เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1043 จำไว้ว่าคุณเป็นหนี้บุญคุณผมหนึ่งครั้ง

บทที่1043 จำไว้ว่าคุณเป็นหนี้บุญคุณผมหนึ่งครั้ง

โทรศัพท์ฝั่งนั้นเงียบไป หลินสวี่เจิ้งยิ้มจางๆ “ว่าอย่างไร พูดตรงกับความคิดของนาย ? ไม่มีอะไรจะพูดเหรอ ?”

เงียบอยู่ชั่วขณะ ในที่สุดอีกฝั่งก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“เขาเป็นเพื่อนของน้องสาวฉันเอง”

“โอ๋ ?”

หลินสวี่เจิ้งก้มหัวลงแล้วหัวเราะเบาๆ “เป็นเพื่อนของน้องสาวนายอย่างนั้นเหรอ แสดงว่านายก็เป็นโคแก่กินหญ้าอ่อนน่ะสิ ก็ใช่นะ ฉันเห็นเธอยังอายุน้อยร่าเริงมาก เหมาะกับชายแก่แบบนายเลยล่ะ”

“……”

หลินสวี่เจิ้ง แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด

อันที่จริงเขาเข้าใจ ความหมายของเขาคืออีกฝ่ายก็แค่เป็นเพื่อนของน้องสาวเขา ส่วนเขาก็แค่ช่วยเสี่ยวเหยียนในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนน้องสาว

แต่หลินสวี่เจิ้งเป็นใครกัน จะมาเชื่อเขาได้อย่างไร ?

จึงได้ตั้งใจบิดเบือนความหมายตรงนี้ไป

อย่างไรก็ตาม เขาก็ทำอะไรตนเองไม่ได้

เป็นอย่างที่คิดไว้ ฝ่ายตรงข้ามก็แค่ถอนหายใจ แม้แต่อธิบายยังขี้เกียจ จึงเพียงแค่พูดไปว่า “ นายอยากจะเข้าใจแบบไหนก็เข้าใจแบบนั้นเลย จะเริ่มประชุมแล้ว”

หลินสวี่เจิ้ง : “ไปเลย จำไว้นะ นายเป็นหนี้บุญคุณฉันแล้วหนึ่งครั้ง”

เมื่อพูดจบ หลินสวี่เจิ้งก็วางสายโทรศัพท์ ส่วนรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ค่อยๆ จางหายไป

ราวกับว่าคนที่พูดล้อเล่นกับหานชิงเมื่อกี้ไม่ใช่เขา

ภรรยาของเขาเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว เขาปล่อยอารมณ์ให้เป็นอิสระมานาน ขมขื่นอยู่ในใจ แต่บนผิวหน้ายังสามารถคุยได้อย่างสนุกสนาน

แม้ว่ารอยยิ้มแบบนั้นจะไปไม่ถึงดวงตาและหัวใจ แต่มันจะเป็นอะไรไปล่ะ ?

บนโลกใบนี้ มีเพียงคนเดียวที่เข้าใจความทุกข์ที่อยู่ในใจของเขา และคนที่รักเขาด้วยหัวใจก็ตายไปแล้ว……

เขาต้อง……เสียเธอไปตลอดกาล

หลินสวี่เจิ้งหลับตาลง รอยยิ้มจางๆ กระจายไปทั่วริมฝีปากสีขาวซีด

*

เมื่อหานมู่จื่อได้รับข่าวว่าเสี่ยวเหยียนจะเปิดร้านอาหาร ก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง แต่หลังจากประหลาดใจก็กลายเป็นตื่นเต้น

“จะเปิดร้าน จะเปิดร้านตอนไหน ? เดี๋ยวฉันจะพาโม่เซินไปเป็นกำลังใจให้เธอ”

เมื่อได้ยินว่าคุณชายเย่จะมา เสี่ยวเหยียน ก็รู้ลำบากใจอยู่บ้าง จึงได้กระซิบไปว่า “หรือเธอจะมาคนเดียวเลยไหม เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอ ความทรงอำนาจของคุณชายเย่รุนแรงเกินไป ฉันกลัวว่าร้านของเราจะเล็กไป แล้วจะเอาไม่อยู่”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หานมู่จื่อก็ได้มองไปยังห้องอาบน้ำ ในตอนนี้เย่โม่เซินกำลังอาบน้ำอยู่ข้างใน

ลองนึกถึงเย่โม่เซินทำหน้าเย็นเยียบและความทรงพลังที่รุนแรง หานมู่จื่อก็อดหัวเราะไม่ได้

“ไม่ต้องห่วง ถ้าเขากล้าไปทำให้คนอื่นกลัว แน่นอนว่าฉันก็ไม่อนุญาต”

“แหม…… มู่จื่อ เธอจะพาเขามาจริงๆ เหรอ ?”

“แน่นอน จะเปิดร้านใหม่แล้ว คนเยอะๆ จะได้สนุกสนาน”

ทันใดนั้น จางเสี่ยวเหยียน ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร เธอจึงหันหัวมองไปยังห้องผู้ป่วยที่พ่อจางอยู่ ถ้าวันนั้นเปิดร้านแล้วคุณชายเย่มาจริงๆ ไม่รู้เลยว่าสีหน้าพ่อของเธอจะเป็นอย่างไร ?

ดีใจหรือว่าตกใจ ?

ทันใดนั้น แม้แต่จางเสี่ยวเหยียนเองก็อยากรู้อยากเห็นอยู่บ้าง บางทีอาจจะสนุกมาก็ได้นะ

“เอาเถอะ ถ้าเช่นนั้นเธอก็มาพร้อมเขาเลยนะ ใช่แล้วมู่จื่อ เธอไม่ได้โทษฉันใช่ไหม ?”

“หือ ?”

เมื่อหานมู่จื่อได้ยินคำพูดนี้แล้วก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง

“จะโทษอะไรเธอ ?”

“ไม่ติดต่อเธอมาตั้งนานขนาดนี้ นอกจากนี้……จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับไปช่วยเธอ แถมยังเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง……ฉัน……”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหานมู่จื่อก็เย็นลง น้ำเสียงดุดันไปบ้าง

“ที่เธอพูดแบบนี้คือไม่นับฉันเป็นเพื่อนของเธอเลยใช่ไหม ?”

“มู่จื่อ เธอคิดแบบนี้ได้อย่างไร ฉันจะไม่นับเธอเป็นเพื่อนได้อย่างไร เธออย่าเข้าใจผิดเลยนะ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น……”

เมื่อเสี่ยวเหยียนได้ยินน้ำเสียงดุดันของหานมู่จื่อ จึงรีบร้อนขึ้นมาทันที พยายามที่จะอธิบาย ทำท่าทางร้อนรนจะร้องไห้

“เอาเถอะ เธออย่ากังวลขนาดนี้สิ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิเธอสักหน่อย ฉันแค่รู้สึกว่าถ้ายังนับฉันเป็นเพื่อน ก็ไม่ควรที่จะโอนอ่อนผ่อนตามฉันตลอด เธออยากจะทำอะไรมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอเอง ฉันก็ไม่สามารถไปยุ่งกับเธอได้ มากไปกว่านั้นยังไม่มีสิทธิ์ไปตำหนิเธอ เข้าใจไหม ?”

เสี่ยวเหยียน : “มู่จื่อ ฉัน……”

“ที่ฉันโกรธเพราะเธอคิดว่าตนเองผิดต่อฉัน แต่จริงๆ แล้วคนเป็นหนี้ควรจะเป็นฉัน หลายปีที่ผ่านมานี้……ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเป็นเพื่อนฉันมาโดยตลอด ฉันก็อาจจะไม่มีวันนี้”

“ไม่ๆๆ” เสี่ยวเหยียน ส่ายหัวอย่างรุนแรง “เธอเป็นคนที่ทำให้ฉันสำเร็จในวันนี้ ถ้าไม่อยู่เป็นเพื่อนเธอ ฉันก็อาจจะไม่สามารถหาเงินได้เยอะขนาดนี้……”

ถ้าไม่สามารถหาเงินได้เยอะขนาดนี้ เธอจะเปิดร้านได้อย่างไร ดังนั้นสรุปได้ว่า เสี่ยวเหยียน ควรจะขอบคุณ หานมู่จื่อ เป็นอย่างมาก

“เธอโง่ไปแล้วเหรอ ? เงินที่หาได้มันก็แปรผันตรงกับความสามารถของเธอ มันเป็นของเธอทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับฉันสักนิดเดียว เสี่ยวเหยียน พวกเราเป็นกัน เป็นเพื่อนสนิทที่ดี ความสัมพันธ์ของเราเท่าเทียมกัน ต่อหน้าฉันเธอก็อย่าวางตนเองต่ำขนาดนั้นสิ”

“มู่จื่อ……”

“ถ้าเธอยังทำท่าทีที่วางตนเองต่ำแบบนี้ไปตลอด ฉันก็อาจจะไม่สามารถเป็นเพื่อนเธอต่อไปได้อีกแล้ว”

เมื่อจางเสี่ยวเหยียนได้ยินก็รีบร้อนทันที “อย่านะมู่จื่อ หลังจากนี้ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”

“ถ้าเช่นนั้นก็ดีแล้ว”

“อืม ตกลงกันแล้วนะ”

ในที่สุดทั้งสองคนก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม และเริ่มพูดคุยหัวเราะกัน

หลังจากวางสายไปแล้ว หานมู่จื่อ เอาโทรศัพท์วางไปที่โต๊ะข้างเตียง เย่โม่เซินอาบน้ำเสร็จแล้วออกมาจากห้องน้ำก็เห็นการกระทำของเธอพอดี การกระทำที่เช็ดผมก็หยุดชะงักเล็กน้อย

“เสี่ยวหมี่โต้วโทรมาเหรอ ?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้การเคลื่อนไหวที่มือของหานมู่จื่อชะงัก จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วพูดออกไป “ไม่ใช่เสี่ยวหมี่โต้ว เสี่ยวเหยียนต่างหาก”

สีหน้าของเย่โม่เซินดูเหมือนจะงงงวยไปบ้าง ไม่นานนักก็ทำสีหน้าเย็นชาเช่นเดิม

“อ๋อเขาเองเหรอ ?”

“นี่คุณทำสีหน้าอะไรกันเนี่ย ? นานกว่าจะนึกขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด” หานมู่จื่อ ไม่พอใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเสี่ยวเหยียน ถึงให้เธอไปเองก็พอ คือเย่โม่เซินลืมเขาไปโดยไม่คาดคิด

เย่โม่เซินเม้มริมฝีปากบาง แล้วยื่นมือออกไปจับจมูกของตนเองอย่างจนปัญญา เรื่องที่ลืมคนนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายซะจริงๆ

ส่วนคนคนนี้ยังเป็นคนที่มู่จื่อให้ความสำคัญ

แต่เย่โม่เซินก็ไม่ได้ตั้งใจ

เพียงแค่ช่วงนี้ความทรงจำของเขามันจะเข้าๆ ออกๆ อยู่เสมอ ความทรงจำนั้นเหมือนเล่นซ่อนหากับเขา กระโดดออกมา แล้วก็หลบเข้าไป มีเพียงแต่เย่โม่เซินที่รู้ว่าความทรงจำของตนเองมันสับสนไปบ้างแล้ว

เพราะสิ่งต่างๆ เข้ามาในความทรงจำของเขายังไม่เต็มที่ ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงแยกไม่ออกว่าส่วนไหนอยู่หน้า ส่วนไหนอยู่หลัง

เขาก็ไม่ได้ลืมว่า เสี่ยวเหยียน เป็นเพื่อนสนิทของมู่จื่อ แต่คนอื่นๆ ที่ปกติไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ในตอนนี้ก็ถูกเขาทิ้งไปหลังสมองแล้ว

มีเพียงแต่เมิ่งเส่โยวคนนั้นที่เขาจำได้อย่างชัดเจน

แต่การที่เขาจำเธอได้อย่างชัดเจนไม่ใช่เพราะเรื่องอื่น แต่เป็นเพราะเขาได้ทำเรื่องที่ไม่สามารถให้อภัยได้ต่อมู่จื่อและตนเอง

เขานึกออกมาได้บ้าง รวมถึงเอกสารที่เซียวซู่ให้กับเขาด้วย เขาก็ได้เรียนรู้แล้วว่าเมิ่งเส่โยวเป็นคนแบบไหน

“ไม่ได้ลืม”

เย่โม่เซินเดินไปข้างๆ เตียง โน้มตัวเข้าไปใกล้หานมู่จื่อ “เรื่องที่เกี่ยวกับคุณผมจำได้อย่างชัดเจน เพียงแต่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับผม ดังนั้นก็เลยไม่ได้เอามาใส่ใจเท่านั้น ว่าอย่างไรคุณนายเย่ จะให้ผมเข้าใกล้เพื่อนสนิทของคุณเหรอ ?”

หานมู่จื่อ จ้องตาโตเตือนเขาไว้

“เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น เรื่องนี้ก็ส่วนเรื่องนี้ คุณได้เข้าใกล้เธอหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับการที่คุณลืมเธอไปแล้ว ?”

เย่โม่เซินยกริมฝีปากอย่างจนปัญญา แล้วบีบคางของเธอ

“ถูกรู้ทันแล้วล่ะสิ ?”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset