เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 466 คุณชายฉยงดีใจมากเลยนะครับที่ได้เจอกับคุณ

“คุณชายฉยง ไม่เคยได้ยิน ดาราอะไรเหรอ”       “อะไรล่ะ เขาเป็นคนรวย เมื่อก่อนเขาดังมาก เพราะประมาณห้าหกปีที่แล้ว เขาเป็นตัวแทนของประเทศไปแข่งขันฟันดาบ ได้รับเหรียญทองมา ทุกคนต่างสืบหาประวัติของเขา เลยรู้ว่า ที่แท้เขาเป็นคุณชายตระกูลซือถู ตระกูลซือถูเป็นผู้นำธุรกิจเกี่ยวกับเรือ การประกอบเรือถือว่าเป็นพี่ใหญ่เลยล่ะ เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่มากๆ เขาเป็นสืบทอดตำแหน่งของตระกูลซือถู รวยมากเลยล่ะ”       “ขนาดนั้นเลยเหรอ นี่ คุณชายฉยงคนนั้น ดูหล่อมากเลยนะ”       “ใช่ สมัยนั้นผู้หญิงไปดูเขาฟันดาบ จนสนามแทบแตกเธอรู้หรือเปล่า ท่าทางเวลาเขาฟันดาบ ยังหล่อได้ขนาดนั้น ราวกับเจ้าชายเลยล่ะ”       ตอนนี้หลินเช่อที่ทุกคนเข้าใจว่าเธอกำลังถูกกดดันจนอยากหาทางหนี กลับเห็นว่า หลินเช่อรู้จักกับคนมีฐานะขนาดนี้       ทุกคนต่างพากันดวงตาแทบถลน       มองหลินเช่อและซือถูฉยงพูดคุยหัวเราะสนุกสนาน พวกเขาคิด ที่บอกว่าหลินเช่อไม่มีทางไป นั่นคงเป็นแค่ข่าวลือสินะ       คนที่เฝ้ารอหัวเราะเยาะหลินเช่อ กลับโดนตบหน้าแบบนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียหน้าไม่ได้       หลินเช่อไม่จำเป็นต้องให้พวกเขามาใส่ใจ       คิดว่าตอนนี้หลินเช่อย่ำแย่ ที่แท้เธอกลับเยี่ยมยอด ได้รู้จักกับคนระดับนี้ ถือว่าตบหน้าได้ดีทีเดียว       ซือถูฉยงมาหา หลินเช่อเองก็แปลกใจ       แต่ซือถูฉยงแค่จะชวนเธอไปทานข้าว       หลินเช่อรู้สึกเกรงใจ ไม่มีอะไรทำไมต้องอยากเลี้ยงข้าวเธอ แถมยังสองต่อสองอีก       ซือถูฉยงไม่รอให้เธอปฏิเสธ เอ่ยบอก “คุณหมายความว่ายังไงหลินเช่อ คุณคงไม่ปฏิเสธผมแบบนี้หรอกใช่ไหม ทำไม ตอนนี้คุณชนะแล้ว กลายเป็นสตรีหมายเลขหนึ่ง ไม่สนใจผมแล้วเหรอ ผมเป็นได้แค่สะพานสินะ”       “จะเป็นไปได้ยังไงกันคะ” ไม่ใช่เหตุผลนี้ซะหน่อย       ซือถูฉยงบอก “เสียดายที่ผมเป็นอาจารย์คุณ เป็นอาจารย์เพียงวันเดียว ตลอดชีวิตเป็น…”       “นี่ ตลอดชีวิตเป็นอะไร เป็นอะไร” หลินเช่อยกหมัดขึ้นมา ถ้าเขาบอกว่าเป็นพ่อตลอดชีวิต เธอจะต่อยเขาให้ดู       “เอาล่ะ เอาล่ะ แค่ล้อเล่นเอง ยังไงซะ คุณปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าผมเป็นอาจารย์ของคุณ”       “ใช่ค่ะ ใช่ คุณเป็นอาจารย์ของฉัน”       “งั้นคุณชนะแล้วไม่ควรเลี้ยงข้าวอาจารย์เหรอ”       “ก็ได้ ก็ได้ แค่เลี้ยงข้าวก็พอแล้วใช่ไหม”       หลินเช่อสีหน้าเบื่อหน่าย เดินขึ้นรถเขาไป ไปเลี้ยงข้าวเขา       ซือถูฉยงพอใจ พาเธอไปยังร้านอาหาร       ทานข้าวอย่างรวดเร็ว ตลอดระยะเวลาการฝึก ทั้งสองนับว่าสนิทกันพอสมควร พูดคุยเป็นกันเอง อาหารมื้อนี้นั้นนับว่าสนุกสนาน       ระหว่างนั้นซือถูฉยงออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอก พ่อบ้านเฉินของเขาเดินเข้ามามองหลินเช่อ รอยยิ้มอบอุ่นกว่าครั้งแรกที่เจอ       เขาบอก “คุณหลิน คุณชายเลยดีใจมากเลยนะครับที่ได้เจอกับคุณ”       หลินเช่อยิ้ม “เหรอคะ ฉันคิดว่าก็ดูยิ้มหัวเราะปกติออกนะคะ”       “นั่นเฉพาะเวลาที่อยู่กับคุณเท่านั้นล่ะครับ คุณหลินยังไม่รู้” พ่อบ้านเฉินถอนหายใจ บอก “นับตั้งแต่คุณชายฉยงไม่ได้ฟันดาบอีก ถูกบีบบังคับให้ทิ้งสิ่งที่ตัวเองรัก เขาก็เงียบมาตลอด ไม่คบค้าสนิทสนมกับใครอีกเลย คนด้านนอกก็บอก ว่าคุณชายมีนิสัยแปลกประหลาด ไม่ยอมพบหน้าใคร ความจริง เมื่อก่อน คุณชายฉยงก็สดใส ชอบพบปะผู้คน ชอบอยู่กับแฟนคลับของเขา เขาจะหัวเราะและยิ้มอยู่เสมอ”       หลินเช่อได้ยินแบบนั้นแล้วจึงถามด้วยความตกใจ “เหตุผลที่คุณชายของพวกคุณยอมทิ้งในสิ่งที่เขารักเพื่ออะไรเหรอคะ การฟันดาบ เขาถูกบังคับให้ทิ้งมันเหรอ”       “ครับ เดิมทีเขาจะออกไปแข่งขันอยู่บ่อยๆ และทุกครั้งจะได้รับโอกาสที่ดีอยู่เสมอ สามารถไปได้ไกลมากขึ้น แต่ว่า แต่ว่าคุณท่านกลับบอกว่ามันเป็นเพียงการเล่นสนุกของเขา ให้เขากลับมา ไม่ยอมให้เขาไปฝึกฟันดาบอีก เขาไม่ยอม นายท่านก็โมโหแล้วบีบบังคับเขา สุดท้ายเขาจึงต้องยอม แต่ว่าตั้งแต่ที่เขากลับมาสืบทอดธุรกิจของครอบครัว เขาก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลยครับ ตอนนี้ ที่พวกเราได้เห็นคุณชายฉยงกลับมามีความสุขแบบนี้อีกครั้ง เพราะคุณหลินเลยนะครับ”       หลินเช่อบอก “ฉันไม่ได้มีประโยชน์ขนาดนั้นเลยค่ะ”       “จริงๆ นะครับคุณหลิน คงเป็นเพราะความพยายามของคุณหลิน ทำให้คุณชายได้เห็น และมีความมุ่งมั่นในทางของตัวเองต่อไปด้วยเหมือนกัน ยังไงซะ นานแล้วที่คุณชายไม่ได้ออกมาทานข้าวกับใคร ครั้งนี้ เพราะคุณเลยนะครับ”       หลินเช่อได้ฟังคำพูดของพ่อบ้านเฉินแล้ว เธอมองตรงไปด้านหน้า คิดในใจ บางทีคุณชายพวกนี้ อาจจะไม่ได้มีความสุขที่แท้จริงสินะ       กู้จิ้งเจ๋อมักจะยุ่งจนลืมชีวิตตัวเอง แต่ยังดีที่เขาชอบการทำงาน ชอบเก็บเงิน ชอบการค้าขาย แต่ว่า ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ชอบ ถูกบังคับและกักขังให้อยู่กับมัน…       เขาก็คงจะไม่มีความสุข       เมื่อคิดแบบนี้ ซือถูฉยงก็คงน่าสงสารมาก       ไม่นานซือถูฉยงก็กลับมา เขาไปส่งหลินเช่อที่บ้าน เมื่อไปถึงบ้านตระกูลกู้ เขาจึงบอก “ครั้งหน้าถ้ามีโอกาส ฟันดาบด้วยกันนะ”       หลินเช่อบอก “ได้สิคะ ถึงตอนนั้นฉันจะโจมตีคุณให้ตั้งตัวไม่ทันเลย”       “พอเถอะ ต่อให้คุณฝึกอีกเป็นสิบปี ก็สู้ผมไม่ได้หรอก”       “คุณอย่ามาดูถูกฉันนะ หึ”       หลินเช่อหยอกล้อกับเขา จากนั้นลงจากรถไป       ซือถูฉยงมองหลินเช่อ ยิ้มออกมาบางๆ       ——       บ้านตระกูลกู้       กู้จิ้งเจ๋ออยู่ในห้องหนังสือ มองออกไปด้านนอก เห็นรถคันหนึ่งขับหายออกไป       เขาชะงัก หันมาถามพ่อบ้าน “คุณผู้หญิงกลับมาแล้วเหรอ”       “ใช่ครับ คุณผู้หญิงไปทานข้าวกับเพื่อน พึ่งกลับมาครับ”       เพื่อนเหรอ       กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตาลง “ไปดูหน่อย เพื่อนที่มาส่งคุณผู้หญิง เป็นใคร มาจากไหน”       “ครับ คุณผู้ชาย…”       เมื่อเดินออกไป เห็นหลินเช่อกำลังฮัมเพลง ยืนเก็บของอยู่ตรงนั้น       “อารมณ์ดีเหรอ” กู้จิ้งเจ๋อถาม       หลินเช่อเงยหน้า “คะ อ้อ ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ”       กู้จิ้งเจ๋อดวงตาเข้มขึ้น สายตาดูอันตราย       “ต่อไปอยู่ให้ห่างจากซือถูฉยง”       “…”       ไม่รอให้หลินเช่อตอบ กู้จิ้งเจ๋อเปิดประตูออก แล้วเดินเข้าไปในห้องนอน       ประตูห้องนอนถูกปิดเสียงดัง ปัง ต่อหน้าต่อตา       หลินเช่อยืนอยู่ด้านนอก มองเข้าไป รู้สึกยุ่งยาก เธอยังไม่ทันได้อธิบายเลยนะ เธอกับซือถูฉยงทำไม เธอกับซือถูฉยงเป็นแค่เพื่อนกันนะ อย่างมากก็แค่ศิษย์กับอาจารย์…       หลินเช่อเดินเข้ามาใกล้ประตู “กู้จิ้งเจ๋อ คุณเป็นอะไร ซือถูฉยงสอนฉันฟันดาบมานานขนาดนั้น ฉันก็ต้องเกรงใจเขาบ้างสิ เกิดเป็นคนไม่ควรลืมบุญคุณนะ”       เธอผลักประตู แต่ว่า ประตูกลับถูกล็อกจากด้านใน       ไม่ใช่หรือเปล่า กู้จิ้งเจ๋อใจแคบขนาดนี้เลยเหรอ       หลินเช่อกระทืบเท้าอยู่ตรงนั้น “กู้จิ้งเจ๋อ เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ คุณพูดให้ชัดเจนสิ คุณหมายความว่ายังไง คุณ…คุณหึงเหรอ”       หึงเหรอ       หึงหนักขนาดนี้เลยเหรอ       นี่ไม่เหมือนกู้จิ้งเจ๋อเลยสักนิด       ไม่นานกู้จิ้งเจ๋อก็เปิดประตูออกมา มองหลินเช่อที่ยืนอยู่หน้าประตู       ใบหน้าหล่อเหลาทะมึน  

“คุณชายฉยง ไม่เคยได้ยิน ดาราอะไรเหรอ”  

 

 

“อะไรล่ะ เขาเป็นคนรวย เมื่อก่อนเขาดังมาก เพราะประมาณห้าหกปีที่แล้ว เขาเป็นตัวแทนของประเทศไปแข่งขันฟันดาบ ได้รับเหรียญทองมา ทุกคนต่างสืบหาประวัติของเขา เลยรู้ว่า ที่แท้เขาเป็นคุณชายตระกูลซือถู ตระกูลซือถูเป็นผู้นำธุรกิจเกี่ยวกับเรือ การประกอบเรือถือว่าเป็นพี่ใหญ่เลยล่ะ เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่มากๆ เขาเป็นสืบทอดตำแหน่งของตระกูลซือถู รวยมากเลยล่ะ”  

 

 

“ขนาดนั้นเลยเหรอ นี่ คุณชายฉยงคนนั้น ดูหล่อมากเลยนะ”  

 

 

“ใช่ สมัยนั้นผู้หญิงไปดูเขาฟันดาบ จนสนามแทบแตกเธอรู้หรือเปล่า ท่าทางเวลาเขาฟันดาบ ยังหล่อได้ขนาดนั้น ราวกับเจ้าชายเลยล่ะ”  

 

 

ตอนนี้หลินเช่อที่ทุกคนเข้าใจว่าเธอกำลังถูกกดดันจนอยากหาทางหนี กลับเห็นว่า หลินเช่อรู้จักกับคนมีฐานะขนาดนี้  

 

 

ทุกคนต่างพากันดวงตาแทบถลน  

 

 

มองหลินเช่อและซือถูฉยงพูดคุยหัวเราะสนุกสนาน พวกเขาคิด ที่บอกว่าหลินเช่อไม่มีทางไป นั่นคงเป็นแค่ข่าวลือสินะ  

 

 

คนที่เฝ้ารอหัวเราะเยาะหลินเช่อ กลับโดนตบหน้าแบบนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียหน้าไม่ได้  

 

 

หลินเช่อไม่จำเป็นต้องให้พวกเขามาใส่ใจ  

 

 

คิดว่าตอนนี้หลินเช่อย่ำแย่ ที่แท้เธอกลับเยี่ยมยอด ได้รู้จักกับคนระดับนี้ ถือว่าตบหน้าได้ดีทีเดียว  

 

 

ซือถูฉยงมาหา หลินเช่อเองก็แปลกใจ  

 

 

แต่ซือถูฉยงแค่จะชวนเธอไปทานข้าว  

 

 

หลินเช่อรู้สึกเกรงใจ ไม่มีอะไรทำไมต้องอยากเลี้ยงข้าวเธอ แถมยังสองต่อสองอีก  

 

 

ซือถูฉยงไม่รอให้เธอปฏิเสธ เอ่ยบอก “คุณหมายความว่ายังไงหลินเช่อ คุณคงไม่ปฏิเสธผมแบบนี้หรอกใช่ไหม ทำไม ตอนนี้คุณชนะแล้ว กลายเป็นสตรีหมายเลขหนึ่ง ไม่สนใจผมแล้วเหรอ ผมเป็นได้แค่สะพานสินะ”  

 

 

“จะเป็นไปได้ยังไงกันคะ” ไม่ใช่เหตุผลนี้ซะหน่อย  

 

 

ซือถูฉยงบอก “เสียดายที่ผมเป็นอาจารย์คุณ เป็นอาจารย์เพียงวันเดียว ตลอดชีวิตเป็น…”  

 

 

“นี่ ตลอดชีวิตเป็นอะไร เป็นอะไร” หลินเช่อยกหมัดขึ้นมา ถ้าเขาบอกว่าเป็นพ่อตลอดชีวิต เธอจะต่อยเขาให้ดู  

 

 

“เอาล่ะ เอาล่ะ แค่ล้อเล่นเอง ยังไงซะ คุณปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าผมเป็นอาจารย์ของคุณ”  

 

 

“ใช่ค่ะ ใช่ คุณเป็นอาจารย์ของฉัน”  

 

 

“งั้นคุณชนะแล้วไม่ควรเลี้ยงข้าวอาจารย์เหรอ”  

 

 

“ก็ได้ ก็ได้ แค่เลี้ยงข้าวก็พอแล้วใช่ไหม”  

 

 

หลินเช่อสีหน้าเบื่อหน่าย เดินขึ้นรถเขาไป ไปเลี้ยงข้าวเขา  

 

 

ซือถูฉยงพอใจ พาเธอไปยังร้านอาหาร  

 

 

ทานข้าวอย่างรวดเร็ว ตลอดระยะเวลาการฝึก ทั้งสองนับว่าสนิทกันพอสมควร พูดคุยเป็นกันเอง อาหารมื้อนี้นั้นนับว่าสนุกสนาน  

 

 

ระหว่างนั้นซือถูฉยงออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอก พ่อบ้านเฉินของเขาเดินเข้ามามองหลินเช่อ รอยยิ้มอบอุ่นกว่าครั้งแรกที่เจอ  

 

 

เขาบอก “คุณหลิน คุณชายเลยดีใจมากเลยนะครับที่ได้เจอกับคุณ”  

 

 

หลินเช่อยิ้ม “เหรอคะ ฉันคิดว่าก็ดูยิ้มหัวเราะปกติออกนะคะ”  

 

 

“นั่นเฉพาะเวลาที่อยู่กับคุณเท่านั้นล่ะครับ คุณหลินยังไม่รู้” พ่อบ้านเฉินถอนหายใจ บอก “นับตั้งแต่คุณชายฉยงไม่ได้ฟันดาบอีก ถูกบีบบังคับให้ทิ้งสิ่งที่ตัวเองรัก เขาก็เงียบมาตลอด ไม่คบค้าสนิทสนมกับใครอีกเลย คนด้านนอกก็บอก ว่าคุณชายมีนิสัยแปลกประหลาด ไม่ยอมพบหน้าใคร ความจริง เมื่อก่อน คุณชายฉยงก็สดใส ชอบพบปะผู้คน ชอบอยู่กับแฟนคลับของเขา เขาจะหัวเราะและยิ้มอยู่เสมอ”  

 

 

หลินเช่อได้ยินแบบนั้นแล้วจึงถามด้วยความตกใจ “เหตุผลที่คุณชายของพวกคุณยอมทิ้งในสิ่งที่เขารักเพื่ออะไรเหรอคะ การฟันดาบ เขาถูกบังคับให้ทิ้งมันเหรอ”  

 

 

“ครับ เดิมทีเขาจะออกไปแข่งขันอยู่บ่อยๆ และทุกครั้งจะได้รับโอกาสที่ดีอยู่เสมอ สามารถไปได้ไกลมากขึ้น แต่ว่า แต่ว่าคุณท่านกลับบอกว่ามันเป็นเพียงการเล่นสนุกของเขา ให้เขากลับมา ไม่ยอมให้เขาไปฝึกฟันดาบอีก เขาไม่ยอม นายท่านก็โมโหแล้วบีบบังคับเขา สุดท้ายเขาจึงต้องยอม แต่ว่าตั้งแต่ที่เขากลับมาสืบทอดธุรกิจของครอบครัว เขาก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลยครับ ตอนนี้ ที่พวกเราได้เห็นคุณชายฉยงกลับมามีความสุขแบบนี้อีกครั้ง เพราะคุณหลินเลยนะครับ”  

 

 

หลินเช่อบอก “ฉันไม่ได้มีประโยชน์ขนาดนั้นเลยค่ะ”  

 

 

“จริงๆ นะครับคุณหลิน คงเป็นเพราะความพยายามของคุณหลิน ทำให้คุณชายได้เห็น และมีความมุ่งมั่นในทางของตัวเองต่อไปด้วยเหมือนกัน ยังไงซะ นานแล้วที่คุณชายไม่ได้ออกมาทานข้าวกับใคร ครั้งนี้ เพราะคุณเลยนะครับ”  

 

 

หลินเช่อได้ฟังคำพูดของพ่อบ้านเฉินแล้ว เธอมองตรงไปด้านหน้า คิดในใจ บางทีคุณชายพวกนี้ อาจจะไม่ได้มีความสุขที่แท้จริงสินะ  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อมักจะยุ่งจนลืมชีวิตตัวเอง แต่ยังดีที่เขาชอบการทำงาน ชอบเก็บเงิน ชอบการค้าขาย แต่ว่า ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ชอบ ถูกบังคับและกักขังให้อยู่กับมัน…  

 

 

เขาก็คงจะไม่มีความสุข  

 

 

เมื่อคิดแบบนี้ ซือถูฉยงก็คงน่าสงสารมาก  

 

 

ไม่นานซือถูฉยงก็กลับมา เขาไปส่งหลินเช่อที่บ้าน เมื่อไปถึงบ้านตระกูลกู้ เขาจึงบอก “ครั้งหน้าถ้ามีโอกาส ฟันดาบด้วยกันนะ”  

 

 

หลินเช่อบอก “ได้สิคะ ถึงตอนนั้นฉันจะโจมตีคุณให้ตั้งตัวไม่ทันเลย”  

 

 

“พอเถอะ ต่อให้คุณฝึกอีกเป็นสิบปี ก็สู้ผมไม่ได้หรอก”  

 

 

“คุณอย่ามาดูถูกฉันนะ หึ”  

 

 

หลินเช่อหยอกล้อกับเขา จากนั้นลงจากรถไป  

 

 

ซือถูฉยงมองหลินเช่อ ยิ้มออกมาบางๆ  

 

 

——  

 

 

บ้านตระกูลกู้  

 

 

กู้จิ้งเจ๋ออยู่ในห้องหนังสือ มองออกไปด้านนอก เห็นรถคันหนึ่งขับหายออกไป  

 

 

เขาชะงัก หันมาถามพ่อบ้าน “คุณผู้หญิงกลับมาแล้วเหรอ”  

 

 

“ใช่ครับ คุณผู้หญิงไปทานข้าวกับเพื่อน พึ่งกลับมาครับ”  

 

 

เพื่อนเหรอ  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตาลง “ไปดูหน่อย เพื่อนที่มาส่งคุณผู้หญิง เป็นใคร มาจากไหน”  

 

 

“ครับ คุณผู้ชาย…”  

 

 

เมื่อเดินออกไป เห็นหลินเช่อกำลังฮัมเพลง ยืนเก็บของอยู่ตรงนั้น  

 

 

“อารมณ์ดีเหรอ” กู้จิ้งเจ๋อถาม  

 

 

หลินเช่อเงยหน้า “คะ อ้อ ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ”  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อดวงตาเข้มขึ้น สายตาดูอันตราย  

 

 

“ต่อไปอยู่ให้ห่างจากซือถูฉยง”  

 

 

“…”  

 

 

ไม่รอให้หลินเช่อตอบ กู้จิ้งเจ๋อเปิดประตูออก แล้วเดินเข้าไปในห้องนอน  

 

 

ประตูห้องนอนถูกปิดเสียงดัง ปัง ต่อหน้าต่อตา  

 

 

หลินเช่อยืนอยู่ด้านนอก มองเข้าไป รู้สึกยุ่งยาก เธอยังไม่ทันได้อธิบายเลยนะ เธอกับซือถูฉยงทำไม เธอกับซือถูฉยงเป็นแค่เพื่อนกันนะ อย่างมากก็แค่ศิษย์กับอาจารย์…  

 

 

หลินเช่อเดินเข้ามาใกล้ประตู “กู้จิ้งเจ๋อ คุณเป็นอะไร ซือถูฉยงสอนฉันฟันดาบมานานขนาดนั้น ฉันก็ต้องเกรงใจเขาบ้างสิ เกิดเป็นคนไม่ควรลืมบุญคุณนะ”  

 

 

เธอผลักประตู แต่ว่า ประตูกลับถูกล็อกจากด้านใน  

 

 

ไม่ใช่หรือเปล่า กู้จิ้งเจ๋อใจแคบขนาดนี้เลยเหรอ  

 

 

หลินเช่อกระทืบเท้าอยู่ตรงนั้น “กู้จิ้งเจ๋อ เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ คุณพูดให้ชัดเจนสิ คุณหมายความว่ายังไง คุณ…คุณหึงเหรอ”  

 

 

หึงเหรอ  

 

 

หึงหนักขนาดนี้เลยเหรอ  

 

 

นี่ไม่เหมือนกู้จิ้งเจ๋อเลยสักนิด  

 

 

ไม่นานกู้จิ้งเจ๋อก็เปิดประตูออกมา มองหลินเช่อที่ยืนอยู่หน้าประตู  

 

 

ใบหน้าหล่อเหลาทะมึน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset