้ว แต่ที่นี่ก็ยังเตรียมพร้อมที่จะตรวจเช็กส่วนอื่นๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ด้วย
 
 
กู้จิ้งเจ๋อเดินตามหลังเฉียวเจี่ยน
 
 
ชิวซูอวิ๋นเมื่อเห็นทั้งสองเดินเข้ามาก็ถามด้วยความแปลกใจ “เสี่ยวเช่อ เกิดอะไรขึ้นกับเธอสองคนหรือเปล่า ทำไมถึงได้มาถึงช้านักล่ะ”
 
 
เมื่อหลินเช่อนึกถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ก่อน หัวใจเธอยังคงเต้นแรง ริมฝีปากก็ยังบวมเป่ง เธอไม่รู้เหมือนกันว่าคนอื่นจะดูออกหรือเปล่า
 
 
“หนะ หนะ หนู…”
 
 
เมื่อเห็นหลินเช่อตะกุกตะกัก ชายหนุ่มก็เหลือบมองเธอและตอบแทนว่า “เขาซุ่มซ่ามน่ะครับ ตอนที่กำลังเดินออกจากโรงพยาบาลก็เลยหกล้มจนเจ็บขา ผมช่วยทำความสะอาดแผลแล้วก็ปลอบให้ระหว่างทางที่มาแล้ว”
 
 
ปลอบ…
 
 
ขณะที่พูดเขาก็หันมายิ้มให้ ดวงตาเป็นประกายวิบวับ
 
 
มันน่าลากไปบีบคอนักเชียว เขามองไปข้างหน้าด้วยท่าทีเป็นปกติ และไม่สนใจด้วยว่าหลินเช่อจะจ้องเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อจนลูกกะตาจะหลุดออกมาแค่ไหน
 
 
คุณยายได้ฟังก็พยักหน้า “เข้าใจละ ทำอะไรไม่ระวังเลยนี่น้า เสี่ยวเช่อ แต่แม่ของเราก็เป็นแบบนี้เปี๊ยบเลยละ ตอนยังเด็กๆ เขาก็มักจะกลับมาบ้านพร้อมแผลเต็มตัวไปหมดไม่ว่าจะไปที่ไหนมา”
 
 
ได้ยินผู้เป็นยายพูดถึงแม่ผู้ล่วงลับไปแล้วทำให้หญิงสาวสะดุดใจ
 
 
หญิงชราครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งราวกับกำลังพยายามรำลึกถึงบุตรสาวของเธอ ก่อนที่เธอจะหัวเราะและเงยหน้าขึ้นพูดว่า “ดูยายสิ คิดอะไรฟุ้งซ่านอีกแล้ว เอาละ เสี่ยวเช่อ ที่นี่คือที่ไหนกันล่ะจ๊ะ”
 
 
หลินเช่อตอบ “โรงพยาบาลน่ะค่ะ”
 
 
คุณยายถามอย่างแปลกใจ “นี่คือโรงพยาบาลหรอกรึ ทำไมถึงได้ใหญ่โตอย่างนี้ล่ะ”
 
 
ด้วยฐานะของเธอแล้ว โรงพยาบาลคือสถานที่อันสับสนวุ่นวาย แออัดเบียดเสียดไปด้วยผู้คนมหาศาล บรรดาหมอในชุดขาวก็พากันวิ่งวุ่นหัวหมุน บรรยากาศก็สกปรกน่ารังเกียจ ฉุนกึกไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อปะปนไปด้วยกลิ่นคนป่วยที่มักจะเหม็นติดตัวทุกครั้งที่ไปเยือน เธอจำได้ดีว่ามันยากขนาดไหนที่จะชำระล้างกลิ่นเหล่านี้ออกจากตัว
 
 
แต่ที่นี่กลับสะอาดสะอ้าน พื้นไม่มีร่องรอยสกปรกให้เห็นแม้ซักจุด ผู้คนก็ไม่มีให้เห็น ไม่มีกลิ่นไอของความสกปรกใดๆ ทั้งสิ้น
 
 
หลินเช่อไม่ได้บอกหญิงชราว่านี่คือโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุดของเมืองเอส บุคลากรทุกคนที่นี่ล้วนเป็นนายแพทย์ชาวต่างชาติ แม้แต่หมอผ่าตัดก็เป็นคนต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญอย่างยิ่ง
 
 
แน่ละว่าราคาค่าใช้จ่ายก็พิเศษตามไปด้วย
 
 
ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชนสุดหรู และดูเหมือนทุกอย่างจะได้รับการเตรียมการเป็นพิเศษสำหรับเธอ
 
 
หลินเช่อหันไปมองชายหนุ่มอย่างซาบซึ้งในความช่วยเหลือของเขา เธอยื่นหน้าเข้าไปบอกกับยายว่า “มีบางคนที่หนูรู้จักช่วยเหลือให้ได้เข้ามาที่นี่น่ะค่ะ ทีมแพทย์ของที่นี่ก็ดีกว่าเยอะเลยด้วย”
 
 
“จริงเหรอเสี่ยวเช่อ หลานรู้จักคนที่สามารถทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอจ๊ะ”
 
 
แน่ละ กู้จิ้งเจ๋อคือคนนั้นที่เธอรู้จัก แล้วเขาก็ทำได้ทุกอย่างเลยด้วย
 
 
“ใช่ค่ะ เขาสามารถมาก คุณยายคะ อย่าห่วงไปเลยนะคะ ยายไม่ต้องจ่ายเงินเลยแม้แต่หยวนเดียว”
 
 
“โอ ตายจริง ยายแค่อยากจะขอเงินค่ารถจากหลานเพื่อที่จะได้กลับบ้านเท่านั้นเอง”
 
 
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณยายจะต้องทำการผ่าตัดเล็กๆ ที่นี่ หนูจะต้องทำให้ยายหายดีให้ได้”
 
 
“อะไรนะ”
 
 
หลินเช่อเกรงว่าหญิงชราจะเป็นกังวล เธอจึงอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าตัดให้หล่อนฟัง มันเป็นการผ่าตัดเล็กๆ และไม่ได้ทำให้เกิดบาดแผลขนาดใหญ่
 
 
คุณยายได้ฟังแล้วก็สบายใจขึ้น
 
 
เธอมองดูหลินเช่อ และเหลือบมองไปยังกู้จิ้งเจ๋อที่อยู่ถัดไปทางด้านหลัง “เสี่ยวเช่อ ได้เห็นหลานแต่งงานไปกับคนดีๆ แบบนี้ยายก็เบาใจ หลานจะต้องดูแลครอบครัวให้ดีๆ นะ การเป็นภรรยาคนอื่นกับการใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังคนเดียวน่ะมันไม่เหมือนกันเลย หลานจะต้องขยันทำงานให้หนักแล้วก็หาเงินให้มากกว่าเดิม”
 
 
หลินเช่อเห็นด้วยกับยายของเธอ แล้วเธอก็ได้ยินกู้จิ้งเจ๋อพูดขึ้นจากด้านหลังว่า “คุณยายนี่สุดยอดไปเลยนะ เธอได้ยินรึเปล่า เธอได้แต่งงานกับคนดีๆ แล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปเธอจะต้องเห็นคุณค่าให้มากๆ อย่าขี้โมโหให้บ่อยนัก”
 
 
“นี่คุณ…”
 
 
หลินเช่อหันมาจ้องเขาตาเขียว
 
 
แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่าเมื่อมีผู้เป็นยายอยู่ หลินเช่อย่อมไม่กล้าพูดอะไรมาก เขาจึงไม่สนใจสายตาของเธอ
 
 
คุณยายก็พลอยเออออ “ใช่แล้วละ ตอนนี้หลานเป็นภรรยาเขาแล้ว อย่าไปทำให้เขาโกรธล่ะ ผู้ชายน่ะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แค่นั้นก็เหนื่อยจะแย่แล้ว”
 
 
หลินเช่อจ้องไปชายหนุ่มอย่างไม่ลดละ
 
 
กู้จิ้งเจ๋อยืนอยู่ข้างเธอแต่ก็ก้มลงกระซิบที่ข้างหูหญิงสาวว่า “เธอยังจะกล้าจ้องหน้าฉันอีกหรือไง คุณยายเธอน่ะพูดถูกแล้วนะ ฉันน่ะต้องออกแรงอยู่คนเดียวทุกวัน ส่วนเธอน่ะไม่เคยทำอะไรเลย เอาแต่ตักตวงความสุข”
 
 
คุณยายเข้าใจว่ากู้จิ้งเจ๋อพูดถึงความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานของเขา
 
 
แต่หลินเช่อรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้น…มันหมายถึงเรื่องบนเตียงล้วนๆ เลยต่างหากล่ะ…
 
 
หลินเช่อคิดว่ามันออกจะเป็นเรื่องบ้าบออยู่มากที่กู้จิ้งเจ๋อจะประพฤติตนเป็นคนอันธพาลแบบเปิดเผยขนาดนี้
 
 
ทางด้านชายหนุ่มเองก็รู้อยู่เหมือนกันว่าเขากำลังเล่นกับไฟ เขามองดูใบหน้าแดงก่ำและเอียงอายของหลินเช่อแล้วก็ตัดสินใจว่า จะแกล้งเธอให้หนักขึ้นไปอีก
 
 
การได้แกล้งหลินเช่อเป็นเรื่องสนุก
 
 
“ถ้างั้นหลานก็ทำตัวไม่ถูกแล้วละนะ เสี่ยวเช่อ ต่อไปหลานต้องทำตัวกระตือรือร้นให้มากกว่านี้ล่ะ” คุณยายอบรม
 
 
คิ้วของหญิงสาวแทบจะขมวดเป็นปม เธออยากอธิบายใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset