เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 330 ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณแล้วก็ไม่ต้องการให้คุณมาแตะต้องฉัน

กู้จิ้งเจ๋อเองไม่ได้คาดคิดเหมือนกันว่าเขาจะโผล่เข้ามาตอนที่เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบนี้  
 
 
เมื่อเขาเห็นหลินเช่อรีบลนลานคว้าเสื้อผ้ามาปกปิดร่าง คิ้วที่ขมวดอยู่แล้วก็ดูจะยิ่งขมวดแน่นเข้าไปอีก  
 
 
รอยนูนเล็กๆ ระหว่างหัวคิ้วของเขากลับแลดูเหมือนภูเขาลูกใหญ่ที่ถูกแช่แข็งเอาไว้อยู่อย่างนั้น ยามที่เขาจ้องมองเธอ ดวงตาคู่นั้นก็ราวกับจะฉายลำแสงอันเย็นยะเยือกออกมา  
 
 
หลินเช่อบุ้ยปากแล้วถามคนที่ยืนอยู่ตรงประตูว่า “คุณเข้ามาทำไมคะ”  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อคลายอาการนิ่วหน้าก่อนจะเดินเข้ามา “ก็นี่บ้านฉัน”  
 
 
“…”  
 
 
หลินเช่อรู้ดีว่านี่เป็นบ้านของเขา แน่นอนว่าไม่มีอะไรจะชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้ว  
 
 
เธอตวัดสายตามองชายหนุ่ม ดึงเสื้อปิดให้สูงขึ้นอีก ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำไป  
 
 
เมื่อปิดประตูเรียบร้อย เธอก็กางขาออกแล้วนั่งลงบนม้านั่งเพื่อที่จะทายาให้ตัวเอง  
 
 
หมอสั่งยามาให้สำหรับทาเจ็ดวัน และเธอก็ไม่คุ้นกับการที่จะให้ใครมาจ้องดูพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองเช่นนี้ ต่อให้เป็นหมอ เธอก็ยังอดรู้สึกตะขิดตะขวงไม่ได้อยู่ดีนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ หญิงสาวจึงไม่ขอความช่วยเหลือจากสาวใช้ให้ช่วยทายาให้เธอ หลังจากล้างทำความสะอาดแผลแล้ว เธอก็นั่งลงและเปิดกล่องยา แต่เนื่องจากความสับสน อีกทั้งยังมองไม่เห็นส่วนที่เป็นแผล เธอจึงไม่แน่ใจว่าควรจะทายาลงที่ตรงไหนแน่ และผลที่ตามมาก็คือหลินเช่อต้องนั่งแกร่วอยู่ในห้องน้ำเสียเวลาอยู่เป็นนาน  
 
 
ที่นอกห้อง  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อยืนรออยู่ เขาได้ยินเสียงการชำระล้างดังขึ้นข้างใน ตามด้วยเสียงเปิดกล่องยา แล้วหลังจากนั้น ทุกอย่างก็เงียบไป  
 
 
แต่หลินเช่อก็ยังไม่กลับออกมาแม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วพักใหญ่ ชายหนุ่มเริ่มเป็นกังวล  
 
 
เขายืนอยู่ที่หน้าประตู เดินวนกลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น อยากจะเคาะประตู แต่เมื่อเอื้อมมือออกไปแล้ว ก็หดกลับมาเสียอย่างนั้น  
 
 
เขาหลับตา นึกสงสัยว่าตัวเองจะทุกข์ร้อนไปทำไมในเมื่อเธอเองก็ไม่ได้ต้องการเขาเสียหน่อย  
 
 
แล้วเสียงหลินเช่อร้องครางแหบแห้งก็ดังขึ้นจากด้านใน  
 
 
สายตาของชายหนุ่มชะงักทันที เขาผลักประตูห้องน้ำและก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเล  
 
 
ข้างในนั้น หลินเช่อกำลังนั่งอยู่บนม้านั่ง กางขา ก้มหน้า พยายามที่จะใส่ยาแผลด้วยก้านคอตตอนบัดในมือ แต่ความรู้สึกเย็นที่เธอได้รับจากตัวยานั่นแหละที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ปกติจนเผลอครางออกมา และเพราะเธอมองไม่เห็นแผล ซึ่งนั่นก็ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะครางออกมาอีกครั้ง  
 
 
แต่เธอไม่คิดว่ากู้จิ้งเจ๋อจะผลุนผลันเข้ามาแบบนี้  
 
 
หญิงสาวตัวแข็งทื่อ เธอไม่ทันจะขยับตัวใดๆ ทั้งสิ้น ได้แต่เงยหน้าและมองคนที่พรวดพราดเข้ามาด้วยความงุนงง  
 
 
จนกระทั่งได้สติรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองแล้วนั่นแหละ เธอจึงร้องตะโกนออกไปด้วยความประหลาดใจ “คุณ…ใครบอกให้คุณเข้ามาได้น่ะ!” หลินเช่อรีบหุบขาทันควัน และเมื่อนึกขึ้นได้ว่าร่างกายท่อนล่างของเธอไม่ได้สวมอะไรปกปิดแม้แต่ชิ้นเดียว เธอก็รีบคว้าผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่ข้างๆ มาพันเอาไว้อย่างรวดเร็ว  
 
 
สีหน้าของชายหนุ่มบึ้งตึง เขาเดินเข้ามาหาเธอโดยไม่พูดอะไร แล้วคว้ากล่องยาไปจากมือเธอ  
 
 
“อ้าขา” เขาสั่งเสียงเข้มโดยไม่มองหน้าเธอแม้แต่น้อย  
 
 
“คุณ…นี่คุณจะทำอะไร”  
 
 
“ใส่ยาน่ะสิ” เขาพูดเสียงเรียบ แต่ท่าทีนั้นเด็ดขาด  
 
 
“ไม่ต้อง ฉันทำเองได้!” หลินเช่อว่า  
 
 
เมื่อนั้นเองที่กู้จิ้งเจ๋อเงยหน้าขึ้น และจ้องเขม็งมาที่ใบหน้าเล็กๆ ของเธอ “ฉันบอกให้อ้าขา ฉันจะใส่ยาให้เธอเอง!”  
 
 
หลินเช่อกัดริมฝีปาก “ไม่ต้อง ฉันทำเองได้ค่ะ คุณช่วยออกไปจะได้มั้ยคะ”  
 
 
“อ้าขา! อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำอีกครั้ง!” เสียงห้าวยิ่งต่ำลงอีก  
 
 
หลินเช่อยังคงยืนกราน “ฉันทำเองได้ค่ะ ฉันไม่ต้องการให้คุณช่วย”  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อสิ้นสุดความอดทน ด้วยสีหน้าบึ้งตึง เขาเอื้อมมือออกมากดขาเธอเอาไว้  
 
 
ร่างกายของหลินเช่อดูเหมือนจะยังไม่ลืมความหวาดกลัวที่มีต่อชายหนุ่ม ทันทีที่มือใหญ่หนาสัมผัสถูกตัว ร่างของหญิงสาวก็หดเกร็งและสั่นระริกเป็นการต่อต้านสัมผัสของเขา  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อชะงัก เขาก้มลงมองเรียวขาขาวสะอาด เนียนนุ่มคู่นั้น  
 
 
จะไม่ให้เขาโทษตัวเองได้ยังไง ที่ต้องเห็นเธอกลัวจนตัวสั่นขนาดนี้  
 
 
ชายหนุ่มก้มหน้า มองดูร่องรอยจางๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่บนเนื้อตัวเธอ เขาเอื้อมมือออกไปจับขาทั้งสองข้างของเธอไว้ แล้วพูดช้าๆ ว่า “อย่าขยับ!”  
 
 
หลินเช่อลนลานถอยหนี “ไม่ ฉันจะทำเอง ฉันทำเองได้”  
 
 
“เธอจะทำอะไรได้! ดูตัวเองเข้าสิ เธอหารอยแผลยังไม่เจอด้วยซ้ำ จนทายาผิดๆ ถูกๆ ฉันบอกว่าฉันจะช่วยใส่ยาให้ไงล่ะ อยู่นิ่งๆ แล้วก็อย่าขยับ  
 
 
ไม่ค่ะ ทำไมฉันจะต้องให้คุณช่วยด้วย!” หลินเช่อตะโกน ขาทั้งสองข้างยังหุบแน่นเข้าด้วยกัน  
 
 
สีหน้าชายหนุ่มยิ่งถมึงทึงหนัก เขาเงยหน้าและจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นยะเยือก  
 
 
หลินเช่อนิ่วหน้าใส่เป็นการตอบโต้ กู้จิ้งเจ๋อใช้แรงกดร่างเธอไว้ในขณะที่หลินเช่อเอื้อมออกมาผลักแขนเขาออกไป แต่ถึงกระนั้น ร่างใหญ่ก็สามารถจัดการขึ้นไปนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของเธอจนได้ และไม่ยอมขยับแม้ว่าหลินเช่อจะกระหน่ำทุบตีไหล่เขาอย่างหนักหน่วงแค่ไหน  
 
 
“กู้จิ้งเจ๋อ ปล่อยฉันนะ ฉันไม่อยากให้คุณเห็น ฉันไม่ต้องการ ฉันไม่อยากให้คุณแตะต้องมันด้วย…”  
 
 
ถึงแม้หญิงสาวจะร่ำไห้ แต่กู้จิ้งเจ๋อก็ไม่สน เขาก้มลงมองบริเวณหว่างขาของเธอ  
 
 
มันยังคงบวมและแดง  
 
 
หัวใจเขาบิดเร่าๆ อย่างเจ็บร้าว เขาไม่ควรจะใช้เรี่ยวแรงกับเธอมากขนาดนี้เลย  
 
 
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำให้เธอเจ็บมากเสียจนอาการยังไม่ทุเลาดีจนถึงตอนนี้  
 
 
ที่ผ่านมา เมื่อร่างบอบบางของหลินเช่อได้รับบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย เขาก็รู้สึกแย่ไปหมดแล้ว แต่อาการบาดเจ็บของเธอวันนี้กลับเป็นผลมาจากการกระทำของตัวเขาเองเสียนี่  
 
 
ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะกลัวเขา ชายหนุ่มคิด  
 
 
ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดกับคนอื่น บุคคลผู้นั้นก็คงจะไม่หายดีในเร็ววันเช่นกัน  
 
 
ชายหนุ่มก้มลง แล้วผลักขาทั้งสองข้างของหลินเช่อให้แยกออกจากกัน แล้วทาตัวยาเย็นๆ ให้เธอ  
 
 
หลินเช่อหน้าแดงก่ำลงไปจนถึงคอ เมื่อจุดซ่อนเร้นของตัวเองถูกอีกฝ่ายจับจ้องมองดูอย่างละเอียดลออ  
 
 
ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่านี่เป็นการกระทำที่ไม่มีความใคร่ใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เขาแค่ช่วยทายาให้เธอเท่านั้น แต่มันก็ยังอดรู้สึกแย่ไม่ได้ที่มีใครบางคนกำลังจ้องมองบริเวณส่วนลับของร่างกายแบบนี้  
 
 
และปัญหาสำคัญก็คือ ไม่ว่าเธอจะผลักไสเขาอย่างหนักหน่วงแค่ไหน ร่างใหญ่ๆ นั้นก็ไม่ได้สะทกสะท้านแม้แต่น้อย  
 
 
เวลาที่ผู้ชายคนนี้เกิดจะมุ่งมั่นดึงดันขึ้นมา ก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถทำให้เขาเปลี่ยนใจได้เลย  
 
 
ในที่สุด กู้จิ้งเจ๋อก็ใส่ยาให้เธอจนเสร็จและเหลียวหาเสื้อผ้าเพื่อที่จะหยิบให้เธอสวม  
 
 
เมื่อเห็นเขาหยิบกางเกงในสีขาวขึ้นมา หลินเช่อก็รีบพูดว่า “ฉันจะใส่เอง…”  
 
 
“อย่าขยับ” เขาขมวดคิ้วแล้วสั่งห้ามเธออีกครั้ง เมื่อส่งสายตาเขียวๆ ให้เธอแล้ว เขาก็ก้มตัวลงและสวมกางเกงในให้เธอจากปลายขา ค่อยๆ ดึงขึ้นมาช้าๆ ชายหนุ่มได้กลิ่นเนื้อย่างโชยออกมาจากตัวเธอ จึงขมวดคิ้วและออกคำสั่งว่า “ในเมื่อเธอบาดเจ็บอยู่ ก็ทำตัวดีๆ แล้วก็อยู่บ้าน อย่าออกไปเที่ยวเตร่สังสรรค์ข้างนอกอีก เข้าใจมั้ย”  
 
 
หลินเช่อเงยหน้าเมื่อได้ยินสุ้มเสียงตำหนิของอีกฝ่าย ก่อนจะตอบอย่างไม่พอใจว่า “นี่มันร่างกายฉัน ฉันออกไปข้างนอกก็เพราะฉันรู้ดีว่ามันไม่เป็นอะไร”  
 
 
“เธอ…” กู้จิ้งเจ๋อจ้องมองหญิงสาวเขม็ง  
 
 
ถ้าเห็นคนอื่นแล้วกล้าที่จะต่อปากต่อคำกับเขาแบบนี้ละก็ ป่านนี้มีหวังได้หายตัวไปแล้ว ยกเว้นผู้หญิงตรงหน้าเขานี่แหละ  
 
 
หลินเช่อกระโดดลงจากม้านั่งแล้วก้าวฉับๆ ออกจากห้องน้ำไป  
 
 
แต่ชายหนุ่มคว้าแขนเธอเอาไว้  
 
 
เขาไม่ได้หันหน้ามามอง แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ตามองตรงไปข้างหน้า เสียงหายใจหนักหน่วงราวกับกำลังพยายามระงับโทสะที่พลุ่งพล่านอยู่ภายใน  
 
 
หลินเช่อนิ่วหน้า เมื่อเธอพยายามจะบิดแขนออกให้เป็นอิสระ เขาก็กระชากมันกลับโดยแรง  
 
 
เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจเมื่ออยู่ๆ กู้จิ้งเจ๋อก็สวมกอดเธอไว้และกดจูบหนักๆ ลงบนริมฝีปากของเธอ  
 
 
เขาอยากจะบีบคอเธอนัก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ทำไม่ลง ในที่สุด เขาก็ทำได้แค่ระบายความโกรธใส่เธอแบบนี้  
 
 
หลินเช่อติดอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งและมั่นคงนั้นอย่างไม่มีทางหนี ลมหายใจหนักๆ ของเขาเป่ารดลงบนจมูกเธอ ปากของเธอถูกปิดจนสนิทไร้ทางสู้ แล้วทันใดนั้น หลินเช่อก็พลันนึกถึงการกระทำทั้งหมดของเขาที่ทำกับเธอก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้  

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset