เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 300 นี่เธอไม่อยากให้ฉันอยู่ขนาดนี้เชียวหรือ

กู้จิ้งเจ๋อเงยหน้าขึ้นและตอบว่า “ที่บ้านเรามีคนอื่นอยู่กันหลายคนน่ะครับ เราก็เลยต้องฆ่าเชื้ออาหาร แต่นี่มีแต่ครอบครัวเราเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราก็กินกันโดยไม่ต้องฆ่าเชื้อได้ คุณยายไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกนะครับ ผมไม่เป็นไรจริงๆ”
 
 
คุณยายตอบ “ตกลงจ้ะ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะฉะนั้นถ้าเธอมีอะไรอึดอัดใจละก็ ขอให้บอกฉันนะ”
 
 
“ไม่ครับ ผมสบายดีมาก คุณยายไม่ต้องเป็นห่วง”
 
 
กู้จิ้งเจ๋อยกชามข้าวขึ้นและเริ่มลงมือกิน
 
 
เนื่องจากชายหนุ่มมาถึงอย่างกะทันหัน ทำให้คุณยายไม่มีเวลาที่จะตระเตรียมข้าวของเครื่องใช้ใหม่ให้ ทั้งชามและตะเกียบจึงเป็นของเก่าคร่ำคร่า เธอสามารถมองเห็นรอยแตกลายและรอยบิ่นที่ด้านข้างของถ้วยได้ชัดเจน เธอรู้ดีว่ากู้จิ้งเจ๋อไม่มีถ้วยชามแบบนี้ในบ้านของเขา
 
 
แต่ชายหนุ่มกลับดูไม่ใส่ใจ เขายังคงรับประทานอาหารอย่างเรียบร้อยพลางเอ่ยชมกับข้าวไม่ขาดปาก เขาบอกว่า “คุณยายทำอาหารอร่อยจริงๆ ครับ”
 
 
“โอ๊ยตายจริง ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้ะ ไม่อร่อยเท่าพวกพ่อครัวมืออาชีพทำหรอก”
 
 
“ไม่เลยครับ มันอร่อยกว่าเชฟทำเสียอีก พวกเขาทำอาหารจนเคยมือซะจนทำให้ทุกอย่างรสชาติเหมือนกันไปหมด ไม่มีความรักเหมือนที่มีอยู่ในอาหารของคุณยาย”
 
 
“ดูเข้าเถอะ จิ้งเจ๋อนี่เข้าใจพูดซะจริง ยายดีใจที่ได้ยินแบบนั้น ถ้าชอบก็กินอีกเยอะๆ นะจ๊ะ”
 
 
หลินเช่อหัวเราะแล้วหยิบชามของตัวเองขึ้นมาบ้าง คนทั้งสามนั่งรับประทานกับข้าวธรรมดาๆ ร่วมกัน หลินเช่อกินเร็วเหมือนเคย คุณยายนั่งมองคนทั้งคู่ที่กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็รู้สึกได้ว่า อยู่ๆ บ้านก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเดิม จนเธอรู้สึกเป็นสุขหัวใจ
 
 
ท่าทางของกู้จิ้งเจ๋อนั้นยังคงดูสง่างามเช่นเคยไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน แม้ว่าจะถือชามเก่าๆ บิ่นๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาดูแย่หรือซอมซ่อลงไปได้เลยแม้แต่น้อย ดูสูงศักดิ์ราวกับเจ้าชายอย่างไรก็อย่างนั้น พร้อมด้วยรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้า เขาเคี้ยวอาหารช้าๆ นิ้วเรียวยาวจับประคองตะเกียบเอาไว้ การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้า ไม่เร่งร้อน และไม่ดูประดักประเดิดแม้แต่น้อย
 
 
เมื่อรับประทานกันเสร็จ พระอาทิตย์ก็ตกดินไปแล้ว ท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าก็เริ่มมืดลง
 
 
คุณยายจัดการเก็บโต๊ะ หลินเช่อรีบเข้าช่วย กู้จิ้งเจ๋อมองสำรวจไปรอบบ้าน
 
 
คุณยายมองชายหนุ่มแล้วก็ยิ้ม ก่อนจะถามคำถามที่เธออยากถามมาตั้งแต่แรกว่า “เอาละ จิ้งเจ๋อ เธอมาพาหลินเช่อกลับบ้านใช่มั้ย”
 
 
กู้จิ้งเจ๋อเงยหน้ามองคุณยาย
 
 
คุณเหลือบมองหลินเช่อด้วยสายตาที่ไม่อยากให้ผู้เป็นหลานสาวจากไป ชายหนุ่มยังจับน้ำเสียงได้อีกด้วยว่า คุณยายอยากให้หลินเช่ออยู่กับเธอที่นี่ต่อจริงๆ
 
 
ก็หลานสาวอุตส่าห์เดินทางตั้งไกลเพื่อมาหาเธอ
 
 
กู้จิ้งเจ๋อหันไปมองหญิงสาวที่หมุนตัวกลับมา “ไหนๆ เธอก็มาแล้ว เราจะอยู่ที่นี่กันซักสองสามวันนะ”
 
 
เมื่อคุณยายได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าเ**่ยวย่นก็คลี่ออกเป็นรอยยิ้ม “จริงหรือจ๊ะ”
 
 
แต่เธอก็ยังไม่วายเป็นห่วง เธอหันไปถามว่า “แล้วพวกเธอจะอยู่ที่นี่ได้หรือจ๊ะ หรือว่าจะไปพักที่โรงแรม แต่แถวนี้ไม่มีโรงแรมดีๆ ที่พวกเธอพอจะพักได้เลยนะ…”
 
 
กู้จิ้งเจ๋อเหลียวมองไปรอบบ้านแล้วตอบว่า “เราจะอยู่ที่นี่กันครับ”
 
 
หลินเช่อชะงัก หันไปมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
 
 
เขาอยากจะอยู่ที่นี่งั้นเหรอ
 
 
ที่นี่ทั้งเก่าเยินผุพัง โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีข้อเรียกร้องมากมายแล้วละก็ ใครจะรู้ว่าเขาจะนอนหลับได้ลงหรือเปล่าถ้าหากจะพักที่นี่
 
 
กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าหลินเช่อก็จะย้ำว่า “ไม่เป็นไรครับ คุณยาย หลินเช่อกับผมจะพักที่นี่แหละ ในเมื่อมาถึงบ้านคุณยายแล้ว จะไปพักที่โรงแรมกันอีกทำไม”
 
 
เมื่อคุณยายได้ยินก็ยิ่งปลื้มปริ่มขึ้นไปอีก
 
 
แต่หลินเช่อรีบขัดขึ้นเสียก่อน “แต่คุณยายคะ…บ้านหลังนี้จะพอสำหรับที่พวกเราจะพักได้หรือคะ”
 
 
ที่นี่มีเพียงห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับครัวเท่านั้น ส่วนด้านในเป็นห้องนอน
 
 
คุณยายรีบบอกว่า “ไม่ต้องห่วงจ้ะ พวกเธออยู่ที่นี่ได้ ยายยังมีบ้านอีกหลังที่ไม่ได้เปิดใช้มานานแล้ว มันเคยเป็นของแม่ของหลานน่ะ”
 
 
หลินเช่อหันไปมองแล้วถามว่า “บ้านของแม่หรือคะ”
 
 
“ใช่จ้ะ ตอนที่แม่ของหลานยังเด็กเราทำห้องนอนให้เธอ ซึ่งมันเคยเป็นห้องครัวมาก่อน แต่พอแม่เขาโตขึ้น เขาก็อยากจะแยกออกไปอยู่ต่างหาก เราก็เลยสร้างบ้านนี้ขึ้นมา”
 
 
หลินเช่อพูดว่า “งั้นเราพักที่บ้านนั้นกันค่ะคุณยาย”
 
 
“ไม่ได้หรอกจ้ะ ไม่ได้” คุณยายว่า “มันฝุ่นจับเต็มไปหมดเพราะไม่มีคนเข้าไปอยู่ตั้งหลายปีแล้ว แถมยังเล็กกว่าบ้านหลังนี้ซะอีก”
 
 
“ไม่เป็นหรอกค่ะคุณยาย หนูอยากจะอยู่บ้านที่แม่เคยอยู่น่ะค่ะ”
 
 
หลินเช่อคิดง่ายๆ เพียงว่า นี่เป็นวิธีที่เธอจะสามารถใกล้ชิดผู้เป็นแม่ได้มากที่สุดแล้ว
 
 
กู้จิ้งเจ๋อหันมองหลินเช่อที่ดูเหมือนจะใจลอยไปไกล ชายหนุ่มจึงหันไปบอกกับคุณยายเสียเองว่า “คุณยายครับ ให้พวกเราพักที่นั่นเถอะ”
 
 
คุณยายมองหน้าคนทั้งคู่ก่อนจะยอมรับปากในที่สุด “ก็ได้จ้ะ ถ้างั้นยายจะไปเตรียมปัดกวาดเอาไว้ให้”
 
 
ไม่นาน คุณยายก็ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย
 
 
แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอจะทำใจไม่ค่อยได้เมื่อเห็นบ้านหลังนี้ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงดูแลรักษามันเอาไว้ให้สะอาดสะอ้านเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เมื่อเธอเพียงแต่เก็บขยะบางชิ้น กวาดฝุ่นเสียหน่อย บ้านหลังน้อยก็พร้อมที่จะใช้งานได้แล้ว
 
 
หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อก้าวเข้าไปข้างใน
 
 
ที่นี่เล็กกว่าจริงๆ แต่ก็ใหญ่พอสำหรับสองคน
 
 
หลินเช่อหันมองกู้จิ้งเจ๋อแล้วก็อดรู้สึกได้ว่าที่นี่ไม่ดีพอสำหรับเขาแม้แต่น้อย
 
 
ถึงอย่างไรเขาก็ทั้งสูงส่งและยิ่งใหญ่ เขาไม่ควรที่จะต้องมานอนทรมานแบบนี้เลย
 
 
และเธอเองก็ทนไม่ได้อีกเหมือนกันที่จะเห็นผู้ชายไฮคลาสอย่างเขา ต้องมาแออัดอยู่ในบ้านหลังกระจ้อยร่อยกับเธอ
 
 
สำหรับเธอแล้ว เขาคือชายหนุ่มผู้ไร้ที่ติ ไม่ว่าบางครั้งเขาจะน่าหงุดหงิดแค่ไหน แต่เธอก็รู้สึกมาโดยตลอดว่าเขาคือผู้ชายที่ยอดเยี่ยมและงดงามที่สุด
 
 
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงไม่อาจทนเห็นเขาต้องมาทรมาทรกรรมได้ และเธอจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเป็นอันขาด
 
 
เธอหันไปถามเขาว่า “ทำไมคุณไม่ไปพักโรงแรมล่ะคะ ฉันเห็นอยู่ที่นึงระหว่างทางมาที่นี่ จริงอยู่ว่ามันคงเทียบกับโรงแรมเจ็ดดาวของครอบครัวคุณไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันก็ใหญ่กว่าบ้านหลังนี้นะคะ”
 
 
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว เขาหันกลับไปจ้องหน้าหลินเช่อ “เธอไม่อยากให้ฉันอยู่ที่นี่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
 
 
สายตาเย็นชาของเขามองมาที่เธอ หลินเช่อจึงรีบตอบว่า “มะ ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันหมายความว่าที่นี่มันทั้งแคบทั้งสกปรก คุณ…คุณอาจจะไม่คุ้นกับมันก็ได้”
 
 
กู้จิ้งเจ๋อหมุนตัว ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงเก่าที่ส่งเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด
 
 
ชายหนุ่มพูดว่า “เดี๋ยวฉันก็คุ้นไปเองนั่นแหละ มานี่เถอะ”
 
 
หลินเช่อมองเขา “แต่ว่าคุณ…”
 
 
คนตัวใหญ่เอนร่างลงบนเตียงและพูดว่า “ฉันอยู่ที่นี่ซักสองสามวันได้น่า ฉันไม่ใช่คนเรื่องมากซักหน่อย ฉันไม่ต้องนอนโรงแรมเจ็ดดาวหรอกตราบใดถ้าที่นี่มันสะอาดน่ะ ถ้าฉันไปพักที่โรงแรม คุณยายก็คงรู้สึกเหมือนว่าฉันเป็นคนอื่น ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ แค่พักที่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยซักนิด ใครกันที่ไปเยี่ยมญาติแล้วยังจะไปนอนโรงแรมน่ะ ถ้าเธออยู่ได้ ฉันก็อยู่ได้เหมือนกัน”
 
 
หลินเช่ออ้าปากกว้างค้างอยู่นาน เธอมองเขา
 
 
“คุณ…กู้จิ้งเจ๋อ…”
 
 
เธอยิ้มกว้างและมองหน้าเขา เป็นอีกครั้งที่เธอคิดว่าเขาช่างเป็นคนแสนดีและช่างคิดเสียเหลือเกิน
 
 
อันที่จริงก็เหมือนที่เขาว่ากันนั่นแหละ คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งอย่างกู้จิ้งเจ๋อไม่จำเป็นต้องคอยนึกถึงใครหรือกังวลถึงปัญหาของคนอื่น แต่ผู้ชายคนนี้กลับทำให้ใครต่อใครอบอุ่นหัวใจด้วยการทำแบบนั้น
 
 
กู้จิ้งเจ๋อนิ่วหน้า เมื่อเห็นว่าหลินเช่อยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาพยักพเยิดใส่เธอและสั่งอีกครั้งว่า “เลิกพูดแล้วก็มานี่ซักที”
 
 
หลินเช่อยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงด้วยความเขินอาย
 
 
คราวนี้เขาต้องการอะไรอีกล่ะ ทำไมเธอจะต้องไปด้วย

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset