เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 117 โกรธที่ถูกปล่อยให้คอยเก้อ

โม่ฮุ่ยหลิงมองอีกฝ่ายด้วยสายตาร้อนรน เธอกัดฟันแล้วคว้าแจกันที่อยู่ใกล้มือปามันลงพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนจะก้มลงหยิบเศษกระเบื้องและเฉือนเข้าที่ข้อมือตัวเอง…”
 
 
“ฮุ่ยหลิง นี่เธอ…” เขาพยายามจะคว้าเศษกระเบื้องในมือเธอ แต่ก็ช้าเกินกาล คมกระเบื้องปาดโดนเข้าผิวเนื้อตรงข้อมือไปเสียแล้ว
 
 
โม่ฮุ่ยหลิงคิดไม่ถึงว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ เจ็บจนเธอต้องร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด “จิ้งเจ๋อ…ฉัน… ทุกอย่างฉันทำไปก็เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆ คุณนะคะ ได้โปรด…อย่าโกรธฉันอีกเลยนะคะ…”
 
 
“เธอ…นี่เธอ…” ชายหนุ่มโกรธจัด โม่ฮุ่ยหลิงกล้าทำแบบนี้กับตัวเองได้ยังไง การทำร้ายตัวเองแบบนี้เป็นการกระทำที่เกิดจากความรู้สึกเกลียดชังตัวเอง!
 
 
หญิงสาวตัวสั่นระริกก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
 
 
กู้จิ้งเจ๋อยืนตะลึง มองดูหญิงสาวอย่างหวั่นใจ เขาส่ายหน้าและโทรศัพท์เรียกรถ
 
 

 
 
ที่ภัตตาคาร
 
 
หลินเช่อนั่งรออยู่ได้พักใหญ่แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่ากู้จิ้งเจ๋อจะโผล่มา
 
 
บางทีเขาอาจจะไม่มาแล้วก็ได้ ในเมื่อถูกโม่ฮุ่ยหลิงเรียกตัวไปแบบนั้นนี่นะ
 
 
หญิงสาวรู้สึกโง่ขึ้นมาถนัดใจเมื่อต้องมานั่งรอเขาโดยไม่มีความหวังแบบนี้
 
 
แถมตอนนี้เธอก็หิวจะแย่แล้วด้วย หลินเช่อคิดว่าเธอสั่งอาหารมากินก่อนเลยก็แล้วกัน ถึงยังไงก็ควรทำให้ท้องอิ่มนี่นะ
 
 
ขณะที่กำลังลงมือรับประทาน หลินเช่อก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนมายืนอยู่ใกล้ๆ
 
 
แวบแรกเธอคิดว่ากู้จิ้งเจ๋อคงโผล่มาแล้วในที่สุด จึงรีบเงยหน้าขึ้นโดยเร็วและพูดว่า “นี่คุณยังจะมาอีกเหรอคะ ฉันกินส่วนของคุณไปหมดแล้วล่ะ”
 
 
แต่แล้วสิ่งที่เธอเห็นกลับเป็นกู้จิ้งอวี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
 
 
“กู้จิ้งอวี่”
 
 
คนพี่ไม่ยักมา แต่อีตาคนน้องกลับโผล่มาแทนเสียอย่างงั้น
 
 
ชายหนุ่มนั่งลงโดยไม่ต้องเชิญ “เกิดอะไรขึ้น นี่เธอโดนปล่อยให้คอยเก้องั้นเหรอ”
 
 
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ…” หญิงสาวตอบอายๆ
 
 
กู้จิ้งอวี่ยิ้มพลางสำรวจดูการแต่งตัวที่ดูประณีตกว่าปกติของอีกฝ่าย “เห็นกันอยู่ว่าไม่จริง ไม่ต้องมาเสแสร้งหรอกน่า เอาเถอะ ในเมื่อเธอน่าสงสารขนาดนี้ งั้นเดี๋ยวฉันช่วยกินก็แล้วกัน”
 
 
“…” ทำไมผู้ชายบ้านนี้ถึงได้หน้าไม่อายเหมือนกันหมดเลยนะ ทั้งพี่ทั้งน้องเลยให้ตาย
 
 
กู้จิ้งอวี่เริ่มตักอาหารเข้าปาก เขามองดูหลินเช่อ “ฉันได้ยินว่าเธอกำลังจะได้ไปออกรายการเรียลลิตี้โชว์”
 
 
“ใช่ค่ะ รายการดังเสียด้วยสิ บริษัทของเราเป็นคนจัดการให้น่ะค่ะ” เธอเล่า
 
 
กู้จิ้งอวี่หัวเราะหึ “ดูจากไอคิวของเธอแล้ว รายการจะไม่เละตุ้มเป๊ะหมดเหรอ”
 
 
“ทำไมละคะ”
 
 
“เธอเองก็น่าจะรู้นะ ว่าดาราของรายการเรียลลิตี้น่ะมีแต่คนเก่งเรื่องเรียกร้องความสนใจจากคนดูกันทั้งนั้น แล้วด้วยระดับมันสมองอย่างเธอน่ะ จะไปแข่งกับเขายังไงไหว”
 
 
“มันคงไม่แย่ขนาดนั้นหรอกมั้งคะ…” หลินเช่อว่า “ก็มันเป็นรายการเรียลลิตี้ ทุกคนก็ต้องมีโอกาสด้วยกันทั้งนั้น อีกอย่าง คนอย่างฉันมีปัญหาเรื่องไอคิวไม่พอตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบ!”
 
 
“ทำไมเธอไม่ลองดูล่ะว่าเธอจะต้องออกไปเจอกับใครบ้าง แต่ละคนน่ะโชกโชนกันจะตาย พวกเขาอยู่ในรายการนี้กันมาสองปีแล้วนะ แน่นอนว่าต้องมีประสบการณ์ในการดึงดูดความสนใจมากกว่าคนอย่างเธอแน่ อีกอย่าง ยังมีแขกรับเชิญที่จะมาสมทบอีกสองสามคน พวกนั้นก็เป็นพวกใจกล้าหน้าด้านเสียด้วย ส่วนเธอเองก็…” เขาตักเครื่องเคียงที่มากับจานสเต็กเข้าปากพลางส่ายหน้า
 
 
หลินเช่อถามต่อ “ใครเป็นแขกรับเชิญที่จะมาร่วมรายการกับฉันเหรอคะ”
 
 
“ฉันได้ยินมาว่าคราวนี้เป็นธีมของดาราสาวหน้าใหม่น่ะ คนที่มาร่วมรายการกับเธอจะเป็นดาราผู้หญิงหน้าใหม่ทั้งหมด รับรองว่าพอได้เจอเธอต้องจำได้แน่นอน แต่ถึงจะเป็นหน้าใหม่ แต่ละคนก็เริ่มจัดจ้านกันมากขึ้นทุกที พอไปถึงเดี๋ยวเธอก็คงรู้เองนั่นแหละ”
 
 
หลินเช่อชักจะเริ่มลังเล ไอ้เรื่องการเล่นชิงดีชิงเด่นแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอถนัดเลย
 
 
วงการบันเทิงตอนนี้ไม่ใช่พื้นที่ที่จะอยู่กันได้ด้วยความสามารถทางการแสดงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว
 
 
หลินเช่อมองหน้าอีกฝ่าย “แล้วทำไมคุณถึงมากินข้าวที่นี่ละคะ”
 
 
“ก็ทำไมจะมาไม่ได้ล่ะ” เขาว่า “ห้างทั้งห้างนี่เป็นของตระกูลกู้ ฉันก็แค่มาเดินเล่นดูรอบๆ เท่านั้น”
 
 
กลายเป็นว่าที่นี่ก็เป็นของตระกูลกู้งั้นเหรอเนี่ย
 
 
ทว่าเมื่อนึกไปถึงกู้จิ้งเจ๋อที่น่าจะยังคงกำลังอยู่กับโม่ฮุ่ยหลิงแล้ว หลินเช่อก็ชักจะเริ่มอึดอัดใจ เธอจึงเงยหน้าขึ้นบอกคนที่กำลังกินอาหารอย่างเพลิดเพลินว่า “ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
 
 
เมื่อแยกจากกู้จิ้งอวี่จนกลับมาถึงบ้าน หญิงสาวก็พบว่ากู้จิ้งเจ๋อยังคงไม่กลับมา
 
 
หลินเช่อจึงตัดสินใจใช้ช่วงเวลาตลอดบ่ายไปกับเฉินโยวหราน และตลอดคืนนั้นทั้งคืน กู้จิ้งเจ๋อก็ไม่ได้กลับบ้าน
 
 
หลินเช่อนั่งลงบนเตียงนอน เธอไม่อยากถามสาวใช้ว่ากู้จิ้งเจ๋อไปไหน แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังอดเป็นห่วงเขาไม่ได้ หรือว่าเขาจะป่วยนะ ครั้งสุดท้ายที่เขาสัมผัสตัวโม่ฮุ่ยหลิง อาการป่วยของเขาก็กำเริบขึ้นมาทันที บางทีครั้งนี้เขาอาจจะไม่สามารถควบคุมตัวเองเมื่ออยู่กับโม่ฮุ่ยหลิงได้อีกจนอาการกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง
 
 
แต่ว่า… แล้วเขาจะไปถูกเนื้อต้องตัวโม่ฮุ่ยหลิงทำไมกันล่ะ…
 
 
เมื่อคิดเช่นนั้น เธอก็ยิ่งทั้งหงุดหงิดทั้งกระวนกระวาย ทำไมเขาถึงไม่รู้จักอดใจที่จะไม่แตะต้องคนอื่นล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ละก็สมควรแล้วที่จะต้องล้มป่วย
 
 
ถ้าเขาตาย มันก็เป็นความผิดของเขาเองนั่นแหละ
 
 
หลินเช่อยกผ้าห่มขึ้นคลุมโปง ไม่อยากคิดถึงกู้จิ้งเจ๋ออีกต่อไปแล้ว
 
 

 
 
เช้าวันต่อมา ชายหนุ่มก็ยังคงไม่กลับบ้าน
 
 
หัวใจของหลินเช่อห่อเ**่ยวแต่เช้า แม้ว่าจะได้นอนตามลำพังเมื่อคืนก่อนแต่เธอกลับหลับไม่ค่อยสนิทนัก ไม่รู้ทำไมแต่เธอรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ปกติแล้วเธอเป็นคนขี้เซาทีเดียว แต่เมื่อคืนนี้เธอกลับต้องพลิกตัวไปมา ไม่อาจหลับได้ลง
 
 
คงเป็นเพราะใจห่วงกู้จิ้งเจ๋อมากเกินไปนั่นเอง
 
 
แต่แล้วชายหนุ่มก็กลับมา
 
 
หลินเช่อผุดลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียง ใจหนึ่งอยากจะออกไปดู แต่พอคิดว่าเขาใช้เวลาตลอดทั้งค่ำคืนอยู่กับโม่ฮุ่ยหลิงแล้ว บางทีเขาอาจจะกำลังคงอยู่ในห้วงฝันก็ได้ ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงคิดว่าจะเป็นการดีกว่าที่จะไม่โผล่พรวดพราดออกไปจนทำให้เขาต้องตื่นจากภวังค์
 
 
ถึงอย่างไรโม่ฮุ่ยหลิงก็คือผู้หญิงที่เขารักนี่นะ
 
 
กู้จิ้งเจ๋อเดินตรงมาที่ห้องนอนทันที และพอได้เห็นหลินเช่อ หัวใจเขาก็รู้สึกได้ถึงความสงบ
 
 
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โม่ฮุ่ยหลิงเอาแต่สร้างเรื่อง โวยวายไม่หยุดหย่อนและขู่ที่จะฆ่าตัวตาย จนไม่ว่าใครก็แทบจะหมดความอดทนกับหล่อน
 
 
เขาได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าที่หล่อนกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเขา หญิงสาวไม่เคยทำตัวเช่นนี้มาก่อนเลย
 
 
“คุณกลับมาแล้ว” เธอหันไปมองเขาพลางทักทายอย่างค่อนข้างที่จะอารมณ์บูด
 
 
ชายหนุ่มพยักหน้าและรีบอธิบายโดยเร็วว่า “ฮุ่ยหลิงอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ เขากรีดข้อมือตัวเองแล้วก็อยู่ในภาวะอารมณ์ไม่มั่นคง ฉันกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้…”
 
 
หลินเช่อเงยหน้าขึ้น “โอ้ อย่างนั้นเหรอคะ งั้นคุณก็ควรจะอยู่เป็นเพื่อนเธอให้นานกว่านี้นะคะ”
 
 
ชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้ อยากสวมกอดเธอจากทางด้านหลังให้พอชื่นใจ
 
 
เพราะเขาแทบไม่ได้นอนเลยตลอดคืน ทั้งหงุดหงิดและเหนื่อยอ่อน การได้เห็นหน้าหลินเช่อทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายหัวใจ…
 
 
หญิงสาวรู้สึกได้ว่าเขากำลังก้าวเข้ามาใกล้ เธอจึงรีบกระถดถอยโดยพลัน
 
 
“กู้จิ้งเจ๋อ คุณจะทำอะไรคะ” เธอทำตาเขียวใส่เขา
 
 
เขามองหน้าเธอ “เป็นอะไรไป…นี่เธอโกรธที่ฉันไม่ได้ไปหาที่ร้านอาหารเหรอ ฉันขอโทษ มันเป็นเรื่องฉุกละหุกจริงๆ …”
 
 
“ฉันไม่ได้โกรธสักหน่อย ทำไมฉันจะต้องโกรธด้วยละคะ มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะไปอยู่กับโม่ฮุ่ยหลิงนี่คะ แล้วมันก็ไม่ใช่กงการอะไรของฉันด้วย ฉันแค่…ต้องไปทำงานแล้วน่ะ เดี๋ยวจะสายเอา ถอยหน่อยค่ะ”
 
 
เธอผลักเขาออกและรีบเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
 
 
“เธอ…” เขามองตามหลังเธอไปอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่เพียงยืนกอดอกนิ่ง และทอดถอนใจยาว
 
 
หลินเช่อไม่อย่างยุ่งกับเขา เธอกำลังคิดว่าเธอควรจะรักษาระยะห่างจากกู้จิ้งเจ๋อเอาไว้
 
 
ไม่อย่างนั้นเธออาจจะชินกับการได้มีเขาอยู่ข้างๆ ถ้าอย่างนั้นแล้วหลังจากหย่ากันเธอจะทำอย่างไร
 
 
ยังไงซะเธอก็ไม่มีวันได้อยู่กับเขาตลอดไป การแต่งงานครั้งนี้เป็นไปเพียงเพื่อที่จะปกป้องโม่ฮุ่ยหลิงเท่านั้น เธอไม่ควรจะถลำตัวผูกมัดตัวเองกับการแต่งงานครั้งนี้ให้มากเกินไปกว่านี้แล้ว
 
 
ไม่ว่าทุกอย่างจะดูดีแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่การแต่งงานจอมปลอม

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset