เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1007 นายอยากตายหรือไง

บทที่1007 นายอยากตายหรือไง

สามารถอยู่จัดการเอกสารกับไอดอลของตัวเอง อีกทั้งยังได้อยู่ใกล้ชิดเธอขนาดนี้ เลิงเยาเยายอมอยู่แล้วแน่นอน

แต่เอกสารมันเยอะเกินไป เธอจัดการคนเดียวไม่ไหว ในตอนนี้เลิงเยาเยาก็ได้นึกถึงหวังอานขึ้นมา

“ฉันเรียกหวังอานมาได้มั้ยคะ? คุณวางใจได้เลย เขาเป็นหนอนตามก้นของฉันเอง ตามฉันมาหลายที่หลายปี ไม่มีทางเอาข้อมูลสำคัญพวกนี้หลุดออกไปได้แน่นอนค่ะ”

“โอเค!” หานมู่จื่อพยักหน้าตอบรับออกมา

ในเวลาต่อมา เลิงเยาเยาก็ได้เรียกหวังอานมา จากนั้นพวกเขาก็ร่วมกันจัดการงานด้วยกัน หวังอานก็ได้ขลุกอยู่ข้างๆเลิงเยาเยาอย่างซื่อสัตย์ไปโดยธรรมชาติ กับการเรียกหาของเทพธิดาของเขาแล้ว เขาได้เข้ามาโดยที่ไม่พูดไม่จาแม้แต่คำเดียว

ในตอนที่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน หานมู่จื่อก็หาวออกมาไม่หยุด หนังตาก็ใกล้จะปิดแล้ว แต่เธอก็ยังพยายามฝืนจัดการเอกสารต่อไป

หวังอานลอบมองหานมู่จื่ออยู่หลายครั้ง จากนั้นก็เข้าไปใกล้ร่างเลิงเยาเยาแล้วเอ่ยถามออกไปเบาๆ “เกิดอะไรขึ้น? งานของเสี่ยวเหยียนต่อจากนี้เธอเป็นคนรับช่วงต่อ?”

“อืม” กับหวังอานนั้นเลิงเยาเยาได้กลับมามีท่าทางดั่งเทพธิดาสูงส่งออกมาอีกครั้ง พยักหน้าออกมาอย่างเย็นชา

หวังอานตื่นตกใจออกมาเล็กน้อย “นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”

“หวังอานฉันให้นายมาช่วย ไม่ได้ให้นายมาตั้งคำถามนะ นายนี่มันพูดไร้สาระจังเลยนะ เห็นฉันเป็นคนยังไงกัน?” เลิงเยาเยาแขวะเขาออกไปเบาๆ

หวังอานไม่กล้าถามออกไปอีก ทำได้เพียงช่วยจัดแยกเอกสารไปเงียบๆ เขาอยากรู้จริงๆก็เลยได้ถามออกไป แต่ขอเพียงแค่เลิงเยาเยามีความสุข เขาก็ไม่มีอะไรจะต้องพูดอีก

อยู่เป็นเพื่อนเธอไปก็พอ

ผ่านไปได้สักพักนึงแล้ว หวังอานก็ได้เงยหน้าขึ้นมองไปทางหานมู่จื่ออีกครั้ง แต่กลับพบว่าเธอได้ฟุบหลับลงกับโต๊ะไปเสียแล้ว

หวังอาน “…”

เขารีบกระทุ้งร่างเลิงเยาเยาที่กำลังตั้งใจอ่านเอกสารไปเบาๆ เลิงเยาเยาไม่สนใจเขา เขาก็กระทุ้งไปอีก เลิงเยาเยาเดือดจนคว้าเนคไทของเขาแล้วดึงเขาเข้ามา

“หวังอาน นายอยากตายหรือไง?”

“ผมแค่อยากบอกว่าคุณมู่จื่อหลับไปแล้วครับ”

“นายว่าอะไรนะ?” หวังอานนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย มองไปตามทางที่หวังอานพูดถึง อย่างที่คิดได้พบว่าหานมู่จื่อได้ฟุบหลับอยู่ตรงนั้นไปแล้วจริงๆ เธอยู่ปากออกมา “ท่าทางของเธอดูเหมือนว่าจะเหนื่อยมาก”

“อืม เมื่อกี้นี้ผมเห็นเธอเอาแต่หาวอยู่ตลอดเลย คาดว่าน่าจะนอนไม่พอ”

เลิงเยาเยาหรี่ตาลงด้วยความสงสัย “ทำไมนายถึงเห็นเธอหาวกัน? นายหวังเขาอยู่หรือไงนายน่ะ?”

หวังอาน “…เชรด ผมไหนเลยจะกล้าล่ะครับนายหญิง เธอก็รู้ว่าหลายปีมานี้คนที่ผมต้องการมีเพียงแค่เธอคนเดียว มีแต่เธอที่ไม่เคยให้โอกาสให้ผมได้เป็นตัวจริงของเธอเลย”

เขาตามเธอมาหลายปี แรกเริ่มเลิงเยาเยาไม่ชอบเขา ต่อมาก็เหมือนจะค่อยๆชินกับคนอย่างเขาที่คอยไล่ตามอยู่ข้างๆเธอขึ้นมาเรื่อยๆ

เลิงเยาเยาคลายมือ กลอกตาใส่เขาไปทีนึง

“อย่างนายยังคิดอยากจะเปลี่ยนสถานะ? ใครจะไปรู้ล่ะหลายปีมานี้นายคงจะเบื่อฉันไปนานแล้วใช่มั้ยละ!”

พูดจบ เธอก็ลุกขึ้น ในตอนที่หวังอานคิดว่าเธอกำลังโกรธอยู่นั้น กลับเห็นเลิงเยาเยาถอดเสื้อโค้ทตัวยาวบนตัวออก แล้วเดินไปทางหานมู่จื่อ

หวังอาน “นี่เธอจะทำอะไร?”

“นายไม่มีตาหรือไง? เทพธิดาของฉันหลับไปแล้ว ฉันไม่อาจให้เธอโดนอากาศเย็นได้หรอก!”

เธอกดเสียงต่ำลง จากนั้นก็เดินเข้าไปเอาเสื้อโค้ทคลุมลงไปบนร่างของหานมู่จื่ออย่างระมัดระวัง

จากนั้นก็เดินย่องๆเข้ามาอีกครั้ง แล้วส่งสัญญาณให้หวังอานหอบเอาเอกสารบนโต๊ะขึ้นมา “ไปข้างนอก”

หวังอานรีบลุกขึ้นหอบเอกสารขึ้นมา เลิงเยาเยารีบเอ่ยออกมา “เบาๆหน่อย!”

เขาทำได้เพียงเบามือเบาเท้า จากนั้นก็หอบเอาเอกสารเดินตามเลิงเยาเยาออกไปข้างนอก

รอจนเลิงเยาเยาปิดประตูลงในตอนที่นั่งลงที่ด้านนอกนั้นเอง หวังอานก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา “ทำไมพวกเราต้องออกมา? เธอคงไม่ได้กลัวว่าเสียงดังรบกวนเธอหรอกใช่มั้ย?”

ได้ยินดังนั้นแล้ว เลิงเยาเยากลอกตาใส่เขา “ไม่งั้นล่ะ? เทพธิดาของของฉันหลับอยู่นะ พวกเรายังจะอยู่จัดเอกสารอยู่ในนั้นต่ออีก? เธอดูเหนื่อยมากแล้ว ปล่อยให้เธอพักไปเถอะ”

หวังอานมองโต๊ะน้ำชาที่อยู่ตรงหน้า เอ่ยออกมาอย่างหมดคำพูด “งั้นพวกเราก็จัดเอกสารกันตรงนี้?”

“นายมีปัญหา?” เลิงเยาเยาเลิกคิ้ว

หวังอาน “ไม่มีครับ นี่มันเยี่ยมมากๆเลย”

พูดจบ หวังอานนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงถอดเสื้อโค้ทบนร่างของตัวเองออกไปคลุมลงบนร่างของเลิงเยาเยา

*

ภายในห้องอันกว้างขวางเงียบเป็นเป่าสาก เลิงเยาเยากับหวังอานจัดเอกสารกันไปอย่างตั้งอกตั้งใจ บ้างก็มีเสียงการพลิกหน้ากระดาษ นอกจากนี้แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงดังของอะไรอื่นออกมาอีก

ดังนั้นแล้วในตอนที่เสียงประตูถูกเคาะดังขึ้นมานั้น เลิงเยาเยากับหวังอานต่างพากันแข็งค้างกันไปเล็กน้อย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากันอยู่ประมาณสามวิเห็นจะได้ ทั้งสองคนก็ลุกขึ้นไปเปิดประตู

ทันที่เปิดประตู ทั้งสองคนก็เห็นชายผู้มีใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่ง มีออร่าไม่ธรรมดาคนนึงยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอ

หวังอานและเลิงเยาเยานิ่งอึ้งไปพร้อมกัน เพียงไม่นานก็จำผู้ทรงอิทธิพลผู้ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้ขึ้นมาได้

ผู้กุมอำนาจของบริษัทตระกูลเย่ เย่โม่เซินนั่นเอง

หวังอานก็ได้เอ่ยถามออกไปทันที “ไม่ทราบว่าคุณมาหาใครครับ?”

ทันทีที่พูดจบ หัวก็ถูกเลิงเยาเยาตบลงไปอย่างแรง จากนั้นดึงร่างเขามาอยู่ข้างหลังตัวเอง ถอยออกไปอยู่อีกข้างนึงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “คุณชายเย่ คุณมาหาคุณมู่จื่อใช่มั้ยคะ?”

เย่โม่เซินมองสองคนตรงหน้าไปแวบนึง พร้อมพยักหน้าออกไป

“ฉันโทรหาเธอแต่ไม่มีใครรับสาย”

จากนั้นเขาก็ได้โทรหาที่วิลล่าไห่เจียง พอถามไปก็รู้ว่าที่แท้เธอก็มาบริษัทนี่เอง เย่โม่เซินก็เลยต้องมารับเธอด้วยตัวเอง

“อ้อ เอ่อ…คุณมู่จื่อไม่ได้ตั้งใจไม่รับสายของคุณนะคะ งานเยอะเกิน เธอก็เลยต้องปิดเสียงโทรศัพท์ไปค่ะ”

งานเยอะ?

ได้ยินคำพูดนี้ เย่โม่เซินก็ได้ขมวดคิ้วออกมาทันที

เวลาแบบนี้ยังมาทำงานที่บริษัท?

“เจ้าตัวล่ะ?”

เลิงเยาเยาเอี้ยวตัวออกมาให้เขาได้เข้ามา พาเขาเข้ามาในออฟฟิศ พลางพูดอธิบายออกมา “เธอคงจะเหนื่อยมาก เมื่อกี้นี้เลยนอนหลับไป พวกเราก็ออกมา กลัวว่าจะทำเสียงดังรบกวนเธอ”

หลังจากที่หยุดฝีเท้าลง เลิงเยาเยาก็เปิดประตูไปอย่างระมัดระวัง

ทันทีที่ประตูเปิดออก ก็ได้เห็นหานมู่จื่อฟุบหลับฝันหวานอยู่กับโต๊ะอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ บนร่างมีเสื้อโค้ทผู้หญิงตัวหนึ่งหลุมเอาไว้ มองเสื้อโค้ทผู้ชายบนร่างของเลิงเยาเยาไปอีกทีเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

เขามองเลิงเยาเยาอยู่สักพัก แล้วขอบคุณเธอออกไป

“ขอบคุณ วันนี้ได้เวลาเลิกงานแล้ว พวกเธอกลับไปเถอะ ฉันจะพาเธอกลับเอง”

“อ้อ ดี…”

เย่โม่เซินสาวก้าวใหญ่ๆเข้าไป เหลือบมองกองเอกสารที่อยู่ตรงหน้าหานมู่จื่อเล็กน้อย โทรศัพท์วางอยู่ข้างๆ เย่โม่เซินหยิบโทรศัพท์เข้ามาใส่ในกระเป๋าตัวเอง จากนั้นก็หยิบเสื้อโค้ตขึ้นมาแล้วส่งสัญญาณให้เลิงเยาเยาเข้ามาเอาไป

หวังอานเห็นดังนั้นแล้ว ก็รีบก้าวเข้ามารับเสื้อโค้ทของเลิงเยาเยาไป

เย่โม่เซินถอดเสื้อโค้ทบนร่างของตัวเองออกมาคลุมร่างหานมู่จื่อ จากนั้นก็ค่อยๆอุ้มเธอขึ้นมาอย่างเบามือ เดิมทีคิดว่าจะออกไปอย่างนี้ นึกไม่ถึงว่าทันทีที่เย่โม่เซินอุ้มเธอขึ้นมา หานมู่จื่อก็ได้ส่งเสียงงัวเงียออกมา จากนั้นก็ตื่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น

เธอลืมตาขึ้นมา ก็เห็นใบหน้าที่เข้าใกล้เข้ามาของเย่โม่เซิน หรี่ตาลงด้วยความสงสัย

“ทำไมคุณอยู่ที่นี่?”

เย่โม่เซินมองเธอ

หานมู่จื่อที่กำลังงัวเงียอยู่ในตอนนี้ ดวงตายังพร่าเลือน เขาควรใช้โอกาสนี้อุ้มเธอลงจากตึกไป ไม่อย่างนั้นแล้วเดี๋ยวเธอก็คงจะพูดออกมาว่าเธอจะอยู่ที่นี่ต่อ

ดังนั้นแล้วเขาก็เลยเม้มริมฝีปาก แล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวลว่า “คุณนอนต่อเถอะ ไม่ต้องสนใจผม”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset