เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1060 ชอบคนที่เป็นไปไม่ได้

บทที่1060 ชอบคนที่เป็นไปไม่ได้

เมื่อเห็นว่าตอนนี้ในมือของเขายังถือของขวัญมาด้วย อีกทั้งดูเหมือนมู่จื่อจะตั้งใจเว้นช่องว่างไว้ให้ เสี่ยวเหยียนจึงรู้สึกอายเกินกว่าที่จะเพิกเฉยต่อเขาอีกต่อไป เธอจึงเป็นฝ่ายทักทายเขาก่อน

เซียวซู่กลับมามีสติอีกครั้งด้วยความงุนงงเมื่อถูกเสี่ยวเหยียนเรียกชื่อ

เขามาวันนี้เพื่อมอบของขวัญ

และเขาเพิ่งทราบข่าวว่าวันนี้เสี่ยวเหยียนเปิดร้าน ดังนั้นเขาจึงเสนอตัวตามคุณชายเย่มา หลังจากที่เข้ามาก็พบว่าสาวน้อยที่เขาเฝ้าคะนึงหาทุกค่ำวันผอมลงไปมาก แม้จะดูสวยกว่าเมื่อก่อน แต่ในใจของเซียวซู่ก็เต็มไปด้วยความเศร้าใจ

เขาพบว่าตัวเองยังชอบใบหน้าที่มีเนื้อหนังหน่อยๆของเสี่ยวเหยียนมากกว่านี้อีก

ตอนนี้เธอผอมมากไปแล้ว

“ขอแสดงความยินดีกับการเปิดร้านใหม่ ผมเพิ่งทราบข่าววันนี้ก็เลยรีบร้อนเลือกของขวัญมามอบให้ หวังว่าคุณจะชอบ”

เซียวซู่ก้าวมาข้างหน้าเพื่อมอบของขวัญของตัวเอง

แน่นอนว่าหานมู่จื่อที่กำลังขึ้นบันไดย่อมได้ยินคำพูดเหล่านั้นของเซียวซู่ เธอกระตุกมุมปากเล็กน้อยพลางบ่นอุบกับสไตล์การพูดของเซียวซู่อยู่ในใจอย่างเงียบๆ

คำพูดแบบนี้ฟังดูเป็นทางการมาก ราวกับว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์เป็นคนแปลกหน้า

หานมู่จื่อหันกลับมามองเซียวซู่แต่เย่โม่เซินกลับรั้งเอวเธอไว้ “ระวังหน่อย เดี๋ยวล้ม”

เมื่อได้ยินดังนั้น หานมู่จื่อก็ตั้งสติและหันมามองเย่โม่เซินพลางกระซิบบ่น

“ก่อนหน้านี้ฉันอยากคุยกับพี่ชายฉันเรื่องเสี่ยวเหยียน แต่คุณกลับไม่ให้ฉันเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น โดยคุณบอกว่าจะทำให้เวลาของเราเหลือน้อยลง ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นล่ะ? คุณไม่ให้ฉันยุ่ง แต่ตัวเองกลับช่วยเซียวซู่แทน สองมาตรฐานใช่ไหม?

หลังจากข้ามบันไดขั้นสุดท้าย ทั้งสองก็ขึ้นไปถึงชั้นสอง มือของเย่โม่เซินที่กอดเอวเธออยู่คลายลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้กังวลอะไรมากนัก

แต่ในขณะนี้เขาเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างเงียบๆพลางกระซิบ “ใครบอกว่าผมเป็นคนพาเซียวซู่มาล่ะ?”

“ทำไมจะไม่ใช่เป็นเพราะคุณพามา?”

“ถ้าเขาเอ่ยปากขอคุณ คุณจะปฏิเสธเหรอ?”

หานมู่จื่อ “…”

ข้างล่างเต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าอึดอัด

เมื่อเสี่ยวเหยียนได้ยินอีกฝ่ายพูดด้วยภาษาทางการก็ได้แต่รับของขวัญมาและยิ้มอย่างมีมารยาท “ขอบคุณ ฉันต้องชอบอยู่แล้ว ”

การสนทนาระหว่างทั้งสองไม่ได้ทำให้สามีภรรยาจางนึกสงสัย บวกกับพ่อจางรู้จักกับเซียวซู่อยู่แล้ว รู้ว่าเขาเป็นผู้ช่วยของคุณชายเย่และออกไปไหนมาไหนกับคุณชายเย่แทบจะทุกที่

ดังนั้นวันนี้เมื่อคุณชายเย่มาที่ร้านลูกสาวของเขา เซียวซู่ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยจึงตามมาด้วย ในเมื่อเขามาที่นี่แล้ว การซื้อของขวัญเล็กๆน้อยๆก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผล ดังนั้นพ่อจางจึงไม่ได้คิดอะไรมาก

หลังจากที่มอบของขวัญ พ่อจางก็ทักทายเซียวซู่แล้วนั่งลง

เมื่อเผชิญหน้ากับพ่อแม่ของเสี่ยวเหยียน เซียวซู่ก็ทำตัวไม่เป็นธรรมชาติ ทำอะไรไม่ถูก นั่งอยู่ต่อหน้าทั้งสองอย่างเก้ๆกังๆ

“ผู้ช่วยเซียว ประธานเย่น้อยทำงานอยู่ที่นี่ คุณชายเย่คงไม่โกรธใช่ไหม?”

ขณะที่เซียวซู่เพิ่งนั่งลง พ่อจางก็แอบกระซิบถามด้วยความหวาดระแวง

เขาไม่มีทางเข้าใจอารมณ์ประธานเย่ท่านนี้ของพวกเขาเลย เดาไม่ออกแต่ก็ไม่กล้าถาม ซึ่งต่างจากผู้ช่วยเซียวที่เขาคุยได้ง่ายกว่า

หลังจากได้ยินคำถามของเขาแล้ว เซียวซู่ก็อธิบายให้เขาฟังอย่างจริงจังด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“ผู้จัดการจาง ไม่ต้องกังวลไป เสี่ยวหมี่โต้วรู้จักกับเสี่ยวเหยียนมานานมากแล้วและยังสนิทกันมาก คุณชายเย่ไม่โกรธหรอกครับ”

คุณชายเย่จะกล้าโกรธได้อย่างไร ในเมื่อคุณนายน้อยก็อยู่ที่นี่

อย่าว่าแต่โกรธเลย ขนาดเมื่อกี้นี้เขาพูดมาแค่ประโยคเดียวก็โดนคุณนายน้อยห้ามไว้ แล้วยังพูดแก้ตัวลุกลี้ลุกลนอยู่เลย

นี่คือสิ่งที่เซียวซู่เห็น

พอพ่อจางได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าด้วยความโล่งอก จากนั้นก็หรี่ตายิ้ม “งั้นก็ดีๆ ผมกลัวว่าจะเป็นการล่วงเกินประธานเย่”

“พวกคุณคุยกันเถอะค่ะ ฉันขอตัวเข้าไปทำงานข้างในก่อน”

เมื่อเสี่ยวเหยียนเห็นว่าเซียวซู่คุยกับพ่อของตัวเองเข้ากันได้ดี เสี่ยวเหยียนก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปข้างใน หลัวหุ้ยเหม่ยก็ลุกเดินตามไป

“เหยียนเหยียน มาให้แม่ช่วยเถอะ”

เซียวซู่จ้องมองร่างเสี่ยวเหยียนแล้วนั่งเหม่ออยู่นาน

เดิมทีเขาไม่ควรมา หลังจากที่เธอพูดคำพูดเหล่านั้นแล้ว อย่างน้อยเขาก็ควรรักษาระยะห่างกับเธอสักช่วงหนึ่ง แต่ว่า…พอได้ยินชื่อของเธอ ท้ายที่สุดเซียวซู่ก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ จากนั้นก็ซื้อของขวัญมามอบให้

เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปถูกหรือไม่…

แต่อย่างไรก็ตามเซียวซู่รู้ดีว่าเขาควรจะทำอะไรสักอย่าง มิฉะนั้น…จะไม่มีความหวังอะไรเลย

ตอนที่พ่อจางเงยหน้าขึ้น เขาก็พบว่าเซียวซู่จ้องมองไปยังสถานที่บางแห่งอย่างเหม่อลอย พอเขาหันไปมองก็พบว่าเป็นทิศทางที่ลูกสาวของเขาเดินหายไป ในฐานะที่ตัวเองเคยผ่านโลกมาแล้ว เขาก็กะพริบตาและรู้สึกเหมือนตัวเองได้ค้นพบเรื่องอะไรบางอย่างเข้าแล้ว

“พี่เสี่ยวเหยียน”

หลังจากที่เสี่ยวเหยียนเดินเข้าไป ลูกมือสองคนที่เธอจ้างมาก็ทักทายเธอ

“อืม พวกเธอทำงานของตัวเองไปเถอะ”

พอพูดเสร็จ เธอก็เริ่มลงมือทำงานของตัวเอง ในเวลานี้หลัวหุ้ยเหม่ยก็เดินไปข้างๆเธอแล้วกระซิบ “เพื่อนแกคนนั้นโชคดีจัง”

“ห๊ะ?”

ประโยคที่เอ่ยขึ้นมากะทันหันแบบนี้ทำให้เสี่ยวเหยียนถึงกับประหลาดใจ โดยเธอไม่เข้าใจว่าแม่ตัวเองกำลังพูดถึงอะไร

“แม่คะ? แม่หมายความยังไง?”

“ก็เพื่อนแกคนนั้นที่ชื่อมู่จื่อไง”

“เธอทำไม?”

“ก็ไม่มีอะไร แม่แค่ปลงนิดหน่อย เธอแต่งงานได้ถูกคนแล้ว” หลัวหุ้ยเหม่ยเข้าไปประชิดตัวเสี่ยวเหยียนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ปกติเคยได้ยินพ่อแกบอกว่าประธานเย่คนนั้นไม่ใช่คนที่จะเข้าไปยุ่งได้ อีกอย่างฉันก็เห็นว่าผู้ชายคนนั้นทั้งหล่อทั้งรวย แต่กลับโดนเพื่อนแกคาบไปกิน ไหนแกบอกมาซิว่าเธอโชคดีหรือไม่โชคดี?”

เสี่ยวเหยียนชะงักไปสักพัก ที่แท้ก็พูดถึงมู่จื่อนี่เอง

ดูเหมือนว่าตอนนี้มู่จื่อจะมีความสุขมาก แต่ก่อนหน้านั้นเธอก็พบเจอปัญหาอะไรมาไม่น้อย เรื่องระหว่างหานมู่จื่อกับคุณชายเย่ เธอรู้แทบจะทุกเรื่อง อุปสรรคเหล่านั้นทั้งลำบากยากเข็ญ

แต่เสี่ยวเหยียนก็ไม่คิดจะเล่าเรื่องพวกนี้ให้หลัวหุ้ยเหม่ยฟัง เธอจึงได้แต่พยักหน้าตาม

“อืม โชคดีมากจริงๆ”

“การได้แต่งงานกับคนที่ใช่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากต่อชีวิตของผู้หญิงเรา การแต่งงานเป็นชีวิตที่สองของผู้หญิง ถ้าแต่งงานกับคนที่ไม่ดีก็เท่ากับกระโดดลงไปในหลุมไฟ เพราะฉะนั้นเสี่ยวเหยียน…แม่คิดว่าต่อจากนี้แกจะต้องหาใครสักคนที่เหมือนประธานเย่ให้ได้ ต้องเข้าใจเมียและยินดีปกป้องแก”

เสี่ยวเหยียนไม่ได้เก็บคำพูดเหล่านี้มาคิดเพราะเป็นความจริงที่ทุกคนเข้าใจดีกันอยู่แล้ว

แต่ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีแบบนั้น

เธอไม่ใช่หานมู่จื่อ เธอจึงไม่พบเย่โม่เซินที่เป็นของเธอ

เธอเป็นเพียงแค่เสี่ยวเหยียนที่ชอบคนที่เป็นไปไม่ได้

“แม่พูดกับแกอยู่ แกได้ยินบ้างไหม?”

“ได้ยินแล้ว”

“งั้นแกคิดว่ายังไง?”

“หนูจะคิดอะไรได้ล่ะ? แม่ลองดูคุณงามความดีของลูกสาวตัวเองก่อนได้ไหม เงินก็ไม่มี หน้าตาก็ไม่ดี หนูไม่มีอะไรสักอย่าง…”

พอพูดถึงตรงนี้ก็ดูเหมือนว่าเสี่ยวเหยียนโดนอะไรบางอย่างกระทบจิตใจให้เจ็บ ขอบตาแดง

เมื่อหลัวหุ้ยเหม่ยเห็นว่าเธอขอบตาแดงเล็กน้อยจึงหยุดนิ่งไปสักพัก เสี่ยวเหยียนเริ่มตระหนักได้ว่าตัวเองสูญเสียการควบคุมไปจึงพยายามฝืนยิ้มออกมา “เอาล่ะ แม่ไม่ต้องกังวลเรื่องแต่งงานของหนู หนูมีวิธีของตัวเอง”

ถ้าหากวันหนึ่งเธอสามารถปล่อยวางเรื่องหานชิงได้ เธอจะลองชอบใครสักคนดู

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset