เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 451 ผู้ชายข้างกายเธอก็คือสิ่งล้ำค่าของเธอ

ครู่ต่อมา ในที่สุดหลินเช่อก็มาถึงแล้ว

 

 

“หลินเช่อมาแล้ว”

 

 

“ไหนๆ”

 

 

“พึ่งเดินเข้าประตูมา มากับกู้จิ้งเจ๋อ”

 

 

หลินเช่อยืนรอกู้จิ้งเจ๋ออยู่ที่หน้าประตู แล้วจึงเดินเข้ามาพร้อมกัน

 

 

ทุกคนต่างเคยได้ยินถึงชื่อหลินเช่อ แต่ยังไม่เคยเห็นตัวจริง

 

 

ทุกคนรู้ว่าข่าวซุบซิบในโทรทัศน์นั้นมีมากมายที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งก็เป็นการแสดงทั้งนั้น นิสัยของคนเป็นอย่างไร ต้องได้รู้จากตัวจริงถึงจะมองออก

 

 

ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าหลินเช่อจะมาร่วมงานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูในครั้งนี้ ก็สามารถกระตุ้นความสนใจของทุกคนได้เป็นอย่างดี

 

 

ผู้หญิงคนนี้ช่างอวดดี ถึงได้พากู้จิ้งเจ๋อมาด้วย

 

 

ร่างสูงของกู้จิ้งเจ๋อเดินเข้ามา ดวงตาคมกวาดสายตาไปทั่ว สายตาไม่สนโลกคู่นั้น ช่างน่าดึงดูด

 

 

ทุกคนต่างตกตะลึงในตัวเขา ซุบซิบกันจอแจไม่หยุด

 

 

“กู้จิ้งเจ๋อเหรอ”

 

 

“ใช่เขาจริงๆ ด้วย”

 

 

“ถ่ายรูปได้หรือเปล่านะ”

 

 

“เธออยากตายเหรอ ถึงจะไปถ่ายรูปเขา”

 

 

“เฮ้ย ดูผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขาสิ”

 

 

จากนั้นสายตาริษยามากมายต่างก็มุ่งไปที่หลินเช่อ

 

 

เธอมาในชุดเดรสยาวรัดรูป ไม่มีเครื่องประดับมากมาย มีสีเงินเทาไปทั้งตัว ดูผอมเพรียวและมีสไตล์ แม้ว่าชุดจะไม่ได้โดดเด่น แต่กลับเผยให้เห็นรูปร่างของเธออย่างเด่นชัด

 

 

หลินเช่อทำให้คนหาจุดบกพร่องของเธอไม่เจอ ตัวจริงสวยกว่าในละครมากทีเดียว มองไม่ออกถึงการทำศัลยกรรม ดังนั้นทุกคนจึงทำได้เพียงส่งเสียงเย้ยหยันเบาๆ ในลำคอ “ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากกว่าพวกเราสักหน่อย กู้จิ้งเจ๋อชอบเธอได้ยังไงนะ”

 

 

“บางทีลีลาบนเตียงเธออาจจะดีก็ได้”

 

 

เป็นครั้งแรกที่หลินเช่อเห็นการรวมตัวของผู้หญิงเยอะขนาดนี้ มองดวงตาหลากหลายคู่ที่จ้องมองมา คิดอยู่ในใจ ผู้หญิงสามคนในละครเรื่องเดียวกัน ผู้หญิงเยอะขนาดนี้…วันนี้สัมผัสได้ถึงความอันตรายไม่เบาเลย

 

 

แต่ว่า ในสายตาระยิบระยับพวกนั้น กำลังมองสำรวจผู้ชายของเธออยู่

 

 

หลินเช่อรู้สึกว่า ตัวเองที่ยืนอยู่ตรงนี้ คล้ายกับจะโดนสายตาริษยาพวกนั้นทิ่มแทงเป็นรูพรุนอยู่แล้ว

 

 

ทำให้หลินเช่ออยากปล่อยมือจากแขนของกู้จิ้งเจ๋อ

 

 

แต่เพียงขยับเล็กน้อย ก็โดนกู้จิ้งเจ๋อดึงเอาไว้ และหนีบเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอขยับ

 

 

“หลินเช่อ เธอมาแล้วเหรอ” ตอนนั้นเอง เสียงคุ้นเคยก็ดังขึ้น

 

 

หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมา ก็มองเห็นลู่ฉินอวี่อยู่ตรงนั้น

 

 

หลินเช่อชะงัก

 

 

ลู่ฉินอวี่ถามยิ้มๆ “ขึ้นมาไหม ตรงนี้มีที่นั่งนะ”

 

 

หลินเช่อบอก “ได้ค่ะ คุณลุงลู่”

 

 

ลู่ฉินอวี่อยู่ชั้นบน กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตาแคบมองขึ้นไป จากนั้นหันมามองหลินเช่อที่อยู่ด้านข้าง ขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

 

หลินเช่อเองก็แปลกใจ “ลุงลู่มาได้ยังไงคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อพาเธอเดินเข้าไป เดินไปพลางบอก “ความจริงช่วงนี้ฉันสืบได้เรื่องอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทันได้บอกเธอ”

 

 

“เรื่องอะไรคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อมองมาที่หลินเช่อ “หลินเช่อ แม่ของเธอ ชื่อซูเซินใช่ไหม”

 

 

“ใช่ค่ะ” แต่ว่า นี่มันเกี่ยวอะไรกับคุณลู่ล่ะ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอก “ฉันสืบได้ว่า คุณลู่เคยไปที่บ้านเกิดของแม่เธอ เธอจำได้ไหมตอนที่เราไปเยี่ยมคุณยาย เคยเห็นรูปรูปหนึ่ง ในรูปนั้นคือแม่ของเธอ กับคนอื่นอีกหลายคน”

 

 

“ใช่ค่ะ หรือว่า คนพวกนั้น…”

 

 

“หนึ่งในนั้น คือคุณลู่”

 

 

“อะไรนะคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอก “เขาเคยเป็นอาจารย์ของแม่เธอ เสนอให้แม่เธอไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในเมืองบี เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนอยู่”

 

 

หลินเช่อคาดไม่ถึง ว่าจะมีพรหมลิขิตแบบนี้อยู่จริงๆ

 

 

“ฉันไม่เคยได้ยินแม่กล่าวถึงเรื่องนี้เลยค่ะ เธอเคยมาที่เมืองบีก็จริง แต่ว่า ตอนนั้นฉันยังเด็ก แม่คงไม่ได้พูดอะไรกับฉัน”

 

 

“ใช่ แม่ของเธอ เคยเป็นลูกศิษย์ที่คุณลู่ภาคภูมิใจ แต่ว่าต่อมาแม่ของเธอก็แยกย้ายออกไป”

 

 

“หลังจากนั้นคงเพราะเจอกับพ่อฉันมั้งคะ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความลำบากของชีวิต…” หลินเช่อพอคิดแล้ว ก็รู้สึกไม่พอใจแทนคนเป็นแม่

 

 

“แต่ฉันต้องเตือนเธอสักหน่อย” กู้จิ้งเจ๋อจริงจัง

 

 

หลินเช่อรู้สึกว่าเขาดูกดดัน จึงหยุดเดิน มองเขาแล้วเอ่ยถาม “อะไรคะ”

 

 

“บางทีความสัมพันธ์ของแม่เธอกับคุณลู่ อาจจะไม่ธรรมดา”

 

 

หลินเช่อตกใจ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อคว้ามือของเธอเอาไว้ รอจนเธอดึงสติกลับมา

 

 

กู้จิ้งเจ๋อจึงบอกช้าๆ “เรื่องนี้ฉันให้ความชัดเจนไม่ได้ ฉันเองก็ไม่ได้สืบละเอียดขนาดนั้น”

 

 

ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องของแม่ของหลินเช่อ คงไม่เหมาะที่เขาจะไปสืบเรื่องส่วนตัวของคนอื่น

 

 

หลินเช่อมองไปตรงหน้าเงียบๆ “งั้นที่คุณลู่ดูชอบฉันมาก เป็นเพราะว่า รู้เรื่องของแม่ฉันเหรอคะ”

 

 

“เขายังไม่รู้”

 

 

 

 

หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมา

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอก “ฉันว่าเธอไปคุยกับคุณลู่เองจะดีกว่า”

 

 

เพราะว่าเป็นเรื่องของแม่ของหลินเช่อ เขาคิดว่าถ้าเขาไปพูดกับคุณลู่เรื่องนี้มันคงจะไม่เหมาะ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อจูงมือหลินเช่อขึ้นมาอีกครั้ง “ไปเถอะ เราขึ้นไปก่อน”

 

 

“ค่ะ”

 

 

หลินเช่อรู้สึกกลัวเล็กน้อย ดังนั้นเมื่อเดินขึ้นไปแล้วเห็นคุณลู่เดินเข้ามารับ ก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร

 

 

“เสี่ยวเช่อ คุณมาแล้ว นั่งตรงนี้สิ”

 

 

ลู่เป่ยเฉินเองก็อยู่ที่นี่ พยักหน้าให้กับหลินเช่อ

 

 

ทักทายเสร็จแล้ว กู้จิ้งเจ๋อเลื่อนที่นั่งให้หลินเช่อนั่งลงตรงนั้น

 

 

เธอเงยหน้าขึ้น มองลู่ฉินอวี่

 

 

ไม่สามารถจินตนาการได้ ว่าแม่และผู้ชายตรงหน้า จะเคยมีอดีตด้วยกัน

 

 

ลู่เป่ยเฉินเอ่ยขึ้นมา “ผู้หญิงพวกนี้ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย ไม่รู้ว่าเรามาทำไม”

 

 

ลู่ฉินอวี่บอก “เกาะนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยตระกูลลู่ของเรา การเลือกที่นี่ก็เป็นเราที่เชิญมา เป็นธรรมดาที่เราต้องสนับสนุนหน่อย”

 

 

หลินเช่อเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความตกใจ “ที่นี่เป็นของตระกูลลู่เหรอคะ”

 

 

ลู่เป่ยเฉินใบหน้าเบื่อหน่าย “เดิมซื้อไว้ก็ไม่ได้คิดจะเอาไว้จัดงานเลี้ยงน่าเบื่อแบบนี้หรอก”

 

 

“ใช่สิ เพื่อเอามาทำเรือประมงบ้านั่นของแกไง”

 

 

หลินเช่อไม่ค่อยเข้าใจ

 

 

ลู่ฉินอวี่หันมาอธิบายให้หลินเช่อฟังด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไอ้เจ้าเด็กคนนี้ หลายปีมานี้ไม่ทำเรื่องเกิดประโยชน์อะไรเลย มาแอบซื้อเกาะอยู่ที่นี่ และยังซื้อเรือประมงมากมาย เพื่อมาจับปลา หลังจากถูกผมจับได้ ก็พึ่งจัดการและพัฒนามันขึ้นมา”

 

 

หลินเช่อแอบคิดในใจ แอบซื้อเกาะได้

 

 

เวลาคนรวยพวกนี้เอาแต่ใจขึ้นมา ก็จนปัญญาด้วยจริงๆ

 

 

ลู่เป่ยเฉินเม้มริมฝีปาก สูดหายใจเข้าลึก

 

 

กู้จิ้งเจ๋อที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้น “พี่เป่ยเฉินช่างมีความชอบเรียบง่ายดีนะครับ”

 

 

ลู่เป่ยเฉินถาม “นายคิดว่าฉันจะเหมือนนายหรือยังไง บ้างาน การตกปลาไปวันๆ มันเป็นความฝันตลอดหลายปีมานี้ของฉัน เฮ้อ น่าเสียดายที่ถูกตาเฒ่าคนนี้มาทำลายหมดเลย ตอนนี้ยังให้ฉันต้องมาเสียเวลากับอะไรจอมปลอมของผู้หญิงพวกนี้อีก นายคิดว่าฉันจะมีความสุขเหรอ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยิ้มบางๆ “สำหรับผมแล้ว การสร้างรายได้มันกลายเป็นเรื่องสนุกไปแล้ว”

 

 

ลู่เป่ยเฉินมองหลินเช่อ “ผมไม่รู้จริงๆ ทำไมคุณถึงได้แต่งงานกับเขา”

 

 

หลินเช่อหัวเราะ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดูแค่หน้าก็พอแล้ว จะสนใจทำไมว่าเขาทำอะไร”

 

 

“นั่นสิ…ที่คุณพูดก็ถูก”

 

 

ตอนนี้ภาพลักษณ์ของหลินเช่อในสายตาของลู่เป่ยเฉินนั้นไม่เลวเลย ยิ่งรู้จักหลายครั้ง ก็อดไม่ได้ที่จะพูดเป็นกันเองออกไป

Related

Comment

Options

not work with dark mode
Reset